แค่นี้เขาก็ร้ายกาจได้มากถึงขนาดนี้……!งั้นเรื่องที่เธอทำกับเหยียนฉู่ถ้าเกิดว่าเขารู้ตระกูลเหยียนจะมีจุดจบเหมือนกับตระกูลเฉินใช่ไหม?ส่วนเธอก็ไม่ต้องพูดแล้ว ทั้งบ้านและเงินก็คงจะไม่มีเหลือแล้ว!คิดได้แบบนี้ใบหน้าของกู้อิ๋นก็เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดก่อนหน้านี้เธอก็มีความกล้ามากพอที่จะออกมายอมรับ แต่ตอนนี้เห็นว่าเขาทำกับตระกูลเฉินได้ขนาดนี้กู้อิ๋นก็ไม่กล้าที่จะยอมรับอีกต่อไป!นี่มันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็จะต้องเก็บงำเรื่องนี้เอาไว้ต่อไปให้ได้น่ะสิ“พี่รอง ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้กับฉัน? เมื่อวานฉันโกรธที่พี่ทำแบบนั้นกับหลีเวยเยว่ถึงได้ทำแบบนั้นกับกู้อิ๋นแต่พี่ต้องการให้ฉันรับผลเรื่องนี้ด้วยการทำให้ตระกูลเฉินล้มละลายหรอคะ?”“ราคาของความผิดนี้มันมากเกินไปหรือเปล่า?” คำพูดนี้เฉินซิงหลีตะโกนออกมาน้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น เห็นได้ชัดเลยว่าเธอต้องการจะประจานความเย็นชาของเผยเซียว“ก่อนที่เธอจะทำอะไรก็ควรจะคิดถึงผลที่ตามมา เพราะว่าเธอไม่ใช่สิ่งที่พิเศษอะไร!” เผยเซียวว่าสิ่งพิเศษงั้นหรอ?ที่เขาพูดก็หมายถึงเธอและคนอื่นๆที่เขาทำแบบนี้ด้วยเป็นเหมือนกันอย่างนั้นสินะ?คนพิเศ
เมื่อเผยเซียวได้ยินในมือที่กำลังถือแก้วกาแฟอยู่นั้น ก็ได้หยุดชะงักลง!ขมวดคิ้วเพ่งมองไปที่กู้อิ๋น!กู้อิ๋นรู้สึกได้ถึงความเงียบของเขาจึงรีบเอ่ยขึ้นว่า “ฉัน ฉันไม่ใช่คนเสี้ยมยุยงให้แตกคอกันนะ”เธอเป็นคนตรงไปตรงมาก็เพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง!เผยเซียวผงกศีรษะ “อืม เธอไม่ใช่คนแบบนั้น”ถึงแม้ว่าไอคิวมีจำนวนจำกัด!แต่เรื่องยุแยงตะแคงรั่วนี้ เธอไม่มีทางคิดได้ลึกขนาดนั้นหรอกซึ่งตอนนี้ก็ได้แต่คิดถึงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองเท่านั้นจริงๆ “แล้วคุณเฉินล่ะ เธอทำอย่างนั้นจริงๆหรือคะ?” กู้อิ๋นถามอีกครั้งเรื่องนี้ต้องทำให้กระจ่างชัดเจนเดิมทีเรื่องในวันนี้เธอก็แค่เป็นคนที่จุดชนวนเท่านั้น แต่ท่าทีของเฉินซิงหลีเห็นได้ชัดเจนว่าเรื่องพวกนี้เธอได้คิดการไว้ทั้งหมดแล้ว “คุณก็ไปไหนกับผมอยู่ทุกวัน เธอไม่มีโอกาสหรอก” เผยเซียวพูด “งั้นฉันก็ไม่มีเวลางีบเลยเหรอ?” กู้อิ๋นบ่นพึมพำเรื่องแค่นี้เธอมีความกังวลใจขนาดนั้นจริงๆแม้ว่าตอนนี้จะพูดได้ว่ากู้อิ๋นกับเผยเซียวไปไหนมาไหนตัวติดกันจริงก็ตาม แต่เธอก็ไม่ใช่เป็นอยู่อย่างนี้ทุกวันสามารถพูดได้แค่ว่าอยู่กับเผยเซียวเป็นเวลาส่วนใหญ่ทั้งหมด!เผ
