แซคก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงชวนนาตาลีมาที่นี่ เขาแค่รู้สึกผิดที่คิดจะแต่งงานกับคนอื่นโดยไม่ปรึกษานาตาลีก่อน เขาไม่เคยอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นต้น อย่าว่าแต่แต่งงานกับใครอื่นเลย ความสัมผัสระหว่างเขากับนาตาลีก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ และถ้าเขาต้องการมากกว่านี้เขาก็อยากให้คนคนนั้นเป็นนาตาลีตั้งแต่เขาเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแซคก็มีคู่เดตมากหน้าหลายตา มากกว่าที่เขาควรจะมีซะด้วยซ้ำเพราะรูปร่างหน้าตาและภูมิหลังของครอบครัวที่ร่ำรวยมหาศาลของเขาจึงทำให้มีผู้หญิงล้อมรอบไม่เคยขาด แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็มาง่ายและไปง่ายแต่ตอนผมกอดนาตาลี ความรู้สึกมันแตกต่างกันออกไป ผมไม่แน่ใจว่าผมคาดหวังปฏิกิริยาอย่างไรจากนาตาลีตอนเธอรู้ว่าผมอาจจะต้องหมั้นกับผู้หญิงคนอื่น แต่การที่เธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยนี่มันโคตรห่วยแตกเลยแต่ก็นั่นล่ะนะ ในเมื่อเธอไม่ได้รักผมแบบนั้นจะมาคาดหวังว่าเธอจะโกรธหรือหึงคงจะไม่สมจริงนัก ตอนนี้ผมมีความสุขมากกับความสัมผัสของเราสองคนเพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรจะมาพรากพวกเราออกจากกันก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน“บอกฉันได้ไหมว่าทำไมคุณถึงไม่ค่อยสบอารมณ์ มีปัญหาอะไรกันแน่ ๆ” ฉันถามแซคอีกครั้ง ถ้าฉันถามเขาบ่อย ๆ ฉันรู้ว่า
นาตาลีหลับไปทันทีที่ผมช่วยเธอขึ้นรถ ผมเอนเบาะไปด้านหลังเพื่อทำให้เธอหลับสบายขึ้นระหว่างนั่งรถกลับบ้าน เธอดูเหนื่อยล้าแต่ไม่ใช่จากเซ็กซ์ที่เราเพิ่งทำ โดยรวมแล้วเธอดูเนือยๆ เหมือนไม่มีแรง วันนี้เธอแต่งหน้าได้สดสวยมาก เป็นโทนสีที่เหมาะกับเธอจริงๆ ทำให้ผมซาบซึ้งที่เธอประดิดประดอยแต่งมาให้ผมดูแต่กลับทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ ถึงเธอจะแต่งหน้าด้วยสีสดสวยมากขนาดไหน ก็ยังไม่สามารถซ่อนเร้นความเครียดและความเหนื่อยล้าบนใบหน้างามได้ หรือที่เธอผอมลงจนเห็นได้ชัด จะเป็นเพราะมีบางอย่างกำลังกัดกินนาตาลีอยู่ภายในใจ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เล่าให้ผมฟัง ซึ่งแสดงได้สองอย่าง อย่างแรกคือ ถ้าเล่าให้ผมฟัง ผมจะไม่สบายใจ หรืออย่างที่สองคือเล่าไปแล้วผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่กวนใจผมเอามากๆมันเป็นธรรมชาติของนาตาลีที่มักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ บางครั้งมันทำผมให้รู้สึกโมโหเพราะผมเองเป็นหนึ่งคนที่เธอให้ความสำคัญ ผมเป็นพี่ชายของนาตาลีมา 10 ปีและเป็นคนรักของเธอมา 4 ปี เราเข้าใจกันและกันจากฝันร้ายที่เราต้องเผชิญ ถึงแม้ผมจะพยายามปกป้องเธอทุกวิถีทาง แต่เมื่ออายุเราสองคนมากขึ้น ทางญาติผู้ใหญ่ก็ดูจะยิ่งกดดันเ
