หลิวหลงถิงเหลือบมองฉัน จากนั้นจึงพูดแบบยิ้ม ๆ “ฉันจะโกรธอะไรเธอ? ถ้าวันนี้ไม่อยากก็ไปนอนก่อนเถอะ รอฉันซ่อมอินกวนอินเสร็จแล้ว จะไปนอนเป็นเพื่อนเธอบนเตียง”ฉันไม่รู้ว่ายิ้มนี้ของหลิวหลงถิงเป็นยิ้มจริงหรือยิ้มปลอม ทว่าเขาบอกให้ฉันนอน ฉันจึงได้แต่พยักหน้าให้เขา บอกให้เขาทำเสร็จแล้วก็รีบพักผ่อนและก็ไม่รู้ว่าหลิวหลงถึงเป็นอะไรไป หรือว่าเพราะเฟิ้งฉีเทียนแบก เขาเลยโกรธอย่างนั้นเหรอ? แต่ว่านั่นไม่ใช่เพราะต้องการทำลายเขตแดนภาพหรอกเหรอ ถ้าไม่แบกล่ะก็ พวกเราก็ออกมาไม่ได้นะ!แค่นั่งรถมาหนึ่งวันเต็มแล้วก็
ผู้หญิงในห้องเห็นฉันอารมณ์ไม่ดี จึงไม่กล้ามาหยิบ ผู้หญิงที่นั่งด้านหน้าฉันบอกกับฉันอย่างระมัดระวังว่าของพวกนี้อาจารย์เว่ยฉงเป็นคนให้ฉัน อย่างไรก็รับไว้เถอะในหัวใจฉันมีแต่ไฟโกรธ และไม่อยากรับของพวกนี้ เมื่อเห็นไม่มีใครต้องการ จึงโอบของพวกนี้ไปทิ้งในขยะหลังห้องเรียนทั้งหมด ตอนที่ฉันกำลังจะหันตัวไป ฉันมองเห็นเว่ยฉงกำลังถือดอกไม้ยืนอยู่ตรงประตูห้องเรียนฉันแล้ว เขามองเห็นฉันนำดอกไม้ทั้งหมดที่เขาให้ทิ้งลงถังขยะด้วยตาตัวเองฉันไม่รู้ว่าเว่ยฉงจะมา ในใจก็เริ่มตึงเครียด อย่างไรก็ตามทิ้งของขวัญต่อหน้าต่
สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาทันที หากเมื่อสักครู่นี้เว่ยฉงไม่ได้บอกว่าเขาจะเข้าร่วมงานปาร์ตี้ของชั้นเรียนพวกเราแบบนั้นมันก็ยังดี แต่เมื่อเว่ยฉงตั้งใจมาบอกฉันว่าเขาก็ไปเข้าร่วมด้วย ก็ทำให้ฉันพะว้าพะวงเล็กน้อยขึ้นมา อย่างไรก็ตามแค่ฉันกับเฟิ้งฉีเทียนเป็นแค่เพื่อนกันหลิวหลงถิงก็ไม่พอใจแล้ว ถ้าเกิดว่าถูกเขาสงสัยอะไรบางอย่างขึ้นมาอีกรอบ ฉันก็คงต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาแน่ ๆ แต่ทว่าตอนนี้อาจารย์ประจำชั้นมาถามฉันด้วยตัวเองแล้ว ถ้าหากฉันพูดว่าฉันไม่ไปล่ะก็ อาจจะเป็นการไม่ไว้หน้าเขาเ
ถึงอย่างไรนี่มันก็เป็นเรื่องของหลิวหลงถิง เขาไม่ได้เอ่ยปากพูดเรื่องนี้กับฉันมาก่อน พวกเราเดาไปก็เสียแรงเปล่า ๆ แต่เพราะว่าพวกเราตกลงกับอาจารย์ไว้แล้วว่าวันนี้ตอนค่ำ ๆ จะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้กับอาจารย์ หลังจากเลิกเรียนภาคค่ำแล้ว ฉันโทรเข้าหาโทรศัพท์บ้านแล้ว แต่ดูเหมือนว่าหลิวหลงถิงจะไม่อยู่ที่บ้าน ฉันเลยต้องการให้ตอนที่เฟิ้งฉีเทียนกลับบ้านไป แล้วช่วยฉันบอกหลิวหลงถิงให้ทีว่าคืนนี้ฉันจะอาจจะต้องกลับบ้านดึกหน่อยนะ ถึงอย่างไรหลิวหลงถิงแม้แต่โทรศัพท์เครื่องเดียวเขาก็ไม่ยอมซื้อ เวลาฉันจะติดต่อเขาก็เป
