Share

บทที่ 13

"ฮูหยินรอง ท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย ท่านผู้เฒ่าใกล้จะไม่ไหวอยู่แล้วนะ!"

เสียงร้องไห้ของหญิงสาวคนหนึ่งน่าเวทนาอย่างมาก

"นังสารเลวอย่างเจ้ากำลังร้องไห้ให้ท่านลุงหรือ? เขาอยู่สภาพนี้มาตั้งสองปีแล้ว เจ้ายังจะมาร้องห่มร้องไห้ คนไม่รู้จะคิดว่าเขาตายไปแล้วนะ!"

เสียงหญิงสาวใจดำโหดร้ายนั่นก็ลอดออกมาอีกครั้ง "จะว่าไป ข้าพูดผิดหรือ? จาวหนิงเป็นเด็กคนเดียวของบ้านแล้ว ท่านลุงเลี้ยงชุบเลี้ยงนางมาจนโต ตอนนี้นางกลับไปทำเรื่องอับอายน่าขายหน้าภายนอก ข้าต้องบอกเรื่องนี้กับท่านลุงสิ"

"จาวหนิงเด็กคนนี้อกตัญญูเสียจริง นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่ ท่านลุงหลังจากนี้เลิกคิดเรื่องไปซื้อยาที่ร้านขายยาได้เลย ถ้าวันหนึ่งตื่นเต้นจนหายใจไม่ทันขึ้นมา ก็คงจะเชิญหมอมาไม่ได้อย่างแน่นอน! หมอเทวดาหลี่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเสียขนาดนั้น หมอทั้งหมดจึงล้วนฟังเขา เขาแค่พูดมาประโยคเดียว ก็คงจะไม่มีหมอสักคนเข้ามารักษาท่านลุงอีก"

"จาวหนิงยังไปผิดใจกับรัฐทายาทเซียวด้วย รัฐทายาทเซียวเองก็พูดมาแล้ว ว่าจาวหนิงหลังจากนี้จะขายไม่ออกอีกแน่นอน ไม่แน่ว่าจาวหนิงที่ถูกถอนหมั้นตอนนี้คงคิดไม่ตก ไม่กล้ากลับมา จนตนเองไปคิดสั้นแล้วก็ได้"

"พรวด!"

ชายชราผมขาวบนเตียงคนหนึ่งกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง

ลุงจงที่ดูแลอยู่ข้างๆ ก็ร้องเรียกขึ้นมา "ท่านผู้เฒ่า"

"ฮูหยินรอง! ทำไมท่านจึงเอาแต่จะกระตุ้นท่านผู้เฒ่ากัน? คุณหนูของพวกเราก็ถูกแบกเกี้ยวไปยังจวนอ๋องเซียวแล้ว รัฐทายาทเซ๊ยวเองก่อนหน้าก็รับปากว่าจะดูแลนางอย่างดี นางตอนนี้เป็นฝั่งฝากับรัฐทายาทเซียวไปแล้ว เป็นภรรยาของรัฐทายาทไปแล้ว แล้วท่านทำไมต้องมาพูดพล่ามโกหกกับท่านผู้เฒ่าด้วย จิตใจท่านทำด้วยอะไรกัน!"

เสี่ยวเถาร้องขึ้นมา ตรงเข้าไปผลักฮูหยินรองอย่างทนไม่ไหว คิดจะไล่นางออกไป

มือยังไม่ทันได้แตะฮูหยินรอง สาวใช้ข้างกายฮูหยินรองก็คว้ามือของนางแน่นอย่างเหิมเกริม ออกแรงบิด

"นังสารเลว นี่กล้าใช้ความต่ำต้อยมาเหิมเกริมตีฮูหยินของพวกเราหรือ? ให้ข้าได้สั่งสอนเจ้าเสียหน่อย!"

