“ชาร์ล็อต ฉันเตือนเธอแล้วนะ… บอกแซคคารีให้หยุดหรือ— อุ๊บ!” เทปพันสายไฟถูกพันเข้าที่ปากของไบรสันอย่างแน่นหนา มันทำให้เขาเงียบ ลูคัสปิดปากเขาไว้ และเอาเทปพันปากของเขา เขาดูปลื้มปริ่มกับตัวเองมาก “เก็บแรงของคุณไว้เถอะครับ นายท่านรองต้องการให้คุณเงียบปากและเพลิดเพลินกับการแสดง เพื่อประโยชน์ของคุณเอง นี่เป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้นมากเลยนะครับ” ไบรสันไม่สามารถส่งเสียงได้ และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ผู้คุ้มกันที่แข็งแรงสองคนล็อกแขนของเขาไว้คนละข้าง เขาจึงขยับไปไหนไม่ได้เลย เขาทำได้แค่เบิกตากว้างเฝ้าดูทุกอย่าง 'ทิฟฟานี่ มิลเลอร์! ผู้หญิงที่ฉันรัก!' หลังจากที่ทิฟฟานี่โดนข่มขืน เขาเคยคุกเข่าลงตรงร่างที่บอบช้ำและมีแผลเต็มไปหมดของเธอ และสาบานด้วยน้ำตา นับตั้งแต่วันนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธออีก แต่ในวันนี้ เขาถูกบังคับให้ได้แค่ยืนข้างเตียงของเธอและมองดูแซคคารีรังแกเธอ! 'ไม่! ชาร์ล็อตต้องจัดการแซคคารีในเรื่องนี้ ชาร์ล็อตเป็นคนอยู่เบื้องหลังความทุกข์ทรมานของทิฟฟ์! ชาร์ล็อตอีกแล้ว!' แซคคารีเหลือบมองไบรสันอย่างเฉยเมย จากนั้นหันก็กลับมามองทิฟฟานี่ เขาหรี่ตาลง “เธอได้ยินที่ฉัน
“นางตัวสร้างปัญหา!” “นางลูกทรพี! ลูกไม่รักดี!" แม่ของทิฟฟานี่หยุดพูดทันที เพราะมีมีดแหลมจ่อที่คอของเธอ ใบหน้าของเธอซีดเผือดในขณะที่ดวงตาของเธอเบิกกว้าง เธอจ้องไปที่กล้องและร้องไห้ และมีมีดอีกสองเล่มจ่ออยู่ที่คอของพ่อและน้องชายของทิฟฟานี่พร้อมกัน ทิฟฟานี่ถึงกับอึ้งเมื่อเห็นสิ่งนี้ เธอตกใจมากจนลืมที่จะร้องไห้ไปเลย พ่อแม่ของทิฟฟานี่ปฏิบัติต่อเธอไม่ค่อยดีนัก เมื่อหลายปีก่อน พ่อแม่ของทิฟฟานี่บังคับให้เธอเลิกกับไบรสันและย้ายไปบูเรเซีย แต่เธอก็ดูแลพ่อแม่ของเธอเสมอ และยีนน้องชายของเธอเป็นคนสำคัญที่สุดในโลกสำหรับเธอ ทิฟฟานี่ไม่เคยคิดว่าอำนาจของแซคคารีจะน่ากลัวขนาดนี้ เขาสามารถจับครอบครัวของเธอที่อาศัยอยู่ห่างไกลออกไปอีกประเทศหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว เขารู้จุดอ่อนของเธออย่างแม่นยำ… “เธอจะต้องเผชิญสองความเป็นไปได้ในหนึ่งชั่วโมง เธอจะแก้ข้อกล่าวหาเรื่องภรรยาของฉันแล้วครอบครัวของเธอจะปลอดภัย หรือปล่อยให้ภรรยาของฉันเสียชื่อเสียงต่อไปและครอบครัวของเธอจะต้องตาย แล้วเธอก็จะตามพวกเขาไปในอีกไม่ช้า” แซคคารีพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ จากนั้นก็หันหลังกลับเดินออกจากวอร์ด เขาคว้าข้อมือของชาร์ล็อตด้วยมืออั