“อาเซียว!”เผยเซียวมองเห็นหลีเวยเยว่มาอีกแล้ว นัยน์ตาเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและด้วยเหตุนี้จึงเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นหลีเวยเยว่เดินเข้าแทรกข้างหน้า “ฉันมาไม่ถูกเวลาเหรอคะ?”ซึ่งในตอนนี้เองลู่ซือเหยี่ยนก็ตกอยู่ในสภาพอึดอัด เคอะเขินเช่นกันขณะที่เขาเห็นหลีเวยเยว่นั้น ก็ได้ชะงักไปอยู่สักพักหนึ่ง!เขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของกู้อิ๋นและเผยเซียวเลย เพราะมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป ซึ่งเขายังไม่ทันที่จะรับรู้เรื่องดังกล่าว!แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเผยเซียวกับหลีเวยเยว่นั้น เขารับรู้!เขา......ก็รู้จักหลีเวยเยว่ด้วย!ครั้นเมื่อรู้ว่าเผยเซียวชอบพอกับหลีเวยเยว่นั้น เขาก็แอบตกใจบ้างเล็กน้อย ซึ่งในตอนนั้นเขาได้ประเมินเผยเซียวไว้ นั่นก็คือ ไม่ว่าด้านอะไรก็เผยเซียวก็ดีไปหมดทุกอย่าง ยกเว้นแต่ด้านอารมณ์ทางสายตาของเขาที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลยซึ่งในขณะนี้ที่ได้เห็นหลีเวยเยว่มีท่าทางบุ่มบ่ามบุกเข้ามา ยิ่งทำให้ลู่ซือเหยี่ยนมั่นใจในความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับหลีเวยเยว่เผยเซียวขมวดคิ้ว “ออกไป!”พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเย็นชาแค่สองพยางค์ กู้อิ๋นยืนอึ้งอยู่ที่หน้าประตูซึ่งเธอเองก็คิด
หลีเวยเยว่ไม่กล้าที่จะกวนใจเผยเซียวอีกจึงได้แต่พยักหน้าแล้วออกไป!ในที่สุดเธอก็ไปจนได้ลูซือเหยี่ยนที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดได้แต่ขมวดคิ้วมองหน้าเผยเซียว เขาได้ขำพร้อมเอ่ยพูดมาว่า “นี่คงทำให้ประธานเผยรำคาญใจยิ่งกว่าอีกใช่ไหมครับ?”ถูกผู้หญิงอันเป็นที่รักกระทำโดยไม่รู้จักกาลเทศะเช่นนี้ หากประสบอยู่กับชายผู้ใดล้วนแต่ทำให้เกิดบันดาลโทสะทั้งสิ้นก็ผู้ชายไง หลายๆครั้งที่เขาคาดหวังกับผู้หญิงของตนเองว่าเชื่อฟังกันบ้างเผยเซียวชำเลืองมองลู่ซือเหยี่ยนอยู่ครู่หนึ่ง “ยังมีธุระอีกหรือ?” “ไม่ใช่ครับ ประธานเผยครับ ทำไมคุณจู่ๆเลือกที่จะร่วมมือกับถังเจวี๋ยล่ะครับ? ”หากจะเอ่ยในทางกลับกัน ลู่ซือเหยี่ยนก็ไม่รู้สาเหตุเพราะอะไรจึงได้แต่มองหน้าเผยเซียว!เมื่อวานยังคุยกันดีๆอยู่เลย แล้วทำไมจู่ๆหันไปคบกับถังเจวี๋ยฝั่งนั้นไปได้?ถังเจวี๋ยเป็นคนอย่างไรรึ?เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองเป่ยนี้ และก็เป็นศัตรูกับเขา......ลู่ซือเหยี่ยนความสัมพันธ์ของพวกเขาที่เป็นปฏิปักษ์กัน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นแค่วันสองวัน!ในแง่ความร่วมมือนั้น ตั้งแต่ไหนแต่ไรล้วนแต่ไม่ใครยอมใครกันอยู่แล้วตอนนี้เผยเซียวจู่ๆก็เลือกข้
