เพี๊ยะ!!เสียงฟาดดังสนั่น!มาร์ธาก่นด่าลูกสาวตน “ไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้เดี๋ยวนี้! แล้วอย่าคิดหันหลังกลับมาอีก! แกไม่ใช่ลูกของฉันอีกต่อไป!”ฟิลิปรู้สึกปวดร้าวในจิตใจเมื่อเห็นวินน์ถูกตบหน้า เขาจ้องไปที่มาร์ธาด้วยความโกรธ และอยากจะฉีกเธอออกเป็นชิ้น ๆ! ถึงแม้จะเป็นแม่ยายของเขา แต่เธอก็ทำร้ายวินน์ ดังนั้นฟิลิปก็จำเป็นต้องสั่งสอนเธอสักหน่อย!ฟิลิปวางมิล่าลงและเดินเข้าไปหาด้วยความโกรธ สีหน้าของเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันมาร์ธาเองก็ตกใจกลัว และตะโกนออกมา “แก... แกจะทำอะไร?”“คุณไม่ควรที่จะตบหน้าวินน์” ฟิลิปพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา กำมือแน่น ตัวสั่นเล็กน้อยความโกรธวินน์ที่ถูกตบจนใบหน้าแดงก่ำ รอยฝ่ามือครบ 5 นิ้ว เธอรีบเข้าไปห้ามฟิลิป “ฟิลิป ใจเย็นก่อน เรากลับบ้านกันเถอะ” เธอกลัวเหลือเกินว่าฟิลิปจะทำอะไรบุ่มบ่ามถ้าเกิดขึ้นเรื่องเช่นนั้นจริงเหตุการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงไปกว่านี้“ก็ได้” ท่าทีของฟิลิปอ่อนลงในตอนแรก มาร์ธาก็ตกใจกลัวจากท่าทีนั้น แต่เมื่อเห็นวินน์เข้ามาห้ามปรามฟิลิปเอาไว้ เธอก็ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยดกราด “แกคิดว่าแกจะทำอะไรฉัน? จะทำร้ายฉันงั้นเหรอ?”ฟิลิปจ้องไปที่มาร
ฆวนสะดุ้ง เขาถามด้วยความสงสัย “แกหมายความว่ายังไง?”จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าฟิลิปคนที่อยู่ตรงหน้าดูแตกต่างออกไป แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าอะไรที่ทำให้ฟิลิปนั้นดูต่างไปฟิลิปพูดขึ้นอย่างเฉยชา “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ก็แค่อยากจะบอกนายว่าฉันสามารถทำในสิ่งที่นายทำไม่ได้”ฟิลิปอดทนกับสิ่งที่ฆวนยั่วแหย่เขามาโดยตลอดและเขาก็ไม่ถือสาเลย ถ้าหากฆวนได้ตระหนักเสียทีว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง“ฟิลิป แกเสียสติไปแล้วเหรอ? กำลังจะบอกว่าคนไข้ที่ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์จะมาพบในวันนี้คือมิล่าอย่างนั้นเหรอ?” ฆวนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและแววตาที่เย็นชา‘ไอ้ขยะนี่มันคิดว่ามันเป็นใครกัน?’ ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์คือบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ขนาดคนอย่างฉันที่ครอบครัวมีฐานะทางสังคมขนาดนี้ก็ยังต้องอ้อนวอนเขาอยู่ตั้งนาน แล้วคนอย่างฟิลิปจะไปติดต่อเขามาได้ได้ยังไงกัน?”ฟิลิปไม่ได้ปฏิเสธ แต่เผยรอยยิ้มบาง ๆ ออกมาแทน “เดี๋ยวก็รู้”“ก็ได้ฟิลิป โกหกเก่งขึ้นนะ แกรู้หรือเปล่าว่ามันต้องใช้ความสามารถมากแค่ไหนในการที่จะให้ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ยอมรักษาผู้ป่วยคนหนึ่ง? มีเหล่าคนรวยและผู้มีอิทธิพลกว่า 100 คนมาขอร้องเขาในว
