ในดวงตาของหลินฝานเต็มไปด้วยความเกลียดชังจากนั้นก็ยิงปืนส่งเธอไปตายหวงเสี่ยวม่านถลึงตาโตและหงายหลังล้มไปโดยแทบไม่อยากจะเชื่อก่อนที่จะตายดวงตาคู่หนึ่งก็ไม่ได้ปิดตาลงอาจเป็นเพราะเธอไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่า ตัวเองจะมาตายในเงื้อมมือของคนที่ประจบสอพลอเธอ“โครม”ในตอนนี้ ผู้ชายที่สวมชุดสูทกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามาคนเหล่านี้ก็คือลูกน้องของเหยนซู่ได้ยินว่าคุณชายบาดเจ็บ พวกเขาเข้ามาปกป้องเอาไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าคนของตัวเองมาแล้ว เหยนซู่ไม่สนความเจ็บปวดบนร่างกายและชี้ไปทางหลินฝานแล้วตะโกนขึ้น: “จัดการมันซะ ฉันต้องการจับเป็น”หลินฝานเห็นสถานการณ์ไม่ดี เขาถอยขึ้นไปที่ชั้นบนทันทีพวกบอดี้การ์ดได้รับคำสั่งจากเหยนซู่ก็กรูกันไปทางหลินฝานทันทีหลินฝานถอยไปด้วยสู้กลับไปด้วย ถึงแม้ร่างกายบาดเจ็บหนัก แต่ฝีมือการยิงก็ยังคงเก่งกาจเรียกได้ว่ายิงแม่นทุกนัดเขายิงออกไปหนึ่งนัดก็มีคนล้มลงทันทีเพียงแต่บอดี้การ์ดกลุ่มนี้เป็นมืออาชีพอย่างมาก เห็นในมือของหลินฝานมีปืน พวกเขาก็แยกออกจากกันทันทีและอยากจะล้อมเขาเอาไว้หลินฝานเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขา ก็รู้ว่าในปืนของเขามีกระสุนไม่เยอะแล้วทำได้แค่ถอ
“สหายน้อย ตรงนี้ไม่มีธุระของนาย นายปล่อยคนก่อนเถอะ” หัวหน้าบอดี้การ์ดมองดูเหยนซู่ที่ใกล้จะไม่รอดแล้ว จึงรีบพูดขึ้นหลินเฟิงยิ้มเยาะแล้วพูดว่า: “ฉันจับเขาเอาไว้ แล้วจะปล่อยไอ้หมอนี่ไปได้อย่างไร?”“ถ้าจะปล่อย ก็ควรเป็นพวกนายที่ปล่อยคน”หัวหน้าบอดี้การ์ดเหลือบมองหลินฝานที่อยู่ข้างหลัง วุ่นวายอยู่นานสองคนนี้เป็นพวกเดียวกันเหรอเขาจ้องมองหลินเฟิงในทันที รู้สึกว่าไอ้หมอนี่บนตัวน่าจะไม่มีปืนซ่อนอยู่ถึงไ้ด้วางใจขึ้นมาก: “ไอ้หนุ่ม ฉันหวังว่านายจะคิดให้รอบคอบ ตอนนี้นายกำลังสู้อยู่กับตระกูลเหยน”“เกรงว่านายคงยังไม่รู้ถึงความเป็นมาอะไรของตระกูลเหยนสินะ?”หลินเฟิงโบกมือด้วยความหงุดหงิด: “นายไม่จำเป็นต้องแนะนำให้กับฉัน ฉันรู้ดีเป็นอย่างมาก”“ก็แค่สำนักอวี้เจี้ยนของเมืองเจียงโจวไม่ใช่เหรอ? มีอะไรดีนัก? ผู้นำของพวกนายเห็นฉันก็ยังต้องเกรงใจฉันเลย”หัวหน้าบอดี้การ์ดมุมปากกระตุกเล็กน้อย: “ไอ้หนุ่ม…”ท่านผู้นำเจอเขาแล้วยังต้องเกรงใจอีก เขาเห็นตัวเองเป็นบุคคลสำคัญหรือไง?หลินเฟิงเขย่าเหยนซู่ที่อยู่ในมือแล้วพูดขึ้น: “ฉันว่าพวกนายรีบปล่อยคนเถอะ ไม่อย่างนั้นไอ้หมอนี่คงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว”
