“โอเคค่ะ ถ้าอย่างงั้นเรียกเพื่อนเจ้าสาวของคุณไปดูชุดเจ้าสาวด้วยกันวันนี้เลยโอเคไหมคะ?” ชู๋ยู่หยานพูดขึ้น“แต่ตอนนี้กำลังทำงานอยู่นะคะ!” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้น“วันนี้ลาหยุดค่ะ ฉันอนุมัติเอง การเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานนั้นสำคัญที่สุด คุณต้องเตรียมตัวให้ดี พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะคะ และบริษัทจะออกเงินค่าชุดเจ้าสาวให้ด้วย ถือเป็นของขวัญอวยพรงานแต่งงานค่ะ” ชู๋ยู่หยานพูดขึ้น“ประธานชู๋ดีกับฉันจังเลยค่ะ” ซูชิงเอ๋อร์ประหลาดใจเล็กน้อย“ตอนนี้คุณเป็นถึงผู้อำนวยการโครงการของบริษัทเรานะคะ” ชู๋ยู่หยานรู้ว่าที่หลินเซียวปกปิดตัวตนมาตลอดก็เพื่อจะเซอร์ไพรส์ซูหว่านเอ๋อร์ และเธอก็จะไม่บอกความลับนี้ออกไปนอกจากซูหว่านเอ๋อร์จะประหลาดใจแล้วเธอก็ยากที่จะปฏิเสธด้วยเช่นกัน ก็เลยไปหาจางเหยากับชู๋ยู่หยานแล้วทั้งสามก็ไปเลือกชุดเจ้าสาวด้วยกันจางเหยารู้ว่ารองประธานหนานหูกรุ๊ปไม่เพียงต้องการเป็นเพื่อนเจ้าสาวของหว่านเอ๋อร์ แถมยังต้องการซื้อชุดเจ้าสาวให้เธออีกด้วย จึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกันต่อมา ชู๋ยู่หยานพาซูหว่านเอ๋อร์และจางเหยามาถึงร้านแต่งงานที่หรูหราที่สุดในเมืองหนานหูกรุ๊ปได้ซื้อชุดเจ้าสา
“ดึกดื่นขนาดนี้แล้วมีธุระอะไรเร่งด่วนเหรอคะ? หรือว่าจัดงานแต่งไม่ได้แล้ว ตอนนี้อยากจะหนี?” ซูหว่านเอ๋อร์คิดว่าหลินเซียวก็แค่พูดโอ้อวดจนตอนนี้ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงๆ ดังนั้นอยากจะใช้โอกาสนี้หนีไปสถานการณ์แบบนี้ ซูหว่านเอ๋อร์ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดมาก่อนหลินเซียวพูดขึ้นด้วยความอับอาย: “เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ เป็นเรื่องที่เร่งด่วนมากๆ คุณเชื่อใจผมนะ”“ช่างมันเถอะ คุณจะคิดยังไงก็แล้วแต่คุณเลย ถึงคุณจะออกไปหาผู้หญิง ฉันก็ขี้เกียจจะยุ่งด้วยแล้ว” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้นด้วยความเสียใจหลินเซียวนับวันยิ่งทำให้เธอผิดหวัง หลังจากงานเลี้ยงครั้งก่อน เธอคิดว่าหลินเซียวยังจะสามารถพึ่งพาอาศัยได้ แต่ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงวันแต่งงานอยู่แล้ว เขากลับจะออกไปข้างนอกทั้งที่ยังดึกดื่นขนาดนี้ ยิ่งทำให้เกิดความน่าสงสัยอย่างเลี่ยงไม่ได้“ผมเหมือนเป็นคนแบบนั้นไหม? อีกอย่าง หญิงสาวที่สวยที่สุด หุ่นดีที่สุดก็อยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมจะไปหาผู้หญิงอื่นได้ไงกัน?” หลินเซียวพูดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าซูหว่านเอ๋อร์จะเข้าใจตัวเองผิดไป“มันก็ไม่แน่ไง ใครจะไปรู้ว่าคุณอาจจะอยู่กับฉันจนเบื่อแล้วก็ได้จนอยากจะไปหาผู้หญิง
