คิดว่า เขาคงจะเสียใจมากสินะ"ท่านเจ๋ว?" หลัวเชว่เห็นซือเย่เจ๋วที่ยืนอยู่ตรงบันไดตั้งนานแล้ว จึงตกตะลึงคำพูดเมื่อครู่เขาได้ยินหมดแล้ว?ซือเย่เจ๋วเดินลงมาช้า ๆ และหยุดอยู่ตรงหน้าเจียงเซิง เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม "ผมคิดว่าคุณออกไปตั้งนานแล้ว"เจียงเซิงจัดวางถ้วยชามบนโต๊ะ "ก่อนจะไป ฉันต้องทำอาหารเช้าให้ลูกชาย กับพ่อของลูกก่อนไม่ใช่เหรอ?"เมื่อได้ยินคำว่า "พ่อของลูก" เขาก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน "ดูท่าครั้งนี้คุณทำให้คุณปู่ของผมคิดทบทวนตัวเองจนกินไม่ได้นอนไม่หลับไปอีกหลายวันเลย"เจียงเซิงรินงาปั่นร้อน ๆ ใส่แก้วให้เหยียนเหยียน "ฉันพูดตามความจริง ผิดด้วยเหรอ?"เขายิ้ม จากนั้นโอบกอดเธอเอาไว้และดมผมหอมของเธอโดยไม่สนใจคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ "อืม เก่งมากครับ"เจียงเซิงเห็นว่าทุกคนอยู่ด้วย เธอหน้าแดงระเรื่อและใช้ข้อศอกดันเขาออก "อย่าเล่น รีบทานอาหารเช้า อีกเดี๋ยวฉันต้องกลับไปแล้วนะ""หม่ามี้ จะไปอีกแล้วเหรอครับ?"เจียงเหยียนเหยียนที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าได้ยินคำว่า "กลับไป" สองคำนี้ สีหน้าก็ผิดหวังเล็กน้อยเจียงเซิงหัวใจสั่นคลอน ยื่นมือไปลูบหัวของเขา "หม่ามี้จะไปประเทศ M หน่อย ไปแค่ไม่ก
เซียวตกตะลึงอยู่นาน จากนั้นลดสายตาลง "จริงสินะ การเกิดมาของหนู เป็นเธอที่ทำให้ฉันเห็นว่าฉันทำสำเร็จแล้ว..."รถหยุดอยู่นอกอาคารห้องแล็บที่ด้านนอกมีผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงหนึ่งคนกำลังรออยู่ ทั้งสองคนเป็นคนประเทศ M อายุประมาณสามสิบกว่า ๆ และก็สวมชุดกาวน์สีขาวของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ใช้ในการทำงาน โดยมีบัตรประจำตัวห้อยอยู่ที่กระเป๋าเสื้อตอนที่ชายผมสกินเฮดเห็นเซียว เขาก็ยิ้มอย่างตื่นเต้นแล้วพูดขึ้น "คุณกลับมาแล้วจริง ๆ เหรอครับ?""เรื่องที่ฉันกลับมาอย่าให้คนอื่นรับรู้ก่อน รวมทั้งผู้อำนวยการ" เซียวพูดส่ังเขา เขาพยักหน้า "เข้าใจครับ ท่านนี้คือ......"เจียงเซิงไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสื่อในประเทศ M ดังนั้นพวกเขาไม่รู้ก็เป็นเรื่องปกติมากเซียวมองดูเจียงเซิงและพูดแนะนำ "เธอคืออลิซ ลูกสาวของม่านม่าน"ผู้ชายและผู้หญิงสีหน้าตกตะลึงภายในห้องทำงาน เจียงเซิงรับกาแฟที่เธอยื่นมา แล้วยิ้มพูด "ขอบคุณค่ะคุณเซี่ยซา"เซี่ยซานั่งลงข้างหม่านั่ว เธอคือผู้ช่วยของหม่านั่ว และก็เป็นภรรยาของเขา "ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ฉันกับหม่านั่วคิดไม่ถึงว่า คุณคือลูกสาวของคุณม่านม่าน"หม่านั่วมองไปทางเซียว "คุณม่านม่านตอ
