ซาบริน่าตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ในเช้าวันถัดมา เธอเคาะที่ประตูห้องของเขา เซบาสเตียนต้องหยุดการกระทำชั่วครู่หนึ่งและมองไปที่เธอใบหน้าของเธอดูเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ในขณะที่เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา“แล็ปท็อปมีประโยชน์มากเลยค่ะ แถมเร็วสุด ๆ เลยค่ะ ซอฟต์แวร์ในนั้นมีไว้สำหรับงานออกแบบโดยเฉพาะด้วย ดีไปหมดเลยแหละค่ะ ขอบคุณนะคะ แล็ปท็อปเครื่องนี้มีประโยชน์กว่าเสื้อผ้าที่คุณซื้อให้ฉันตั้งเยอะเลยค่ะ“สิ่งที่ฉันอยากจะพูดคือ แม้ว่าคุณจะไม่ได้เซ็นสัญญากับฉัน ฉันก็ยังจะแต่งงานกับคุณนะคะ ฉันยังคงเรียกป้าเกรซว่าแม่ของฉัน และฉันจะยังอยู่เคียงข้างแม่ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอด้วยค่ะ“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่จำเป็นต้องทำตามข้อตกลงเพื่อความสุขของฉันก็ได้นะคะ“ขอบคุณอีกครั้ง ฉันต้องไปทำงานแล้วล่ะค่ะ"อ๋อใช่ ถ้างานยุ่งก็ไม่ต้องรีบไปหาป้าเกรซตอนเช้าหรอกค่ะ ฉันจะดูแลเธออย่างดีให้เอง“ไปล่ะนะคะ”เมื่อพูดจบ เธอก็หันหลังเดินจากไปเซบาสเตียนถึงกับพูดไม่ออก เขาคิดว่าเธอเย็นชาและมีระยะห่าง แก่แดด และเป็นพวกคิดไม่ตก เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะเห็นเธอในแบบของเด็กผู้หญิงที่จะสดใสขึ้นมาก หลังจากได้รับแสงสว่างไปเพี
เซลีนที่กำลังร้องไห้ที่ปลายสายกลายเป็นคร่ำครวญ “นายน้อยเซบาสเตียน ต่อไปฉันจะไม่รบกวนคุณอีก ฉันขอร้องคุณค่ะ ได้โปรดให้ฉันเก็บลูกไว้เถอะค่ะ ฉันจะหนีไปให้ไกลพร้อมกับเด็กคนนี้ในท้องของฉัน และจะไม่ไปตอแยคุณอีก ฉันจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนี้รู้ว่าคุณคือพ่อ ได้ใช่ไหมคะ? ฉันขอร้องแหละ…""เธออยู่ที่ไหน?!" เซบาสเตียนถามด้วยความตกใจด้านหลังเขา ผู้บริหารที่รอเขาเริ่มการประชุมต่างจับตามอง คิงส์ตันสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ไม่ปกติจึงตะคอกทันที “ออกไปสิ!”ผู้บริหารจากไปอย่างรู้งานคิงส์ตันมองไปที่เซบาสเตียน “นายท่านครับ เกิดอะไรขึ้น?”เขาไม่ได้หันกลับไปมองคิงส์ตัน แต่เขายังตั้งใจฟังสายโทรศัพท์อย่างระมัดระวัง สีหน้าของเขาเย็นชาและเคร่งขรึม น้ำเสียงของเซลีนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขณะที่เธอตอบว่า “ไม่ นายน้อยเซบาสเตียน อย่า…อย่ามาที่นี่นะคะ”ลินคอล์นรีบคว้าโทรศัพท์ไป “นายน้อยเซบาสเตียน ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาลฮิลไซด์ โปรดส่งคนมาช่วยผมมัดและส่งเธอเข้าไปที่ห้องผ่าตัด นายน้อย…”“ปึก” โทรศัพท์ถูกวางสายไปแล้วเซบาสเตียนวิ่งออกไปข้างนอกขณะที่เขาพูดกับคิงส์ตันที่กำลังวิ่งตามเขาอยู่ “ขึ้นรถเดี๋ยวนี้ เราจะไปโรงพยา
