เช่นนั้น ตอนนี้นายเป็นคนที่กล้ามากใช่มั้ย ฮะ? นายกล้าแม้แต่จะตะโกนใส่ฉันตอนนี้? ฟิลิป คลาร์ค อย่าแม้แต่จะคิดที่จะเข้าบ้านฉันอีกเป็นครั้งที่สอง! จะไม่มีประตูบานไหนเปิดต้อนรับนาย!”มาร์ธาเอามือเท้าเอว ในขณะที่เธอตะโกน ชี้ไปที่ร่างที่กำลังจากไปของฟิลิป"คุณกำลังทำอะไร? ที่นี่คือโรงพยาบาล ห้ามตะโกน!” พยาบาลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชาและตำหนิพวกเขามาร์ธาที่สะดุ้งและโกรธ เธอออกแรงดึงชาร์ลส์เข้ามาหาอย่างไร้เหตุผล ขณะที่เธอสะอื้นไห้ “ชาร์ลี คุณเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ฟิลิปขาดสติไปแล้ว ตอนนี้เขายังกล้าแม้แต่จะตะโกนใส่ฉัน จากนี้ไปในครอบครัวนี้ เขาและฉันคงอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว”มาร์ธาโกรธมาก ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คนขี้แพ้กล้าเข้ามาคุยกับเธอแบบนี้?“ก็ได้ ก็ได้ คุณเองก็พอได้แล้ว แค่นี้ยังมีปัญหาไม่พออีกเหรอ?” ชาร์ลส์พูดอย่างหมดหนทางหลังจากแต่งงานกันมาเป็นสิบ ๆ ปี มันฟิลิปก็หยาบคายเกินไป!ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เธอยังคงเป็นแม่ยายของเขา เขาจะตะโกนใส่หน้าเธออย่างโผงผางได้อย่างไร?อย่างไรก็ตาม ชาร์ลส์ยังรู้สึกออกจะแปลกใจ ดูเหมือนว่าลูกเขยของเขาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย“คุณไม่คิดว่าวันนี้ฟิลิ
ฟิลิปเดินเข้ามาและวางกล่องอาหารกลางวันไว้บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็หยิบแอปเปิ้ลขึ้นมาและเริ่มปอกเปลือก ในขณะที่ฟังการสนทนาของฆวนและวินน์อย่างเงียบ ๆฆวนและวินน์แสร้งทำเป็นไม่เห็นฟิลิป ปฏิบัติต่อเขาราวกับเป็นอากาศ“นายแน่ใจหรือพี่ฆวน? นั่นคือศาสตราจารย์… ศาสตราจารย์เฮนรี่ เทิร์นเนอร์ เหรอ?” วินน์ดูเหมือนจะตื่นเต้นอย่างผิดปกติ ดวงตาของเธอเป็นประกายเหมือนดวงดาว ฉายแววเป็นความหวังออกมา”เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับเฮนรี่ เทิร์นเนอร์ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นแพทย์โรคหัวใจชั้นนำในระดับสากลด้วยสมญานามยักษ์ใหญ่ทางการแพทย์ย้อนกลับไปเมื่อมิล่าได้รับการวินิจฉัยครั้งแรก วินน์ได้ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอาจกล่าวได้ว่าศาสตราจารย์เฮนรี่ เทิร์นเนอร์ เป็นปราชญ์แห่งวิชาชีพแพทย์หากพวกเขาสามารถนำศาสตราจารย์เฮนรี่ เทิร์นเนอร์ มารักษามามิล่าได้ ความเจ็บป่วยของเธอจะรักษาให้หายได้ 100%อย่างไรก็ตาม เราต้องติดต่อเขามาให้ได้ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถพบกับยักษ์ใหญ่ทางการแพทย์ได้วินน์ รู้อย่างดีว่าต้องใช้อำนาจและเส้นสายมากแค่ไหน เพื่อให้ศาสตราจารย์เฮนรี่ เทิร์นเนอร์ ตรวจดูอาการของมิล่าวินน์ไม่สามารถตอบแทนความช่
