ชาร์ลีสูดหายใจเข้าไปจนเต็มปอดและชำเลืองมองพ่อแม่ลูกสามคน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า "อาโกลดิ้ง น้าโกลดิ้ง นานา ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจอยู่ ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนผมก็จะไม่ยอมให้ใครมารังแกพวกคุณได้"จากนั้นเข้าก็หันไปหายูลแล้วพูดว่า "อาโกลดิ้งครับ ผมมีวิธีรักษาอาการป่วยให้ลุง ซึ่งจะช่วยให้ลุงกลับมามีสุขภาพดีได้อีกครั้ง!”ถ้าชาร์ลีพูดแบบนี้ในช่วงทานอาหารค่ำด้วยกัน ยูลก็คงไม่เชื่อเพราะเขารู้ดีว่าอาการป่วยของเขานั้นรักษาไม่หายแต่หลังจากที่ได้เห็นชาร์ลีใช้ความแข็งแกร่งเอาชนะจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนได้นั้น เขาก็มีความศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวชาร์ลีขึ้นมาอย่างมากในทันใด เขารู้สึกว่าชาร์ลีจะต้องเชื่อมั่นในอะไรบางอย่างถึงได้ทำให้เขาพูดออกมาเช่นนั้นเขาถามขึ้นอย่างรวดเร็วว่า "ชาร์ลี… เธอแน่ใจเหรอว่าจะรักษาฉันได้?”ราเชลก็พูดขึ้นพร้อมกับดวงตาสีแดงและบวมเป่ง "ชาร์ลี ตอนนี้อาการของยูลร้ายแรงมาก เราปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่เก่งที่สุดทางด้านนี้แล้ว แต่พวกเขา...”ราเชลไม่อาจฝืนพูดจนจบประโยคได้พวกเขาได้ยินได้ฟังเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วไม่ว่าพวกเขาจะไปพบผู้เชี่ยวชาญคนไหน ทุกคนต่างก็บอกว่าไม่มีทางรักษาโรคมะเ
ประสิทธิภาพของยาอายุวัฒนะนั้นไม่มีอะไรต้องคลางแคลงใจเลยนี่คือสาระสำคัญที่บันทึกไว้ในคัมภีร์วันสิ้นโลก ซึ่งสามารถทำให้ต้นไม้ที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้คนแก่ชรากลับมาอ่อนเยาว์ได้อีกครั้งและทำให้คนที่กำลังจะตายกลับมามีสุขภาพดีได้ในเวลานั้นผู้คุ้มกันของตระกูลเว็บบ์ทำให้อัลเบิร์ตได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาเกือบจะสิ้นลมหายใจอยู่แล้ว แต่รอดมาได้เพียงแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้นในสถานการณ์แบบนั้น ถึงแม้ว่าแพทย์ที่เก่งที่สุดในโลกจะช่วยชีวิตเขาได้ แต่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตสมองของเขาได้ ส่งผลให้เขาอยู่ในสภาพที่ไม่ผิดอะไรกับพืชผักแต่หลังจากกินยาอายุวัฒนะเข้าไปแล้ว อัลเบิร์ตไม่เพียงแต่กลับมาแข็งแร็งอย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ร่างกายของเขายังอยู่ในสภาพที่อ่อนเยาว์กว่าเดิมอย่างน้อย ๆ ก็สิบปีเลยด้วยนี่แสดงให้เห็นว่ายาอายุวัฒนะนี้มีมนต์ขลังเพียงใดดังนั้นชาร์ลีจึงเชื่อว่ายาอายุวัฒนะนี้จะช่วยรักษายูลได้ในเวลานี้ยูลได้กินยาอายุวัฒนะต่อหน้าภรรยาของเขา แล้วทันใดนั้นเขาก็รู้สึกสบายตัวอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อยาเม็ดนั้นได้ละลายอยู่ในท้องของเขาก่อนหน้านี้ร่างกายของเขาเป็