“คุณ… คุณหมายความแบบนั้นจริงเหรอคะ?” เซลีนมองเซบาสเตียนทั้งน้ำตา"ฉันหมายความว่าแบบนั้น"“แต่คุณไม่ได้รักฉัน คนที่คุณรักคือซาบริน่า ฉันไม่อยากจะบังคับคุณ และฉันก็ไม่ต้องการให้เด็กที่อยู่ในท้องของฉันทำแบบนั้นเช่นกัน ฉันแค่ไม่อยากทำแท้งลูกของฉัน ฉันจะไม่ตอแยให้คุณกลับมา ฉันจะไปให้ไกล” เซลีนส่ายหัวขณะที่เธอร้องไห้“ฉันบอกเธอแล้วไง ว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ เธอจะเป็นภรรยาคนเดียวของฉัน เด็กในท้องของเธอจะเป็นผู้สืบทอดในอนาคตของ ฟอร์ด กรุ๊ป” พูดแบบนั้นแล้ว เซบาสเตียนก็อุ้มเธอไปที่ห้องตรวจเซลีนพูดไม่ออก ใบหน้าของเธอยังคงเต็มไปด้วยน้ำตาอย่างไรก็ตาม ในอ้อมกอดของเซบาสเตียน เธอรู้ว่าเธอคือผู้ชนะเธอได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ข้างหลังพวกเขา ลินคอล์นและเจดสมตาอย่างรู้กันผลลัพธ์หลังจากตรวจร่างกายในแผนกนารีเวชวิทยาได้รับการเปิดเผยหลังจากนั้นไม่นาน เซลีนกำลังตั้งครรภ์จริง ๆ และท้องกว่าสิบเดือนแล้ว มันเกิดขึ้นทันทีหลังจากคืนนั้นเซบาสเตียนใช้เวลาอยู่กับเธอแพทย์แจ้งเซบาสเตียนว่าทารกในครรภ์เจริญเติบโตอย่างดี เขาเสริมว่าร่างกายของมารดาอ่อนแอเล็กน้อยและต้องการการพักผ่อนอย่างเหมาะสม เธอไม่ควรโกรธหรือเส
“เข้าใจแล้วครับ” เซบาสเตียนวางสายหลังจากพูดคำง่าย ๆ ในขณะที่สายตาอันเย็นชาของเขาไปที่ส่งไปยังเซลีน มันอุ่นขึ้นมากและเขาก็ใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนมากขึ้นเช่นกัน “เธอตั้งท้องลูกของฉัน ฉันจะปล่อยให้เธอกลับบ้านได้อย่างไร?”"ไม่ค่ะ!" เซลีนปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ไม่ค่ะ นายน้อย เรายังไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ ฉันจึงยังไม่ใช่ภรรยาของคุณ ตอนนี้ฉันรู้ว่าฉันเป็นแม่ ฉันจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกของฉัน ฉันจะไม่สร้างปัญหาให้คุณผู้ชายของฉันด้วย ฉันจะเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งขึ้นและมีหลักการ ดังนั้นก่อนที่เราจะแต่งงาน ฉันจะไม่ไปอยู่กับคุณ ไม่ต้องกังวลนะคะ อย่างไรฉันก็จะดูแลลูกของเราอย่างเหมาะสม ฉันจะทำอย่างนั้นอย่างแน่นอนค่ะ”คำพูดของเธอฟังดูแน่วแน่มากเสียจนเซบาสเตียนรู้สึกราวกับว่าเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ในฉับพลันเธอก็มีคุณธรรมประจำใจมากยิ่งขึ้นเซบาสเตียนหยุดครู่หนึ่งก่อนจะตกลง "ก็ได้"เขามองไปที่ลินคอล์นและเจดหลังจากนั้น “กรุณาดูแลเซลีนให้ดี ผมจะแต่งงานกับเธอแน่นอนหลังจากนี้หนึ่งเดือน ในอนาคตเธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวของผม เด็กที่อยู่ในท้องของเธอจะเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของฟอร์ด กรุ๊ป”ลินคอล์นม
