ไรเนอร์หยิบเสื้อยูนิเฟอร์ของเขาแล้วขอตัวกลับห้องอ้างว่าเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกหลังจากอาบน้ำให้นาตาลี หากความจริงแล้วเขาต้องการอยู่คนเดียว อยู่ห่างจากนาตาลี เขาเข้าห้องแล้วรีบล็อคประตูก่อนจะเอนตัวหลังพิงประตูห้อง“นาตาลี…” เขาพึมพำชื่อเธอระหว่างหลับตา ปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงลงเพื่อปลดปล่อยท่อนเนื้อขนาดมหึมาออกจากเสื้อผ้าที่ปกปิดมันไว้ สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์แรงปรารถนาที่มีต่อนาตาลี การแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรระหว่างสัมผัสร่างเปลือยเปล่าอันอ่อนนุ่ม ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจของเขาจนต้องรีบหนีออกมาก่อนที่จะต้านทานความต้องการของตัวเองต่อไปไม่ได้นี่เพิ่งจะวันที่สองเอง ผมก็อยากนอนกับเธอแล้ว ถึงแม้จะพยายามรักษาคำพูดแต่เมื่อเธอร้องขอผมก็ทนไม่ไหวใช้นิ้วทำให้เธอจนเสร็จ ผมแปลกใจมากที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ การได้ยินเธอตะโกนชื่อเอ็ดเวิร์ดตอนพวกเขาร่วมรักกันอย่างบ้าคลั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้ผมโกรธมาก การพยายามรักษาระยะห่างถูกทำลายลงเพียงแค่จินตนาการตอนเธอครางชื่อผมออกมาอย่างเร่าร้อน มันยากกว่าที่ตั้งใจไว้มาก เข้าใจแล้วว่าทำไมเอ็ดเวิร์ดถึงไม่สามารถต้านทานความต้องการตัวเองได้
ลูเซียนนั่งรอที่โต๊ะอาหารเย็นก่อนที่ฉันกับไรเนอร์จะเดินเข้ามา บรรยากาศอึมครึมน่าอึดอัดมากจนแทบหายใจไม่ออก ลูเซียนดูเกร็งและเครียดมากวันนี้ “นั่งลง” ลูเซียนสั่งเสียงแข็ง ฉันรีบทำตามทันที เห็นได้ชัดว่าลูเซียนอารมณ์ไม่ดี ไรเนอร์ยืนที่กำแพงทำตัวเหมือนเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นกับเราด้วย “วันนี้คุณกลับบ้านเร็วจัง” ฉันตอบเสียงหวานที่คิดว่าเหมาะกับสถานการณ์แบบนี้ “ฉันตัดสินใจแล้ว ยกเลิกการฝึกงานกับเอ็ดเวิร์ด” เขาพูดขณะเขี่ยอาหารในจานไปมา ความจริงฉันก็กินไม่ลงเหมือนกัน “ฉันเรียนรู้อะไรที่นั่นเยอะเลยนะ…” ฉันอธิบาย “กับเอ็ดเวิร์ดน่ะเหรอ” ลูเซียนตัดบทตอบแทนฉัน ถึงแม้นั่นจะไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการจะพูด แต่ดูเหมือนลูเซียนกำลังโกรธ ฉันจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ “จากนี้ไปเธอต้องอยู่บ้าน ห้ามไปไหนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าจะออกไปต้องมีไรเนอร์ไปด้วยทุกครั้ง” เขาเน้นย้ำทุกคำกับนโยบายใหม่ของเขา “ลูเชียน ฉันต้องเรียนและหางานทำ…” ชีวิตผู้ใหญ่ของฉันเพิ่งเริ่มต้น...จะให้อยู่บ้านอย่างเดียวคงไม่ได้ “เธอไม่จำเป็นต้องเรียน ไม่จำเป็นต้องทำงาน ถึงทำงานไปก็ไม่ได้มีผลอะไรกับครอบครัวเรา แค่อยู่บ้านและไม่สร้างปัญหาก็พอ!" ลูเซ