หม่านั่วมองดูเขา "ใช้เลือดของเธอสร้างตัวแก้พิษออกมาใหม่ แต่หลังจากเจาะเลือดออกมาแล้วสลายตัว อัตราการรอดชีวิตของตัวแก้พิษในกรณีที่ไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงจะต่ำมาก"ก็เท่ากับว่า ทุกครั้งที่มีการเจาะเลือด จะมีโอกาสเพียงแค่ไม่กี่วินาทีในการแยกตัวและนำออกมา เมื่อล้มเหลวก็ต้องทำใหม่ แบบนั้นต้องเจาะเลือดกี่ครั้งกันล่ะ!ถ้าหากไม่สำเร็จเลย นั่นไม่ต้องเจาะเลือดจนหมดเลยเหรอ?เซียวเข้าใจความเป็นกังวลของเขา แต่เดิมทีเขาก็ไม่อยากใช้วิธีนี้ แต่เมื่อคิดได้ว่าเจียงเซิงบอกว่าเชื่อใจเขา นี่จึงทำให้เขามีภาระทางจิตใจเขาไม่อยากทำลายความเชื่อมั่นของเธอ แต่ก็เป็นกังวลว่าจะล้มเหลวตอนนั้นเขาไม่สามารถผลิตตัวแก้พิษออกมาได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยม่านม่าน ตอนนี้เขาจะทำได้เหรอ?เขาไม่รู้หลายปีมานี้เขาใช้ชีวิตอยู่ในความรู้สึกผิดมาโดยตลอด เขาทำอะไรดีไปหมดทุกอย่าง เพียงแต่ไม่อยากแตะต้องกับการทดลองอีก'หนูคิดว่าแม่ของหนูเอาตัวแก้พิษไป ก็เพื่อพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าคุณไม่ได้ล้มเหลวหรอกค่ะ'คำพูดที่ก้องอยู่ในหูของเขาสรุปการตัดสินใจของเขา และเขาตอบกลับอย่างแน่วแน่ "ต้องลองดูถึงจะรู้"หม่านั่วถาม "งั้นอลิซตกลงแล้วเหรอ?"
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาปิดหนังสือลง "ไป ไปดูกัน"ห้องโถงหมิงหลานเป็นส่วนหนึ่งของย่านไชน่าทาวน์เขตตะวันออก เป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในไชน่าทาวน์ และก็เรียกว่า "ไข่มุกตะวันออกแห่งไชน่าทาวน์"อาคารก่อสร้างย้อนยุคสามารถพบเห็นได้ทุกที่ ชื่นชมความสง่างามสไตล์โบราณ มีโรงรับจำนำโบราณ ร้านอาหารจีนโดยเฉพาะ โรงเครื่องประดับ ร้านเหล้า ธนาคาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงคนเดินถนนที่เข้าออกส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชีย ชาวจีน และชาวต่างชาติภายในห้องส่วนตัวที่หรูหราที่สุดในห้องโถงหมิงหลาน มีคนยืนอยู่สองคนนักชงชาที่นั่งอยู่ด้านข้างเทชาผู่เอ๋อร์ที่บ่มเป็นระยะเวลานานแล้วลงในถาดชงชา รอสองสามวินาทีแช่ชาเอาไว้สักพัก เทน้ำชาลงในแก้วชาของแขกตามลำดับจากซ้ายไปขวาท่านผู้เฒ่ายกแก้วชาขึ้นลิ้มรส "คุณซูซีเป็นคนจีนเหรอครับ? เหมือนจะรู้เรื่องชาดีมาก"ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามสวมเสื้อสูทสีขาว เสื้อซับในสีดำ ให้ออร่าที่ดูท่าทางทะมัดทะแมงผมสีดำถูกตัดให้สั้นปานกลาง ยาวประบ่า และหวีไปด้านหลังใบหูอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอแต่งหน้า ใบหน้างามเพริศพริ้ง แต่กลับให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวซูซียิ้ม "พ่อของฉันเป็นคนจีน
