ความสัมพันธ์ของฉันกับหลิวหลงถิงซับซ้อนมาก เป็นแฟนก็ไม่ใช่ แต่ว่าถ้าหากอีกฝ่ายถูกคนอื่นคอยคิดถึงหรือฝันหาล่ะก็ จะรู้สึกไม่สบายใจแต่ว่าเมื่อครู่หลิวหลงถิงบอกเหยาน่าว่าเขาเป็นแฟนฉันไปแล้ว คาดว่าเหยาน่าคงไม่พยายามเอาชนะใจหลิวหลงถิง อย่างไรเสียเหยาน่าก็เป็นเพื่อนสนิทที่ฉันเที่ยวเล่นด้วยมาตั้งหลายปี“นายยังไม่ได้เข้าห้องนอนพวกเราเลยนะ นายจะรู้ได้ไงว่าห้องนอนเราไม่สะอาดมาก ห้องนอน พวกเราถูกประเมินว่าเป็นห้องนอนที่สะอาดดีเด่นติดต่อกันหลายครั้งเชียวนะ”ฉันนึกว่าหลิวหลงถิงบอกว่าห้องนอนฉันเลอะเทอะไม่สะ
“อ๋อ ๆ” เหยาน่าก็ไม่ได้สงสัยอะไร จากนั้นพูดกับฉัน “ในเมื่อเธอกับเพื่อนของเธอมากันแล้ว คืนนี้เราไปกินข้าวกัน ฉันเลี้ยงเอง”ฉันหันศีรษะไปมองหลิวหลงถิง สอบถามความคิดเห็นเขา หลิวหลงถิงส่ายหัวให้ฉัน บอกว่าไม่อยากกินงานเลี้ยงล่มแล้ว เหยาน่าจึงนัดงานเลี้ยงอย่างอื่น เธอบอกกับฉันว่าขอออกไปก่อน คืนนี้รอเธอกลับมา พวกเราค่อยมาพูดคุยถึงความหลังกันพอเหยาน่าเดินจากไปแล้ว ในห้องเหลือเพียงฉันกับหลิวหลงถิง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวฉันหรือว่าเป็นเพราะรอยเท้าในห้อง ดวงตาของฉันค่อย ๆ มองไม่เห็นรอยเท้าสีดำปี๋พวกนั้น
หลิวหลงถิงหยิบเสื้อผ้าที่วางบนเก้าอี้อย่างไม่รีบร้อน ตอนที่กำลังสวมเสื้อผ้า เสียงเคาะประตูนั้นก็หยุดแล้ว ตามด้วยเสียงฝีเท้าบางเบาเดินเข้ามาจากประตูห้องนอนสิ่งนั้นเข้ามาแล้ว! ห้องน้ำเราเป็นห้องที่ติดกับประตูห้องนอน เสียงฝีเท้านั้นเดินไปทางหน้าห้องน้ำ ฉันได้ยินอย่างชัดเจน มันแผ่วเบา เดินเท้าเปล่า สิ่งที่เดินบนพื้นนั้นแทบจะไร้เสียง ฉันกลัวจนไม่กล้าคิดว่าสิ่งที่เดินอยู่นอกประตูห้องน้ำเป็นตัวอะไร ยังดีที่หลิวหลงถิงเข้ามาในร่าง ไม่อย่างนั้นฉันจะต้องตกใจกลัวจนไร้ความกล้าไปเปิดประตูอย่างแน่นอนหลัง
“ดูสิ กลัวจนตัวอ่อนปวกเปียกไปเลยเหรอ? ในเมื่อเธอรับปากว่าจะเป็นร่างทรงของฉัน บางเรื่องเมื่อได้เริ่มต้นแล้ว ก็ไม่สามารถถอนตัวออกกลางคันได้ จากนี้เธอจะต้องเจอสิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าผีผู้หญิงตนนั้นอีก ขนาดมีฉันอยู่ที่นี่เธอก็ไม่กล้า จากนี้ฉันไม่อยู่ ถ้าเธอไม่กล้าอีก คนที่จะตายก็คือเธอ”หลิวหลงถิงยิ่งพูดก็ยิ่งจริงจัง ตอนท้าย ๆ เขาดุฉันอย่างคาดไม่ถึงด้วย เดิมทีฉันไม่สบายใจอยู่แล้ว เขายังมาสั่งสอนกันอีก ตอนนี้ถูกเขาพูดขนาดนี้ก็ยิ่งอึดอัดใจและน้อยใจเข้าไปใหญ่ จึงหันมาพูดกับหลิวหลงถิงว่า “แต่ว่าถ้าห
