เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของป๋ายอีอี ฮั่วเยี่ยนฉือก็หมดความอดทนที่จะตอบกลับเธอ“ไม่ว่าคุณจะทำไปเพราะอะไร แต่เรื่องนี้ก็เป็นฝีมือของคุณอยู่ดี! คุณคิดว่าแค่คุณบอกมาคำเดียวว่าโดนบังคับ คุณก็จะปัดความรับผิดชอบได้แล้วงั้นเหรอ?”ป๋ายอีอีมองใบหน้าหล่อเหลาอันเย็นชาของฮั่วเยี่ยนฉือแล้ว พลันยิ้มทั้งที่ยังดวงตาแด
“คุณเฉียว เมื่อกี้ผมเพิ่งไปเยี่ยมป๋ายซื่ออวี้ที่โรงพยาบาลมา แม้ว่าสถานการณ์ขาของเขาจะไม่สู้ดีนัก แต่ท่าทางเขาดูสดใสทีเดียว แถมยังพูดจาอวดโอ้อย่างลำพองใจอีกด้วย ว่าตอนนี้พ่อของฮั่วเยี่ยนฉือกลับมาแล้ว จะไม่มีใครกล้าฉวยโอกาสทำอะไรพวกเขาได้อีก”หยวนหงจื้อเอ่ยด้วยความไม่สบายใจเล็กน้อย “ตระกูลป๋ายจะใช้โอก
เมื่อมองท่าทางบีบเค้นของมารดาแล้ว เวินจิ๋งหลี่พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย “แม่ไม่ได้ฟังที่หมอหนีบอกเหรอครับ เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน อีกอย่างผมก็เพิ่งจะหย่า ยังไม่ได้วางแผนว่าจะแต่งงานใหม่ครับ”เห็นได้ชัดว่ามารดาเริ่มไม่พอใจ แต่เนื่องจากหนีม่านเหยาอยู่ด้วย จึงไม่ได้พูดอะไรต่ออีกหลังจบมืออาหาร หนีม่านเหย
เธอยังคงสดใสเหมือนเดิม เธอเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา ดวงตาก็ประกายแสงระยิบระยับเฉกเช่นเดียวกับในร้านกาแฟวันนั้นที่พวกเขาได้เจอกันครั้งแรกตอนแรกเวินจิ๋งหลี่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการหย่าครั้งนี้เลย เขาถึงขั้นไม่เคยปล่อยให้เรื่องนี้กระทบกับงานเลยแม้ครึ่งชั่วขณะไม่ว่าจะเป็นการตื่นนอน พักผ่อน เข้างานและ
ฟู่เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นมองเขา “หมอเวินยังมีธุระอะไรอีกเหรอคะ?”ท่าทีของฟู่เถียนเถียนเฉยชาเป็นอย่างมาก ราวกับกำลังมองคนแปลกหน้า ในดวงตาไม่มีความตื่นเต้นดีใจและความเปล่งประกายเหมือนเวลามองเขาในเมื่อก่อนแม้แต่น้อยในอกเวินจิ๋งหลี่รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา “สองสามวันนี้ฉันลาพักเพราะมือบาดเจ็บ ถ้ามีเวลาว่างไป
ฟู่เถียนเถียนสรุป “มนุษย์ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่แสวงหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ และหลีกเลี่ยงอันตราย ในเมื่อออกมาจากบ่อโคลนได้แล้ว ก็จะไม่ตกลงไปในบ่อโคลนอีก ฉันไม่อยากใช้ชีวิตที่รู้สึกเหมือนกับจะหายใจไม่ออกอีกแล้ว”ก่อนหน้านี้เฉียวสือเนี่ยนกังวลมาตลอดว่าฟู่เถียนเถียนจะแสร้งทำเหมือนว่าไม่เป็นไรแค่ภายนอก แต่
เฉียวสือเนี่ยนขมวดคิ้วแน่น และกำลังคิดจะเอ่ยปากฮั่วเยี่ยนฉือกลับพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ตอนที่ฉันอายุสิบขวบ เคยถูกคนรับใช้ที่มีความแค้นวางยาก่อนจะผลักตกน้ำ แต่ได้ป๋ายอีอีเข้ามาช่วยไว้”“ฉันรู้ ถึงยังไงก็ตามตอแยคุณมาหลายปี เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้ผ่านหู”เฉียวสือเนี่ยนพูด “ก็อย่างที่ฉั
เธอปฏิเสธ “ช่างเถอะ ฉันก็ไม่ได้อยากฟังขนาดนั้นหรอก”“เฉียวสือเนี่ยน ครั้งนี้เกรงว่ามีแต่ต้องไปเท่านั้นแล้ว”โม่ซิวหย่วนพูด “ซ่งม่านน่าจะบอกเธอแล้ว ตอนนี้พ่อฉันไม่เชื่อว่าฉันมีคนที่ชอบ แถมยังส่งพี่ฉันให้มาเจอเธอด้วย”“ถ้าฉันไม่ไปล่ะ?”“ผู้ชายตระกูลโม่ล้วนมีจุดอ่อนเป็นความหัวรั้น” โม่ซิวหย่วนพูดทีเล่น