ระหว่างทางกลับ ซือเย่เจ๋วมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่ตลอด สายตาของเขาลึกซึ้งหลัวเชว่มองผ่านกระจกมองหลัง "ท่านเจ๋ว ซูซีคนนี้เป็นนักเรียนของเซียวจริง ๆ เหรอครับ?"ดูเด็กเกินไปหน่อยไหม?ซือเย่เจ๋วดึงสายตากลับ "รอให้ตามหากุงเห้อเจอก็รู้แล้ว""กุงเห้อ?" หลัวเชว่ตกตะลึง "คุณหมายความว่ากุงเห้อรู้จักเซียวเหรอครับ?"ภัยพิบัติเมื่อสามสิบปีก่อน เซียวปรากฏตัวที่ประเทศ S และพลิกแพลงสถานการณ์จนมีชื่อเสียง นอกจากชื่อเสียงโด่งดัง ได้ยินว่าคนที่ได้เจอกับเขานั้นน้อยมาก ๆ ภายหลังเขาถอนตัวออกจากวงการแพทย์ยิ่งไม่มีคนได้เจอเขา กุงเห้อจะรู้จักเซียวได้อย่างไร?"ซือเย่เจ๋วเงยหน้าขึ้น "เพราะว่ากุงม่านม่าน""คุณแม่ของคุณเจียง?"หลัวเชว่รู้สึกประหลาดใจ "คุณแม่ของคุณเจียงมีความสัมพันธ์กับคนขององค์กรต้าตูไม่ใช่เหรอครับ เธอก็รู้จักเซียวเหรอ? หรือว่า เซียวคือ......""พวกเรารู้แค่ว่าเซียวคือคนประเทศ M สำหรับเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรต้าตูหรือไม่นั้นไม่แน่ใจ"สายตาของซือเย่เจ๋วเย็นชา "สำหรับซูซีคนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมตัวมา"หลานอู๋เหยียนตายแล้ว กุงเห้อสถานะไม่ชัดเจน เรเจลไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ในต
หลังจากตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยเธอก็สวมชุดผู้ป่วยมายังห้องผ่าตัด เมื่อนอนลง ก็มองดูแสงไฟและเครื่องมือ และก็นึกถึงตอนที่ตัวเองคลอดลูกก็ผ่านมาแบบนี้เซียวเดินไปด้านข้างเธอ แขวนถุงเลือดเอาไว้ตอนที่เริ่มปล่อยเลือด ภายนอกทายาชาเอาไว้ เจียงเซิงยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แต่รู้สึกว่าตอนที่เลือดไหลออกจากเส้นเลือด ก็ค่อย ๆ มีความรู้สึกเจ็บปวดความเจ็บปวดแบบนี้เชื่องช้า แต่ตอนที่บีบคั้นเลือด เป็นความเจ็บจี๊ด เป็นระยะ ๆ เหมือนกับว่ามีมีดกรีดลงบนบาดแผลเดียวกันอยู่ตลอดเวลา และดึงทึ้งเนื้อหนังเธอขมวดคิ้ว แต่กลับอัดอั้นเสียงและกัดฟันอดทนไว้ เมื่อปล่อยเลือดออกปริมาณหนึ่ง ก็เริ่มวิงเวียนและปวดหัว ถึงขั้นที่เกิดอาการแน่นหน้าอก รู้สึกหายใจลำบาก"ถ่ายเลือด" เซียวรักษาความใจเย็นเซี่ยซานำถุงเลือดที่เตรียมเอาไว้แขวนขึ้นไป เธอสูญเสียเลือดในร่างกาย จำเป็นต้องใช้การถ่ายเลือดโดยเร็วที่สุดเพื่อบรรเทาอาการ เจียงเซิงถูกสวมหน้ากากออกซิเจน ใช้ออกซิเจนในการหายใจผ่านไปเป็นเวลานาน แขนของเจียงเซิงที่ถูกปล่อยเลือดออกรู้สึกเจ็บจนชาไปหมด แต่ตลอดเวลานั้นเธอไม่ได้ออกเสียงร้องเลยเซี่ยซาปลอบใจเธออยู่ข้าง ๆ อย่างใจเ
