ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ครั้งนี้กังวลขึ้นมาหน่อยๆ แล้วจริงๆ"แล้วท่านไม่กลัวว่า พวกเขาเป็นไปได้ว่าจะถูกหลอกให้เข้าลัทธิเทพทำลายล้าง? ถ้าหากพวกเขาเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้า ที่มู่เหรินหลีพูดมา ที่บอกว่าลัทธิเทพทำลายล้างวางยาพิษ ประโยคนี้ก็ถือว่าพูดไม่ผิด"เขานวดหน้าผาก พอคิดถึงสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินอาจจะเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้าง ก็รุ้สึกว่าสมองจู่ๆ ก็ปวดขึ้นมานางตอนนี้เองก็รังเกียจลัทธิเทพทำลายล้าง เจอกับพวกสาวกลัทธิเทพทำลายล้างไปหลายคน แล้วพวกเขาก็ยังวางยาพิษที่ทั้งมากทั้งโหดร้ายกับจงเจี้ยนอีก ล้วนทำให้นางรู้สึกว่ากลุ่มสำนักนี้ทำให้คนรังเกียจเสียเหลือเกินถ้าหากพ่อแม่นางเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้าง แค่คิดก็รู้สึกเป็นเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจเอามากๆ แล้ว"ข้าไม่ใช่ว่าเคยวิเคราะห์กับเจ้าแล้วหรือไร?""วิเคราะห์อะไรหรือ?""พ่อของเจ้า ไม่ใช่คนโง่พรรค์นั้น ไม่ใช่คนที่จะถูกคนอื่นหลอกล่อได้ง่ายๆ สำหรับเขาแล้ว ตอนนั้นที่เข้าร่วมกับลัทธิเทพทำลายล้างอะไรนั่นก็ยังไม่เท่ากับการเข้าร่วมราชสำนักเป็นข้าราชการเลย ตอนนั้นพวกเขาคุณความดีที่ปกป้ององค์จักรพรรดิ บวกกับความสามารถที่ยอดเยี่ยมเกินใครของเข
จะว่าไปก็ใช่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะปิดบังอะไรนางเขาหันหน้าเข้ามาหา ถอนหายใจ"สิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่ ไม่มีเหตุผลตรงไหนเลย""ตรงไหนที่ไม่มีเหตุผล?""ตงฉิง ต่อให้พ่อของเจ้าจะเคยได้ยิน แต่ก็ควรจะรู้ว่าการขุดตงฉิงขึ้นมาให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย"ก็ไม่ง่ายจริงๆ"ต่อให้เขารู้ว่ามีแผนที่แบบกระจายกับแผนผังป้องกันเมืองอยู่ก็เถอะ ก็น่าจะรู้ว่าตงฉิงนี้ ลัทธิเทพทำลายล้างถือดีอะไรจะมายึดครองมัน? ตงฉิงต่อให้ถูกขุดออกมาจริงๆ แคว้นเจา ต้าชื่อ กระทั่งแคว้นอื่นๆ พวกชนเผ่าที่กล้าหาญบางส่วน อย่างเช่นเผ่าเฮ่อเหลียน คนเหล่านี้จะมองลัทธิเทพทำลายล้างพวกนอกรีตชั่วร้ายมายึดครองตงฉิงอย่างอหังการไปได้หรือ?"พอได้ยินการวิเคราะห์ของเซียวหลันยวน ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกว่าถูกต้อง"ฟู่จิ้นเชินไม่น่าจะใช้คนที่สายตาตื้นเขิน เขาไม่มีทางเชื่อ"มีเพียงพวกโง่เขลา พวกที่เอาแต่คิดว่าจะได้ประโยชน์โดยไม่ต้องลงแรง หรือพวกที่โลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถึงจะถูกการโม้เหม็นแบบนี้ทำให้หวั่นไหว"ดังนั้น การวิเคราะห์เช่นนี้ สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินไม่มีทางเข้าร่วมลัทธิเทพทำลายล้าง เรื่องที่วางยาพิษในครั้งนั้น เป็น