**กลับสู่ปัจจุบัน**ฉันตื่นขึ้นมาในชุดนอน สงสัยแม่บ้านน่าจะเป็นคนเปลี่ยนชุดให้ตอนฉันกลับมาเมื่อคืนนี้เมื่อวานเกิดเรื่องกับแซคหลายเรื่อง แถมพอฉันรู้เรื่องแอนนี่คู่เดทของแซคอีก ฉันเลยลืมไปเลยว่ามีเรื่องจะบอกเขาฉันรีบโทรหาแซค ทุกครั้งเขาจะรับสายทันทีราวกับว่าเขานั่งรอฉันโทรไปหา ครั้งนี้ก็เหมือนกัน นี่คือสาเหตุที่ฉันรักเขา"สุดสัปดาห์นี้ไปล่องเรือเป็นเพื่อนฉันนะ?” ฉันแกล้งถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ซ่อนเร้นจุดประสงค์ที่แท้จริง“…กับพ่อคุณและว่าที่แม่เลี้ยง?” แซคตอบอย่างรู้ทันพร้อมกับหัวเราะไปด้วย ให้ตายเถอะ เขาจับได้ ไม่มีทางที่ฉันจะไปล่องเรือในฐานะก้างขวางคอกับแองเจล่าแม่สาวนมใหญ่คนเดียวแน่“ไปเถอะนะแซค… บางทีคู่หมั้นของลูเซียนอาจตกหลุมรักนายและขอถอนหมั้นกับลูเซียนก็ได้” ฉันรีบหยอก"ไม่มีทาง. ฉันไม่ชอบผู้หญิงทำนม เห็นบ่อยจนเอือมแล้ว” แซคตอบทันทีเหมือนเขาดูออก“นายรู้ได้ไงว่าแองเจล่าทำนมมา?รู้จักเธอมาก่อนเหรอ?" ฉันถามแบบอยากรู้อยากเห็น“ฉันเคยเจอเธอในงานสังสรรค์บ่อยๆ แต่ยังไม่เคยนอนกับเธอนะ แต่เรื่องซุบซิบนินทาของสังคมไฮโซนี่มันมาเร็ว โดยเฉพาะถ้าพ่อของฉันกำลังอยากจับฉันแต่งงานนะ” แซคตอบ เข
ไม่บ่อยนักที่พวกเราจะมาล่องเรือด้วยกัน ฉันจึงตั้งใจไว้ว่าจะสนุกกันกับแซคให้เต็มที่ เราสองคนมาเล่นน้ำกันที่สระบนดาดฟ้าเรือ"รู้สึกดีขึ้นมั้ย?คุณดูเหมือนไม่สบายใจมาสักพักแล้วใช่ไหม” เขาขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น“ไหน ๆ ก็มาแล้ว งั้นก็ต้องสนุกสุดเหวี่ยงที่สุดนั่นล่ะ แล้วนายล่ะ เรื่องแอนนี่…โอเคไหม” ฉันพยายามเปลี่ยนเรื่อง“บอกตามตรง เฉย ๆอ่ะ ก็รู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวก็ต้องมีคนหาคู่ให้ ถ้าการออกเดทกับแอนนี่เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ฉันอยากทำ มันก็คุ้มอยู่ เธอก็รู้ว่าฉันใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตต่อรองกับแม่และผู้อาวุโสว่าอยากจะทำงานแฟชั่น ศิลปะ ภาพยนตร์ แถมยังเป็นผู้นำด้านการตลาดของครอบครัวเราได้อีก” แซคอธิบาย“ถ้านายยอมรับได้ก็ดีใจด้วยนะ” ฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีแซคบีบมือฉันใต้น้ำ“เธอจะยังอยู่ข้าง ๆ ฉันไหม ถ้าเป็นแบบนี้” แซคถามในขณะที่มองลึกเข้าไปในดวงตาของฉัน ดวงตาสีน้ำตาลแดงของเขากับขนตายาวสีบลอนด์อ่อนนั้นช่างงดงามราวกับดวงตาของราชสีห์ทองคำ“ตลอดไป…ตราบเท่าที่นายยังต้องการฉันอยู่” ฉันสัญญาว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ตราบใดที่เขายังต้องการฉันอยู่ ในเมื่อเขาเองก็ช่วยเยียวยาแผลเป็นของฉันด้วยเหมือนกั