“มันนานแล้วตั้งแต่งานเลี้ยงครั้งสุดท้าย แกตัดสินใจแล้วหรือยัง? ว่านายสนใจผู้หญิงจากตระกูลไหน?” เฮนรี่ถามหลานชายของเขาหลานชายของเขาใกล้จะสามสิบสองแล้ว ถ้าเขาเป็นคนธรรมดา ลูกของเซบาสเตียนคงไปโรงเรียนแล้ว!เซบาสเตียนเย็นชาเหมือนเดิมและไม่พูดอะไร เฮนรี่เริ่มหงุดหงิด แต่เพราะเขาค่อนข้างกลัวหลานชายคนนี้ เขาจึงไม่กล้าแสดงความโกรธออกไป เขาเพียงพูดความจริงใจว่า “ทุกวันนี้ มีครอบครัวเพียงไม่กี่ครอบครัวที่สามารถยืนหยัดเพื่อครอบครัวฟอร์ดได้ เจ้าหญิงแห่งสมิธ กรุ๊ป น้องสาวของเซย์นที่มักจะอยู่กับไนเจลเสมอ เธออายุ 22 ปี นอกจากนี้ยังมีตระกูลฮอรสท์จากคีดอน ซิตี้ แต่คนที่ปู่คิดว่าดีที่สุดคือครอบครัวชอว์…”เฮนรี่พูดเยอะมาก แต่เซบาสเตียนไม่แม้แต่จะเลิกคิ้วสงสัยแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็ไม่คัดค้านเช่นกัน เฮนรี่จึงพูดต่อ “หลานสาวของเมลานี ชอว์ นายหญิงแห่งตระกูลชอว์ เธอชื่อมินดี้นะ ปู่คิดว่าแบบนั้น? ครอบครัวแมนน์อาจไม่มีอะไรมากนักในเซ้าท์ ซิตี้ และล่มสลายไปแล้ว แต่มินดี้เติบโตขึ้นมาในตระกูลชอว์และอยู่เคียงข้างแกท่านอาวุโสชอว์มาโดยตลอด เด็กคนนั้นอาจเป็นแมนน์ แต่โดยพื้นฐานแล้วเธอคือหลานสาวของตระกูลชอว
เมื่อเซบาสเตียนจ้องมอง ซาบริน่าก็ยิ้มอย่างเขินอายรอยยิ้มของเธอช่างจริงใจ เปล่งประกายด้วยความมีชีวิตชีวาสำหรับงานวันนี้ของซาบริน่าราบรื่นมาก อาจเป็นเพราะแล็ปท็อปที่เซบาสเตียนมอบให้เธอ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเธอเพิ่มมากขึ้น เมื่อเธอส่งแบบร่างให้นักออกแบบในสำนักงาน พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงจนไม่มีคำใดออกมาจากปากเลยพวกเขาล้วนแต่คิดว่าเธอเป็นคนที่ทำงานธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นอะไร แม้กระทั่งคิดว่าเธอใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะทำงานออกมาได้อย่างมืออาชีพ มันดีมากเสียจนแม้แต่ข้อความแจ้งรายละเอียดด้านข้างก็ดูมีประโยชน์อย่างมากตั้งแต่วันนั้น นักออกแบบต่างก็ไม่กล้าที่จะมีข้อกังขาใด ๆ ต่อซาบริน่าอีกเธอออกจากที่ทำงานก่อนเวลาเลิกงาน และมุ่งหน้าไปที่ห้องผู้ป่วยของป้าเกรซ ขณะที่ทั้งคู่คุยกัน ซาบริน่าบอกเกรซว่าเซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี ตลอดสองวันที่ผ่านมาเขาไม่เพียงซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้เธอเท่านั้น แต่เขายังมอบแล็ปท็อปคุณภาพสูงอันน่าทึ่งเครื่องนี้ให้เธออีกด้วยเกรซดึงมือของซาบริน่าขณะที่เธอยิ้ม “แซบบี้ แม่บอกหนูแล้วว่าลูกชายของแม่เป็นคนดี เขาอาจจะเป็นคนพูดน้อย แต่เขา