มองดูเหยนซู่ที่อยู่บนพื้น ถ้าหากไม่ได้ทำร้ายเหยนซู่ เขาก็สามารถใช้เส้นสาย และพยายามรักษาหลินฝานเอาไว้แต่ตอนนี้เหยนซู่ถูกยิงจนเป็นหมัน เกรงว่าสำนักอวี้เจี้ยนไม่มีทางที่จะยอมปล่อยไปแน่“ทำไม? คุณทำไม่ได้เหรอ?” หลินฝานมองดูเขาแล้วถามขึ้นหลินเฟิงพูดอย่างเรียบเฉย: “ผมรับปากคุณ”ในตอนนี้ โทรศัพท์ของจ้าวเทียนหวาโทรเข้ามา“ฮัลโหล คุณชายหลิน? ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ?”หลินเฟิงพูด: “ผมอยู่ที่อาคารสือซินอสังหาริมทรัพย์ ทำไมเหรอ?”จ้าวเทียนหวารีบพูดขึ้น: “คุณชายหลิน ผู้จัดการสำนักอวี้เจี้ยนประกาศคำสั่งของสำนัก ให้ลูกศิษย์ทุกคนรีบเร่งไปที่สือซินอสังหาริมทรัพย์ คุณรู้ไหมว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลินเฟิงเกาศีรษะแล้วพูดขึ้น: “หลินฝานยิงเหยนซู่จนเป็นหมันด้วยกระสุนนัดเดียว ตอนนี้เหยนซู่ยังอยู่ในมือของผม”จ้าวหัวเทียนได้ยินแบบนี้ก็สูดหายใจเข้าแรง ๆ ทันที แม้แต่พูดจาก็เปลี่ยนไปติด ๆ ขัด ๆ ทันที: “งั้น...ตอนนี้คุณวางแผนจะทำอย่างไรครับ?”“ต้องการจะเปิดศึกกับสำนักอวี้เจี้ยนอย่างถึงที่สุดเลยไหมครับ?”“ถ้าหากสำนักอวี้เจี้ยนอยากจะเปิดศึก งั้นก็เปิดศึก”หลินเฟิงไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว อย่างไรก็บาดหมางกั
เขาส่งเสียงไม่พอใจในลำคอแล้วพูดขึ้น: “ไอ้หนุ่ม นายฝันกลางวันอะไรน่ะ”“วันนี้หลินฝานจะต้องตาย คุณชายเหยนก็จะต้องรอด”หลินเฟิงก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้สักนิด: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็ไม่ต้อง“นายไสหัวไปได้แล้ว”โจวฉวนขมวดคิ้วและพูดเสียงเย็นชา: “ไอ้หนุ่ม ฉันไม่ได้มาเจรจากับนาย ให้หลินฝานออกมาพบฉัน”ในตอนนี้หลินฝานก็เดินโซเซออกมาจากห้องทำงาน“ผมก็คือหลินฝาน คุณจะคุยอะไรกับผม?”โจวฉวนพูดเสียงเย็นชา: “ไอ้หนุ่ม ปล่อยคุณชายเหยนซู่ไป และนายก็จัดการตัวเองซะ พวกเราสำนักอวี้เจี้ยนก็จะไม่ติดใจเอาความเรื่องนี้”“ไม่อย่างนั้น แม่ของนายกับน้องสาวคนนั้นของนายทำได้แค่ตายไปพร้อมกับนาย”หลินฝานกำมือแน่น เขารู้ว่าคนผู้นี้ไม่ได้กำลังข่มขู่เขาสำนักอวี้เจี้ยนมีความสามารถนี้โจวฉวนเห็นเขาลังเลใจ จึงล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีไม่นานนักโทรศัพท์ก็เชื่อมสาย“ไอ้หนุ่ม คุยกับแม่ของนายหน่อยสิ”โจวฉวนพูดจบ ก็โยนโทรศัพท์มือถือไปให้หลินฝานโดยตรงในใจหลินฝานตกตะลึง หรือว่าแม่ของเขาก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว?“แม่? แม่เป็นอย่างไรบ้าง?”จ้าวเฉียวอวิ๋นที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์กลืนน้ำลายแล้วพูดขึ้น: “ลูกชาย ลูก