หลังจากร่างใหญ่ของลูเซียนหย่อนลงมานั่งกับฉันในอ่าง ทั้งน้ำและโฟมก็เอ่อล้นออกมาและทำให้อ่างอาบน้ำดูเล็กลงไปทันที“ลูเซียน…ทำอะไรของคุณน่ะ!” ฉันถามด้วยความตกใจแล้วรีบยกมือขึ้นปิดหน้าอก อะไรดลใจให้เขาทำอย่างนี้?เราไม่เคยอาบน้ำด้วยกันเลยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่อยู่ด้วยกัน ฉันโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ตั้งแต่เราพบกันครั้งแรก“นาตาลีถูหลังให้อาหน่อย” เขาอ้อนวอนพลางหันหลังเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อให้ฉัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ฉันจะปฏิเสธเขาได้อย่างไรในเมื่อเขาขอร้องมาแบบนี้?ความร้อนจากร่างกายของเขาปะทะกับฝ่ามือของฉันลูเซียนทำเสียงพอใจ…เป็นสถานการณ์ที่ดูแปลกมาก แต่เขากลับทำตัวเป็นปกติและดูผ่อนคลายมาก การเปลือยกายในอ่างอาบน้ำพร้อมกับลูเซียน ทำให้ร่างกายของฉันรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆสักพักลูเซียนก็หันกลับมาพร้อมกับเอื้อมมือมาจับข้อมือทั้งสองข้างของฉันเอาไว้ ตัวฉันแข็งเกร็ง ตาของเขาเลื่อนลงมามองที่หน้าอกจนหัวนมของฉันลุกชัน เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันอย่างช้าๆ ฉันรู้สึกถึงลมหายใจอันร้อนระอุที่ข้างหูตอนเขากระซิบว่า “ให้ฉันถูหลังให้เธอนะ”เขายิ้มก่อนที่จะใช้ฟองน้ำถูหลังให้ฉัน มันรู้สึกดีมาก มือของเขา
“อา…อา…เพราะ…เรา…อา…คุณคือ…พ่อเลี้ยงของฉัน” ฉันพูดจบประโยคท่ามกลางเสียงครางที่เร้าร้อน ลูเซียนเป็นพ่อเลี้ยงของฉันถึงแม้ฉันไม่อยากให้เขาเป็นก็เถอะ“ถ้าอาไม่เป็นพ่อเลี้ยงของเธอ แปลว่าอาทำแบบนี้ได้ใช่มั้ย?” ลูเซียนถาม ฉันพูดไม่ออก ถ้าเขาไม่ได้เป็นพ่อเลี้ยงฉัน มันหมายความว่ายังไง?เราจะยังอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมไหม?ฉันจะได้เจอเขาอีกหรือเปล่า“ไม่…ได้โปรด…ฉันไม่อยากเสียคุณอาไป” ฉันหันไปมองเขาขณะที่น้ำตาคลอเบ้า“เธอจะไม่เสียอาไปอย่างแน่นอน อาไม่ไปไหนหรอก และอาก็จะไม่ให้เธอไปไหนด้วย” ลูเซียนกระซิบตอบอย่างเร่าร้อนริมฝีปากที่ร้อนเหมือนเปลวไฟเริ่มจูบฉัน มือหนาประคองใบหน้าของฉันไว้ไม่ให้หนีไปไหน ลิ้นร้อนตวัดกวัดแกว่งอยู่ในช่องปากที่เปียกชื้น ฉันกับเขาออกเสียงครางร่วมกันด้วยความยินดี ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการจูบกับลูเซียนจะเร้าใจได้ถึงขนาดนี้ ฉันดึงศีรษะของเขาเข้ามาใกล้ขึ้นอีก อยากให้เราจูบกันแบบนี้ตลอดไปฉันแน่ใจว่าหน้าของฉันคงแดงไปหมดเมื่อริมฝีปากของเราแยกจากกัน ฉันยังต้องการมากกว่านี้ ตัวของฉันสั่นด้วยความอยาก อยากได้ร่างกายของเขา อยากได้ความรักของเขา หว่างขาของฉันแฉะชื้นขึ้นเรื่อย ๆ“นาตาลี อาขอ