นั่นเป็นเหตุผลที่คิงส์ตันไม่สวมถุงมือมาตลอดทั้งปี แม้ว่าในฤดูหนาวจะหนาวที่สุด เขาก็ยังคงไม่ยอมใส่อยู่ดี ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครเตรียมที่อุ่นมือเล็ก ๆ ไว้ให้เขาได้อุ่นมือเช่นนี้น้ำใจของหญิงสาวตัวน้อยคนนี้ ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นขึ้นเป็นอย่างมากเขาถึงกับเริ่มสงสัยว่าผู้หญิงแบบนี้ท้องในเรือนจำได้อย่างไร?เธอมีบาดแผลทางจิตใจที่ซ่อนไว้อยู่รึเปล่า?คิงส์ตันสาบานกับตัวเองว่าเขาจะสืบหาอย่างรวดเร็วว่าใครเป็นใคร และช่วยเธอยุติความสัมพันธ์ที่โชคร้ายนี้!เขาเปิดประตูรถอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดกับเซบาสเตียนและซาบริน่าว่า “นายน้อย นายหญิง เชิญขึ้นรถครับ”ซาบริน่าหน้าแดงและยิ้มขณะที่เธอพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”ภายในรถ เธอมองดูเซบาสเตียนเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน เนื่องจากความมีไหวพริบ ซาบริน่าจึงไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ ออกมา หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงบ้านแล้ว เธอก็ถามไปว่า “คุณหิวไหมคะ?”เซบาสเตียนมองเธออย่างลังเล “เธอทำอาหารเป็นเหรอ?”“ค่ะ ก็ถ้าขั้นตอนมันไม่ซับซ้อนเกินไป ฉันทำได้ค่ะ คุณฟอร์ด ถ้าคุณหิว ฉันทำอาหารให้คุณทานได้นะคะ” ซาบริน่าดูกระตือรือร้นมากเซบาสเตียนประหลาดใจในช่วงเวลาสั
ซาบริน่าตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเหินห่าง “เมื่อไหร่ กี่โมง?”“สี่โมงเย็น!”“ก็ได้ ฉันจะไปที่นั่นตามที่บอก” ซาบริน่าพูด “อย่ารบกวนป้าเกรซ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ใจดีด้วยแน่!”เซลีนหัวเราะอย่างดุร้าย “ฮ่า ฮ่า! ซาบริน่า ดูเหมือนแกจะคิดว่าเกรซเป็นแม่ของแกแล้วจริง ๆ สินะ อย่าลืมว่าแกเป็นแค่ตัวปลอม ส่วนฉันน่ะตัวจริง เกรซเป็นแม่ของคู่หมั้นฉัน ฉันจะทำร้ายเธอได้ยังไงกัน แกอย่ากังวลอะไรไม่เข้าเรื่องเลย?”“ก็ดี ที่เธอยังจำได้ว่าเกรซเป็นแม่สามีเธอ ฉันจะไปถึงตอนสี่โมงเย็น” ซาบริน่าวางสายหลังจากพูดแบบนั้นเมื่อเธอทำความสะอาดสำนักงานจนเรียบร้อย ขณะที่เธอกำลังมองหาที่นั่งเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน โทรศัพท์ของซาบริน่าก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอคิดว่าเป็นเซลีนที่โทรเข้ามาอีก เธอก็เริ่มหงุดหงิด อย่างไรก็ตาม เมื่อดูหมายเลขโทรศัพท์แล้ว เธอก็พบว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก เธอสงบสติอารมณ์ก่อนจะหยิบมันขึ้นมา “สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ?”“นายหญิง” เสียงของคิงส์ตันมาจากอีกด้านหนึ่งซาบริน่าหน้าแดงและน้ำเสียงก็สดใสขึ้นเช่นกัน “คิงส์ตันคะ คุณก็รู้ว่าฉันแค่แกล้งทำไปแบบนั้น คุณไม่จำเป็นต้องเรียกฉันว่านายหญิงหรอก