ไบรสันเรียกประชุมกับทีมงานมืออาชีพ และให้พวกเขาถ่ายวิดีโอสั้นให้กับทิฟฟานี่ในวอร์ด ในวิดีโอ ทิฟฟานี่ยกมือสาบานอย่างจริงใจว่า “ฉันนอนไม่หลับเป็นเวลาสามคืนติดต่อกันเพื่อเตรียมตัวสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ ฉันฝืนใช้พลังงานมากในระหว่างคอนเสิร์ตน่ะค่ะ บางทีฉันก็รู้สึกเวียนหัว และตอนที่ฉันพยายามห้ามไม่ให้คาร์ลี่เดินลงจากเวทีไป ฉันรู้สึกเวียนหัวจนแทบจะทรุด แล้วฉันก็หมดสติไปตอนที่คาร์ลี่ตบฉันพอดี นั่นหมายความว่า ถึงเธอจะไม่ได้ตบฉัน ฉันก็จะเป็นลมแล้วกลิ้งลงจากเวทีอยู่ดีค่ะ ดังนั้น คาร์ลี่จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เลย ฉันเข้าใจว่าแฟน ๆ ของฉันต่างพากันสาปแช่งคาร์ลี่ ฉันรู้สึกผิด แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่รอดชีวิตมาได้ ไม่ยังงั้นคาร์ลี่อาจต้องแบกรับข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นจริงนี้ไปตลอดชีวิตของเธอ คาร์ลี่มาเยี่ยมฉันที่โรงพยาบาลทันทีหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ได้โปรด หยุดต่อว่าเธอเถอะนะคะ” เรื่องนี้คงไม่มีใครเชื่อถ้ามาจากคนอื่น ทุกคนเชื่อเพียงเพราะมันมาจากทิฟฟานี่โดยตรง ในท้ายที่สุด ทิฟฟานี่ถือเป็นทั้งพยานบุคคลอันดับหนึ่งและทั้งเป็นเหยื่อ ชาร์ล็อตได้ทำให้เธอเสียชื่อเสียงบนเวที
ไบรสันเคยเป็นคู่หมั้นของเธอมาสี่ปี ดังนั้น เขาจึงรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าชาร์ล็อตไม่ใช่คู่หมั้นที่ดีไปซะทุกเรื่อง เธอจะตอบโต้และจัดการผู้อื่นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่เธอจะจัดการเฉพาะคนที่เธอเกลียดจริง ๆ เท่านั้น ตอนนี้เธอได้จัดการเขาแล้ว ผู้หญิงคนนี้เคยวางเขาไว้บนแท่น เธอเคยนึกถึงเขาตลอดเวลา และรักเขาเข้ากระดูกเป็นเวลาสี่ปี… แต่ตอนนี้ เขาได้กลายเป็นสิ่งที่เธอเกลียดชังอย่างสุดซึ้ง… “นายเห็นว่าแซคคารีสามีของฉันข่มขู่ทิฟฟานี่ นายเห็นทั้งหมดด้วยตาของนายเอง แล้วเธอก็หันกลับมา แล้วบอกนายว่าเธอเต็มใจทำ นายเชื่อเธองั้นเหรอ? ฮะ…” ชาร์ล็อตหัวเราะอย่างเหยียดหยามทุกครั้งที่เธอรู้สึกว่า ไบรสันสูญเสียความคิดความอ่านไปโดยสิ้นเชิง เขาฟังทุกอย่างที่ทิฟฟานี่โกหก และเขาก็เชื่อทุกอย่างที่เธอพูด “ไม่น่าแปลกใจเลย ที่ไมเคิลบอกว่านายก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในมือของทิฟฟานี่ สมน้ำหน้า ไบรสัน! มันสมควรแล้วที่นายจะโดนทิฟฟานี่นางงูพิษนั่นหลอก โดนเธอหลอกจนไม่ยอมรับความจริงจากน้องชายของตัวเอง” สายตาของไบรสันรุนแรงขึ้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกราวกับว่ามีมืออันใหญ่บีบหัวใจของเขาไว้แน่น เมื่อชาร์ล็อตพูดอย่างภ
