Share

บทที่ 14

ในบริษัทประธาน ซูหว่านเอ๋อร์พิงเก้าอี้ น้ำตาไหลด้วยความน้อยใจน้ำตาไหลจากดวงตาที่สดใส

เธอโกรธมากสำหรับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

เมื่อตะกี้นี้เธอไปที่บริษัทของเถ้าแก่จ้าว เขาขอให้ซูหว่านเอ๋อร์ไปนอนที่เลานจ์กับเขาด้วย

ไม่อย่างนั้น การลงทุนที่ตามมาของโครงการนั้นจะไม่ได้ดำเนินต่อ

ซูหว่านเอ๋อร์วิ่งออกไปจากประตู เพราะเธอจะไม่ยอมทำแบบนี้

ตลอดมา เธอพึ่งพาความสามารถของตัวเองในการสร้างอาชีพของเธอเอง

ในเวลาเดียวกัน ซูหว่านเอ๋อร์รู้สึกเสียใจที่ได้ทำผิดไป

เธอดุด่าว่าตัวเองในใจมีประสบการณ์ไม่พอ เมื่อเธอพูดคุยกับเถ้าแก่จ้าว เธอไม่ได้คิดว่าต้องทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับรายละเอียดของการร่วมธุรกิจ

ตอนนี้มีทางสองทางอยู่ข้างหน้าเธอ ไม่ว่าจะนอนกับเถ้าแก่จ้าวหรือให้บริษัทของเธอจะล้มละลายเพราะปัญหาเกี่ยวกับการลงทุนที่ขาดไปสี่สิบล้านบาท

ด้วยทางแรกเธอจะไม่เลือกแน่นอน

หรือว่าเธอแค่เฝ้าดูบริษัทที่เธอก่อสร้างมาล้มละลายไปกับตา

เมื่อซูหว่านเอ๋อร์กลั้นน้ำตาเพราะคิดหาทางออกอะไรก็ไม่ออก ประตูของสำนักงานก็ถูกเคาะและมีคนเข้ามาด้วย

ซูหว่านเอ๋อร์รีบเช็ดน้ำตาและพยายามจัดการอารมณ์ตัวเอง

เธอควบคุมอารมณ์ของเธอได้ดี หมุนเก้าอี้แล้วก็เห็นว่าคนที่เข้ามาคือหลินเซียว

ซูหว่านเอ๋อร์พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองลง แหงนหัวขึ้นมาอย่างฝืนยิ้มและถามหลินเซียว ว่า "ผู้จัดการหลินเป็นยังไงบ้าง วันนี้จะทำงานได้รึป่าว"

หลินเซียวไม่ได้พูดอะไร เขาเห็นว่ามีน้ำตาเล็กน้อยอยู่บนขนตายาวของซูหว่านเอ๋อร์ แล้วจะไปหยิบทิชชู่สักแผ่นให้ซูหว่านเอ๋อร์จากโต๊ะกาแฟ

ซูหว่านเอ๋อร์ตะลึงไปหน่อย เธอได้รับทิชชู่ มาเช็ดน้ำตาของเธออย่างเขินอาย

หลินเซียวมองซูหว่านเอ๋อร์อยู่ ยังต้องแกล้งทำเป็นคนที่แข็งแกร่งต่อหน้าพนักงาน เขารู้สึกเธอน่าสงสารมาก

เขาปลอบโยนว่า "แม้ว่าโลกนี้เหมือนจะมีความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง แต่ผู้หญิงก็ยากที่จะมีส่วนร่วมในอาชีพของพวกเธอมากกว่าผู้ชาย เพราะว่าถ้าเผชิญกับผลประโยชน์ ผู้หญิงส่วนมากจะต้องเผชิญกับกับดักของสิ่งยั่วยวน ประธานซูครับ คุณมีความบริสุทธิ์ผุดผ่อง มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะมาถึงวันนี้ได้ "

ซูหว่านเอ๋อร์เช็ดน้ำตาของตัวเองพลางกระซิบ "คุณดูเหมือนจะรู้มากเลย"

หลินเซียวส่ายหน้าแล้วว่า "ผมไม่รู้ คือผมเดา เมื่อเห็นดวงตาของคุณแดงมาก มันไม่ใช่ก็ใกล้เคียง"

ซูหว่านเอ๋อร์แหงนใบหน้าสีขาวและสวยงามของเธอ และฝืนทำหน้ายิ้มกลบเกลื่อน "พนักงานคนอื่นก็เดาออก แต่ว่าฉันเองที่เดาไม่ออก ฉันเป็นแบบนี้ เป็นประธานอะไร เปิดบริษัททำไม"

หลินเซียวตอบว่า "คุณอย่าดูถูกตัวเองจนเกินไป คุณแค่ต้องเผชิญกับผลประโยชน์อย่างมากมาย แล้วหลงทางชั่วคราว"

ซูหว่านเอ๋อร์พยักหน้าเหมือนเธอเห็นด้วย

การวิเคราะห์ของหลินเซียวนั้นเหมือนกับที่ตัวเองคิด

ต่อมาเธอก็มองหลินเซียวอยู่และพูดว่า "ทำไมคุณไม่เตือนฉันก่อนหน้านี้ล่ะ"

หลินเซียวไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะย้อนถามว่า "ทำไมผมต้องเตือนคุณล่ะ"

เขาย้อนถามฉับพลันมาก มันทำให้ซูหว่านเอ๋อร์นิ่งอึ้งไป

หลินเซียวพูดไม่ผิด ซูหว่านเอ๋อร์จ่ายเงินเดือนให้เขาเท่านั้น แต่มันไม่ใช่เงินเตือน เขาไม่มีเหตุผลที่จะเตือนเธอเอง

ซูหว่านเอ๋อร์ส่งเสียงครวญครางและถามต่อ "แล้วทำไมคุณถึมาบอกฉันอย่างนี้ล่ะ คุณกำลังจะปลอบใจฉัน"

หลินเซียวนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของซูหว่านเอ๋อร์อย่างไม่เกรงใจ และพูดกับเธอว่า "ปลอบใจคุณ เป็นแค่หนึ่งในจุดประสงค์ของผม ผมหวังมากกว่านั้นคือหุ้นส่วนของผมจะไม่ถูกหลอกลวงด้วยผลประโยชน์ ถ้าหากเจอสถานการณ์แบบนี้อีก แล้วก็เรียนรู้จากประสบการณ์นี้ด้วย "

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status