“เป็นอย่างไร มีหลักฐานอยู่ในมือแล้วหรือเปล่า?”หวังหยวนถามอ๋องหลงซีตามตรงอ๋องหลงซียกยิ้มแล้วพยักหน้า“ย่อมได้มาแล้ว ทันทีที่พวกเขาลงมือ ทุกอย่างล้วนอยู่ใต้การควบคุมของข้าทั้งหมดแล้ว!”“รวมถึง... บทสนทนาระหว่างเจ้ากับเจิ้งกุ้ยเหริน!”“ข้าก็รู้แล้ว!”อ๋องหลงซีหัวเราะหวังหยวนก็ยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าเพียงแค่ต้องการบีบบังคับนางเท่านั้น”“แต่ว่าเจิ้งกุ้ยเหรินผู้นี้ฉลาดมาก นึกไม่ถึงว่านางจะคิดได้มากมายเช่นนี้ พูดตามตรงคือข้ารู้สึกตกใจเล็กน้อย!”หวังหยวนกล่าวจบ อ๋องหลงซีก็กล่าวว่า“เป็นธรรมดา เจิ้งกุ้ยเหรินผู้นี้เคยตามเสด็จฮ่องเต้องค์ก่อนไปตรวจดูราชกิจเสมอ นางย่อมมีความสามารถเช่นนี้!”“แต่ว่า... กับดักที่ดักจับนางในตอนนี้ ไม่รู้ว่านางจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่!”อ๋องหลงซียกยิ้มแล้วจิบชา“ทางฝั่งอ๋องเจิ้นตงและอันกุ้ยเหรินมีการเคลื่อนไหวใดบ้างหรือไม่?”หวังหยวนถามขึ้นอ๋องหลงซีหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น“ย่อมมีการเคลื่อนไหวแล้ว!”“ข้าสืบหาความจริง ส่วนเขาต้องการสร้างเรื่องให้สมจริง ดังนั้น... เจ้าว่าตอนนี้เขาจะยุ่งอยู่กับอะไร?”หลังจากที่อ๋องหลงซีกล่าวจบ หวังหยวนก็ถอนหายใจอ๋อง
หวังหยวนยกยิ้มจาง แล้วมองไปที่อ๋องหลงซีพลางกล่าวว่า“ไม่ต้องกังวลหรอก จะไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว เพราะพวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องลงมือกับเมืองหวง!”“แม้ว่าไทเฮาเซียวฉู่ฉู่จะไม่อยู่ที่นี่ แต่กองทัพของท่านที่เมืองหวงก็ไม่ได้มีจำนวนลดลงแม้แต่น้อย พวกเขารู้ดี จึง... จะไม่กล้ามาล่วงเกินโดยง่าย!”“ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะอดทนไม่ไหวก็คงจะไม่กล้าเคลื่อนทัพเข้ามาในเขตแดนของเมืองหวงโดยง่ายหรอก!”เมื่อหวังหยวนกล่าวจบประโยคนี้ อ๋องหลงซีก็ชะงักไปเล็กน้อย แล้วอดไม่ได้ที่จะถามว่า“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?”หวังหยวนก็ไม่ได้ปิดบัง อธิบายว่า“ง่ายนิดเดียว เพราะดินแดนทั้งเก้าต่างหากคือสิ่งที่พวกเขาหมายปอง เหมือนกับการที่หมานอี๋ในเวลานี้ก่อความไม่สงบเล็กน้อย พวกท่านจะส่งกองทัพไปโดยง่ายหรือ?”เมื่อหวังหยวนกล่าวจบ อ๋องหลงซีก็พยักหน้า คำพูดนี้ก็ฟังดูมีเหตุผล เมืองหวงและหมานอี๋ต่างก็อยู่นอกดินแดนทั้งเก้าและเป็นดินแดนที่ไม่อุดมสมบูรณ์ พวกเขาคงจะไม่กล้ามาบุกรุกโดยง่ายแน่นอนว่ายังมีอีกกรณีหนึ่ง นั่นคือเมื่อต้าเย่รวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว พวกเขาต้องการจะรวมแผ่นดินนี้เข้าด้วยกัน พวกเขาจึงจะทำเช่นนั้น!และสถา