นี่เกือบจะถึงเมืองหลวงอยู่แล้วคนที่อยู่ด้านหลังอาจจะคิดว่าถ้าตามไปเช่นนี้จนกลับถึงเมืองหลวง พอของถูกนำไปไว้ในจวนอ๋องเจวี้ยนจะยิ่งลงมือยาก คิดว่าคงจะเตรียมตัวชิงของกันที่นี่ส่วนว่ามันจะเป็นอะไร แย่งชิงมาก่อนเดี๋ยวก็รู้เองดังนั้นอีกฝ่ายกระทั่งรถม้าก็จะไม่ทิ้งไว้ให้พวกเขา จะต้องเอาไปทั้งหมดแน่นอนตอนที่พวกเขาคิดหาวิธีรับมือที่นี่ ชายหนุ่มที่ใบหน้าถูกรมด้วยควันจนดำคนหนึ่งก็โซซัดโซเซเข้ามาในเมืองหลวงเขาตรงไปยังจวนพระสัสสุระ พุ่งไปยังประตูหลัง ยื่นมือตบไปสองทีเรี่ยวแรงก็หมดแล้วล้มลงมีคนเข้ามาเปิดประตู พอเห็นคนผู้นี้ ก็รีบมองซ้ายขวาไปรอบๆ แล้วแบกคนเข้าไปเพียงไม่นาน พระสัสสุระก็รีบมาอยู่ด้านหน้าคนผู้นี้ พอเห็นสภาพเขาก็ตกตะลึงหน้าถอดสี"เจี๋ยเอ๋อร์! นี่เจ้าเกิดอะไรขึ้น?"ตอนนี้เขาไม่ใช่ว่าควรอยู่ที่หมู่บ้านกุยเซี่ยวหรือ?ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?เสื้อผ้าบนตัวถูกเผาจนรุ่งริ่งไปบ้าง ผมเผ้าก็ไหม้จนม้วนหยิก คิ้วครึ่งหนึ่งถูกเผาไปไม่เหลือ ใบหน้าเองก็ดำมะเมี่ยมนี่มันลูกชายของเขาเองนี่นา พอเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็จำแทบไม่ได้"ท่านพ่อ หมู่บ้านกุยเซี่ยว ถูกทำลายแล้ว!""เจ้าว่าอะไรนะ?" พ
ครั้งนี้ส่งคนไปตั้งหลายกลุ่ม สองกลุ่มแรกภารกิจลอบสังหารอ๋องเจวี้ยนก็ล้มเหลว ตายหมด อีกกลุ่มที่ไปยังเมืองชิงเหยาก็ยังไม่กลับมา เขาก็รอข่าวคราวอยู่ตลอดที่เหลือทั้งหมดก็อยู่ที่หมู่บ้านกุยเซี่ยว"ไม่ ไม่มีเหลือแล้ว ที่ตายก็ตายไป พิการก็พิการไป ที่ถูกพาไปก็ถูกพาไป""ยังมีถูกพาไปด้วยหรือ?"พระสัสสุระโกรธจัด ถลึงตาโตไม่อยากเชื่อหูของตนเองทำไมยังมีถูกพาไปอีกกัน?"คนที่พิการ ถูกคนพวกนั้นแบกไปแล้ว พวกเรา พวกเราเองก็ชิงกลับมาไม่ได้ ข้าแกล้งตายหนีออกมาทางอุโมงค์ลับ แต่กว่าจะเอาตัวรอดมาได้ก็ไม่ง่ายเลย"อุโมงค์ลับเส้นนั้นมีเพียงพวกของพวกเขาที่รู้"คนเหล่านั้นถ้าถูกส่งไปเบื้องหน้าองค์จักรพรรดิ เจ้าคิดว่าฮองเฮาจะทำอย่างไรกัน!"พระสัสสุระหน้ามืดไปแล้วเขารู้สึกว่าตนเองใกล้จะไม่ไหวแล้วตอนแรกออกคำสั่งปลิดชีวิตไว้ ถ้าหากมีวันหนึ่ง คนทั้งหมดต้องกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ใครก็ห้ามมีชีวิตอยู่เพื่อถูกจับกุมทั้งนั้น จะให้มีความเสี่ยงเปิดโปงฮองเฮาไม่ได้ผลคือตอนนี้กลับถูกพาไปตั้งหลายคน?"ท่านพ่อ พวกท่าน พวกท่านคงไม่ พวกเขาคงจะไม่พูดถึงฮองเฮาหรอกใช่ไหม?""เจ้าไสหัวไปเลย!"พระสัสสุระยกเท้าถีบเขาเพราะโม