หมอไม่ได้เรื่องพวกนั้นที่ฟิลิปจ้างมาจะต้องตกตะลึงจนตัวสั่นเมื่อได้เห็นเฮนรี่ เทิร์นเนอร์ฆวนพูดเช่นนี้ก็เพื่ออยากที่จะเห็นฟิลิปต้องอับอายขายหน้าอย่างแน่นอนสำหรับเขา การที่จะรับมือกับฆวนได้นั้นออกจะเกินกำลังไปหน่อยคิ้วของฟิลิปขมวดปมแน่น เขาพูดไปแบบนั้นก็เพราะไม่อยากถูกฆวนดูหมิ่นและไม่อยากให้วินน์เข้าใจผิดอย่างไรก็ตามท่าทีที่เกรี้ยวกราดของฆวนก็ทำให้เขาหงุดหงิดไม่ใช่น้อยควรจะบอกความจริงไปเลยดีกว่าไหมนะ?ฟิลิปไม่อยากจะทำให้พวกเขาขายหน้า ถอนหายใจออกมา “ช่างมันเถอะ ตราบใดที่เธอมีความสุขก็ไม่เป็นไร”ฟิลิปไม่อยากจะให้ใครรู้สึกแย่ เพราะถึงอย่างไร แม่ยายของเขาก็ดูจะถูกใจฆวนอยู่มากในช่วงนี้ถ้าเกิดไปทำอะไรให้มาร์ธาโกรธเข้า ชีวิตเขาคงจะไม่เหลืออะไรดีเลยและอีกอย่าง เขาก็ไปพบหมอเพื่อลูกสาวของเขาและด้วยเหตุนี้เอง ฟิลิปจึงไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นอะไรที่จะต้องไปทำให้ฆวนขายหน้าแต่นี้ ก็จะเป็นแค่เหตุผลเดียวที่เขาจะยอมให้“ฮ่าฮ่า ฟิลิปแกนี่ตลกดีนะ” ฆวนหัวเราะเยาะเย้ยออกมา ยิ่งมองไปที่ฟิลิปก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาก็เป็นไอ้ขี้แพ้ดี ๆ นี่เอง “พูดตรง ๆ เลยนะ ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าหมอที่แ
ฟิลิปมาทำอะไรที่นี่? ไม่ใช่แค่นะนั้น เขายังยืนอยู่ข้างศาสตราจารย์เฮนรี่ เทิร์นเนอร์อีกด้วยมันเกิดอะไรขึ้นกัน? ฆวนรู้สึกสับสน จะเป็นไปได้เหรอที่ฟิลิปรู้จักกับเฮนรี่? นั่นมันเป็นไปไม่ได้! ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์รู้จักคนขี้ขลาดอย่างฟิลิปงั้นเหรอ? ศาสตราจารย์เฮนรี่ เทิร์นเนอร์ สะดุ้ง เขาไม่รู้จัก ฆวน ปาร์คเกอร์ แต่เขารู้จักพ่อของเขาแต่จริง ๆ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ถือว่ารู้จักอะไรกันขนาดนั้น เขาเพียงแค่มีความสนใจบางอย่างตรงกันเท่านั้นเป็นเพราะเขาชอบอัญมณีจำพวกหยก และซื้อมันมาตกแต่งบ้านสองสามชิ้นเท่านั้นครั้งหนึ่งตอนที่เขาอยู่ที่เมืองโกลเด้น เฮนรี่ได้รับอัญมณีหยกน้ำดีจากโรเบิร์ต มันเป็นชิ้นที่หายากมาก ๆ ทำมาจากหยกมังกรสีเขียว ด้วยเหตุนี้เขาจึงจำเรื่องนี้ได้ และเมื่อสองสามวันก่อนโรเบิร์ตติดต่อมาหาเขาด้วยตัวเอง เขาพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับลูกสาวของเพื่อนลูกชายของเขาป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด จึงมาขอร้องให้เขาช่วยไปดูอาการของเธอนี่เขาคิดว่าไม่ว่าใครก็สามารถมาแนวโน้มให้เฮนรี่ เทิร์นเนอร์ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ?”และเพราะเขามาอ้อนวอนหลายต่อหลายครั้งบวกกับหยกน้ำงามชิ้นนั้นที่เค
ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขาหัวเราะออกมาแทนก่อนจะปลีกตัวออกมามาร์ธายังคงบ่นพึมพำกับตัวเอง “แหม่ ช่างเป็นบุญตาที่ได้เจอเสียจริง”คิ้วของเฮนรี่ขมวด นี่คือแม่ยายของมิสเตอร์คลาร์คงั้นเหรอ?เธอช่างเหิมเกริมและหยาบคายมิสเตอร์คลาร์คช่างโชคร้ายที่ได้แม่ยายอย่างเธอ“เดี๋ยวก่อนครับ!”เฮนรี่เรียกฟิลิปเอาไว้ก่อนจะไปยื่นด้านหน้าเขาเขาไม่ชอบใจในท่าทีของแม่ยายคนนี้ ดังนั้นเขาจึงอยากจะทำอะไรบ้างอย่างเพื่อมิสเตอร์คลาร์ค“”คนนี้คือใคร?” เฮนรี่ถามฆวนด้วยเสียงเย็นฆวนรีบตอบกลับด้วยความสุภาพ “ศาสตราจารย์เทอร์เนอร์ครับนี่คือ…”แต่ก่อนที่การแนะนำตัวจะจบลง มาร์ธาก็เอ็ดขึ้นมาเสียก่อน “แล้วแกเป็นใคร ตาแก่ขี้บ่น! มีอะไร แกอยากจะช่วยพูดแทนไอ้บื้อนี่งั้นเหรอ?” ตาแก่ขี้บ่น? ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึงไปจนพูดไม่ออก!นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีตั้งแต่เป็นอาจารย์แพทย์มาที่เฮนรี่ถูกด่าว่าและทำกริยาแบบนี้ใส่และในตอนนี้เขาก็รู้สึกโกรธมาก เลือดในตัวพลุ่งพล่านหมอผู้ช่วยของเขาสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกเช่นเดียวกัน พวกเขาจ้องกลับอย่างเย็นชา คันไม้คันมืออยากจะเข้าไปฉีกปากผู้หญิงคนนั้นเสียเหลือเกินส่วนฆวนนั้
เพียงแค่ประโยคเรียบง่ายกลับทำให้หัวใจของมาร์ธาและฆวนกระตุกไปด้วยเสียงพูดของเขานั้นแล้ว! เขาหมายความว่าอย่างไรกันที่ว่า ‘เห็นแก่เขา’ไอ้เจ้าคนไร้ประโยชน์นั่นจะมาพูดแบบนี้เอาตอนนี้ทำไมกันนะ!นี่มันมีอะไรดีมากขนาดนั้นเชียวเหรอ?มาร์ธาตัวสั่นไปด้วยความโกรธ ฟิลิปชอบพูดโอ้อวดและรู้ว่าเขาคงจะพูดแทรกขึ้นมาตอนไหนนี่เขาตั้งใจจะทำให้ตัวเองขายหน้าและทำให้เฮนรี่ไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ?”หรือนี่มันคือการแก้แค้น?“ฟิลิป หุบปากไปซะ! แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกคิดว่าแกมีสิทธิที่จะมาพูดในเรื่องนี้อย่างงั้นเหรอ?” มาร์ธาตำหนิเขาเสียงสั่นเธอกังวลว่าขยะไร้ค่าอย่างฟิลิปจะบังเอิญไปทำให้คนสำคัญอย่างเฮนรี่ เทิร์นเนอร์ ขุ่นเคืองใจเข้าและยังมีหน้าไปขอให้เขาเห็นแก่ตัวเองและปล่อยเรื่องนี้ไปอีก นี่เขาไม่รู้รึยังไงว่าเทียบกับตนเองแล้ว ชายคนนี้สูงศักดิ์กว่ามากแค่ไหน? คิ้วของฟิลิปผูกปมแน่น เขาไม่คิดว่ามาร์ธาจะเป็นคนแรกที่ด่าเขาเขาแค่พยายามที่จะช่วยเธอให้รอดพ้นจากปัญหาเหล่านี้ด้วยความตั้งใจดีแท้ ๆ แต่เธอกลับโต้กลับเขามาเช่นนี้“แกยังจะยืนนิ่งอยู่อีกทำไม? แกจะไม่ขอโทษศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์งั้นเหรอ?” ในที่สุด มาร์ธ