หลังจากล้มป่วยยูลก็คิดถึงตัวเองในอดีตบ่อย ๆในเวลานั้นเขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่าย ๆ ! ถึงแม้ว่าเขาจะมีอายุถึงสี่สิบห้าปีแล้ว แต่เขาก็ยังอยากเป็นเหมือนชายหนุ่มในวัยสามสิบปีในความเป็นจริง… ร่างกายของเขาในเวลานั้นมีรูปร่างที่ดีกว่าคนทั่วไปในวัยเดียวกันอันเนื่องมาจากการเลี้ยงดูที่ดี ถึงแม้ว่าร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในการแบกโลงศพ แต่เขาก็ทำได้สำเร็จ!ในเวลานี้ช่วงเวลาที่แข็งแรงสุด ๆ ของเขาได้กลับมาแล้ว!ยูลนั่งบนเก้าอี้แล้วปล่อยโฮออกมาทันที!เขารู้สึกว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นของขวัญจากพระเจ้า! ตอนที่เขาป่วยหนักนั้น เขาหวังเพียงให้ตัวเองมีชีวิตรอด เขาไม่เคยคิดที่จะกลับมามีความแข็งแรงสุด ๆ แบบนี้ได้อีกในชีวิตนี้!แต่ตอนนี้เรื่องราวมหัศจรรย์กำลังเกิดขึ้นกับเขา! ในขณะนี้ปาฏิหาริย์ไม่ได้เกิดขึ้นกับร่างกายของยูลเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาราเชลและควินน์ด้วย!พวกเขามองเห็นใบหน้าที่ดูดซีดเซียวของยูลเป็นสีแดงก่ำอย่างรวดเร็ว ชนิดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเบ้าตาที่กลวงโบ๋และรอยคล้ำรอบดวงตาที่มักเกิดกับผู้ป่วยระยะสุดท้ายก็อันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว ผมขาว ๆ ของเขาก็เปลี่ย
ในเวลานี้ราเชลและควินน์ต่างก็ร้องไห้อย่างหนักจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทั้งสองคน… คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนอยู่ทางขวา… ต่างกุมมืออันอบอุ่นของยูลเอาไว้ พวกเขารู้สึกตื้นตันมากจนถึงขั้นพูดอะไรไม่ออกยูลไม่เคยทำการทดสอบทางการแพทย์ใด ๆ นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่ได้รับรายงานใด ๆ ที่เชื่อถือได้ว่าจะสามารถรักษายูลได้ แต่ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันเหล่านี้ พวกเขาก็ยังคงเชื่อสายตาและวิจารณญาณของตนเองว่ายูลได้หายเป็นปกติแล้ว!ในฐานะที่เคยสัมผัสกับประสิทธิภาพของยาอายุวัฒนะมาด้วยตัวเอง ยูลจึงรู้ถึงสถานการณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี เขามีความแน่ใจถึงหนึ่งหมื่นเปอร์เซ็นต์ว่าเขาไม่เพียงแต่หายเป็นปกติแล้วเท่านั้น แต่สภาพร่างกายของเขายังย้อนกลับไปตอนที่เขามีอายุสี่สิบปีด้วย ซึ่งก็ประมาณสิบปีมาแล้วนั่นเองนี่ทำให้เขาปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่งเขาใช้เวลาอยู่นานในการระงับอารมณ์ความรู้สึกของเขาเอาไว้ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองชาร์ลีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ผลักภรรยาและลูกสาวออกไปอย่างนุ่มนวล เขางอขาคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชาร์ลี ชาร์ลีไม่เคยคิดเลยว่ายูลจะนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเขา
หลังจากนั้นไม่นานราเชลก็ถือขวดไวน์เหมาไถเดินเข้ามายูลรับขวดไวน์มาถือไว้ เขาพูดในขณะที่เปิดฝาขวดว่า “ชาร์ลี นับตั้งแต่ลูกสาวอาเกิดมานั้น อาใช้เงินมากมายไปกับการซื้อไวน์เหมาไถที่ดีที่สุดในวันเกิดของเธอทุกปี จนถึงตอนนี้ในห้องเก็บของใต้ดินของฉันเต็มไปด้วยเหมาไถระดับสุดยอดเยอะมาก คุ้มค่าแล้วกับการประมูลมา ตอนแรกอาวางแผนจะรอจนถึงวันที่ลูกสาวแต่งงาน แล้วเสิร์ฟไวน์พวกนี้ให้เพื่อนพ้องกับคนในครอบครัว แต่วันนี้เรามาลองดื่มกันก่อนเถอะ!”ราเชลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะแล้วพูดเสริมขึ้นมาว่า “ชาร์ลี ไวน์รุ่นนี้นับเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับน้า ห้องเก็บของห้องนี้เป็นเหมือนความฝัน มีแต่คนเข้าได้แต่ออกไม่ได้ ไม่มีใครเคยหยิบขวดไวน์ออกมาดื่มเลย วันนี้นับเป็นครั้งแรกเลยนะ!” ยูลหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “เดิมทีเราเตรียมไวน์นี้ไว้สำหรับงานแต่งงานของชาร์ลีกับลูกสาวของอา การเอามาดื่มตอนนี้ก็เหมือนเป็นการอุ่นเครื่องนั่นแหละ!”ควินน์ที่อยู่ข้าง ๆ หน้าแดงขึ้นทันทีส่วนชาร์ลีก็รู้สึกขวยเขินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้การแต่งงาน?ตอนนี้เขาเป็นคนที่แต่งงานแล้ว เขาจะแต่งงานกับควินน์ได้อย่างไรกัน? ยูลก็มองเห็นสีหน้าที่ดูขวย
เมื่อได้ยินคำถามของยูลเกี่ยวกับยาอายุวัฒนะ เขาก็ยิ้มแล้วตอบว่า “ยานี้เรียกว่ายาอายุวัฒนะครับคุณอา ผมไม่กล้าพูดว่านี่คือยาอายุวัฒนะขนานแท้ แต่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นของวิเศษ โดยมีหมอชาวออสเกียนโบราณเป็นคนปรุงขึ้นมา แล้วผมก็บังเอิญได้มาน่ะครับ”ยูลไม่ได้สงสัยอะไรในตัวเขาแล้วพูดว่า “ยานี้ช่างวิเศษนัก เป็นอะไรที่ดูไม่เหมือนสิ่งที่มีอยู่บนโลกใบนี้เลย ความรู้สึกตอนที่กินเข้าไปเมื่อกี้นี้เหมือนฝันไปเลย! ดูเหมือนว่ายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างจากบรรพบุรุษที่เรายังไม่เข้าใจ!”ชาร์ลีพยักหน้าเห็นด้วยถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนคัมภีร์วันสิ้นโลก แต่ตามอายุของขวดเหล้านั้น มันน่าจะถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถังขวดไม่มีร่องรอยการตัดในภายหลัง พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือกล่องไม้ที่ใช้เก็บคัมภีร์วันสิ้นโลกนั้นอาจถูกวางเอาไว้ล่วงหน้าตอนที่ทำบ้านดิน ก่อนที่ช่างฝีมือในสมัยราชวงศ์ถังจะทำขวดเหล้านั้นขึ้นมากล่องไม้และวัสดุต่าง ๆ ในคัมภีร์วันสิ้นโลกก็เป็นของวิเศษเช่นกัน แม้จะโดนไฟก็ไม่เป็นอะไรและได้มลายหายไปทันทีหลังเปิดออกมา ชาร์ลีไม่เข้าใจในความลี้ลับนี้ดังนั้นเขาจึงได้เน้นย้ำคำพูดของยูลหลังจากด
