ฟังคำพูดของหลิวหลงถิงอาจหมายถึงเรื่องที่แม่หมออิงได้เกินเลยงานที่อยู่ในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบแล้ว และยังมายืมมือฉันอีก ดังนั้นฉันจะถามหลิวหลงถิงไปอีกครั้งว่า ถ้างั้นครั้งนี้เราจะช่วยเธอได้ไหม?“ในเมื่อนางขอร้องให้เจ้ามาช่วยแล้ว ข้อตกลงทั้งสองนี้จะถูกบันทึกไว้ในชื่อของเธอ ก็ถือว่าเป็นของขวัญตอบแทนเธอสำหรับบุพเพสันนิวาสของพวกเราสองคน”ฉันไม่ได้คาดคิดว่าวันนี้หลิวหลงจะพูดได้ดีขนาดนี้ แต่ก็เพราะเขาพูดได้ดี อารมณ์ขุ่นมัวของฉันจึงลดลงไปมากโข หลังจากที่เราพูดธุระเสร็จ ฉันกลับไม่รู้ว่าจะหาหัวข้อสนทนา
เมื่อเริ่มจะเข้าใจเรื่องราวคร่าว ๆ แล้ว หลังจากที่ฉันวางสายไปก็ได้สอบถามหลิวหลงถิงว่าพวกเราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะท้ายที่สุดแล้วงูก็เป็นสัตว์ประเภทเดียวกันกับหลิวหลงถิงหลังจากที่หลิวหลงถิงฟังคำพูดของหม่าเจี้ยนกั๋วจบ สีหน้าของเขากลับไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บอกฉันว่าจะไปจัดการกับพวกนั้น และไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรไปเลย เราสามารถเดินทางไปที่นั่นได้ทันทีที่พร้อมบ้านของหม่าเจี้ยนกั๋วห่างจากบ้านฉันมาก บ้านของเขาอยู่ที่เถียหลิง ฉันยังไม่ได้มีรถส่วนตัวจึงทำได้แค่จองตั๋วรถไฟเท่านั้น มันใช้เวลาห้าถ
น้ำเสียงนั่นเย็นยะเยือก ฟังดูแล้วเหมือนออกมาจากจิตใจที่โดนกรีดแทงราวกับชอล์ที่ถูกระจกดังเอี๊ยดอ๊าด โชคดีที่ฉันสวมเสื้อผ้าหลายชั้น เด็กน้อยจึงกัดไม่เข้าเนื้อ นอกจากนี้หลิวหลงถิงยังยื่นมืออกมาอย่างรวดเร็ว พลันคว้าหัวเด็กไว้แล้วใช้แรงดันออกไปอย่างแรง จนเด็กหญิงล้มลงบนโซฟาและทรุดตัวลงนั่งร้องไห้เสียงดังหม่าเจี้ยนกั๋วงึมงำแล้วคุกเข่าลงบนพื้น “เธอถูกงูสองตัวนั้นสิงร่างอีกแล้ว แม่หมอ ได้โปรด คุณต้องช่วยลูกสาวของผมนะ!”หม่าเจี้ยนกั๋วเริ่มร้องไห้ ทีแรกฉันต้องการบอกหม่าเจี้ยนกั๋วว่าฉันมีวิธีดี ๆ ที่สาม
ร่างน้อยชะงักไปครู่หนึ่ง ท่าทางเช่นนี้ช่างน่าอายจริง ๆ ขณะเดียวกันก็ผลักหลิวหลงถิงออก แล้วถามเขาว่า “อะไร ได้กลิ่นอะไร? นายรีบปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ”“กลิ่นอะไร? ก็กลิ่นคาวของงูไง? หรือเธอรังเกียจที่ฉันมีกลิ่นคาวงูกันแน่?” เมื่อหลิวหลงถิงพูดอย่างนั้นแล้ว ฉันก็พยายามผลักเขาออก ทว่าเขาดันเอื้อมมือมาจับที่ขาของฉันและยกขึ้นอย่างรวดเร็วน้ำจากฝักบัวที่โปรยลงราวกับฝนตกหนักบนศรีษะของฉันกับหลิวหลงถิง ทำให้ผ้าขนหนูของฉันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำร้อนที่จริงก็อยากจะโกรธตานั่นอยู่หรอก ทำแบบนี้มันหมายความว่าอ