และตอนที่เธอพูดออกไปนั้น มาร์ธาก็ได้คิดหาวิธีหลายร้อยวิธีที่จะจัดการแก้แค้นฟิลิปในภายหลังไว้แล้วและในขณะที่ฆวนกำลังจะถามว่าเขาจะขอเข้าพบได้เมื่อไหร่ เฮนรี่ก็ได้เดินออกไปเสียแล้วฆวนลนลานตกใจและรีบวิ่งตามเขาออกไปเหลือแค่มาร์ธาและฟิลิปที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น อีกฝ่ายจ้องไปที่ฟิลิปอย่างดุเดือด สายตาของเธอลุกโชนด้วยความโกรธ“แม่ครับ แม่ไม่ได้…”เพี๊ยะ!ก่อนที่ฟิลิปจะทันได้พูดจบ มาร์ธาก็ตบหน้าเขาเสียก่อนและด่าออกมา “เป็นยังไงบ้างล่ะ? รู้สึกดีมากเลยสินะที่ทำให้ฉันขอโทษแกได้?” “ถ้าฉันไม่ได้จัดการแกในวันนี้ก็อย่ามาเรียกฉันว่าคนตระกูลเยทส์เลย!” ฟิลิปพูดไม่ออก แก้มของเขาปวดตุ๊บ ๆ และร้อนผ่าวไปด้วยความเจ็บปวด เขากำมือแน่นในกระเป๋ากางเกงของเขา“อ้อ นี่แกไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ? มาสิ เขามาตบนังแก่คนนี้เลยถ้าแกแน่จริง เอาสิ ตบฉันเลย” มาร์ธาท้าทายฟิลิปขึ้นมาผู้คนต่างเข้ามามุงแต่แล้วมาร์ธาก็ยอมแพ้ ก่อนที่เธอจะจากไปเธอจ้องฟิลิปปอย่างดุดัน ก่อนจะก่นด่าเขา “ไอ้คนไร้ประโยชน์ รีบ ๆ ตายแล้วกลับชาติมาเกิดซะ! แล้วก็พาลูกนอกคอกของแกไปด้วยล่ะ!”ลูกนอกคอก?นี่เธอเรียกมิล่าว่าลูกนอกคอก!มิล่าคือเลือ
วินน์เดินลงจากเตียงมุ่งตรงมาที่เสื้อแจ็คเกตสีดำของฟิลิปเสียงเรียกเข้ายังคงดังต่อเนื่องให้ได้ยินภายในห้องผู้ป่วยวินน์กำลังจะหยิบเสื้อแจ็คเก็ตของเขาเพื่อหยิบโทรศัพท์ออกมา จู่ ๆ ฟิลิปก็เข้ามาดึงเสื้อออกไปจากมือเธอและยิ้มออกมาอย่างสงบนิ่ง “ผมจะออกไปข้างนอกเพื่อรับโทรศัพท์นะ”พูดจบ ฟิลิปก็หมุนตัวเดินห้องไปจากห้องเขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและพบว่าเป็นเบอร์ของวินน์!เขาทำได้แค่กดวางสายอันตรายเกินไปแล้ว!เมื่อครู่นี้ฟิลิปรู้สึกราวกับหลุดไปอีกโลก เหงื่อของเขาเปียกชุ่มเต็มหัวไปหมดยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะบอกวินน์เรื่องตัวตนที่แท้จริงของเขาไม่ใช่ว่าเขาต้องการที่จะปกปิดอะไร แต่เป็นเพราะถ้าวินน์รู้เรื่องขึ้นมา เธอ มิล่า รวมถึงตระกูลจอห์นสตันทั้งหมดจะต้องตกอยู่ในอันตราย มีเพียงแค่ฟิลิปเท่านั้นที่รู้ถึงอันตรายนี้ดีฟิลิปเคยเห็นเล่ห์เหลี่ยมของผู้หญิงคนนั้นช่วงเวลาที่เขาหนีออกมาจากครอบครัวของเขา ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลังไม่มากก็น้อยในห้องผู้ป่วย วินน์ยืนกอดอกคอยฟังเสียงรอสายจากโทรศัพท์ คิ้วของเธอขมวด ‘หรือว่าเธอจะมีอะไรทำอยู่กันนะ?’เธอก็โทรออกอีกครั้งแต่คราวนี้สาย