……หลังจากที่ได้เดินทางมาถึงชายแดนใต้ ทุกคนได้ทำความเคารพราชามังกรผู้ช่ำชองการสงครามด้วยความกล้าหาญผู้โด่งดังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ราชามังกรผู้เป็นตำนานเพียงหนึ่งเดียวบนสนามรบ ที่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของนักรบจำนวนมากสำหรับพวกเขาแล้ว หลินเซียวเปรียบดั่งเทพเจ้า!เพียงแค่สถานที่ที่หลินเซียวปรากฏกาย ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ทำสงครามแล้วไม่เคยชนะวังต้าไห่ ผู้บังคับบัญชาสงครามชายแดนทางใต้รู้ว่าราชามังกรมากำกับดูแลการทำสงครามด้วยตนเองจึงออกมาต้อนรับในทันทีการที่ราชามังกรเดินทางมาที่นี่เพียงพอที่จะอธิบายได้ว่าเขาให้ความสำคัญกับการทำสงครามมากขนาดไหนหลังจากมองเห็นหลินเซียวก็เกิดความนับถือมากยิ่งขึ้นจึงทำวันทยหัตถ์ทำความเคารพแล้วพูดขึ้นว่า: “วังต้าไห่คารวะราชามังกรครับ! ยินดีต้อนรับตรวจการณ์ชายแดนใต้“ครั้งนี้ฉันไม่ได้มาตรวจการณ์ ฉันต้องการใช้ห้องบัญชาการของคุณมากำกับดูแลและสั่งการการรบแนวหน้า!” ตอนนี้สถานการณ์แนวหน้าค่อนข้างตึงเครียด หลินเซียวไม่อยากเสียเวลาจึงบอกเป้าหมายการเดินทางมาครั้งนี้“เชิญราชามังกรตามผมมาได้เลยครับ” วังต้าไห่ก็รู้ว่าชายแดนใต้เปิดฉากการสู้รบขึ้นแล้ว จึงได้รีบพา
ขบวนรถหรูของตระกูลเฉียน ตระกูลซุน ตระกูลโจว ตระกูลลู่ และตระกูลจู ตระกูลใหญ่ของอาณาจักรได้เคลื่อนขบวนออกเดินทางเข้าสู่เมืองหนานหู มุ่งตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลซูอย่างยิ่งใหญ่คุณชายเฉียนว่านชิงของตระกูลเฉียน คุณชายซุนเฟิงของตระกูลซุน คุณชายโจวเจิ้งคุนของตระกูลโจว คุณชายลู่หงของตระกูลลู่ และคุณชายจูจื่อซวน ทั้งห้าคนนี้ต่างสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์อย่างเต็มยศ เป็นผู้นำขบวนรถหรูของตนเองรถซูเปอร์คาร์ป้ายทะเบียนอาณาจักรกว่านับร้อยนับพันคันวิ่งแล่นอยู่บนถนนของเมืองหนานหูราวกับมังกรที่กำลังเหาะอย่างรวดเร็วเกินต้าน ไม่มีใครที่ไม่เหลียวมองคนที่มีหน้ามีตาที่สุดขอบอาณาจักรต่างออกเดินทางมายังเมืองหนานหูตั้งแต่เช้า พวกเขามีจุดมุ่งหมายเดียวกันนั่นก็เพื่อมาร่วมงานมงคลสมรสของราชามังกรและคุณหนูใหญ่ของตระกูลซูซูหว่านเอ๋อร์ตื่นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด อย่างแรกคือเพื่องานแต่ง อย่างที่สองคือเพราะการหายไปของหลินเซียว ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้น เมื่อคืนเธอแทบจะไม่ได้นอนเลยแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน แต่ซูหว่านเอ๋อร์ก็ชินกับการที่มีหลินเซียวอยู่ข้างกายตลอดเวลาสองวันมานี้ไม่มีหลินเซียวอยู่เคี
เวลานี้รถออฟโรดกันกระสุนที่ดัดแปลงใหม่ทั้งหมดจำนวนสามคันกำลังแล่นอยู่บนเส้นทางที่กลับไปยังเมืองหนานหูอย่างรวดเร็วหลินเซียวและเหลิ่งซวงนั่งอยู่บนรถคันกลางรถคันหน้าและรถคันหลังมีลูกน้องจากตำหนักมังกรนั่งมาด้วยเวลานี้เอง โทรศัพท์ของเหลิ่งซวงก็ดังขึ้น สายโทรเข้าของวังยุ๋นหง ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เหลิ่งซวงมอบหมายหน้าที่เรื่องงานแต่งงาน“เตรียมการเป็นไงบ้างแล้ว?” เหลิ่งซวงถามขึ้น“รายงานครับ ท่านนายพลเหลิ่ง ขบวนรถหรูของตระกูลใหญ่หลายตระกูลของอาณาจักรได้เข้ามาถึงเมืองหนานหูแล้ว และทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็รอแค่คำสั่งของท่านแล้วครับ!” หวังยุ๋นหงพูดขึ้น“ยังไม่ต้องรีบ ให้พวกเขารอไปก่อนสักครู่ ฉันกับราชามังกรกำลังเดินทางกลับไปยังเมืองหนานหู เดี๋ยวพวกเราเคลื่อนขบวนขันหมากไปสู่ขอเจ้าสาวที่ตระกูลซูด้วยกัน” เหลิ่งซวงออกคำสั่ง“เข้าใจแล้วครับ” หวังยู๋นกงพูดขึ้น“ชุดสูทเจ้าบ่าวและแหวนเพชรไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” เหลิ่งซวงถามขึ้นอีกหนึ่งประโยค“วางใจเถอะครับ เตรียมไว้พร้อมตั้งนานแล้วครับ” หวังยุ๋นหงตอบขึ้น“งั้นแค่นี้ก่อน ส่วนเรื่องที่เหลือ พวกเราเจอหน้ากันแล้วค่อยคุย” เห
