เมื่อหลินซีคิดถึงเรื่องนี้ ศีรษะของเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆที่ผุดออกมา "หานฮุย ฉันก็อยากจะให้ทุกคนคุ้นเคยกับการผ่าตัดในครั้งนี้ให้มากๆน่ะ"หลินเป่ยขัดจังหวะหลินซีทันทีว่า "ฮั่วหานฮุยไม่ใช่หมอสักหน่อย เขาคุ้นเคยกับฉันแล้วมันจะมีประโยชน์กะผีอะไรล่ะ?"ใบหน้าของหลินซีแทบจะแขวนไม่อยู่แล้วฮั่วหานฮุยยืนขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา กลืนความโกรธลงไป แล้วมองไปที่หลินเป่ย "งั้นรอให้หมอหลินมาประชุมที่โรงพยาบาล แล้วค่อยปรึกษากันก็แล้วกันนะครับ"พูดจบ ชายหนุ่มก็เดินออกจากออฟฟิศไปทันทีหลินซีก้าวไปข้างหน้าเพื่อดึงแขนของฮั่วหานฮุย แต่ก็กลับถูกชายหนุ่มสลัดออกไปอย่างไร้ความปรานี ดวงตาของเขาเย็นชาเป็นอย่างยิ่งในที่สุดหลินซีก็ยืนอยู่ที่เดิมอย่างน่าอับอาย จากนั้นก็หันกลับมามองหลินเป่ยพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "พี่สาม พี่จำเป็นที่จะต้องพูดขนาดนี้เลยหรือคะ?""หลินซี ประโยคที่ฉันพูดนั้นไม่ใช่ความจริงหรือไง? เธอรีบแต่งงานกับฮั่วหานฮุยขนาดนี้ ฉันคิดว่าความรู้สึกของพวกคุณดีขนาดไหนเสียอีก แต่ทัศนคติของฮั่วหานฮุยที่มีต่อเธอเมื่อกี้ ดูไม่ออกเลยว่าเขามีความรักต่อเธอนะ!""พี่สาม ฉันกับหานฮุยกําลังจะหมั้นกันแล้ว เขามีค
ฮั่วหานฮุยหรี่ตาลงเล็กน้อย และคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้จะรู้จักเขาจริงๆเขาตอบเบาๆ ว่า "อืม"ฉินเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที "สวัสดีครับคุณฮั่ว ผมเป็นผู้จัดการของบริษัทออกแบบ XX นะครับ ครั้งก่อนตอนที่อยู่ในสนามแข่งการแข่งขันระดับนานาชาติไป๋ฮวา ผมได้มีเกียรติพบคุณครั้งหนึ่งนะครับ"ฮั่วหานฮุยหรี่ตาเล็กน้อย ใบหน้านั้นทั้งหล่อเหลาและสูงส่ง สำหรับการแสดงออกแบบนี้ของผู้ชายคนนั้น เขาเองก็ชัดเจนเอาเสียมากๆ เพราะยังไงเสียผู้ชายแบบนี้ เขาก็ได้พบเห็นมาไม่น้อยเลยเขากวาดตามองดูรายการชำระเงินในมือของฉินเฟิงอีกครั้ง "คุณเป็นอะไรกับผู้ป่วยเหรอ?"ฉินเฟิงตอบทันทีว่า "เธอเป็นพนักงานของสตูดิโอผมครับ จู่ๆ ก็เป็นลม ดังนั้นผมจึงพาเธอมาส่งที่โรงพยาบาล"เขาไม่พอใจเล็กน้อย "สตูดิโอของพวกคุณงานหนักขนาดนี้เลยเหรอ?""ไม่หรอกครับ ซีซีเธอเป็นมหาเทพที่ผมกว่าจะหามาได้ การแข่งขันระดับนานาชาติไป๋ฮวาครั้งที่แล้วคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย เธอเป็นที่หนึ่งคนนั้นน่ะครับ"ฮั่วหานฮุยชักสีหน้าเย็นชา และจงใจตอบกลับไปว่า "อ้อ นึกออกแล้วล่ะ พวกคุณมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรเหรอ?"ฉินเฟิงชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าท่านประธานฮ