ลูเซียนออกจากห้องกินข้าวแล้วพบว่าไรเนอร์ยังยืนอยู่ นี่เขารออยู่ที่นี่ตลอดเลยเหรอ?“เก็บกวาดให้เรียบร้อย” ลูเซียนสั่ง ขณะที่เดินผ่านไรเนอร์โดยไม่หันกลับมามอง“ครับท่าน” เขาตอบโค้งคำนับไปด้วยลูเซียนตรงไปที่ห้องนอน เขาสั่งให้สาวใช้ทุกคนว่าห้ามรบกวน เขาอยากอยู่คนเดียวเพื่อสงบสติอารมณ์และวางหมากตัวต่อไปพอนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาก็มั่นใจว่ามันสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกับนาตาลีเป็นอย่างมาก นี่เขาทำบ้าอะไรลงไป! ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย เพราะไอ้เวรเอ็ดเวิร์ดคนเดียว! แม้ว่าร่างกายของเธอจะตอบสนองต่อความสุขที่มอบให้ แต่เธอก็ร้องไห้เกือบตลอดเวลา ทั้งร่างกายและหัวใจต้องเจ็บปวดจากกระทำกับคำพูดของฉันแน่ๆ สิ่งที่เขาทำลงไปนั้นมันโง่มาก การหลุดแสดงความหึงหวงระหว่างเธอกับน้องชายตัวเอง ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานว่าพวกเขาคบกันหรือไม่ แต่การเห็นใบหน้าท้าทายของเอ็ดเวิร์ดทำให้เขากังวลมากต้องหาทางแก้ไขความสัมพันธ์ของเราให้เร็วที่สุด เมื่อถึงเวลา...นาตาลีต้องเลือกที่จะแต่งงานกับฉัน…**วันก่อน**ลูเซียนมาพบเอ็ดเวิร์ดที่ห้องทำงานของเขาในห้องแล็บ ตั้งใจที่จะยุติการฝึกงานของนาตาลีก่อ
“อืม…” ฉันครางออกมาเล็กน้อยระหว่างที่พยายามลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ รู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้ง ฉันขยับตัวขึ้นนั่ง ภายในห้องมืดสนิด ตอนนี้มันคงดึกมากแล้ว ฉันคงหลับไปสักพักหลังจากที่ไรเนอร์พากลับมาที่ห้องนอน ฉันควรหามือถือก่อน คิดได้อย่างนั้นฉันก็เอื้อมมือคลำหาสวิทช์โคมไฟบนโต๊ะข้างเตียงจนเจอทันทีที่แสงโทนอุ่นสีส้มส่องสว่างขึ้น ฉันจึงรู้ตัวว่าไม่ได้อยู่คนเดียว ไรเนอร์หลับอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง ช่วงตัวและศีรษะของเขาพาดอยู่บนเตียงใกล้กับขาของฉัน ส่วนแขนข้างนึงจับขาฉันอยู่เพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ลุกจากเตียง ตอนนี้เขาดูเหมือนเด็กน้อยที่กำลังหลับอยู่ซึ่งตรงกันข้ามกับบุคลิกและขนาดตัวที่ใหญ่โต ฉันเดาว่าเขาอยู่ที่นี่ตลอดเวลาหลังจากที่พาฉันมา ฉันไม่ได้สวมชุดตัวเก่าแต่ถูกเปลี่ยนเป็นชุดนอน เขาน่าจะเป็นคนจัดการเช่นกัน ฉันหน้าแดงขณะที่คิดถึงเวลาที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เขาคงไม่ได้คิดอะไรหรอก แค่ทำหน้าที่บอดี้การ์ดกับพ่อบ้านเหมือนทุกครั้งไรเนอร์ยังคงหลับสนิท ฉันพยายามอย่างหนักกับการต้านทานความอยากที่จะสัมผัสผมสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งทำให้รู้ว่าเขาหล่อมาก ขนตายาวสีน้ำตาลแดง สีอ่อนกว่าเมื่
