“อืม โรงพยาบาลเทิร์นเนอร์ต้องการร่วมมือกับบีคอนแต่เงื่อนไขคือพวกเขาจะเจรจากับฉันเท่านั้น” วินน์พูดอย่างลังเล เธอเงยหน้าขึ้นมองฟิลิป “แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ? ฉันควรยอมรับมันดีไหม?” วินน์อยากที่จะยอมรับข้อเสนอของเดอร์ริคเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเธอไม่อยากตกงาน นอกจากนี้เดอร์ริคยังให้คำมั่นสัญญาถึงสิทธิพิเศษมากมายให้กับเธอ เธอค่อนข้างพอใจกับข้อเสนอนี้ เพราะเธอต้องเลี้ยงดูครอบครัวและลูกสาว “ผมรู้ว่าเธอไม่อยากตกงาน วินน์ ไม่ว่าเธอจะเลือกอย่างไร ผมจะสนับสนุนการตัดสินใจของเธอ” ฟิลิปพูดขณะที่เขาเอาแขนโอบรอบคออันบอบบางของวินน์ ราวกับว่าพวกเขาเป็นคู่รักในวัยหนุ่มสาว วินน์พยักหน้าอย่างจริงจัง “สักวันหนึ่งฉันจะต้องเลี้ยงอาหารค่ำศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้เลย ผมจะจัดการนัดเขาให้” ฟิลิปตอบ หลังจากที่เรื่องดังกล่าวคลี่คลายแล้ว วินน์ก็ตกลงที่จะเจรจากับโรงพยาบาลเทิร์นเนอร์ ตามสัญญาที่ได้ให้ไว้ เดอร์ริคเลื่อนตำแหน่งให้วินน์เป็นรองประธานบริษัท ทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกัน กลับมาที่บ้านของครอบครัวจอห์นสตัน มาร์ธา เยทส์กำลังคุยกับชาร์ลส์
เหตุผล คำนี้คงเป็นคำที่เธอหลงลืมไปความหมายไปแล้ว อย่างไรก็ตามฟิลิปยังเป็นลูกเขยของเธอและทักทายด้วยความจริงใจ มาร์ธาโยนของขวัญทั้งหมดของฟิลิปที่ประตูทางเข้า และตะโกนใส่เขาด้วยความโกรธว่า "ถ้าแกยังเป็นผู้ชายอยู่ ฟิลิป คลาร์ค อย่าก้าวเข้ามาในบ้านของฉันอีกแม้แต่ก้าวเดียว ฉันมาร์ธา เยทส์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก ครอบครัวจอห์นสตันไม่ต้อนรับคนไร้ประโยชน์อย่างแกให้เข้ามาในบ้าน” มาร์ธารู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับไอเดน เธอไม่พอใจเมื่อเห็นฟิลิป คลาร์ค คนขี้แพ้ที่ประตูบ้าน 'คิดว่ามันควรที่จะก้าวเข้ามาในบ้านของฉัน เพียงเพราะเขานำของขวัญมาเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเหรอ? 'ฝันไปเถอะ!' วินน์รู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าแม่ของเธอไม่มีเหตุผล “ทำอะไรน่ะ คุณแม่ ฟิลิปอยู่ที่นี่เพื่อคุยกับคุณแม่” เธอพูดอย่างไม่พอใจ วินน์หันหลังไปหยิบของพวกนั้น จากนั้นจึงพาฟิลิปเข้ามาและนั่งลง มาร์ธาคิดว่ามันไม่เหมาะสมที่จะตำหนิลูกสาวของเธอ เธอหยุดขับไล่ฟิลิปออกจากบ้านแต่ก็ไม่ได้แสดงน้ำใจให้กับเขา “การที่มีมันอยู่ในในบ้านก็ไม่ต่างกับมีคนตายอยู่ด้วย ไม่รู้เหรอว่ามันอุจาดลูกกะตา?” เธอชี้ไปที่ฟิลิปและก่นด่า ฟิลิปโกรธเ
วินน์หันกลับมามองที่ฟิลิป และถามว่า “นายทำเหรอ?” ฟิลิปส่ายหัวทันทีและตอบอย่างใจเย็นว่า “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงเล่า? ผมจะมีปัญญาไปทำเรื่องอะไรแบบนั้นได้ยังไง? เธอคิดมากเกินไป” เขาเกือบจะเผยความลับออกมาแล้ว! โชคดีที่ไอเดนถูกจับออกไปทางประตูหลังเมื่อวันก่อน วินน์ขมวดคิ้ว เธอไม่คิดว่าฟิลิปสามารถทำสิ่งนั้นได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ มาร์ธาได้ยินการสนทนาไร้สาระที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา เธอเลิกคิ้วมองฟิลิปแล้วถามว่า “อะไรนะ? เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?” วินน์รู้ว่าถ้าแม่ของตนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงแรมเมื่อวันก่อน เธอคงจะเอาผิดกับฟิลิปให้ได้มากที่สุดอย่างแน่นอน บางทีมันอาจทำให้ประเด็นการหย่าระหว่างพวกเขาหลับมาอีกครั้งก็เป็นได้ “คุณแม่ อย่าโกรธฟิลิปสิคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย” วินน์พูด “ดีแล้วที่ไม่ส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะเป็นคนแรกที่ไล่เขาออกจากบ้าน!” มาร์ธาจ้องที่ฟิลิปอย่างฉุนเฉียวก่อนจะหันไปหาชาร์ลส์ด้วยแววตาสิ้นหวัง เธอพูดว่า “ชาร์ลี ช่วยถามเรื่องนี้จากคนรู้จักทีสิ ไอเดนทำอะไรผิดกัน? มันรุนแรงมากไหม?” ชาร์ลส์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ไ
