ลู่หานถิงมาหยุดยืนที่หน้าประตูห้องน้ำ แล้วยกมือขึ้นเคาะประตู “ก๊อก ก๊อก”ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกเซี่ยซีหว่านยืนแอบอยู่หลังประตู บนใบหน้าของเธอไม่ได้สวมผ้าคลุมหน้าไว้ แต่บานประตูนั้นบังใบหน้าเรียวเล็กของเธอเอาไว้เลยมองเห็นไม่ชัด นัยน์ตาที่เป็นประกายสดใสของเธอมองออกมาที่เขาผ่านประตู จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกมา “คุณลู่ ลำบากคุณแย่เลยค่ะ เอามาให้ฉันสิคะ”ลู่หานถิงยื่นผ้าอนามัยพร้อมกับเสื้อผ้าสะอาดสำหรับเปลี่ยนส่งให้เธอเซี่ยซีหว่านยื่นมือออกไปรับ แต่เขาไม่ปล่อยมือทำอะไรของเขา?เซี่ยซีหว่านดึงมือกลับมาเล็กน้อยเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอเงยหน้ามองไปที่เขาลู่หานถิงมองไปที่ดวงตาสดใสมีชีวิตชีวาของเธอที่ตอนนี้ใกล้จะโมโหเขาแล้ว เขาเม้มริมฝีปากบางเบา ๆ จากนั้นจึงยอมปล่อยมือเซี่ยซีหว่านรับเสื้อผ้ามาแล้วรีบปิดประตูลงทันทีเธอคิดว่าตอนนี้หน้าตัวเองทั้งแดงและร้อนผ่าว ผู้ชายที่ชื่อลู่หานถิงคนนั้นจะหยอกเธอมากไปแล้ว!......ลู่หานถิงกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ จากนั้นประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นเซี่ยซีหว่านที่กำลังเดินออกมา เธอสวมชุดเดรสกระโปรงยาวสายเดี่ยวสีแดงเชอร์รี่ สาย
ภายในห้องเพรสซิเดนท์สวีทอีกห้องหนึ่ง ลู่หานถิงอาบน้ำชำระร่างกายด้วยน้ำเย็น เขาเดินออกมาขณะที่สวมชุดนอนผ้าไหมสีดำกู้เยี่ยจิ่นยื่นไวน์แดงแก้วหนึ่งส่งให้เขา “ว่ากันตามจริงแล้ว คืนนี้เซี่ยซีหว่านไม่สามารถร่วมเตียงกับนายได้ แล้วเธอใช้วิธีไหนทำให้อารมณ์ของนายจากเศร้ากลายมาเป็นอารมณ์ดีได้?”ลู่หานถิงค่อย ๆ จิบไวน์แดงอย่างช้า ๆ “ฉันอารมณ์ดีจนดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?”กู้เยี่ยจิ่นเอนตัวพิงไปบนเคาน์เตอร์บาร์ แล้วจิบไวน์แดงเข้าปากอย่างละเมียดละไม “ก็เพิ่งบอกคนอื่นเมื่อครู่เองว่านายอารมณ์ดีมาก”ลู่หานถิงเม้มริมฝีปากบางเข้าหากัน เขายอมรับว่าตอนนี้เขาอารมณ์ดีมาก เซี่ยซีหว่านหึงเขาจนวุ่นวายเรื่องสายโทรศัพท์นั่น เขาจะดีใจไม่ได้เหรอ?ขณะนั้นก็มีเสียง “กริ๊ง” จากกริ่งหน้าประตูดังขึ้นมีคนเคาะประตูเป็นเหยียนอี้นั่นเองเมื่อเธอได้รับโทรศัพท์ก็รีบตรงมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันเธอก็กำลังสังเกตสีหน้าของลู่หานถิงอย่างระมัดระวัง “ท่านประธานคะ ท่านเรียกดิฉันมามีเรื่องอะไรหรือคะ?”ลู่หานถิงที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาก็พูดขึ้น “เลขาเหยียน ตอนนั้นที่หัวหรงรับโทรศัพท์ของผม ทำไมคุณไม่บอกผมเรื่องนี้?”ตอนน
มีสาวสวยจากตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงหลายคนรายล้อมอยู่ข้างกายของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย คอยเอ่ยคำชื่นชมยินดีมากมายอย่างประจบ ใบหน้าเล็กสระสวยของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยมีความสุขและภูมิใจสะจนยิ้มแก้มปริขณะนั้นเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยก็มองไปเห็นเซี่ยซีหว่านพอดี เธอจึงรีบเดินออกไปด้านหน้า “ซีหว่าน เธอมาแล้วเหรอ? เมื่อครู่ฉันกังวลใจจะแย่เพราะนึกว่าเธอจะไม่มา และก็จะไม่ได้เป็นสักขีพยานในช่วงเวลาแห่งความสุขของฉันด้วยตาตัวเอง”จากนั้นสาวสวยจากตระกูลเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นก็เดินเข้ามา“เสี่ยวเตี๋ย เธอนี่จิตใจดีจังเลย เซี่ยซีหว่านเคยเป็นคุู่หมั้นของคุณชายซูมาก่อน เธอเชิญหล่อนมาแล้วไม่กลัวว่าหล่อนจะอิจฉาจนพังงานแต่งเหรอ?”“เซี่ยซีหว่านแต่งงานกับสามีป่วยสวนโหย่วหลานคนนั้นไปแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำให้หล่อนต้องทุกข์ทนแค่ไหน ไม่แน่นะวันใดวันหนึ่งอาจจะทำให้หล่อนกลายมาเป็นม่ายเพียงชั่วพริบตาเลยก็ได้ คนเรานี่ก็ต่างกรรมต่างวาระกันจริง ๆ คนต่างจากหวัดที่มาจากชนบทยังไงก็เทียบลูกสาวสุดที่รักของเศรษฐีไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้เสี่ยวเตี๋ยของพวกเรายังเป็นภรรยาของคุณชายซูอีกด้วย”“คุณชายซูสายตาเฉียบคมมากที่ทิ้งแม่บ้านนอกคนน
เรื่องตลกของเซี่ยซีหว่านนั้น ทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับเหมือนเพิ่งผ่านการเล่นรถไฟเหาะมา ใบหน้าหล่อเหลาของซูซีตอนนี้ดูกระอักกระอวนเหมือนคนมีทุกข์ยิ่งกว่าตอนแรก เขาเงยหน้ามองเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยด้วยความขอไปทีอย่างไม่เต็มใจ “เสี่ยวเตี๋ย แต่งงานกับผมนะ จากนี้ไปผมจะทำให้คุณมีความสุข”เมื่อเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยฟังคำกล่าวสาบานขอแต่งงานที่สั้นห้วนประโยคนั้น ในใจก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที แต่เธอไม่อยากทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีก จึงยื่นมือของเธอออกไป“พี่ซูซี ฉันจะแต่งงานกับพี่ค่ะ”ซูซีนำแหวนเพชรที่อยู่ในมือค่อย ๆ สวมไปที่นิ้วนางของเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทันใดนั้นก็มีเสียง “ติ๊ง” ดังขึ้น เป็นเสียงจากโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของซูซีที่มีข้อความสั้น ๆ ส่งเข้ามาซูซีขยับตัวหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างเชื่องช้า แล้วกดเปิดข้อความนั้นไม่กี่วินาทีต่อมา ร่างสูงโปร่งของเขาก็ตัวแข็งทื่อทันทีเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกำลังรอให้เขาสวมแหวนบนนิ้วนางให้เธอ ตอนนี้เธอเห็นเขาจ้องไปที่ข้อความสั้น ๆ นั้นตัวแข็งทื่อ เธอจึงเอ่ยถามออกไป“พี่ซูซี พี่เป็นอะไรไป ใครส่งข้อความนั้นมาหาพี่ ข้อความนั้นมีอะไรคะ?”ซูซีได้สติกลับมาแล้