แต่ในช่วงที่มือของเขาสัมผัสโดนเหยนซู่ เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติพลังโจมตีที่รุนแรงอย่างหนึ่งกระแทกแขนของเขาจนหักไปในทันที“ปึง”“อ๊าก...”โจวฉวนรับร่างกายของเหยนซู่เอาไว้ไม่ได้และคนทั้งคนก็ถูกกระแทกจนกระเด็นออกไปทันทีกระดูกซี่โครงร่างกายของเหยนซู่หักจนหมด และอวัยวะภายในก็ฉีกขาด“คุณชายเหยน คุณชายเหยนคุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” โจวฉวนไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวดของร่างกายเขารีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน และรีบวิ่งไปข้าง ๆ เหยนซู่ จากนั้นก็ตกตะลึงจนหน้าถอดสีสีหน้าของเหยนซู่ในตอนนี้เป็นสีม่วง ดวงตาล่องลอย ไม่มีลมหายใจแล้ว“แม่งเอ๊ย กล้าฆ่าคุณชายเหยน?” โจวฉวนงุนงงไปหมดตัวเองมาเพื่อช่วยเหยนซู่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟิงจะบ้าบิ่นขนาดนี้กล้าฆ่าคุณชายเหยนต่อหน้าเขา“ฉันไม่เพียงกล้าฆ่าเขา ฉันยังกล้าฆ่านายอีกด้วย” หลินเฟิงโมโหอย่างมากคนทั้งคนกระโดดลงมาจากชั้นสองทันที จากนั้นก็ถีบไปทางโจวฉวนโจวฉวนไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย เขาสกัดกั้นเอาไว้เต็มที่“ตู้ม”ฝ่าเท้านี้หลินเฟิงถีบเขาไปกระเด็นไปไกลสิบกว่าเมตรโจวฉวนตัวกระแทกเข้ากับกำแพง จนแหลกละเอียด และเกิดเป็นฝุ่นควันขึ้นมาในทันที“แค่กแ
มองดูลูกศิษย์สำนักอวี้เจี้ยนที่ร้องโอดครวญอยู่เต็มพื้น โจวฉวนกลืนน้ำ และขาสั่นอย่างอดไม่ได้ความสามารถแบบนี้ เกรงว่ามีแค่ท่านผู้นำมาด้วยตัวเองถึงจะสู้กับเข้าได้ล่ะมั้ง?หลินเฟิงเดินมาทางเขาช้า ๆโจวฉวนรีบพูดขึ้น: หลินเฟิง ผมแค่มาเจรจา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสำนักอวี้เจี้ยนมากนัก…คุณอย่า…”เขายังพูดไม่ทันจบ หลินเฟิงก็ถีบไปที่ใบหน้าของเขาโจวฉวนหมดสติตายไปในทันทีในตอนนี้หลินเฟิงล้วงโทรศัพท์ออกมาและโทรไปหาจ้าวเทียนหวา“ฮัลโหล คุณชายหลิน?”จ้าวเทียนหวาที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์กำลังรอสายของหลินเฟิงอยู่พอดีเขารับสายทันทีโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยหลินเฟิงพูดออกคำสั่งทันที: พาคนไปที่บ้านของหลินเสวี่ยฮุ่ยเดี๋ยวนี้ คนของสำนักอวี้เจี้ยนจับพวกเธอเอาไว้แล้ว”“อะไรนะครับ?”จ้าวเทียนหวาตกตะลึงอย่างมาก และพยักหน้าติดต่อกัน: “คุณชายหลินวางใจได้ครับ ผมจะพาคนไปเดี๋ยวนี้”เมื่อวางสายไป หลินเฟิงก็หันหน้ามองไปทางหลินฝาน: “คุณจะไปด้วยกันกับผมไหม?”หลินฝานเดินโซเซมาตรงหน้าเขา: “ผมไปกับคุณ”แม่และน้องสาวของเขาถูกคนจับตัวไว้ เขาจะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร จึงต้องไปกับหลินเฟิงอยู่แล้วหลินเฟิงพยักหน้