มาร์ธาอึ้ง! ลมหายใจของเธอติดขัดอยู่ในลำคอของเธอ! หนึ่ง…แสนล้าน?! ด้วยเสียงที่ดังมาก มาร์ธาหงายหลังและล้มลงกับพื้น ร่างกายของเธอเริ่มสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ ในไม่ช้า ผู้คนก็รายล้อมกันรอบเธอ ขณะที่พวกเขามองและชี้ “โอ้ เธอมีอาการชักหรือเปล่า?” “โทรแจ้งเบอร์ฉุกเฉินเร็ว!” “รีบไปเรียกใครซักคนมา นี่มันดูอันตรายนะ!” ไม่นานหลังจากนั้น พนักงานของธนาคารก็รีบเข้าไปช่วยพยุงมาร์ธาขึ้นไปนั่งที่นั่งข้าง ๆ จากนั้นก็ทำการกดจุดให้และนำน้ำดื่มมาให้เธอ อย่างไรก็ตาม มาร์ธาพยายามคงสติของตนขณะที่มือไม้สั่นไปหมด ดวงตาของเธอมืดหม่น เมื่อเธอพึมพำว่า “แสน…ล้าน” ผู้เฝ้าดูต่างงงงันและไม่รู้ว่าหญิงชรากำลังบ่นพึมพำอะไรอยู่ เธอจิตหลอนหรือเปล่า? ตอนนี้ ฟิลิปและวินน์รีบไปที่เกิดเหตุ พวกเขาได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ธนาคารคนหนึ่งซึ่งแจ้งตำแหน่งของมาร์ธาให้พวกเขาทราบ “คุณแม่ รู้สึกยังไงบ้าง? คุณแม่โอเคหรือเปล่า? อยากไปโรงพยาบาลไหมคะ?” วินน์วิ่งเหยาะไปนั่งยอง ๆ ข้างมาร์ธา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล มาร์ธาเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของเธอ ไม่จำเป็นต้องพูดว่าวินน์จะกังวลถ้ามีอะไรเกิดขึ้น
ตอนนี้วินน์เข้ามาช่วยพยุงมาร์ธาที่ยังคงเดินโซเซอยู่ และเดินไปพื้นที่พักผ่อนตรงมุมห้องด้วยกันและนั่งลง ฟิลิปขมวดคิ้ว หยิบบัตรออกมาแล้วส่งผ่านเคาน์เตอร์ เขาพูดอย่างใจเย็น “เรียกผู้จัดการออกมาคุยกันหน่อยครับ” หญิงสาวที่เคาน์เตอร์ประหลาดใจก่อนจะเย้ยหยันว่า “คุณคะ คุณคิดว่ามีเงินแสนล้านในบัตรใบนั้นจริง ๆ เหรอ?” ตลกดีจริง ๆ หลังจากหญิงชราก็เป็นชายหนุ่ม ครอบครัวนี้มีแต่คนสติไม่ดีเหรอไงกัน? อย่างไรก็ตาม ฟิลิปอมยิ้มเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น ผมขอถอนเงินออก” หญิงสาวมองดูเขาอย่างดูถูก ขณะที่เธอพึมพำเป็นเสียงกระซิบว่า “ยากจน แต่เขาก็ยังอยากรถอนเงิน เขาคิดว่าเขามีแสนล้านจริง ๆ เหรอ!” หญิงสาวเข้าระบบของธนาคารขณะที่บ่นพึมพนไปด้วย และสั่งฟิลิปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พร้อมให้บริการนัก “ป้อนรหัสผ่านของคุณ” ฟิลิปถูกบังคับให้ทำ หญิงสาวดำเนินขั้นตอนต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นยอดเงินคงเหลือของบัตร เธอลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจในและอ้าปากค้างด้วยความตะลึง! ใบหน้าดูถูกและเหยียดหยามถูกแทนที่ด้วยความประหลาดใจและความสงสัยอย่างรวดเร็ว! ในเวลาเดียวกัน พนักงานคนอื่น ๆ ที่หลังเคาน์เตอร์ก็เริ่มรุม
แพทริคลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างกระทันหัน ดวงตาของเขาเบิกกว้างและหายใจถี่รัว ใครจะมีเงินฝากคงเหลือในธนาคารหนึ่งแสนล้าน? คนคนนั้นได้มาปรากฏตัวอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ยที่สาขาเล็ก ๆ ของเขาแล้ว! ถ้าได้รับเงินลงทุนถึงร้อยล้าน เขาจะไม่ต้องทำงานตลอดทั้งปีอีกต่อไป! ยิ่งกว่านั้น เขาอาจมีโอกาสที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นประธานสาขาในปีต่อไปก็ได้! ในกรณีที่ลูกค้ารายใหญ่รายนี้อัดฉีดเงินเข้ามาในสาขาของเขา ผลงานในปีนี้ของเขาจะต้องพุ่งทะยานแน่! เมื่อไม่กี่วันก่อน ในระหว่างการประชุมที่สำนักงานใหญ่ สาขาของเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงผลงานที่ไม่ดีในแง่เงินฝากของลูกค้า อันดับของพวกเขาเรียกได้ว่ารั้งท้ายเมื่อเทียบกับสาขาอื่น ๆทั้งหมด! แพทริครู้สึกกังวลกับเรื่องนี้มาก หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ตำแหน่งผู้จัดการสาขาต้องหลุดมือเขาไปอย่างแน่นอน! แพทริครีบวิ่งออกไปโดยไม่ต้องคิดให้มากความอีก “เร็วเข้า พาฉันไปหาเขา!” เมื่อเขามาถึงล็อบบี้และเห็นฟิลิปเป็นครั้งแรก แพทริคลังเลเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อโยลันดายืนยันตัวตนของเขาแล้ว เขาก็ทักทายฟิลิปด้วยรอยยิ้มทันที และต้อนรับเขาด้วยมือที่ยื่นออก “มิสเ
ฟิลิปรีบอธิบายว่า “วินนี่ เธอคิดมากไป อาจมีบางอย่างผิดปกติกับบัตร เดี๋ยวฉันกลับมา" แพทริคเป็นคนฉลาดและเข้าใจได้ทันที เขาพูดว่า “มาดาม อย่ากังวลไป เราจะกลับมาในไม่นาน ผมจะเข้าไปคุยกับมิสเตอร์คลาร์คไม่นานเกินรอหรอกครับ” เมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้น วินน์ไม่ได้ตอบรับอะไรออกมา ทำได้เพียงพยักหน้าตอบรับ ฟิลิปตามแพทริคไปที่ห้องวีไอพีและนั่งบนโซฟาที่ดูมีระดับ ขณะที่แพทริคชงชาให้ แพทริคยังคงประหลาดใจกับอายุที่ยังน้อยของฟิลิป ถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มีเงินคงเหลือในบัญชีถึงแสนล้าน! คนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศมีมูลค่าสุทธิมากกว่าหนึ่งแสนล้านเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามนั่นรวมถึงทรัพย์สินของบริษัทของคนคนนั้นด้วย สำหรับฟิลิป เขามีเงินฝากส่วนตัวถึงแสนล้านเชียวนะ! มันช่างเหลือเชื่อเหลือเกิน! 'เมื่อดูจากความร่ำรวยเกินคนแบบนั้น บอกได้เลยว่าเขาต้องเป็นลูกหลานของครอบครัวที่ไม่เปิดเผยตัวได้' "มิสเตอร์คลาร์คยังเด็กและมีพรสวรรค์มาก ผมไม่ได้คาดคิดว่าคุณจะรวยมาก มันคาดไม่ถึงจริง ๆ” แพทริคกล่าว คู่รักของเขานั่งถัดจากแพทริค เธอเป็นพนักงานธนาคารจากเคาน์เตอร์ด้านหน้า อย่างไรก็ตาม ฟิลิปทำเป็
ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นเจ้าผู้ทรงเสน่ห์ของหญิงสาวบนโลกนี้แน่นอน! ภรรยาของเขาช่างเป็นผู้หญิงที่มีความสุขและโชคดีเหลือเกิน พนักงานธนาคารที่อยู่ในการปฏิบัติหน้าที่รู้สึกอิจฉาเมื่อความริษยาเริ่มก่อขึ้นในตัวของเธอ “รีบดำเนินการให้ไว ผมต้องไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกับภรรยา” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็น แพทริคตกตะลึง อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มที่สดใส ในขณะที่สั่งให้โยลันดาดำเนินการการด้านธุรกรรมโดยทันที ฟิลิปเพียงแค่ต้องให้บัตรประจำตัวประชาชนแก่พวกเขาเพื่ออนุญาตให้ทำธุรกรรม นี่สินะที่เรียกว่าการบริการแบบ วีไอพี! เงินฝากหนึ่งพันล้าน! แพทริคไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่ากองเงินกองทองจะมากองอยู่ตรงหน้าแบบนี้มาก่อนในชีวิต! ด้วยความสำเร็จดังกล่าว ตำแหน่งประธานสาขาในปีต่อไปต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน! "มิสเตอร์คลาร์ค ภรรยาของคุณโชคดีมากที่มีสามีแบบคุณ” แพทริคชม ฟิลิปตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาก็ออกมา เมื่อแพทริคกลับมาที่ล็อบบี้หลัก เขาก็อธิบายกับมาร์ธาว่า “คุณป้าครับ ผมต้องอภัยเป็นอย่างสูง ขณะนี้ ระบบของเราเกิดความขัดข้องบางประการ บัตรใบนี้มีเงินเพ