เรเวียร์หยุดอยู่ข้างๆ เธอ “ร่างกายฟื้นฟูดีขึ้นแล้วยัง?”เธอยิ้มและพยักหน้า “เกือบจะหายดีแล้วค่ะ อ่อใช่ คุณลุงเรเวียร์ คนของคุณอยู่ที่ประเทศ S ได้ข่าวคราวของคุณตาของฉันบ้างไหมคะ?”เรเวียร์หยุดนิ่งเล็กน้อยแล้วส่ายหน้า “ยังไม่มี”เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียงเซิงก็ลดสายตาลงคุณตาของเธอจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวใด ๆ เกรงว่ามีแนวโน้มไปทางร้ายมากกว่าดีเธอยืนขึ้นช้าๆ “ฉันจะกลับประเทศ S ”"คุณจะกลับตอนนี้ไม่ได้"“ทำไมคะ?” เจียงเซิงชะงักงันทันที เห็นเรเวียร์สีหน้าเคร่งขรึม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?”เรเวียร์ไม่ได้ปิดบังอะไรเธอ “มีคนใช้ตัวตนของเซียวผลิตตัวแก้พิษชนิดใหม่ในประเทศ S ตอนนี้มีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มาก กุงเห้อหายตัวไป ตระกูลหลานก็ล่มสลาย ในตอนนี้กลับมีเรื่องที่มีคนแอบอ้างตัวตนผลิตตัวแก้พิษตัวใหม่ออกมาอย่างมีลับลมคมใน เกรงว่าคงไม่ธรรมดา”แอบอ้าง?มีคนแอบอ้างตัวตนของเซียวผลิตยาต้านชนิดใหม่?เจียงเซิงสายตาเคร่งขรึม "คนที่เคยวิจัยสิ่งเหล่านี้ที่ประเทศ S มีแต่คนตระกูลหลาน แต่หลานอู๋เหยียนตายไปแล้ว มีใครจะแอบอ้างตัวตนของเซียว?"และทำไมเขาถึงใช้ตัวตนของ “เซียว” อยากจะแอบอ้างชื่อเสีย
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ ท่านผู้เฒ่าก็คลายกังวลและยิ้มขึ้นมา “ดี ดีมากเลย”ใบหน้าของหลัวเชว่เผยความประหลาดใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ควบคุมไว้ได้แล้วเหรอเหรอ?แต่ถ้าหากคนคนนั้นไม่ใช่เซียว ใครจะมีความสามารถแบบนี้อีก? หรือว่าเขากับท่านเจ๋วคาดเดาผิดไปเหรอ?ซูซียิ้มมุมปากขึ้นมา "คุณท่านซือ ตอนนี้คุณเชื่ออาจารย์แล้วหรือยังคะ?"ท่านผู้เฒ่าได้รับผลลัพธ์ที่ดี แน่นอนว่ายินยอมที่จะเชื่อมากยิ่งขึ้น "ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณเซียวจริง ๆ บุญคุณครั้งนี้ผมจำไว้ขึ้นใจแล้ว ถ้าหากมีความต้องการอะไร สามารถเอ่ยปากได้เต็มที่"“คุณท่านซือพูดเกินไปแล้วค่ะ อาจารย์ใช้ทั้งชีวิตอยู่กับการวิจัย ไม่มีความต้องการอะไร เพียงแค่ได้ช่วยเหลือผู้คนมากขึ้น อาารย์ก็พึงพอใจแล้วค่ะ”ซูซีถ่อมตัว การตอบกลับเป็นนัยก็ได้รับความชื่นชมจากท่านผู้เฒ่า "งั้นถ้าหากต่อไปคุณซูมีความต้องการอะไร ก็เอ่ยปากมาได้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ"ซูซีลดสายตาลง ในดวงตาเผรอยยิ้มเยาะหยันที่เลือนราง "ได้ค่ะ"เจียงเซิงมาถึงสนามบินประเทศ S เมื่อเดินออกไป ก็เห็นสิบเจ็ดยืนรออยู่ที่หน้ารถสิบเจ็ดเห็นสีหน้าท่าทางของเธอที่ซีดเซียวก็ขมวดคิ้ว "คุณหนู ร่างกายคุณไม่เ