เหยนก่วงได้ยินแบบนี้ก็เหลือบมองแม่ลูกจ้าวเฉียวอวิ๋น เวลานี้ สถานที่นี่หรือว่ามาเพื่อตระกูลหลินเหรอ?เขาคิดไปคิดมาก็ตัดสินใจที่จะพบหน้าสักหน่อยไม่นานนัก จ้าวเทียนหวาก็เดินเข้ามาเขาประสานมือแสดงความเคารพจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น: “ผู้จัดการเหยนได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้วครับ”เหยนก่วงกลับไม่ได้ลุกขึ้นยืนด้วยซ้ำ ในเมื่ออีกฝ่ายก็เป็นแค่พ่อค้า ต่อให้มีความสามารถแค่ไหนแล้วจะทำไมกัน?“เถ้าแก่จ้าวจู่ ๆ มาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”จ้าวเทียนหวายิ้มพูด: “ตัวผม รับคำสั่งจากคุณชายของผมให้เดินทางมาเพื่อปกป้องคุณหลินเสวี่ยฮุ่ยกับคุณนายจ้าวครับ”“หึหึ...”เหยนก่วงพูดด้วยความเหยียดหยาม: “หึหึ ตอนนี้พวกเธอสองคนคือตัวประกัน ต้องให้คุณปกป้องด้วยเหรอ?”“ผู้จัดการเหยน ผมเตือนคุณว่าอย่ามั่นใจตัวเองมากเกินไป คุณกล้ามุ่งเป้าไปที่คุณหนูหลิน คุณชายของผมโมโหเป็นอย่างมาก”จ้าวเทียนหวาพูดอย่างมีระเบียบแบบแผน: “ผมหวังว่าคุณจะปล่อยคนไปเดี๋ยวนี้ ถึงเวลาผมจะช่วยผู้จัดการเหยนขอความเมตตา ไม่ถึงกับทำให้ความสัมพันธ์บาดหมางกัน”ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าหลินเฟิงได้จัดการเหยนซู่เรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงลงมือไป
หลินเฟิงที่กำลังอยู่ในขีดโมโห ไม่มีความสงสาร และไม่มีความลังเลแม้แต่นิดเขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ปล่อยหมัดออกไปเหยนก่วงตกตะลึงจนหน้าถอดสี เขาไม่สามารถจับเงาของหลินเฟิงได้ด้วยซ้ำอีกฝ่ายก็มาถึงตรงหน้าของเขาแล้วยังไม่รอให้เขาตั้งตัวได้ ก็รู้สึกเจ็บปวดที่แขนขึ้นมาเหมือนกับถูกค้อนเหล็กที่แข็งแกร่งทุบเข้าให้ด้วยความรุนแรงกระบี่กายสิทธิ์ในมือก็หลุดออกจากมือทันทีหลินเฟิงกลับไม่มีความคิดที่จะยั้งมือจากนั้นก็ปล่อยหมัดออกไปอีก หมัดกระแทกไปที่หน้าผากของเขาเหยนก่วงไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีของหลินเฟิงได้ด้วยซ้ำ คนทั้งคนกลิ้งไปบนพื้นหลายรอบถึงจะหยุดร่างกายลงได้“แม่ง ปล่อยคนซะ” หลินเฟิงจับคอของเขาเอาไว้แล้วพูดข่มขู่ลูกศิษย์ของสำนักอวี้เจี้ยนก็ตกตะลึงยิ่งกว่า“นี่...คิดไม่ถึงว่าผู้จัดการเหยนจะรับการโจมตีไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว?”ลูกศิษย์คนอื่น ๆ เห็นเหยนก่วงพ่ายแพ้การต่อสู้ พวกเขากลุ่มนี้ก็ไม่มีความช่วยเหลือจากภายนอกสู้ตายกับหลินเฟิงเกรงว่าไม่มีจุดจบที่ดีอะไร ในตอนที่พวกเขาเตรียมจะปล่อยคนเหยนก่วงก็ตะโกนด้วยสีหน้าดุดัน: “ห้ามปล่อย ฆ่าพวกเธอซะ”ลูกชายของเขาตายไปแล