หลิวหลงถิงออกมาตามหาฉันแล้ว? ข้อความนั่นทำฉันตกใจจนรับหันมองไปรอบ ๆ ทุกด้าน ซึ่งด้านนอกมีเพียงรถและผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา ไม่เห็นแม้แต่เงาของหลิวหลงถิงเลยอารมณ์ฉันค่อย ๆ เงียบสงบลงไป ตัวฉันเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังกลัวอะไรอยู่ ฉันเองก็ไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่รู้สึกผิดต่อหลิวหลงถิงเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ยังอยู่ในช่วงกำลังศึกษาดูใจกันอยู่ ออกมาเล่นสักพักก็คงไม่เป็นอะไรมากหรอกรถแท๊กซี่ใช้เวลาเดินทางประมาณสามสิบนาทีนิด ๆ ก็ถึงหน้าหมู่บ้านของฉันแล้ว ฉันเงยหน้ามองขึ้นไปที่หน้าต่างในบ้าน ยังมี
ฉันหันหลังต้องการจะเดินออกไปข้างนอก แต่ว่าหลิวหลงถิงน่าจะคาดเดาไว้ตั้งแต่ทีแรกว่าฉันจะต้องเดินออกไป เขากดไหล่ของฉันไว้แล้วลากไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา ลำตัวส่วนล่างก็กลายเป็นหางงูใหญ่และแข็งแรง ไม่สนใจความเจ็บปวดของฉัน เขากดฉันเข้ากับผนังอย่างแรง หางงูก็เลื่อนเข้าไปในกางเกงของฉัน“อยากจะไป? ฝันไปเถอะ ตลอดชีวิตนี้ของเธอไม่ต้องคิดที่จะหนีไปจากฉัน” หลิวหลงถิวโน้มตัวลงมาทางฉัน ริมฝีปากของเขาแนบมาที่หูของฉันพร้อมพูดถ้อยคำอันแสนโหดเหี้ยม โดยไม่รอให้ฉันบอกให้เขาปล่อยฉันไปในค่ำคืนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉั
“ถูกงูกัดเหรอ?” หลิวหลงถิงหันมาทางฉัน “เมื่อคืนไม่ใช่ว่าเขาร้องเพลงอยู่เหรอ? จะไปโดนงูกัดได้ยังไงกัน แถมพื้นที่ในแทบนี้ก็มีอากาศเย็นด้วย งูไม่ออกมาหรอก”หลิวหลงถิงตอบฉันอย่างไม่มีความผิดปกติ ฉันก็รู้สึกอยากจะเหยียดยิ้มออกมาเลยจริง ๆ ฉันจะเชื่อใจคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน“ไม่ใช่นายทำงั้นเหรอ?” ฉันไม่อยากจะเสียพลังรับมือกับหลิวหลงถิงไปมากกว่านี้ ฉันเปิดปากพูดจุดประเด็นใส่เขาไปตรง ๆ พอเห็นว่าฉันสงสัยเขา ในแววตาของหลิวหลงถิงฉายแววประหลาดใจปนสงสัย แล้วนั่งลงที่ข้าง ๆ พลันเอ่ยว่า “เมื่อคืนนี้ฉันก็อยู่
พอดีกับที่ฉันกำลังรำคาญใจเพราะเรื่องนี้ จึงพูดกับแม่หมออิงว่าจะเป็นหรือจะตายก็ไม่ยังไม่รู้เลย รู้แค่เพียงว่าคนนั้นที่ถูกทำร้าย ตอนนี้ยังอยู่ในโรงพยาบาล เขาเป็นคนที่ในระยะนี้ตามจีบฉันไม่หยุด“คนที่ตามจีบเจ้า? เจ้ากับเขาได้ทำเรื่องที่เกินไปหรือเปล่า?”“ก็ไม่มีนะ” ฉันตอบแม่หมออิง “ก็แค่เต้นรำด้วยกันเท่านั้น เขาไม่น่าจะถูกหลิวหลงถิงฆ่าตายได้”คาดไม่ถึงว่าหลังจากที่แม่หมออิงฟังที่ฉันพูดแล้วก็ถอนหายใจออกมา แล้วพูดกับฉันว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากจะปกป้องหลิวหลงถิง ถึงอย่างไรสำหรับเจ้าแล้วผู้ชายแบบนี้ ถ้