เธอเห็นใบหน้าของไบรสันกลายเป็นสีม่วงคล้ำ เขาพยายามกะเกียกตะกาย แต่ดวงตาของแซคคารีเป็นเหมือนดั่งมีดและไม่มีวี่แววว่าจะปล่อยเขาไป ชาร์ล็อตเอาแขนของเธอโอบไว้รอบแขนของแซคคารีที่ใช้บีบคอไบรสันด้วยความตื่นตระหนก “แซคคารี ตั้งสติหน่อย ปล่อยเถอะ... ปล่อยเขา!” เธอใช้แรงทั้งหมดที่เธอมี แต่เธอไม่สามารถขยับเขาได้เลยแม้แต่น้อย แซคคารีแข็งแกร่งมากอย่างกับเขาทำมาจากเหล็ก เหงื่อเย็นเฉียบของชาร์ล็อตเริ่มไหล เธอดึงความกล้าออกมาและเตรียมจะกัดหลังมือของแซคคารี ขณะที่เธออ้าปากแซคคารีก็ปล่อยมือออก “เฮือก… แค่ก แค่ก แค่ก !” ไบรสันขดตัวกลม เขาหายใจเข้าลึก ๆ อัตราการเต้นของหัวใจของเขาที่ช้าลงจนเกือบจะหยุดนิ่ง กำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เขารู้โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าแซคคารีจะบีบคอเขาจนตาย ถ้าชาร์ล็อตไม่หยุดยั้งเขา “ฉันจะให้นายมีชีวิตอยู่… ในตอนนี้” น้ำเสียงเย็นเยือกผ่านริมฝีปากของแซคคารี “ฉันเคยเตือนนายแล้ว ถ้านายแตะต้องภรรยาของฉันอีกครั้ง ฉันจะไม่เอามือของนายไว้” ชาร์ล็อตยังคงสั่นเครือ ตอนนี้ร่างกายของเธอปั่นปวนอีกครั้ง แน่นอน ว่าหัวใจของเธอไม่ได้ห่วงไบรสัน ไบรสันไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนแปลกหน้าบ
หนึ่งคนในนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “จะยื่นมือออกมาเอง หรือจะให้เราจัดการ” ไบรสันเลิกคิ้วและหัวเราะ "มาสิ มาดูกันว่าใครจะได้เป็นจ่าฝูง!” ผู้คุ้มกันสองคนเข้าหาไบรสันด้วยจิตสังหาร และหนึ่งในนั้นก็หยิบมีดสั้นออกมา เมื่อได้เห็นฉากนี้ ชาร์ล็อตก็กลัวจนขาของเธออ่อนแรง แต่เธอยังคงรวบรวมความกล้าที่จะก้าวออกไป “อย่าทำร้ายไบรสันนะ!” ผู้คุ้มกันที่ดุดันทั้งคู่หยุดเชื่อฟังในทันที พวกเขากำลังปฏิบัติตามคำสั่งของประธานคอนเนอร์ และไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาการทำงานของพวกเขาได้ ยกเว้นชาร์ล็อต! ชาร์ล็อตคือใคร? ประธานคอนเนอร์ได้ออกคำสั่งเฉพาะเจาะจงกับผู้คุ้มกันส่วนตัวของเขาว่า พวกเขาต้องเชื่อฟังชาร์ล็อตอย่างไม่มีเงื่อนไข ไบรสันตกใจเล็กน้อย จากนั้น เขาก็มองไปที่ดวงตาของชาร์ล็อตและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความอบอุ่นในขณะที่รู้สึกตกใจ ในขณะนั้นเอง ฝีเท้าของแซคคารีก็หยุดลงชั่ววินาที เขารู้สึกเจ็บหน้าอกอย่างกะทันหันราวกับมีเข็มสักกำมือหนึ่งทิ่มแทงเขา จากนั้น เขาก็ก้าวต่อไปข้างหน้า ดวงตาของเขาดูราวกับถูกน้ำแข็งปกคลุม และไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา “แซคคารี เดี๋ยวก่อน!” ชาร์ล็อตพูดอย่างกังวล เธอวิ่งเหยาะ ๆ ไปให