โดยปกติแล้วเจ้าที่เจ้าทางกับเทพที่ลงมาจุติจะมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน เจ้าที่เจ้าทางไม่ได้ถูกเลือกให้ออกรบ เพียงแค่ปกปักรักษาคนในบ้านให้ปลอดภัย เปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์ที่คนเถ้าคนแก่นับถือ“แล้วหลังจากนั้นล่ะค่ะ? ในเมื่อบ้านของคุณมีเจ้าที่เจ้าทางดูแลอยู่ บ้านคุณก็น่าจะปลอดภัยดี แล้วทำไมถึงยังมาหาฉันล่ะ?” ฉันเอ่ยปากถามหม่าเจี้ยนกั๋ว“ในตอนนั้นผมกำลังตามหาแม่หมออิงกู วิชาของเธอแกร่งกล้ามาก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเพียงไม่กี่คนที่เหนือกว่าเธอ แต่ผมคิดไม่ถึงว่าเธอจะส่งคุณมา ส่วนทำไมถึงไม่ขอให้แม่หมอท
ทันทีที่เสียงหายไป เงาขาวคลุมเครือก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉัน เงาร่างนั่นใช้มือง้างปากหญิงสาวที่เขมือบหัวฉันไปเกือบครึ่งหัวแล้วบอกให้ฉันหลบไปฉันไม่แทบรู้จะร้องเรียกใครเพื่อช่วยเหลือกันในยามขับขันได้เช่นนี้ แต่เมื่อฉันหันไปพบหน้าเขา คนที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นซานเซินเทพเจ้าแห่งขุนเขา!เขายังไม่ตายหรอ? ทำไมยังมีชีวิตอยู่!เมื่อเห็นเทพแห่งขุนเขาในช่วงหน้าสิวหน้าขวานเช่นนี้ ฉันรู้สึกราวกับว่าเพิ่งออกจากปากเสือแล้วตกลงไปในถ้ำหมาป่า อีกทั้งตอนนี้เขาดูโทรมไปมาก ชุดคลุมอันตระการตาที่เคยประดับบนตัวเขาก็ไม่
กำจัดหลิวหลงถิงเหรอ? พอได้ยินคำนี้ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ถ้าหลิวหลงถิงไม่อยู่กวนฉันอีก ตอนนี้ฉันควรจะมีความสุขอยู่ที่บ้านไปแล้ว ไม่ใช่มาใช้ชีวิตที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้“ที่คุณพูดมาจริงเหรอ?” ฉันถามเทพแห่งขุนเขาเบา ๆ สุดท้ายแล้วถ้าเรื่องนี้เข้าหูหลิวหลงถิงฉันกับเทพแห่งขุนเขาคงได้ทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แน่ ๆ“ถึงแม้ว่าเธอกับหลิวหลงถิงต้องการกำจัดฉัน แต่อย่างไรเสียวันนี้ฉันก็สิงอยู่ในร่างเธอเพื่อหนีภัยครั้งนี้ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คือผู้มีพระคุณ เรื่องที่สัญญาไว้ฉันจะไม่คืนคำ”“งั้นก็ได้ ฉันสัญญา
“ก็ใช่สิ! ทำไมเหรอ?”เมื่อฉันเปล่งประโยคนี้ออกมาจากปาก ก็เหลือบไปมองหลิวหลงถิงที่หน้าตาเรียบเฉย มันทำให้ฉันรู้สึกกังวน ถ้าหลิวหลงถิงสังเกตเห็นอะไรบางอย่างและรู้ว่าฉันรับข้อตกลงกับเทพแห่งขุนเขาที่จะกำจัดเขา และถ้าเทพแห่งขุนเขาตายฉันก็ต้องตาย ใครกันจะเมตตาคนที่หมายจะเอาชีวิตตัวเองในเวลานี้ ฉันรู้สึกเสียใจกับข้อตกลงที่ให้ไว้กับเทพแห่งขุนเขา อันที่จริงการได้อยู่กับหลิวหลงถิง แม้ว่าจะหนื่อยไม่ค่อยสะดวกสบายแต่ก็รู้สึกดี และแม้ว่าเขาจะบังคับให้ฉันทำเรื่องอย่างว่า ฉันก็ยังพอใจกับมัน แล้วทำไมฉันต้องฆ่