คนรวยเหล่านี้ หากให้โอกาสกับเขา เขาก็สามารถทะยานขึ้นฟ้าได้เหมือนกันจ้าวซีซีนอนรออยู่บนเตียงคนไข้สักพักกว่าฉินเฟิงจะกลับมา เธอมองไปแล้วพูดว่า "รุ่นพี่ คนต่อคิวเยอะใช่ไหมคะ?""นิดหน่อยน่ะ"ฉินเฟิงปกปิดความตื่นเต้นในใจ แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่เพิ่งพบฮั่วหานฮุยให้จ้าวซีซีฟัง เขานั่งอยู่ข้างๆแล้วพูดว่า "ซีซี คุณมีพี่ชายสามคน พี่ชายคนนี้เป็นหมอ แล้วพี่ชายที่เหลือสองคนล่ะ?""พี่ใหญ่และพี่รองต่างก็อาศัยอยู่ในเมืองหนานเฉิง พี่ใหญ่ทํางานเป็นพนักงานขายที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ พี่รองทํางานในสํานักงานกฎหมาย เป็นพนักงานตัวเล็กๆเอง"ฉินเฟิงพยักหน้า "งั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลย ครั้งสุดท้ายที่จางเหวินเหวินสร้างข่าวลือใส่ร้ายเธอ แถลงการณ์การพัฒนาสาธารณะของสํานักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงในเมืองหนานเฉิงฟ้องคนที่สร้างข่าวลือ พี่ชายของคุณไม่ใช่พนักงานเล็กๆ ในสํานักงานนั้นแน่นอน ซีซีเธออย่าถ่อมตัวเลยนะ""ไม่ใช่นะ คาดว่าพี่รองของฉันอยู่ทำงานในสํานักงานกฎหมายน่าจะโอเคอยู่นะ ดังนั้นเพื่อนร่วมงานจึงยินดีที่จะช่วยเหลือน่ะ"ฉินเฟิงเก็บความคิดที่ลึกซึ้งไว้ในสายตาของเขา รู้สึกว่าจ้าวซีซียังคงถ่อมตัวอยู่ คนที่สามารถ
หลังจากจ้าวซีซีกลับถึงบ้าน ทั้งป้าใหญ่และพี่สะใภ้ต่างก็เข้ามาถามไถ่อาการเจ็บป่วยของเธออย่างไม่หยุดหย่อน หลังจากได้ยินว่าเธอเป็นลมเพราะขาดสารอาหาร ป้าใหญ่ก็ยังได้ตุ๋นไก่พื้นเมืองตัวหนึ่งเพื่อบํารุงร่างกายให้เธอโดยเฉพาะอีกด้วยจริงๆ แล้วจ้าวซีซีไม่ชอบดื่มซุปบํารุงเหล่านี้ แต่ตอนนี้เพื่อลูกในท้อง เธอก็ต้องดื่มบ้างเธอนั่งพักผ่อนบนโซฟา มองไปยังพี่สะใภ้ฉินอันจิ้ง แล้วพูดว่า "แล้วพี่ใหญ่ล่ะคะ?""พี่ใหญ่ของเธอออกไปจัดการเรื่องงานแล้วล่ะ ยังไงเสียที่เมืองเป่ยเฉิงก็มีกวางเจิ้ง พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ปอยู่เหมือนกัน ก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมเพื่อนเก่าด้วยน่ะ""ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ก็ดีค่ะ ครั้งก่อนการที่ฉันสามารถซื้อบ้านหลังนี้เอาไว้ได้ ก็เพราะได้เพื่อนของพี่ใหญ่มาช่วยเอาไว้นะคะ งั้นไว้วันหลังช่วยอีกฝ่ายมาทานข้าวด้วยกันสิคะ"ฉินอันจิ้งกระแอมไอออกมา "ไม่ต้องหรอก พี่ใหญ่ของเธอไปคืนน้ำใจแล้วล่ะ พวกเราไม่จําเป็นแล้ว"และจ้าวซีซีก็ไม่ได้ถามต่อแต่อย่างใดฉินอันจิ้งถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอจะหาคนมาแสดงที่ไหนได้พกตกตอนกลางคืน พี่ใหญ่หลินตงเย่ก็กลับมากินข้าวตรงเวลา เมื่อเห็นจ้าวซีซี เขาก็ขมวดคิ้วแล้ว