มือของเสี่ยวเถาถูกบิดจนเกือบหัก นางเกือบจะกรีดร้องอย่างเจ็บปวดออกมา พอคิดว่าท่านผู้เฒ่ากระอักเลือดออกมาแล้ว ถ้าตนเองกรีดร้องอีกจะยิ่งทำให้เขารับไม่ไหว จึงรีบกัดริมฝีปากไว้ทันที

เจ็บจนน้ำตานางไหลออกมา

ฮูหยินรองหยิบผ้าเช็ดมืดทำท่าทำทางปิดปาก หัวเราะขึ้นมาเสียงหนึ่ง

"เสี่ยวเถา เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ข้ากุขึ้นมา ด้านนอกเขาลือกันให้ทั่ว พวกเจ้าวันนี้ไม่ได้ออกไปด้านนอกจึงไม่ได้ยินข่าว ข้าก็แค่พอได้ยินจึงรีบกลับมาบอกกับท่านลุง"

ผู้เฒ่าฟู่บนเตียงกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง สติดำดิ่ง แทบจะเป็นลมอยู่แล้ว

เขาอยากจะตื่นขึ้นมาถามกับฮูหยินรองดีดี ว่าจาวหนิงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง จาวหนิงอยู่ที่ไหน แต่เขากลับรู้สึกว่าเบื้องหน้าตนเองมีแต่ความมืดทมึน

ผู้เฒ่าฟู่รู้สึกว่าชีวิตของตนเองเดินมาถึงปลายทางแล้ว เขากระทั่งเหมือนเห็นความมืดของยมโลกแล้วด้วยซ้ำ

"จาว หนิง"

"ท่านลุง ท่านพูดอะไรสักหน่อยเถอะ ให้พวกเสี่ยวเถารีบออกไปค้นหา ที่ริมน้ำหรือในบ่ำน้ำ หรือไม่ก็บนต้นไม้คอเอียงนั่น เชื่อเถอะ ถูกรัฐทายาทเซียวถอนหมั้นกลางถนน เกี้ยวเจ้าสาวเองก็แบกไปจนเกือบจะถึงหน้าประตูอยู่แล้วยังถูกไล่ให้กลับมา น่าขายหน้าเสียขนาดไหน"

"ไอ๊หยาหยา ถ้าเป็นข้าคงไม่เหลือหน้าไว้ให้ขายอีกแล้ว"

"ฮูหยินรองถ้ารู้สึกไม่เหลือหน้าไว้ให้ขาย ก็สู้ไปตายเสียตอนนี้เลยไม่ดีกว่าหรือ" เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังลอดเข้ามา เสียงป้าบดังโครม ประตูที่เปิดไว้ครึ่งหนึ่งถูกถีบจนกระแทกเข้ากับกำแพง

คนทั้งหมดในห้องหันมองไปทางประตูทันควัน

ฟู่จาวหนิงในชุดมงคลใบหน้าหยาดเยิ้มเดินเข้ามาในยามค่ำคืน ดวงตาเย็นเยียบ

ฮูหยินรองตระกูลฟูอ้าปากค้าง ตั้งตัวกลับมาไม่ทัน

ฟู่จาวหนิงทำไมจึงกลับมาตอนนี้?

"คุณหนู!"

เสี่ยวเถาพอเห็นนางก็ร้องเรียกน้ำตารื้น

ฮือๆ คุณหนูกลับมาตอนนี้จริงด้วย หรือว่าคุณหนูจะถูกรัฐทายาทเซียวถอนหมั้นแล้วจริงๆ?

ฟูจาวหนิงรีบสาวเท้าเดินเข้ามา จับข้อมือสาวใช้คนนั้นแล้วออกแรงบิด

"อ๊า!"

สาวใช้เจ็บจนกรีดร้อง ขณะเดียวกันก็ปล่อยมือเสี่ยวเถาออก ฟู่จาวหนิงก็ยกเท้าอีกครั้งถีบนางไปอย่างแรง

สาวใช้ล้มกลิ้งบนพื้น กรีดร้องขึ้นมาอีกรอบ

ฮูหยินรองตกตะลึงโกรธเคือง "จางหนิง! นี่เจ้าคิดจะต่อต้านใช่ไหม?"

"เสี่ยวเถา! " ฟู่จาวหนิงเอ่ยเสียงขรึมกับเสี่ยวเถา "หยิบไม้กวาดแล้วไล่คนพวกนี้ออกไป เกิดอะไรขึ้นข้ารับผิดชอบเอง"

แม้นางจะอยากฆ่าฮูหยินรองให้ตายเสียตอนนี้ แต่ผู้เฒ่าฟู่สถานการณ์ยังวิกฤต นางไม่มีเวลาให้เสีย ดังนั้นฟู่จาวหนิงจึงไม่ต่อปากต่อคำกับฮูหยินรอง

"เจ้าค่ะ!"