ลู่ซือเหยี่ยนได้ฟังน้ำเสียงเย็นชาของกู้อิ๋นคล้ายกับของเผยเซียวก็รู้สึกร้อนรน “โอเคครับ ผู้ช่วยกู้!”ในขณะนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาเรียกขานให้ลำบากใจลู่ซือเหยี่ยนขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งเครียดมองที่กู้อิ๋น “ถ้าอย่างนั้นคุณก็บอกผมมาตรงๆเลยดีกว่า ว่าสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ที่ประธานเผยจู่ๆก็ไปเลือกฝั่งถังเจวี๋ยนั่น?”เอ่ยชื่อถังเจวี๋ยขึ้น ลู่ซือเหยี่ยนก็เก็บอารมณ์โมโหหงุดหงิดเอาไว้ เพียงแต่ยังไม่มีที่ระบายอารมณ์ออกมา “เพราะว่าคุณถังเรื่องน้อยค่ะ!” กู้อิ๋นพูดคำตอบนี้ น้ำเสียงตอบเหมือนกับเผยเซียวเลยลู่ซือเหยี่ยน “ผมไปทำอะไรหรือเปล่า?ไปทำความยุ่งยากอะไรให้กับพวกคุณรึ?”อะไรที่เรียกว่าเรื่องเยอะเรื่องน้อย?แต่เดี๋ยวก่อน ที่เมื่อคืนเผยเซียวโกรธจัดแล้วจากไปหรือว่าจะเป็นเพราะยัยเย่ซูนั่นไปทำอะไรไว้?นึกถึงช่วงนี้ซูเย่นับวันยิ่งไม่เชื่อฟัง นัยน์ตาของลู่ซือเหยี่ยนอดไม่ได้ที่จะปะทุด้วยไฟโทสะแต่ทว่าอยู่ต่อหน้ากู้อิ๋น เขากลับจำต้องเก็บงำเอาไว้!เห็นเธอไม่ตอบคำถามตัวเอง ลู่ซือเหยี่ยนหยิบแบล็คการ์ดจากในกระเป๋ายื่นให้กับมือกู้อิ๋น “ผู้ช่วยกู้โปรดแนะนำได้ไหมครับ?”กู้อิ๋นมองดูแบล็คการ์ดในมือ!ไม
คิดไม่ถึงว่าเผยเซียวจะให้เงินเดือนผู้ช่วยแบบนี้ตั้งหนึ่งแสนบาท?ถึงกับยอมทำแบบนี้เลยเชียวหรือ?แต่เมื่อนึกถึงกู้อิ๋นที่คอยติดตามเผยเซียวอยู่ตลอดเวลา เธอก็น่าจะมีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเขากัดฟันพูด “สองแสนห้า ย้ายมาทำงานที่บริษัทผม!” กู้อิ๋นมุมปากกระตุกไม่รู้เลยว่าลู่ซือเหยี่ยนในใจคิดกับเธออะไรอยู่ มีบางอย่างที่ไม่เข้าใจเหตุผลจึงมองหน้าลู่ซือเหยี่ยน แล้วนี่ยังอะไรอีกล่ะ?ถ้าหากเธอรู้ว่า ลู่ซือเหยี่ยนต้องการดึงตัวเธอไปทำงานด้วย เพียงเพราะโกรธกระฟัดกระเฟียดกับเผยเซียวนั้น ลู่ซือเหยี่ยนต้องโดนกาแฟสาดใส่หน้าอย่างแน่นอนลู่ซือเหยี่ยนเห็นกู้อิ๋นไม่พูดไม่จา จึงกัดฟันพูดอีกครั้ง “หากคิดว่าน้อยไป งั้นผมให้ห้าแสนก็ได้!”ในเมื่อเผยเซียวจับมือร่วมกับคู่ปรับของเขา ลู่ซือเยี่ยนก็จะดึงตัวผู้ช่วยที่เขาชอบมากที่สุดทำให้เขารู้สึกโกรธบ้างตอนนี้ลู่ซือเหยี่ยนโกรธจนปวดหัวไปแล้ว!กู้อิ๋นกลับไม่กล้าก่อกวนเขา “ต้องขอโทษด้วยนะคะประธานลู่ ตอนนี้ดิฉันไม่ได้คิดเรื่องย้ายที่ทำงานใหม่ค่ะ”ใบหน้าของลู่ซือเหยี่ยนคลี่รอยยิ้มออกมาทันที แต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงความชั่วร้ายในนั้นถึงแม้เขาจะแสดงท่าทีทำดีและให้โอกาสก