จะโทษฆวนก็ไม่ถูก เพราะอย่างไรก็ตาม เขาก็คงไม่มีปัญญามากพอที่จะคิดได้ว่าทำไมศาสตราจารย์เทอร์เนอร์ถึงกำลังมาที่ห้องฉุกเฉินนี้ในความคิดของฆวน ความเป็นไปได้ที่ฟิลิปจะสามารถติดต่อศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ได้นั้นแทบจะเป็นศูนย์วินน์รู้สึกขายหน้าเล็กน้อย เธอไม่ต้องการให้ฟิลิปโดนดูถูกอีกครั้งฟิลิปพูดก่อนหน้านี้ว่าหมอที่เขาติดต่อไว้คือศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ถึงแม้ว่าฟิลิปจะเปิดใจคุยกับเธอเมื่อคืนนี้ และบอกเธอว่าครอบครัวของเขาค่อนข้างมีฐานะ และมีเงินในบัญชีสองร้อยล้านก็ตามแต่ถึงกระนั้นเธอก็รู้สึกเทใจให้กับฆวนมากกว่าถ้าเป็นเรื่องของศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์เพราะถึงแม้ว่าคนคนนึงจะมีเงินมากมาย ก็ไม่ได้หมายความว่าคน ๆ นั้นจะมีเส้นสายใหญ่โตเสียหน่อยและอีกอย่างวินก็ยังสงสัยว่าฟิลิปจะมีเงินสองร้อยล้านจริงไหม“ฟิลิป ช่างมันเถอะ ก็แค่ขอโทษฆวนไปซะ ไม่จำเป็นต้องต่อปากต่อคำกันต่อไปแบบนี้” วินน์มองไปที่ฟิลิปอย่างจริงจังมันคงไม่มีเรื่องที่น่าอับอายเกิดขึ้น เพียงแค่ทั้งสองฝ่ายต่างยอมให้กันแต่ฟิลิปก็ทำเพียงตบไปที่บ่าของวินน์และพูดขึ้น “เชื่อผมนะวินน์ ผมจะทำในสิ่งที่ผมพูดไว้” หลังจากพูดเช่นนั้น เขาก
ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์มาเพราะฟิลิปจริงด้วย!นี่มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจมากในสายตาของฆวน ฟิลิปเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้เท่านั้น!แล้วมันมีดีอะไรถึงทำให้ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ปฏิบัติกับมันด้วยความเคารพขนาดนี้?เดี๋ยวก่อน! ฆวนนึกย้อนไปถึงครั้งที่เจอฟิลิปก่อนหน้านี้ และศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ก็อยู่ที่ห้องพักรับรองของโรงพยาบาลด้วย ‘หรือว่าในตอนนั้นศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ก็มาพบมันเป็นกรณีพิเศษเหมือนกัน?’ทันใดนั้น ฆวนก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา และในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก‘นี่มันเป็นไปไม่ได้! มันจะต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด!’ดวงตาของวินน์ยังคงเบิกกว้าง เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างไม่อยากจะเชื่อ ปากเล็กของเธออ้าค้างเล็กน้อย มือสั่นเทา เธอถามขึ้น “ฟิลิป…ฟิลิปนี่คุณพาศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์มาได้จริงด้วย?” เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในอดีต วินน์คงจะคิดว่าศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์คนนี้ไม่ใช่ตัวจริงแต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ วินน์ก็ได้รู้ตัวตนอีกด้านของฟิลิปถึงแม้ครอบครัวของฟิลิปก็จะมีฐานะมั่งคั่ง แต่นั่นก็คงไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ศาสตราจารย์เท