“คุณแซค” ลอร่ากล่าวทักทายแซคด้วยน้ำเสียงแปลกใจ วันนี้เขามาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ปกตินาตาลีจะเป็นคนไปหาแซคที่คฤหาสน์เอง เขาไม่ค่อยจะมาที่นี่ ถึงแม้สองคนจะนัดเจอกันล่วงหน้าก็ตาม“ฉันมาหานาตาลี” ก่อนจะเดินผ่านลอร่าเข้าไปในคฤหาสน์“คุณแซค! เดี๋ยวก่อนค่ะ…คุณนาตาลีไม่ค่อยสบาย กำลังพักผ่อนอยู่ค่ะ” ลอร่าพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ไม่แน่ใจว่าทุกคนจะเดือดร้อนมั้ย ถ้าปล่อยให้แซคเข้ามา ลูเซียน ไม่ได้สั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน…"ฉันรู้ ฉันเลยต้องหาเยี่ยมเธอไง จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ” แซคพูดพร้อมเดินตรงไปที่ห้องนอนนาตาลีมันแปลกมากที่นาตาลีไม่ตอบกลับข้อความหรือรับโทรศัพท์มาหลายวันแล้ว ถ้าเธอไม่ได้ออกจากบ้านก็หมายความว่าเธอก็ไม่ได้ไปฝึกงานด้วยเช่นกันสาวใช้ซุบซิบกันไม่หยุดว่านาตาลีทะเลาะกับลูเซียนตอนมื้อค่ำ มันรุนแรงมากจนลูเซียนทำลายข้าวของบนโต๊ะอาหารซึ่งมันเป็นไปได้อยู่ นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่ดูไม่น่าเชื่อถือ ผมถึงต้องไปดูให้แน่ใจว่านาตาลีไม่เป็นไรอีกอย่าง ผมยังได้ยินว่านาตาลีมีบอดี้การ์ดประจำตัวแล้วด้วย ได้เวลาเจอชายผู้โชคดีแล้ว……**ก๊อกก๊อก**“ฉันเอง” เสียงตอบของคนที่ยืนอ
วันนี้ฉันได้รับอนุญาตให้ออกไปพบจิตแพทย์เกี่ยวกับฝันร้ายตามที่ลูเชียนนัดหมายไว้ให้ ลอร่าเลยมาช่วยฉันแต่งตัว เขาคงอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอลูเซียนเลยตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกัน แน่นอนว่าไรเนอร์จะไปกับฉันด้วย คิดอีกแง่ก็ยังดีกว่าไม่สามารถออกจากบ้านได้เลยลอร่าหยิบชุดผ้าฝ้ายสีขาวละมุนมาให้พร้อมกับเข็มขัดหนังสีน้ำตาลเส้นใหญ่ที่ดูเข้ากับชุด มันเหมาะกับความรู้สึกของฉันในวันนี้มาก หวังว่าวันนี้คงเป็นวันสบาย ๆ เหมือนกับชุดที่ใส่อยู่ ฉันรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่ต้องพบจิตแพทย์ มันอาจช่วยให้ฉันไม่ฝันร้ายอีกและหวังว่าอาการนี้จะรักษาให้หายไปได้"คุณพร้อมรึยัง?" ไรเนอร์ถามขณะเดินเข้ามาในห้องนอนฉันแปลกใจที่ไรเนอร์ไม่ได้สวมชุดบัตเลอร์ เขาสวมเสื้อยืดสีขาว แจ็คเก็ตทหารสีเขียวกับกางเกงยีนส์ เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาในชุดลำลองแบบสบายๆ มันดูเหมาะกับเขามาก เพราะเขาตัวสูงเลยยิ่งดูดีเมื่อใส่กางเกงยีนส์“ทำไมวันนี้คุณใส่ชุดนี้ล่ะ” ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น“มีผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่าชุดพ่อบ้านแบบเต็มยศมันมากไปหน่อย เธอบอกผมว่าให้ปรับชุดให้เข้ากับงานที่เธอจะทำในแต่ละวัน คุ้นๆ มั้ยครับ?" เขาพูดพร้อมขยิบตาให้ฉัน