เซียวเหยียนจิ่งตอนนี้มีความใส่ใจแปลกๆ ต่อตัวฟู่จาวหนิงเดิมทีเขาคิดว่าตนเองคงจะไม่สนใจฟู่จาวหนิง แต่ก็เหมือนผีผลักอย่างไรอย่างนั้น ตอนนี้เขากลับสนใจตัวฟู่จาวหนิงมากขึ้นเรื่อยๆ!ยิ่งไปกว่านั้นเขายังส่งคนหลายคนออกไปเป็นพิเศษ ให้คอยจับตาดูฟู่จาวหนิง คอยฟังว่าวันนี้นางไปไหน เจออะไร ทำอะไรบ้างแต่น่าเสียดาย แค่ไม่นานนัก ฟู่จาวหนิงก็ออกไปนอกเมืองกับอ๋องเจวี้ยนเสียแล้วและไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงมีอะไรน่าพาไปกัน นางทำอะไรได้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟู่เองก็ยังพักอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนด้วยอ๋องเจวี้ยนเกิดอะไรขึ้น หรือว่าจะยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ของฟู่จาวหนิงแล้ว เห็นปู่ของนางเป็นผู้อาวุโสแล้วหรือ?เขาเดิมทียังคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ออกเรือนอย่างลวกๆ กับอ๋องเจวี้ยน จะใช้ชีวิตได้น่าเวทนาเสียอีกนางก็เป็นแค่คนไม่ได้เรื่องที่มีดีแค่สวย ก่อนหน้านี้ตอนที่เอาแต่มาไล่ตามเขา เขากระทั่งรู้สึกขายหน้าเสียด้วยซ้ำ ถึงอย่างไรนางวันวันก็เอาแต่ใส่เสื้อเก่าๆ ที่ไม่เข้ากับตนเอง หน้าตาขมุกขมอม ทำเอาคนไม่คิดจะไปสนใจหน้าตาของนางเขายังเคยพรรณนาตัวนางกับเพื่อนของเขา บอกว่าฟู่จาวหนิงก็เป็นแค่ไก่ภูเขาตัวหนึ่งผลคือ
คนเหล่านี้ก็เป็นองครักษ์ลับองค์จักรพรรดิชุบเลี้ยงขึ้นมาจะส่งราชองครักษ์ออกมาก็ไม่ได้ คนของกองทหารก็เคลื่อนไหวไม่ได้ คนที่เรียกออกมาได้อย่างโจ่งแจ้งล้วนใช้การไม่ได้ ถึงอย่างไรนี่ก็คือจะปล้นแย่งสิ่งของของอ๋องเจวี้ยน ถ้าตัวตนฐานะถูกเปิดโปงออกมา หน้าตาขององค์จักรพรรดิคงไม่เหลือหรอดังนั้นที่เขาเคลื่อนไหวออกมาก็คือองครักษ์ลับกลุ่มหนึ่งที่เขาชุบเลี้ยงไว้ตอนที่ยังเป็นองค์รัชทายาทเพียงแต่ครั้งนี้องครักษ์ลับกลุ่มนี้ก็ถูกอ๋องเจวี้ยนลากไปลากมาจนเหนื่อยหมดแล้วอ๋องเจวี้ยนไม่อยากให้พวกเขาตอนที่ไล่ตามทันแล้วสลัดออกไปทันที แต่จะให้พวกเขาหาคนอย่างเอาเป็นเอาตายอ๋องเจวี้ยนตอนที่รอฟู่จาวหนิงที่เขาอวี้เหิง ก็ส่งคนลงเขาลงไปสร้างร่องรอยบางส่วน ล่อให้พวกเขาออกค้นหาคนไปทั่วภูเขา หมุนซ้ายหมุนขวา นอนก็ไม่ได้นอนกันดีดี กินก็แทบจะไม่ได้กินเสบียงแห้งที่พวกเขาพกไปก็ยังถูกขโมยอีกหลายวันนี้พูดได้ว่ากินแต่ลมดื่มแต่น้ำค้าง แต่ละคนสีหน้าเหนื่อยล้ากันจนแทบไม่ไหวตอนนี้ใกล้จะถึงเมืองหลวงแล้ว นี่คือภารกิจสุดท้ายในการเดินทางครั้งนี้ของพวกเขาแล้ว"ต้องสำเร็จเท่านั้น ห้ามล้มเหลว"หัวโจกองครักษ์ลับพูดขึ้นมาอีกคำ