ให้ขอโทษกู้อิ๋นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอลำบากใจไม่น้อย ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นทำไมจึงเก็บความโกรธไว้ในใจทำท่าขบเคี้ยวเขี้ยวฟันขนาดนั้นกล่าวคำพูดแสนจะจริงใจขนาดไหนออกมา ประธานกรรมการเฉินได้ฟังยิ่งทำให้โกรธไปกันใหญ่ “เธอขอโทษไปแล้ว แล้วทำไมเรื่องยังกลับเป็นอย่างนี้?”“หนูจะไปรู้ได้ไงคะ?”ตอนนี้เฉินซิงหลีคิดอยากจะร้องไห้หากรู้ตั้งแต่แรกเธอก็จะไม่ยุยงหลีเวยเยว่ให้มาเมืองเป่ยด้วยกันหรอก คิดไม่ถึงเลยว่าจะก่อเรื่องจนนำภัยอันร้ายแรงมาสู่บริษัทของตระกูลได้ขนาดนี้เธอไม่ชอบความใสซื่อของกู้อิ๋น ทั้งๆที่มาจากบ้านนอก นึกไม่ถึงว่าอยากจะไต่เต้ามาอยู่ที่สูงประธานกรรมการเฉินเมื่อได้ฟังน้ำเสียงเฉินซิงหลี “เรื่องนี้ถ้ายังจัดการไม่สำเร็จ แกไม่ต้องกลับบ้านก็แล้วกัน!”เขาตัดบัตรทุกอย่างของเธอ แล้วตอนนี้ยังจะสั่งไม่ให้เธอกลับมาบ้านอีกหรือ?“คุณพ่อ คุณพ่อจะทำขนาดนี้กับหนูได้ยังไงคะ? ”“ฉันทำขนาดนี้กับแกงั้นรึ?แกไม่ลองดูตัวเองบ้างว่าแกไปก่อเรื่องโง่ๆอะไรเอาไว้!”ประธานกรรมการเฉินโกรธเป็นอย่างมากเผยเซียวได้สร้างความกดดันแก่บริษัทครั้งแล้วครั้งเล่าในตอนนี้ แม้แต่กองทุนเงินหมุนเวียนก็ล้วนแต่ประ
เฉินซิงหลีก็คิดดั่งที่หลีเวยเยว่คิดในใจนั้นเช่นกัน สีหน้าของเธอนั้นถึงกับซีดเผือกเล็กน้อย!เฉินซิงหลีพยักหน้าด้วยความอึ้ง “พี่พูดถูกค่ะ สามารถอธิบายได้แค่ว่าอาจเป็นเพราะตัวกู้อิ๋นเองที่สำคัญมากสำหรับพี่รอง!”แต่ความสำคัญแบบนี้ ถึงขนาดที่ว่าอยู่เหนือตำแหน่งหลีเวยเยว่ที่ที่อยู่ในใจของเผยเซียวคิดถึงจุดจุดนี้ เฉินซิงหลีก็ฉายแววตาอันชั่วร้ายออกมาหากเป็นเช่นนั้นล่ะก็ อย่างนั้นเธอ....ก็ยิ่งอดทนต่อกู้อิ๋นไม่ไหวแล้วแววตาของหลีเวยเยว่ก็ฉายรังสีอำมหิตเช่นกัน!เป็นไปได้อย่างไรกัน? จะมีใครกัน?ที่สำคัญมากกว่าตัวเองที่อยู่ในใจของเผยเซียว?ฉันคือหลีเวยเยว่ ไม่มีทางยอมโดยเด็ดขาด! “พี่คะ เรื่องแบบนี้พี่รองคงไม่ได้เลือกมั่วๆเพื่ออยู่กับกู้อิ๋นไปตลอดชีวิตหรอกนะ?แล้วอย่างนี้พี่จะทำอย่างไรดีคะ?”พวกเขาไม่รู้หรอกว่า ตกลงมันเป็นเพราะอะไรกันแน่ที่กู้อิ๋นเป็นคนที่สำคัญมากสำหรับเผยเซียวแต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้ของหลีเวยเยว่ ก็เพราะเผยเซียวโดยเฉพาะ......เธอไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาหรือด้วยเหตุผลอื่นใดมาเกาะแกะเผยเซียวหรอกพยักหน้า “ฉันเข้าใจ!”หลีเวยเยว่ก็รู้ๆอยู่และทันใดนั้นคิดขึ้นได้เกี่ยวกับเรื่อ