ในที่สุดช่วงเวลาการปรึกษากับหมอเกรตาก็สิ้นสุดลง ฉันกลับไปที่รถพร้อมกับไรเนอร์ เสียดายที่เธอไม่สามารถวินิจฉัยความฝันและให้คำตอบฉันได้ในทันที เพียงแต่บอกว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่เคยหรือไม่เคยเกิดขึ้นเท่านั้น ชีวิตจริงไม่เหมือนกับในหนังที่หมอสามารถตอบคำถามได้ทุกอย่างแล้วอย่างนี้ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นแค่ความฝันหรือเป็นเรื่องจริงคำพูดของใครบางคน…สถานที่ที่ฉันเพิ่งไปมา…ฉันไม่สามารถหยุดคิดเกี่ยวกับสิ่งที่หมอพูดได้“นาตาลี…นาตาลี…” เสียงของไรเนอร์ทำให้ฉันสะดุ้งตื่นจากภวังค์“ขอโทษที เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ” ฉันถามด้วยความรู้สึกผิด“คุณยืนอยู่หน้าประตูรถได้พักนึงแล้ว ขึ้นรถมั้ย” ไรเนอร์หยอก หลังจากที่เปิดประตูรถให้ฉัน“ขอบคุณค่ะ…โทษทีฉันเบลอไปหน่อย” ฉันตอบเบาๆ"ไม่เป็นไร คุณมีเรื่องต้องคิดเยอะ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไปล่ะ ถ้าเรื่องไหนที่มันหนักสมองนักก็ไม่ต้องไปนึกถึงมัน…” ไรเนอร์พูดพร้อมกับลูบหัวฉัน รอยยิ้มของเขาทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจ“เราจะกลับกันแล้วเหรอ?” ฉันถามด้วยน้ำเสียงเว้าวอนเพราะไม่ได้ออกมานอกบ้านมาหลายวันแล้ว“ก็…ไม่เชิง” เขาตอบขณะที่เคลื่อนรถเร็วขึ้น"เราจะไปไหนกันเหรอ?" ฉันอดซ่อน
“นาตาลี!” ฉันได้ยินไรเนอร์เรียกชื่อฉันตอนโผล่พ้นผิวน้ำแย่แล้ว ฉันแน่ใจว่าตอนนี้ฉันคงดูเหมือนลูกแมวที่กำลังจะจมน้ำสำหรับเขา“ฉัน…โอเค” ฉันตอบ ขณะที่สะบัดผมออกจากใบหน้าไรเนอร์เองก็เปียกโชกเช่นกัน แปลกตรงดูเขาไม่หงุดหงิดที่ต้องอยู่ในสถานการณ์นี้เพราะฉัน"ว่ายมาตรงนี้ จับขอบเรือไว้ ผมจะขึ้นไปก่อนแล้วจะช่วยดึงคุณขึ้น” ไรเนอร์พูดพอฉันว่ายเข้าไปใกล้ เขาใช้แขนมาโอบฉันไว้ ร่างกายของเขาอบอุ่นมากแม้น้ำจะค่อนข้างเย็น ไรเนอร์มองมาที่ฉันด้วยสายตาเป็นห่วง"คุณโอเคมั้ย?เจ็บตรงไหนรึเปล่า” เขาพูดพร้อมลูบผมฉันไปด้วย“ฉันไม่เป็นไร แล้วคุณล่ะ?" รู้ตัวอีกทีร่างกายของเราก็กำลังสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดไรเนอร์จับมือฉันเกาะกับข้างเรือ ก่อนจะดันตัวเองขึ้นไปบนเรืออย่างรวดเร็ว ว้าว! เขาแข็งแรงจริงๆ“ยื่นมือมา ผมจะดึงคุณขึ้น” เขาพูดพร้อมยื่นมือให้ฉันฉันทำตามอย่างว่าง่าย ครู่เดียวร่างกายของฉันก็ถูกดึงขึ้นไปบนเรือ“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้ เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมันตลกมาก เราทั้งคู่เปียกปอนเหมือนวัยรุ่นหนุ่มสาวที่กำลังออกเดตกัน หลังไรเนอร์ดึงฉันขึ้น ฉันก็ล้มตัวนอนทับเขา ดิ้นไปรอบๆ ขณะยังคงหัวเราะต่อไป“ข