พระสัสสุระเองก็จำใจ ให้ฮองเฮาสั่งคนรอบๆ ถอยไปก่อน จากนันจึงเล่าเรื่องของหมู่บ้านกุยเซี่ยวออกมาฮองเฮาพอได้ยิน ก็รู้สึกเหมือนเลือดจะพุ่งทะลักขึ้นด้านบน นางอย่างจะสะกด แต่ก็สะกดไม่อยู่"พรวด!"ฮองเฮากระอักเลือดออกมา"ฮองเฮา!"พระสัสสุระตกตลึงทำไม ทำไมฮองเฮาจึงกระอักเลือดกัน? วันนี้พวกเขาทั้งบ้านกระอักเลือดติดๆ กันเลย"ความหมายของท่านคือ" ฮองเฮาจ้องเขม็งเขา "หมดเกลี้ยงเลยหรือ? ถูกทำลายหมดแล้ว? ไม่เหลือไว้แม้แต่คนเดียว? หมู่บ้านกุยเซี่ยวเองก็ถูกเผาไปแล้วหรือ?""ถูกต้อง โดนยกไปหมดแล้ว" พระสัสสุระก้มหน้าต่ำ"น้ำพักน้ำแรงหลายปีของข้า!" ฮองเฮายกเตาอังมือใบหนึ่งฟาดไปทางเขา โมโหจนหน้าเบี้ยวไปหมด "ตั้งหลายปี! ข้าบอกให้ส่งคนไปคอยคุ้มกัน แต่ท่านบอกว่าคนของท่านเองเชื่อถือได้ แล้วท่านบอกว่าเจียงจี๋คอยดูแลอยู่ทางนั้นจะไม่เกิดปัญหา!""ฮองเฮา""อันที่จริง พวกเจ้าหลายปีมานี้ก็เลี้ยงเสียข้าวสุข! ข้าให้พวกเจ้ากินดื่มเล่นสนุกอันอย่างสุขสบายไร้กังวล! ตอนแรกเจ้าบอกว่าที่คอยไปหาแต่สาวงามมันเป็นแค่ฉากบังหน้า สองปีนี้ท่านกล้าพูดไหม ว่าท่านไม่ได้เอาแต่สนุกกับหญิงสาวอยู่ทุกวี่วัน!"นางผิดเองคนจากบ้า
ฟู่จาวหนิงเองก็คิดเช่นนี้"พกวเรากลับไปพักผ่อนกันก่อน"เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง "ในมือเจ้ามีควันลวงตาอีกบ้างไหม? ที่พวกเราสามารถกินยาแก้ไว้ก่อนได้""ทำเอาเลยก็ได้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "หญ้าสมุนไพรชนิดหนึ่งที่กลั่นกรองเอาไว้ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ทิ้ง สิ่งนั้นควันที่เผามันขึ้นมามีพิษอยู่ แต่ใช้ตัวของมันเอามากรองสกัดส่วนประกอบจะแก้พิษได้""ยุ่งยากไหม?""รถม้าด้านหลังผูกเอาไว้กองใหญ่เลย ก้อนๆ ที่เหมือนกับหญ้ากลมพวกนั้น จุดไฟโยนออกไป ควันจะยิ่งลุกขึ้นทั้งเร็วทั้งหนาแน่น"ไม่ยากเลยสักนิด"ส่วนยาแก้พิษ ข้ากลั่นกรองเอาไว้แล้ว"เซียวหลันยวนรู้สึกจริงๆ ว่าข้างกายมีฟู่จาวหนิงที่เป็นยอดฝีมือทั้งยาและพิษอยู่ข้างๆ ก็ประหยัดเวลาและเรื่องที่ทำขึ้นมากเลยทีเดียวยิ่งไปกว่นั้นยังมีหลายเรื่องที่ทำง่ายขึ้นมาก"หาจุดที่พวกเขาซุ่มกำลังอยู่ ยังไม่ต้องขนของ คนทั้งหมดกินยาแก้พิษกันก่อน ให้คนครึ่งหนึ่งขับรถม้าเดินหน้าต่อตามปกติ พอไปถึงสะพานขาดก็หยุดลงมา ให้โอกาสพวกเขาลงมือ"เซียวหลันยวนเรียกองครักษ์เข้ามา วาดสภาพพื้นที่รอบๆ สะพานขาดนี้ออกมาบนพื้น ตรงไหนมีเนิน ตรงไหนมีหินก้อนใหญ่ ตรงไหนมีต้นไม้ทึบที่ไปได