หลี่ซื่อหานมองไปที่หวงเจียวเจียว เมื่อได้ยินประโยคนี้ หวงเจียวเจียวย่อมรู้สึกตื้นตันใจนางอยากจะรีบไปหาหวังหยวนโดยทันที แต่เรื่องเช่นนี้ นางรู้สึกอับอายที่จะพูดออกมา“แต่... แต่สามีไม่ได้ให้ข้าไป...”หวงเจียวเจียวหน้าแดง อดไม่ได้ที่จะพูด“โอ้ น้องสาว ใจเจ้าคงจะบินไปถึงที่นั่นตั้งนานแล้วใช่หรือไม่? อย่าได้ปิดบังเลย!”หลี่ซื่อหานหัวเราะ ขณะที่หูเมิ่งอิ๋งก็พยักหน้า“ใช่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะให้พวกเราไปแทนหรือไม่ล่ะ?”หูเมิ่งอิ๋งพูดติดตลกขึ้นมา เมื่อหวงเจียวเจียวได้ยินดังนั้นจึงทำหน้ามุ่ยใส่พวกนางทั้งสอง!“ฮึ่ม! ข้าจะไปหาสามีที่เมืองหวงเดี๋ยวนี้ แล้วฟ้องเขาว่าพวกท่านทั้งสองรังแกข้า!”หลังจากที่หวงเจียวเจียวพูดจบก็รีบเข้าไปเก็บของหูเมิ่งอิ๋งได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะขึ้นมาทันที“หากเจ้าไปถึงที่นั่น สามีจะยิ่งรังแกเจ้ามากกว่าเดิม...”“บางทีครั้งต่อไปที่เจอหน้ากัน เจ้าอาจจะไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกแล้ว อาจจะมีสองคนในคนเดียวแล้วก็ได้...”คำพูดของหูเมิ่งอิ๋งทำให้หวงเจียวเจียวหน้าแดงก่ำ นางรู้ดีว่าหูเมิ่งอิ๋งหมายความว่าอย่างไร!แต่ในใจก็ยิ่งมีความคาดหวังมากขึ้น!เพราะท้ายที่สุดแล้วการได้อยู่สอ
หวังหยวนยกยิ้มจางก่อนจะพยักหน้า“แน่นอนว่าเป็นความจริง ไทเฮาประชวร ต้องไปรักษาครึ่งปี ดังนั้น... เพื่อไม่ให้เมืองหวงแห่งนี้วุ่นวาย ข้าจึงต้องมา”หวังหยวนไม่ได้ปิดบังเฉินอวิ๋นจื้อ เมื่อเฉินอวิ๋นจื้อได้ยินเช่นนั้นจึงรู้สึกประหลาดใจ“ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง ได้ยินข่าวลือมาบ้าง แต่ไม่คิดเลยขอรับว่าจะเป็นจริง”“คุณชาย ขณะนี้ท่านอยู่ที่นี่ยังไม่ปลอดภัยนัก จะให้เปิดองค์กรเครือข่ายผีเสื้อทั้งหมดหรือไม่ขอรับ?”เฉินอวิ๋นจื้อถามขึ้นตามตรง หวังหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็โบกมือ“ไม่เป็นอะไร ข้าปกป้องตนเองได้”“ยิ่งกว่านั้นคือแม้จะเปิดทั้งหมด และมีคนมากมายเพียงใด ที่นี่ก็คือเมืองหลวงของเมืองหวงอยู่ดี!”“ทหารองครักษ์เมืองหวงและองครักษ์เงาร่วมกันสอดส่องดูแลอยู่แล้ว พวกเราอย่าเพิ่งเปิดเผยตัวตนมากเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจถูกถอนรากถอนโคนได้!”หลังจากหวังหยวนกล่าวจบ เฉินอวิ๋นจื้อก็พยักหน้าทั้งสามพูดคุยกันสักครู่แล้วเฉินอวิ๋นจื้อก็จากไปเมื่อเขากลับถึงที่พักก็พบว่าหงหยิ่งกำลังทำอาหารอยู่!หงหยิ่งในเวลานี้มีใบหน้าเปื้อนยิ้ม เจตนาฆ่าฟันในสีหน้าท่าทางน้อยลงไปมากไม่เพียงเท่านั้น ในเวลานี้บนใบหน้าของนางยั