ชาร์ล็อตจ้องมองไปที่แซคคารีด้วยความงุนงง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เพื่อให้แซคคารีปล่อยมือ ชาร์ล็อตถึงขั้นจะกัดแขนของเขา เธอจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ “เหอะ” แซคคารีผู้สง่างามและมีอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด เขาแสยะยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นมันดูเฉยเมยและแดกดัน เพียงแวบเดียวของรอยยิ้มนั้นก็สามารถกระชากจิตวิญญาณของใครต่อใครได้ และมันเกินจะต้านทาน และนั่นเอง! ผู้หญิงจะยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่เธอรักจริง ๆ ! ชาร์ล็อตกลัวเขามากจนเธอสั่นสะท้านทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าเขา แต่เพื่อช่วยไบรสัน เธอไม่กลัวแม้แต่จะกัดเขา และตอนนี้ เธอมองตรงเข้าไปยังดวงตาที่เคร่งขรึมของเขาอย่างกล้าหาญ และอ้อนวอนให้ไบรสัน... ผู้หญิงคนนี้คงไม่รู้ ตราบใดที่เขาตัดสินใจทำอะไรบางอย่างไปแล้ว ใครหน้าไหนจะวิงวอนมันก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป แต่ทำไมใจที่ไม่แยแสของเขาถึงละลายเมื่อเขาจ้องไปที่รูปลักษณ์ที่จองหองแต่น่ายั่วยวนของชาร์ล็อต และการจ้องมองที่มาจากดวงตาอันอ้อนวอนของเธอ? เธอเพิ่งขออะไรที่มันเกินไป แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธเธออย่างโหดร้ายได้! ลูกกระเดือกของแซคคารีขยับเล็กน้อย และโทนเสียงกลาง ๆ ก็ลอดออกมาระหว่างริมฝีป
ท้ายที่สุดแล้ว การตัดสินใจดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นกับแซคคารีมาก่อนเลย ผู้คุ้มกันคนอื่นไม่สามารถฟื้นจากภวังค์ได้ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นเขาก็ถอนหายใจยาว “นายท่านรองรับปากกับคุณซิมม่อนส์ไปแล้ว เราจะพูดอะไรได้อีก? ไปกันเถอะ" ทั้งสองเพิกเฉยต่อการอยู่ของไบรสันและจากไปพร้อมกัน ในชั่วพริบตา มีเพียงไบรสันเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ข้างน้ำพุที่เคยอึกทึก ชาร์ล็อตยืนอยู่ข้างน้ำพุ จ้องมองที่ด้านหลังของแซคคารีด้วยความงุนงง ขณะที่ไบรสันจ้องมองเธออย่างว่างเปล่า คุณคอนเนอร์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของรอธเซย์ คำสั่งใด ๆ ที่ออกจากปากของเขานั้นเปรียบเสมือนคำสั่งของราชาเสมอ ซึ่งมันจะต้องดำเนินการอย่างแน่นอน และมันก็ไร้ประโยชน์สำหรับทุกคนที่จะวิงวอน ดังนั้น ตอนที่ชาร์ล็อตพยายามอ้อนวอนแซคคารี ไบรสันเชื่อว่าเธอจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน แต่ผลที่ได้ทำให้เขาต้องตกใจ! เขาได้ตรวจสอบพวกเขาแล้ว แซคคารีกับชาร์ล็อตแต่งงานกันเพราะข้อตกลง และแซคคารีไม่เคยรักชาร์ล็อต แต่ถึงอย่างนั้น ไบรสันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่แซคคารีอนุญาตให้ชาร์ล็อตเข้าไปป่วนบนเวทีในคอนเสิร์ตของทิฟฟ์ และในตอนนี้ ตอนที่แซคคา