ในระหว่างที่ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์กำลังตรวจร่างกายของมิล่าอยู่ วินน์ก็ลากฟิลิปไปที่บริเวณห้องรับรองและจ้องไปที่เขาฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ก่อนที่จะตัดสินใจบอกวินน์ตามตรง “ผมจะพูดตามตรงนะ ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์เคยเป็นหมอประจำตัวของพ่อผม” “หมอประจำตัว?” วินน์ประหลาดใจ ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับ‘พ่อของฟิลิปคือใครกันแน่นะ? ทำไมถึงสามารถจ้างศาสตราจารย์เทอร์เนอร์ให้เป็นหมอส่วนตัวของเขาได้?’“ฟิลิปมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่าที่คุณอยากจะบอกกับฉัน?” วินน์ถามขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าที่โกรธเคืองเล็กน้อย‘ฟิลิปต้องแอบปิดบังบางอย่างอีกแน่’ฟิลิปรีบเข้าไปโอบเอววินน์ ยิ้มออกมาและพูดขึ้น “ไม่มีอะไรจริง ๆ ในตอนนั้นศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์ยังไม่ได้มีชื่อเสียง พ่อของผมมีปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นเขาจึงให้ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์มาเป็นหมอส่วนตัว ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกคุณ ถ้าผมโกหกคุณขอให้ฟ้าผ่า…”ในขณะที่ฟิลิปกำลังจะกล่าวคำสาบาน วินน์ก็รีบเอามือปิดปากเขาไว้ และจ้องเขม็งไปที่เขาอย่างไม่พอใจนัก และพูดขึ้น “ก็ได้ ฉันเชื่อคุณ” ฟิลิปฉีกยิ้มกว้างก็จะเอามือเขี่ยจมูกของวินน์เล่นวินน์รีบหันหน้าหน
ฟิลิปโกรธจัด!มีใครบางคนทำร้ายวินน์ นั่นเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้!เมื่อเห็นว่าฟิลิปโกรธจัด วินน์รีบจับแขนเขาไว้และอธิบายให้ฟัง “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่มีใครทำร้ายฉันหรอก มันก็แค่…ฉันแค่ซุ่มซ่ามเอง” วินน์มีท่าทีประหม่า เธอไม่อยากให้ฟิลิปก่อปัญญาเพราะเธอเพราะคนที่ทำร้ายเธอนั้นไม่ใช่แค่คนในบริษัทที่เธอทำงานอยู่ แต่เป็นรองผู้บริหารคนใหม่ที่เป็นคนรักของท่านประธานอีกด้วยได้ไม่คุ้มเสีย“แค่อุบัติเหตุงั้นเหรอ?” ฟิลิปมองเธอด้วยสายตาเคลือบแคลงใจ เขาไม่เชื่อในสิ่งที่วินน์บอก“ฉันแค่ซุ่มซ่ามไปเอง ไม่ได้เกี่ยวกับใครหรอก”วินน์ยังคงจับแขนฟิลิปไว้และพยายามที่จะสงบอารมณ์ของเขาลง “ฟิลิป คุณไม่เชื่อฉันงั้นหรอ?”ฟิลิปเงียบไปเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาสังเกตเห็นว่าวินไม่อยากจะทำให้เกิดปัญหา แต่เขาก็รู้สึกไม่ดีถ้าจะไม่ทำอะไรเลยฟิลิปไม่รู้จะทำเช่นไร เขาเอื้อมมือไปจับแก้มของเธอก่อนจะถามขึ้นอย่างแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงห่วงใย “คุณเจ็บไหม?”ดวงตาของวินน์แดงก่ำ เธอส่ายหน้า “ไม่ต้องห่วงหรอกก็แค่แผลเล็ก ๆ ฉันไม่เป็นไร คราวหน้าคุณอย่าอารมณ์เสียแบบนี้ได้ไหม? ฉันกลัว” ใช่ตอนที่ฟิลิปเดือดจัดด้วยความโก