ฉันกลอกตาใส่เหยาน่าพลางบอกกับเธอ “นี่เป็นเรื่องที่นานมากแล้ว เธอไม่เตือนฉันก็ลืมไปแล้ว”ทันใดนั้นเหยาน่าก็ทอดถอนหายใจพลางบอกกับฉัน “เธอมีหวานใจคนใหม่แล้ว ก็ลืมรักเก่าไปเลยนะ ถ้าอย่างนั้นงานเลี้ยงวันเกิดหวังเสวียนในวันพรุ่งนี้ เธอจะไปไหม!”หวังเสวียนเป็นกรรมการจิตวิทยาห้องของเรา เขาหน้าตาน่ารักเป็นผู้ชายทางตอนใต้ อ่อนโยนและรู้จักเอาใจใส่ ปีก่อนฉันเคยมีช่วงเวลาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือกับเขาจริง ๆ แต่ว่าภายหลัง พวกเราทะเลาะด้วยเรื่องเล็กน้อยจึงไม่ลงรอย จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อส่วนตัวกันอีกเลย อีกอ
เมื่อเห็นใบหน้างุนงงของฉัน หลิวหลงถิงก็เขยิบมาข้างกายฉันทันที พร้อมบอกว่า “ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะทิ้งฉันได้ลงคอแล้วไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น เธอลองจับดูสิ ตรงนี้ของฉันยาวกว่าหน้าของเด็กนั่นแน่นอน” ตอนที่หลิวหลงถิงพูดก็ยื่นแขนมาดึงมือฉันไปแนบชิดส่วนล่างท้องของเขา ฉันรีบดึงมือกลับ พร้อมด่าว่าเขาหน้าไม่อายไปประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงตอนกลางคืนเราไม่ได้ทำอะไรกันมากกว่าการหลับนอนปกติ ตอนที่ตื่นมาเช้าวันที่สอง หลิวหลงถิงพาฉันไปซื้อพวกเสื้อผ้า และกระโปรงเข้าเป็นชุดให้ฉันใส่จริง ๆ เดิมฉันนึกว
ฉันคาดไม่ถึงว่าหวังเสวียนอยากจะลงมือกับฉันตอนอยู่บนรถ! เดิมทีฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ตอนนี้เขาทำกับฉันแบบนี้ ทำให้ฉันเริ่มรังเกียจเขาแล้ว ทว่าขณะกำลังจะดึงมอเขาออก ตัวลื่นเกลี้ยงเกลาที่พันอยู่รอบข้อมือ ก็เลื้อยขึ้นไปบนแขนของฉัน จากนั้นทะลวงเข้าไปในร่างกายฉันทันใดนั้นทั่วทั้งร่างกายเสมือนเต็มไปด้วยไฟฟ้าอย่างไรอย่างนั้น ฉันรู้สึกว่าตัวเองทรงพลังไร้เทียมทาน หลิวหลงถิงควบคุมร่างกายฉันไว้ทั้งหมดแล้ว ฉันยื่นมือออกแรงเขี่ยมือของหวังเสวียนที่จับฉันไว้ออก จากนั้นก็ตบเข้าที่ใบหน้าหวังเสวียนไปหนึ่งฝ่าม
“นายพูดอะไรน่ะ?!” ตอนนี้หวังเสวียนตายแล้ว หลิวหลงถิงก็เริ่มมาใส่ร้ายฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาไปกินอะไรมาผิดสำแดงมา เลยบอกกับเขาว่า “เขาตายแล้วฉันต้องดีใจอย่างนั้นเหรอ? อันที่จริงแค่ทำให้ เขาตกใจกลัวก็พอแล้ว ทำไมต้องฆ่าเขาอย่างอำมหิตด้วย? นายลืมเรื่องที่ตัวเองเป็นเซียน และไม่สามารถฆ่ามนุษย์ได้ไปแล้วเหรอ?”ฉันรู้สึกโกรธและกลัวหลิวหลงถิงมากจริง ๆ บำเพ็ญฌาณมาหลายปีขนาดนี้ ทำไมยังกระทำเรื่องเอาแต่ใจเช่นนี้“เธอเคยเห็นฉันฆ่าไปหนหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนที่ฆ่าจูต้ากุ้ยคราวก่อน ทำไมไม่เห็นเธอตื่นเต้นขนาดน