ในตอนบ่ายเธอได้ไปส่งการบ้านที่มหาลัย จากนั้นก็ออกไปเดินช้อปปิ้งกับเพื่อนสนิทกั๋วกั่ว พวกเธอไม่ได้ออกมารวมตัวกันตั้งนานแล้วสวีกั๋วกั่วมีความสุขมาก "ซีซี ได้ยินมาว่าบ้านเธอถูกเวนคืนใช่หรือเปล่า ต่อไปก็จะกลายเป็นเศรษฐินีแล้วนะ ดีใจแทนเธอจริงๆ!""ขอบใจนะ ฉันก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีการเวนคืน แต่เงินชดเชยนั้นไม่ได้เยอะขนาดนั้นหรอกนะ"ทั้งสองเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าด้วยกัน จ้าวซีซีได้รับโทรศัพท์จากรุ่นพี่ฉินเฟิงว่า "ซีซี เธออยู่ที่ไหน? คือฉันไม่เห็นเธออยู่ในออฟฟิศน่ะ""รุ่นพี่ ฉันออกมาเดินช้อปปิ้งกับเพื่อนสนิทข้างนอกน่ะค่ะ""แบบนี้นี่เอง งั้นตอนเย็นมากินข้าวด้วยกันไหม พาเพื่อนสนิทของเธอมาด้วย"จ้าวซีซีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "รุ่นพี่ ฉันต้องกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านน่ะค่ะ พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของฉันมาจากเมืองหนานเฉิงน่ะค่ะ"หลังจากพูดแบบนี้แล้ว ฉินเฟิงจึงไม่ได้พูดเรื่องกินข้าวอีกต่อไปหลังจากจ้าวซีวางโทรศัพท์แล้ว สวีกั๋วกั่วก็ซุบซิบว่า "รุ่นพี่ชวนเธอไปกินข้าว ทําไมเธอไม่ไปล่ะ วางใจได้ว่าฉันจะไม่ไปเป็นก้างขวางคออย่างแน่นอน""กั๋วกั่ว เธอก็รู้ว่าฉันเคยแต่งงานมาแล้ว รุ่นพี่คงไม่ยอมรับผู้หญิงที่ห
สุดสัปดาห์นี้ฮั่วหานฮุยและหลินซีทั้งสองจะหมั้นกันแล้วเหรอ?ถึงแม้ว่าจ้าวซีซีจะรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่ลึกๆแล้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้กับหูด้วยตัวเธอเองจากฮั่วซานซานก็ยังรู้สึกใจหายอยู่บ้างสวีกั๋วกั่วพูดอย่างไร้เยื่อใยขึ้นมาว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้นังสารเลวนั่นกับไอ้หมาตัวนั้นสมสู่กันตลอดไป อีกอย่างบ้านของซีซีเราจะได้รับการชดเชยจากการเวนคืนบ้านให้กับรัฐบาลภายในไม่ช้านี้ เราก็จะให้เธอแต่งงานกับผู้ชายที่ดีกว่าเมื่อไหร่ก็ย่อมได้"ฮั่วซานซานหัวเราะจนท้องแข็ง "ก็แค่การชดเชยจากการเวนคืนบ้านให้กับรัฐบาลสถานภาพมันจะดีขึ้นได้ยังไง"จ้าวซีซีดึงสวีกั๋วกั่วออกมาจากตรงนั้นเพื่อกันไม่ให้เกิดการปะทะคารมจนถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือกันกับเพื่อน อีกฝ่ายเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลฮั่วและพวกเธอจะผิดใจกับเธอไม่ได้เมื่อฮั่วซานซานมองไปที่แบคกราวด์ของจ้าวซีซี แล้วโทรหาจางเหวินเหวินทันที "ฮาโหล ได้ยินมาว่าบ้านของจ้าวซีซีกำลังจะได้รับการชดเชยจากการเวนคืนบ้านให้กับรัฐบาล เธอไปเช็คมาที่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่""ได้ค่ะ"จางเหวินเหวินวางสายโทรศัพท์ แต่ลึกๆแล้วก็รู้สึกไม่ยุติธรรมสำหรับเธอ จ้าวซีซีจะโชคดีอะไรกันขนาดนี้ คร