ดังนั้นเขาจึงต้องช่วยยูลแก้ปัญหานี้ แล้วถึงจะออกจากอีสต์คลิฟฟ์และกลับไปโอลรัสได้เมื่อเห็นว่ายูลตกลงตามคำขอ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยกแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วประกาศว่า “มาชาร์ลี มาดื่มฉลองกันเถอะ!”ชาร์ลีพยักหน้าและชนแก้วกับเขาอีกครั้ง เมื่อเห็นชายสองคนดื่มอย่างมีความสุข ราเชลก็บอกควินน์ด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “พ่อของลูกไม่ค่อยมีความสุขแบบนี้มานานแล้วนะ”ควินน์พยักหน้าและตอบใกล้ ๆ หูแม่ของเธอว่า “ดูเหมือนว่าตั้งแต่ที่ลุงเวดประสบอุบัติเหตุจนถึงตอนนี้ พ่อไม่เคยมีความสุขเท่านี้เลยนะคะ”ราเชลจับมือลูกสาวอยู่ใต้โต๊ะแล้วพูดเบา ๆ ว่า “ชาร์ลีเป็นคนดี ลูกต้องจับเขาไว้ให้ได้นะ!” ควินน์รู้สึกเขินอายแล้วตอบว่า “แม่ก็… หนูจะจับเขาไว้ได้ยังไงคะ… พี่ชาร์ลีแต่งงานแล้ว แล้วตอนนี้ก็ยังไม่ได้หย่าด้วย”ราเชลตอบอย่างจริงจังว่า “เด็กโง่ เขาเป็นคู่หมั้นของลูกตั้งแต่เด็ก ๆ มีคนมาแย่งสามีของลูกไป ไม่ใช่ลูกไปแย่งเขามานะ!”ราเชลเว้นระยะอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “จริง ๆ แล้ว แม่ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีครอบครัวไหนในโอลรัสที่มีลูกสาวที่คู่ควรกับชาร์ลี ชายที่ร่ำรวยที่สุดของที่นั่นก็ยังมีคุณสมบัติไม่ถึงขั้น ทั่วทั้
ชาร์ลีไม่ได้สนใจโชคชะตาของตระกูลเวดและการย้ายหลุมฝังศพของบรรพบุรุษมากนักเขาไม่ได้สนใจสมาชิกและกิจการของตระกูลเวดมากมายอะไร ตลอดเวลาที่ผ่านมามีอยู่สองสิ่งเท่านั้นที่เขาให้ความสนใจในตระกูลเวด หนึ่งก็คือพ่อแม่ของเขาถูกฝังอยู่ที่ไหนและเขาสามารถไปแสดงความเคารพได้ไหม สองคือใครเป็นคนทำให้พ่อแม่ของเขาต้องทนทุกข์ทรมานและคนคนนั้นมาจากตระกูลเวดหรือไม่ สำหรับเรื่องอื่น ๆ ในตระกูลเวด เขาไม่ต้องการเก็บมาใส่ใจ ดังนั้นหลังจากได้ฟังยูลพูดถึงภูเขาวินทรี่แล้ว ชาร์ลีก็ถามขึ้นมาว่า “ผมไปเคารพหลุมฝังศพของพ่อกับแม่ที่ภูเขาวินทรี่ได้ไหมครับคุณอา?” ยูลตอบว่า “ภูเขาวินทรี่เป็นหลุมฝังศพบรรพบุรุษของตระกูลเวด นับเป็นสถานที่แห่งความโชคดีและโชคลาภ โดยปกติตระกูลเวดจะควบคุมพื้นที่อย่างเคร่งครัดและไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไป ถึงแม้ว่าฉันจะไปก็ต้องเข้าไปทักทายสมาชิกของตระกูลเวดก่อน แล้วถึงจะนัดหมายว่าจะเข้าไปเมื่อไหร่ แต่เนื่องจากเธอเป็นทายาทของตระกูลเวด เธอก็ควรจะเข้าไปได้เมื่อทักทายพวกเขาเสร็จแล้ว” ชาร์ลีส่ายหัวแล้วตอบว่า “บอกตามตรงนะครับอา ผมไม่อยากให้ตระกูลเวดรู้ว่าผมอยู่ในอีสต์คลิฟฟ์ ในเวลานี้ผ