ในช่วงแรกเฉินอวิ๋นจื้อยังตั้งใจจะจับตาดูสองสามครั้ง แต่ก็พบว่าหลังจากที่หงหยิ่งออกไปแล้วก็ไม่เกิดอะไรขึ้นจึงขี้เกียจที่จะสนใจ!เพียงแต่ว่าครั้งนี้เขาไม่คิดว่าหงหยิ่งจะออกจากที่นี่ไปแต่ไม่ได้ไปซื้อของ นางกลับเดินเข้าไปในตรอกแห่งหนึ่ง ไม่นานก็เข้าไปในบ้านร้างหงหยิ่งเพิ่งจะเข้าไปก็เห็นชายหนุ่มในชุดแดงนั่งอยู่ที่นั่น“ท่านพี่!”เมื่อหงหยิ่งเห็นชายผู้นี้ก็รีบเรียกทันทีชายผู้นี้ไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเซิ่งตงฉยง!หงซา!“น้องสาว ไม่ได้เจอกันเสียนาน!”หงซากล่าว เมื่อได้ยินเช่นนั้นหงหยิ่งก็รีบกล่าวว่า“พี่ชาย ข้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว พวกท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? คุณชายใหญ่... สบายดีหรือไม่?”หงหยิ่งรู้ว่าเมืองหวงและตระกูลไป๋ร่วมมือกันจัดการกับตระกูลเซิ่ง ทำให้ตระกูลเซิ่งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพึ่งพาต้าเย่!สำหรับเรื่องนี้หงหยิ่งรู้สึกโกรธแค้นมาก เพียงแต่ว่าแม้จะโกรธแค้นก็ไร้ประโยชน์!หลังจากนั้น...นางคนเดียวก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้“ทุกอย่างเรียบร้อยดี น้องสาว พี่เป็นห่วงเจ้านัก”“เพียงแต่ว่าบัดนี้ตระกูลเซิ่งทำได้เพียงก้มหัวให้กับต้าเย่เท่านั้น ไม่ว่าจ
เจตนาของเซิ่งตงฉยงนั้นเรียบง่ายมาก เพียงแค่หวังว่าเมื่อหวังหยวนตายไปแล้ว โลกทั้งใบจะต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน!อย่างง่ายที่สุดก็คือเมืองหวงจะต้องสั่นคลอน!หากหวังหยวนตายที่นี่ แล้วโยนความผิดให้เมืองหวง เมืองหลิงจะต้องไม่ยอมอย่างแน่นอน!เมื่อถึงเวลานั้นย่อมต้องมีผู้ติดตามของหวังหยวนที่ต้องการจัดการกับเมืองหวง!นอกจากนี้หากหวังหยวนตาย เมืองหลิงก็จะต้องรับเคราะห์ไปด้วย!เพราะเมื่อหวังหยวนยังอยู่ อาจทำให้พวกเขาไม่กล้าลงมือ แต่หากไม่มีหวังหยวนแล้ว พวกเขาย่อมไม่ปล่อยเมืองหลิงไปอย่างง่ายดายแน่นอน!ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไป๋ ต้าเย่หรือแม้แต่พวกหมานอี๋!ล้วนเป็นเช่นนั้น!การมีอยู่ของหวังหยวนนั้นเปรียบเสมือนกำแพงอันแข็งแกร่งสำหรับทั้งโลก!การที่พวกเขาจะก้าวข้ามหวังหยวนไปได้นั้นยากเย็นยิ่งนัก!ดังนั้น...หวังหยวนต้องตาย!มีเพียงกรณีนี้เท่านั้น โลกทั้งใบถึงจะวุ่นวายอีกครั้ง!และตระกูลเซิ่งก็ย่อมมีหนทางที่จะจับปลาในน้ำขุ่น!“ข้าเข้าใจแล้ว!”หงหยิ่งพยักหน้าทันที หลังจากพูดจบ หงซาจึงกล่าวขึ้นว่า“แต่เรื่องนี้เจ้าต้องทำอย่างระมัดระวังที่สุด อย่าให้ใครรู้ว่าเป็นฝีมือเจ้า จะดีที่สุดถ้า... โยนควา