ลูเซียนจูบลงที่ต้นคอพร้อมขยำหน้าอกของฉันผ่านชุดนอน ฉันเสียวซ่านไปทั้งตัว อยากให้เขาสอดมือเข้าสัมผัสร่างฉันโดยตรงมากกว่าในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นฉันรู้สึกเหมือนร่างกายยังคงถูกลูบไล้ไปทั่ว เซ็กซ์แบบไม่สอดใส่ในอ่างอาบน้ำทำให้ร่างกายของฉันโหยหาเขามากขึ้นฝ่ามือหนากอบกุม บีบเค้นหน้าอกหนักขึ้น ทำไมเขารุนแรงกับฉันจัง ฉันคิดในใจแล้วครางออกมาเบา ๆ เมื่อเขาเลื่อนมือลงมาที่หน้าท้องและหยุดตรงหว่างขา เคล้นคลึงปุ่มกระสัน“ขนาดหลับ ก็ยังอยากอยู่อีกเหรอ?” เสียงหัวเราะเบา ๆดังขึ้นข้างหูฉันฉันลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ“แซค!” ฉันอ้าปากค้างเมื่อเห็นแซคนอนอยู่ข้างๆรอบห้องมืดสนิทเพราะดึกมากแล้ว แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างสะท้อนกับโครงหน้าอันหล่อเหลาและผมสีบลอนด์อ่อนเป็นลอนของแซค“ว่าไงซินเดอเรลล่า เที่ยงคืนแล้ว เจ้าชายมาแล้วนะ” แซคกระซิบเบาๆ ที่หูของฉันก่อนจะกัดเบาๆ บนต้นคอ“เนื้อเรื่องในเทพนิยายไม่ได้เป็นแบบนี้สักหน่อย” ฉันตอบแบบประชดประชัน“พอเป็นเรื่องของเราก็ต้องมีหักมุมนิดหน่อยสิ ก็ดีไม่ใช่เหรอ” แซคยิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบผ้าปิดตาที่เตรียมไว้ออกมา"พร้อมยัง?" เขาถามยกยิ้มอย่างคนขี้เล่นเขาไม่รอคำตอบแต
ในที่สุดทริปล่องเรือวันหยุดก็สิ้นสุดลงซะที ฉันกลับมาพักผ่อนที่บ้านอย่างเงียบสงบโดยไม่ต้องเห็นหน้าแองเจลาอีก ผ่านไปสองสามวันแล้ว ชีวิตฉันกับลูเซียนกลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างน่าประหลาดใจ เขาไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอ่างอาบน้ำและไม่แตะต้องตัวฉันแบบนั้นอีกเลย ส่วนหนึ่งก็รู้สึกโล่งใจ แต่อีกส่วนก็กังวลและสับสนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราตอนนี้“คุณผู้ชายต้องการพบคุณหนูที่ห้องหนังสือค่ะ” แม่บ้านเก่าแก่ยืนพูดอยู่ที่ประตู"ขอบคุณค่ะ” สงสัยจังว่าเขาต้องการคุยเรื่องอะไร ฉันกังวลนิดหน่อยระหว่างเดินไปหาเขา“ลูเซียน แม่บ้านบอกว่าคุณต้องการพบฉัน?” ฉันทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วเขาก็ผายมือให้ฉันไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม"ใช่. ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ” ลูเซียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“เอ็ดเวิร์ดบอกว่ามีคนสะกดรอยตามเธอ ....ไม่ว่าจะมีหรือไม่ก็ตาม ตอนนี้เธอโตเป็นสาวแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะมีบอดี้การ์ดเป็นของตัวเองซักที” ลูเซียนอธิบาย เขาดูจริงจังกับเรื่องนี้มากบอดี้การ์ด?ฉันจำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดด้วยเหรอ?ความจริงฉันไม่เคยถูกดักทำร้ายหรอก” การมีบอดี้การ์ดเป็นของตัวเองดูจะเกินไปหน่อย ฉันรู้ว่าลูเซียน เอ็ดเวิร์ดแล