“ฟิลิปรีบเข้าเรื่องสักทีเถอะ ถ้าเป็นเรื่องของบริษัท ฉันรู้ดีอยู่แล้ว” มินดี้พูดแค่ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ปิดปากคนได้สนิทแล้วฟิลิปนิ่งคิดไปสักครู่ก่อนจะถามขึ้น “เมื่อวานนี้มีใครทำร้ายวินน์ใช่ไหม?”“…”มินดี้ตกตะลึง เธอเช็ดปาก ดูเหมือนเธอจะมีความรู้สึกขัดแย้งกันภายในใจ แต่ในที่สุดเธอก็พยักหน้าและพูดขึ้น “ก็ มีรองประธานที่เข้ามาใหม่ เธอชื่อยาสมิน เป็นคนรักของท่านประธาน”“แล้วทำไมเธอต้องทำร้ายวินน์?”“ยาสมินคิดว่าวินน์มีอะไรกับมิสเตอร์ฮอลล์ ดังนั้นเธอก็เลยตบเพื่อเป็นการเตือนวินน์”“เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ไหน?”“ที่บริษัท… เธอตบหน้าวิลสองครั้งต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เอาดี ๆ ฉันก็รู้สึกว่าวินน์น่ะผิด แต่ยาสมินก็เกินจะทนเพราะว่ามีท่านประธานเป็นคนหนุนหลัง อีกทั้งยังตบหน้าคนในที่ทำงานไปอีกสองสามคนด้วย” มินดี้กล่าวด้วยเสียงขมขื่นและจู่ ๆ มินดี้ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ดวงตาของเธอ เบิกกว้าง “ฟิลิป อย่าบอกนะว่านายกำลังคิดจะสั่งสอนยาสมินแทนวินน์?”‘ฟิลิปจะกล้าทำแบบนั้นจริงงั้นเหรอ?’เขาเป็นคนไม่เอาถ่าน ถ้าเขากล้าทำอะไรยาสมิน วินน์จะไม่สามารถอยู่ในบริษัทได้อีกต่อไปมินดี้รีบให้คำแนะนำกับเ
ยาสมินที่ชอบกดขี่คนอื่นตบหน้าวินน์ทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวาและตรงกลางยาสมินวางตัวเป็นคนหยิ่งยโส หัวรุนแรงที่จะปฏิบัติกับคนอื่นตามที่เธอต้องการ“วินน์ ฉันสามารถขยี้เธอเหมือนกับแมลงตัวหนึ่ง ฉันจะบอกอะไรให้นะ ที่นี่ตอนนี้ ถ้าวันพรุ่งนี้เธอกล้ามาที่บริษัทอีก ฉันจะส่งพวกนักเลงโหลนึงไปข่มขืนเธอซะ เข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า? ยาสมินสติแตก เธอชี้หน้าวินน์และประกาศกร้าวแล้วตอนนั้นผมพ่อของวินน์กระเซอะกระเซิง หน้าแดงปื้นจากการถูกตบไม่มีใครสักคนที่ยืนดูอยู่ด้านนอกจะเข้ามาห้ามการกระทำของยาสมินใครจะกล้า? นั่นเป็นคนรักของท่านประธานและยังเป็นรองประธานคนใหม่แค่คำพูดเดียวก็ทำให้พวกเขาไม่มีงานทำได้!มินดี้กระวนกระวายใจ ‘ทำไม่ไอ้คนไม่เอาถ่านนั่นยังไม่มาสักที วินน์จะโดนทำร้ายตายอยู่แล้ว!’มินดี้รู้ว่าเธอไม่สามารถรอได้อีกต่อไปเธอรีบวิ่งเข้าไปแล้วตะโกนขึ้น “วินน์ เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?”“รองประธานลูวอิส คุณทำร้ายเธอ คุณทำร้ายร่างกายอย่างไร้เหตุผล ฉันจะแจ้งตำรวจ” มินดี้พูดอย่างกระสับกระส่ายยาสมินจ้องไปที่มินดี้ก่อนจะยิ้มออกมา ง้างมือขึ้นและตบหน้ามินดี้ “นังตัวดี เจียมตัวซะบ้างนะ! ฉันไม่สนว่าแกชื่ออะไร