เซี่ยซีหว่านเปิดประตูออก ด้านนอกมีคนอยู่ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกำหมัดแน่นและจ้องเขม็งมาที่เธอด้วยดวงตาแดงก่ำงานหมั้นวันนี้ถูกยกเลิกแล้ว เซี่ยเจิ้งกั๋วกับหลี่ยู่หลานจัดการปัญหาที่ตามมาและส่งแขกอยู่ที่ด้านล่าง เดิมทีเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยได้ก้าวขาเข้าไปในตระกูลซูแล้วข้างหนึ่งแต่แค่พริบตาเดียวกลับถูกดีดกลับออกมาที่เดิมจนกระทั่งกลายเป็นเรื่องซุบซิบของพวกขาเมาท์ปากตลาด เธอมีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะบีบคอเซี่ยซีหว่านให้ตาย“เซี่ยซีหว่าน จริง ๆ แล้วแกใช้วิธีการอะไรมาหลอกล่อพี่ซูซีกันแน่ ข้อความนั่นเป็นแกใช่ไหมที่ส่งมา แกส่งมาว่าอะไร?”เซี่ยซีหว่านยกมุมปากขึ้น “คำถามพวกนี้เธอไปถามกับพี่ซูซีของเธอเอาเองก็ได้”“เซี่ยซีหว่าน ตอนนี้แกคงจะมีความสุขอิ่มเอมใจมากเลยสินะ?”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยรู้สึกพ่ายแพ้อย่างราบคาบ เธอพยายามอย่างหนักที่จะกำจัดเซี่ยซีหว่าน แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็มักจะโดนเซี่ยซีหว่านเอาคืนทุกครั้งไป ความพ่ายแพ้นี้ทำให้เธอหลั่งน้ำตาแห่งความโกรธแค้นออกมาเซี่ยซีหว่านมองเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยแล้วพูดว่า “เป็นพวกเธอเองไม่ใช่เหรอที่เชิญฉันมางานหมั้น พวกเธอพอใจกับของขวัญงานหมั้นชิ้นนี้ไหมล่ะ? อย่า
เซี่ยซีหว่านหมุนตัวกลับแล้วรีบวิ่งขึ้นไปข้างบนแล้วเข้าไปในห้อง…ที่ห้องนอนเซี่ยซีหว่านนั่งอยู่ที่ขอบเตียง ในหัวเธอมีแต่ภาพที่ลู่หานและหัวหรงเดินเข้ามาจากสนามหญ้าเมื่อครู่นี้ ไม่รู้ว่าทั้งคู่กำลังพูดคุยอะไรกัน แต่แววตาปรากฏรอยยิ้มขึ้นจาง ๆสายลมเย็นพัดผ่านมาเบา ๆ จนทำให้กระโปรงของหัวหรงพันเข้ากับขากางเกงสแล็คของเขา ดูแล้วช่างสนิทสนมและอบอุ่นวันนี้เธอคาดไม่ถึงว่าเขาจะพาผู้หญิงคนอื่นกลับบ้านแล้วเธอนับเป็นตัวอะไรกันผู้หญิงคนนั้นคือคนรักของเขาใช่หรือเปล่า?นิ้วมือเรียวขาวของเซี่ยซีหว่านนั้นขยุ้มเข้ากับกระโปรงของตัวเตง ในใจทั้งโมโหทั้งเป็นทุกข์ ความรู้สึกนี้มันแทบจะทำให้เธอหายใจไม่ออกในตอนนั้นเองที่ประตูห้องถูกเปิดออก ลู่หานถิงเดินเข้ามาแล้วเขามาแล้ว!เซี่ยซีหว่านเงยหน้าขึ้นมองไปที่เขา “คุณชายลู่ คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”เมื่อสักครู่นี้ลู่หานถิงเห็นเธอที่สนามหญ้าแล้ว แต่ว่าเธอรีบร้อนวิ่งขึ้นมาด้านบนแล้วขังตัวเองไว้ภายในห้อง ลู่หานถิงอดที่จะยกริมฝีปากขึ้นมาไม่ได้ “วันนี้ผมพาแขกมาคนหนึ่ง เธอคือ หัวหรง ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเรา”ที่แท้ก็เป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพัน
ถ้าหากว่าในมือของเซี่ยซีหว่านยังมีลูกกวาดอยู่ก็ยังคงที่จะทุบลงไปบนหน้าหล่อเหลาอันแสนชั่วร้ายของลู่หานถิงอีกครั้งอย่างแน่นอน“แม่สาวใช้ตัวน้อย มานี่สิ” ในตอนนั้นเองที่ลู่หานถิงส่งสัญญาณออกคำสั่งเซี่ยซีหว่านลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาเขาลู่หานถิงเอื้อมมือกุมแขนเรียวขาวของเธอแล้วฉุดลงมา เซี่ยซีหว่านถลาตัวลงนั่งที่ต้นขาแข็งแรงของเขาโดยตรง“ทำอะไรของคุณเนี่ย?” เซ่ยซีหว่านอยากที่จะลุกขึ้น“โกรธแล้วเหรอ? เมื่อครู่ไม่ใช่คุณหรอกเหรอที่บอกว่าตัวเองเป็นสาวใช้ตัวน้อย”เขาพาผู้หญิงกลับมาที่บ้านด้วยขนาดนี้แล้ว ถ้าเธอไม่บอกว่าตัวเองเป็นสาวใช้แล้วจะให้เธอจัดการอย่างไร?เซี่ยซีหว่านมองไปยังชายหนุ่มด้วยสายตาที่เปล่งประกาย “ฉันบอกว่าฉันเป็นแม่บ้านผู้ซื่อสัตย์ แต่ไม่ใช่สาวใช้ที่มีหน้าที่ต้องเล่นกับคุณ!”ลู่หานถิงยกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดถากถางว่า “ไม่ได้สวมหูแมวเอาไว้นี่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นสาวใช้ที่ไร้เครื่องแบบ เกรงว่าคุณจะเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับบทบาทของแม่บ้านแล้วล่ะนะ”“...”เซี่ยซีหว่านไม่เคยคิดเลยว่าชายคนนี้จะคิดเรื่องแม่บ้านไปถึงขั้นนี้ ลักษณะของเขาดูเป็นคนแต่งตัวหรูหราเรียบร้อย เคร่งขรึมเ
ร่างกายของอันบอบบาวของเซี่ยซีหว่านไถลลงมาจนสุดท้ายก็ลงไปนั่งกองอยู่บนพรมผืนนุ่ม เธองอเข่าทั้งสองข้างแล้วใช้แขนโอบกอดตัวเองเอาไว้เธอเตือนตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าความสัมพันธ์ของเธอกับลู่หานถิงนั้นก็แค่คนที่ร่วมมือกันครั้งนี้ที่เธอกลับมาเพราะว่ามีเป้าหมาย แถมเธอยังทำได้ดีมาก งานหมั้นของซูซีกับเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพังลงแล้ว สิ่งต่อไปที่เธอต้องทำก็คือการรอคอยอยู่เงียบ ๆ รอพวกเขาตอบโต้กลับมาแล้วเปิดเผยจุดอ่อน เธอก็จะสามารถจัดการพวกเขาที่ไร้หนทางเอาชีวิตรอดได้แต่ว่าตอนนี้เซี่ยซีหว่านไม่สามารถรักษาสติเอาไว้ได้ ในสมองของเธอนั้นเต็มไปด้วยลู่หานถิงเวลาผ่านไปจากหนึ่งวินาทีเป็นหนึ่งนาที ด้านนอกไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรแล้ว เขากำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับหัวหรงอยู่ใช่หรือเปล่า?ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ทำไมเขาต้องยั่วโมโหเธอด้วย?ความโศกเศร้าในใจของเซี่ยซีหว่านพลันถูกแทนที่ด้วยความโกรธ ใช่แล้ว เธอใช้ชีวิตอยู่ดี ๆ ทำไมเขาต้องมากยั่วโมโหก่อกวนเธอด้วยจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้แล้วเซี่ยซีหว่านรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอึดอัดและคับอกคับใจเป็นอย่างมาก ลู่หานถิงนั่นแหละที่ยั่วโมโหเธอก่อน เสร็จแล้วเธอต้องซ่อนตั