เสี่ยวเถาถึงแม้จะตกตะลึงกับการเปลี่ยนไปของนาง แต่เดิมทีที่โกรธเคืองอยู่แล้ว จึงฟังคำสั่งนาง พุ่งออกไปหยิบไม้กวาด แล้วโบกตะเพิดไปทางฮูหยินรองกับสาวใช้ของนางทันที

"ไสหัว พวกเจ้าไสหัวไป"

ฮูหยินรองตกตะลึงโกรธแค้นอย่างมาก รีบร้อนเบี่ยงหลบ

"เสี่ยวเถานังสาวใช้สารเลว เจ้ากล้าลงมือกับข้าหรือ! รอก่อนเถอะ สัญญาขายตัวของเจ้ายังมาไม่ถึงมือข้า ข้าอยากจะขายเจ้าทิ้งไปในซ่องที่แย่ที่สุดเสียเหลือเกิน!"

"ออกไป!"

เสี่ยวเถารองไห้พลางพุ่งไปทางพวกนาง

ฟู่จาวหนิงไม่สนใจทางนี้ นางพุ่งตัวไปอยู่ข้างเตียงแล้ว คุกเขาลงบนพื้น "ท่านปู่"

พริบตาที่เห็นผู้เฒ่าฟู่ ดวงตานางก็ร้อนวูบ จมูกสะอื้นฮึดฮัด น้ำตาไหลลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ความรู้สึกที่ผู้เฒ่าฟู่มีให้นาง คล้ายกับปู่ของนางมาก

"คุณหนู" ลุงจงเองก็ร้องไห้ขึ้นมา

"ลุงจง ข้าพูดแล้วท่านทำตามนะ" ฟู่จาวหนิงออกแรงเช็ดน้ำตา น้ำเสียงขรึมลงมา มีพลังที่ทำให้คนต้องใจเย็นลง

"คุณหนู?"

"ไปจัดเตรียมน้ำร้อน สุราเหลือง แล้วไปที่ร้านยาท่าเรือหาหมอซ่งยืมเข็มเงินเขามาชุดหนึ่ง"

ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างชัดเจน นิ่งไปครู่หนึ่ง จึงกดฟันยื่นมือไปหยิบเอาปิ่นทองบนหัวเล่มหนึ่งออกมา "ไม่ ไปซื้อกับเขาเลย! จากนั้นก็ซ์้อโสมที่อายุอย่างน้อยสามสิบปีมาด้วย ให้เขาหั่นแว่นทันที ทำเรื่องพวกนี้แล้วรีบกลับมา"

ตอนที่ลุงจงรับปิ่นทองเล่มนั้นด้วยอาการมือสั่นเทา ฟู่จาวหนิงก็ยืนขึ้น ประคองตัวผู้เฒ่าฟู่ ยื่นมือปลดชุดของเขาออก ฝ่ามือควานหาตำแหน่ง กดลงไปทันที

ปิ่นทองนี้เป็นของจวนอ๋องเจวี้ยน ตอนที่แต่งตัวให้นาง นางก็เลือกเล่มนี้มา หงจั๋วเป็นคนเสียบไว้บนผมนาง

นางเดิมทีไม่ต้องการสิ่งของของจวนอ๋องเจวี้ยน สิ่งนี้จะต้องนำคืนมา แต่ตอนนี้เรื่องเร่งด่วน ไม่มีทางเลือก จำเป็นต้องใช้ไปก่อน

ไว้อีกพักหนึ่งนางค่อยหาเงินซื้อปิ่นทองเล่มนี้คืนให้อ๋องเจวี้ยน

ลุงจงมองปิ่นทองในมือ งานชิ้นนี้สวยงามประณีต ดูซับซ้อนหนักแน่น เป็นได้ชัดว่าไม่ใช่ของที่คนธรรมดาใช้งาน

วันนี้ตอนคุณหนูออกจากบ้านไม่มีปิ่นปักผมเช่นนี้นี่นา

"รีบไป!"

ฟู่จาวหนิงตะคอกเสียงขรึม

ลุงจงรีบพรวดพราดวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ

เขาวิ่งมาถึงประตูหลัง พบกับม้าที่ยังไม่ใส่อานตัวหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาสนใจแล้ว รีบร้อนเปิดประตูออกไป ด้านนอกก็เพิ่งมีรถม้าคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดพอดี

อ๋องเจวี้ยนที่สวมหน้ากากลงมาจากรถม้า

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status