เมื่อถึงเวลานั้นก็จะฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย!“ข้า... ข้าจะไปบอกคุณชายเดี๋ยวนี้!”ตอนนี้เฉินอวิ๋นจื้อรีบพูด แล้วรีบเดินทางไปหาหวังหยวนอีกครั้งเขาเพิ่งจะกลับไปจากที่นี่ แต่ตอนนี้กลับมาอีกครั้ง ทำให้หวังหยวนและเกาเล่ออึ้งไปครู่หนึ่ง“เอ๊ะ? เฉินอวิ๋นจื้อ เจ้ากลับมาอีกแล้วหรือ?”เกาเล่อถามด้วยความแปลกใจ“คือ... คือว่า... ข้ามีเรื่องอยากปรึกษาคุณชายขอรับ!”เฉินอวิ๋นจื้อหายใจหอบ หลังจากพูดประโยคนี้จบก็ทำให้เกาเล่ออึ้งไป“มีเรื่องอะไรก็พูดมาเถิด”หวังหยวนไม่ได้สนใจ บอกให้เขาพูดมาตามตรง“เป็นเช่นนี้ขอรับคุณชาย ท่านมาพอดี ข้า... ข้าอยากแต่งงานกับหงหยิ่ง จึงอยากขอให้ท่าน... ช่วยมาเป็นพยานให้ด้วยขอรับ!”เฉินอวิ๋นจื้อตื่นเต้นมาก แต่เมื่อเกาเล่อได้ฟังเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วแล้วรีบพูดว่า “เฉินอวิ๋นจื้อ สถานะของเจ้าไม่เหมือนคนอื่น เกรงว่าจะจัดงานใหญ่โตไม่ได้กระมัง?”“อีกทั้ง... เจ้ากับหงหยิ่งอยู่ด้วยกันมานานแล้ว ในสายตาของทุกคน พวกเจ้าก็เป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว...”หลังจากที่เกาเล่อพูดจบ เฉินอวิ๋นจื้อก็พยักหน้า “ข้าเข้าใจ จะไม่จัดงานใหญ่โตหรอก เพียงแค่... ขอให้มีพยานสักคนขอรับ”ความคิดของเฉิน
หวงเจียวเจียวมาถึงเมืองหวงและเข้ามาในจวนอ๋องเป่ยหลิงของหวังหยวนอย่างรวดเร็วเมื่อนางเดินเข้ามา หวังหยวนถึงกับตะลึง!“เจียวเจียว!”หวังหยวนไม่คิดว่าหวงเจียวเจียวจะมา!“สามี!”หวงเจียวเจียวดีใจมากที่ได้พบหวังหยวน นางรีบวิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ามาได้อย่างไร? ไม่ได้บอกข้าล่วงหน้าเลยหรือ?”หวังหยวนกอดหวงเจียวเจียวแล้วถามอย่างสงสัย หวงเจียวเจียวได้ยินดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ซื่อหานและพี่เมิ่งอิ๋งเป็นห่วงท่าน แต่พวกนางไม่กล้ามาหา จึงให้ข้ามาแทน”หวงเจียวเจียวพูดด้วยรอยยิ้ม หวังหยวนฟังแล้วจึงยิ้มทันที เขารู้ว่าหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ เป็นห่วงเขา แต่ก็ไม่สามารถมาหาได้ เพราะต้องมีคนเฝ้าที่เมืองหลิงธุรกิจมากมายก็ต้องทำดังนั้น...หวงเจียวเจียวจึงเหมาะสมที่สุด เพราะนางเป็นคนเมืองหวงตั้งแต่แรก และตำแหน่งของนางที่นี่ก็สูงส่งมาก เป็นถึงธิดาของอ๋องหลงซี ซึ่งก็ถือว่าเป็นองค์หญิงเช่นกันหากมีนางอยู่ด้วยก็สามารถช่วยเหลือเขาได้หลายอย่างหวังหยวนยิ้มและไม่ได้เอ่ยคำใดอีก ยิ่งกว่านั้นคือเขาก็คิดถึงพวกนางเหมือนกัน หวงเจียวเจียวมาดูแลเขาได้ก็ถือว่าดีไม่น้อย“แต่เจ้ามาที่นี่เอง พวกนางทั้งสอ