สาเหตุหลักคือเธอกังวลว่าจะมีอะไรอยู่ในชานมจึงเลือกที่จะไม่ดื่ม ตั้งแต่ตั้งครรภ์ รสชาติหลายอย่างก็เปลี่ยนไป“เธอไม่ชอบดื่มชานมเหรอ?ฉันจำได้ว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอชอบดื่มชานมยี่ห้อนี้นี่นา”เพื่อนร่วมงานข้างๆต่างก็เริ่มพากันกระเซ้าเย้าแหย่“ซีซี ดูสิคุณฉินจำได้ด้วยว่าเมื่อก่อนเธอชอบดื่มอะไร”“ซีซี เธอไม่คิดว่าคุณฉินของพวกเราทั้งยังหนุ่ม ยังหล่อ แถมยังเอาใจใส่คนรอบข้างบ้างเหรอ?”จ้าวซีซียิ้มอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เพื่อนร่วมงานยังคงต่างพากันกระเซ้าเย้าแหย่ ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีฉินเฟิงเห็นท่าทางจ้าวซีซีดูไม่สบายใจ จึงรีบส่งสายตาให้กับเพื่อนร่วมงานทันที“เอาละ พวกคุณยิ่งพูดยิ่งเยอะเกินไปแล้ว สำหรับซีซีฉันก็เอาใจใส่ปกติเหมือนกับเจ้านายเอาใจใส่ลูกน้อง ถึงอย่างไรซีซีก็เป็นหน้าเป็นตาของสตูดิโอเรา”จ้าวซีซีถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินรุ่นพี่พูดเช่นนั้น เพราะเมื่อครู่เธอไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับสถานการณ์อย่างไรหลังจากที่เพื่อนร่วมงานต่างก็แยกย้ายกันไป ฉินเฟิงก็กระซิบอย่างเสียงเบา“ซีซี คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ความกดดันมากนัก การชอบคุณมันเป็นปัญหาของผมเอง ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้
หลินซีก็ตั้งหน้าตั้งตารองานหมั้นในวันมะรืนนี้อย่างใจจดใจจ่อด้วยเช่นกันเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีแล้วโทรหาพี่ชายของเธอหลินตงเย่ หลังจากโทรติดแล้วเธอก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มทันทีว่า "พี่คะ ช่วงนี้ทำงานยุ่งมากไหม? หลังจากที่เซ้งบริษัทเล็กๆ มา พี่ยังต้องไปจัดการยุ่งนู่นนี่ด้วยตัวเองตั้งนาน?"หลินซีรู้ว่าพี่ชายของเธอหลินตงเย่มาที่เป่ยเฉิงในครั้งนี้ต้องออกมาติดตามดูแลการซื้อกิจการด้วยตนเอง ดูเหมือนว่าพี่ชายของเธอจะมีการเตรียมการไว้บางอย่างดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับมันมากหลินซีรู้สึกใจเสียเล็กน้อยที่จ้าวซีซีโชคดี พอดีพี่ชายของเธอเซ้งกิจการบริษัทนี้ ไม่เช่นนั้นจ้าวซีซีคงจะถูกลูกสาวของชายชรายัดเยียดข้อหาให้ในท้ายที่สุด มีเพียงจางเหวินเหวินท่านั้นที่เป็นแพะรับบาปหลินตงเย่พูดอย่างใจเย็น "นี่คือการจัดการระบบงานของกลุ่มเหรอ"แน่นอนว่าเขาไม่สามารถบอกหลินซีได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อเยี่ยมน้องสาวของเขาจ้าวซีซีด้วยตัวเอง และเขาได้จัดการบริษัทนี้ด้วยตัวเขาเองเพื่อเป็นการระบายความโกรธของซีซีหลินซีไม่ได้ถามมากความใดๆ เธอรีบพูดทันทีว่า "พี่ พี่ทำงานเสร็จแล้วใช่ไหมคะ? วันมะรืนนี้คือพิธีหมั้นของฉั