วังต้าไห่ได้ยินเสียงกระสุนปืนใหญ่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนรู้สึกตื่นเต้นเป็นกังวล สถานการณ์รุนแรงกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีก ตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่สั่งการให้ทัพหน้าเร่งไปสนับสนุนให้เร็วขึ้นอีกเห็นได้ชัดเจนมากว่าข้าศึกวางแผนมาอย่างรอบคอบขบวนรถของหลินเซียวไม่มีโอกาสได้หายใจเลย ลูกกระสุนปืนใหญ่ลูกที่สามถูกยิงออกมาแล้วดูเหมือนว่าครั้งนี้ข้าศึกจะทำการคำนวณมาอย่างละเอียด คิดอยากจะยิงให้โดนรถที่หลินเซียวนั่งอยู่พอดีหลินเซียวเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของอาณาจักรพยัคฆ์ เป้าหมายของพวกเขาก็คือการกำจัดหลินเซียวทิ้งซะส่วนรถอีกสองคันที่เหลือ สำหรับพวกเขาแล้วไม่ได้สำคัญพลขับได้ยินเสียงของกระสุนปืนใหญ่ เขาทำการตอบสนองได้ในทันทีแต่ตอนนี้ความเร็วของรถเร็วจนเกินไป หากต้องเบรก รถก็แทบจะต้องเสียการควบคุมแต่ลูกกระสุนปืนใหญ่ลูกนั้น ก็ตกลงมาระเบิดต่อหน้าของรถในระยะประชิด“ปัง!คลื่นอากาศขนาดมหึมาส่งรถของหลินเซียวพลิกคว่ำหลินเซียวทำการตอบสนองออกมาในทันที เขาถีบประตูรถลอยกระเด็นในการถีบครั้งเดียว และตะโกนเสียงดังขึ้นว่า: “รีบลงจากรถเร็ว!”พอสิ้นเสียง เขาก็ได้กระโดดออกมาแล้วเขารู้ดีว่าเป้า
“ตุบ!”เสียงหนึ่งที่หนักอึ้งก็ได้ดังขึ้น ตามด้วยเลือดที่พุ่งกระเซ็น ใบหน้าของลูกน้องคนหนึ่งเปื้อนไปด้วยเลือดสด แต่เขากลับยังคงมีชีวิตอยู่!“ราชามังกร! ท่าน…..” ลูกน้องที่ต้องการจะรับกระสุนแทนหลินเซียวชื่อว่าโหลวเหิง สีหน้าของเขานิ่งไป ภาพตรงหน้าของเขาทำให้เขาตื่นตระหนกเป็นอย่างมากแขนขวาของหลินเซียว มีเลือดไหลออกจากรูกระสุนอย่างฉับพลัน!เหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลินเซียวยื่นแขนขวาออกไปบังกระสุนที่พุ่งเข้ามาตรงหน้าของโหลวเหิงหลินเซียวช่วยลูกน้องบังกระสุนลูกนี้เอาไว้!ในตอนที่ลูกกระสุนยิงโดนหลินเซียว เลือดสดก็กระเซ็นไปโดนหน้าของโหลวเหิงสำหรับหลินเซียวแล้ว ทหารทุกนายเป็นดั่งญาติพี่น้องของเขา เขาไม่อาจเห็นโหลวเหิงตายเพราะรับลูกกระสุนแทนตัวเองไปต่อหน้าต่อตาได้!ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้เป็นวันที่พิเศษ เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นกับใครสักคนเดียวทั้งนั้น!โหลวเหิงเห็นราชามังกรแห่งตำหนักราชามังกรช่วยตัวเองรับกระสุนเอาไว้ก็ตะลึงไปในทันทีเดิมทีเขาเตรียมตัวสละชีพไว้แล้วเพื่อคุ้มกันราชามังกร ทำไมตอนนี้กลับเป็นราชามังกรต้องมาปกป้องตัวเอง?เหลิ่งซวงและคนอื่นๆ เห็นหลิ
“งั้นก็ได้ค่ะ ยังไงซะพวกเราก็เตรียมตัวเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็แค่รอให้หลินเซียวปรากฏตัวเท่านั้น พวกเราก็ไปรอเขาที่คฤหาสน์ตระกูลซูตามที่นัดกันไว้เลยแล้วกัน……เมื่อมาถึงคฤหาสน์ตระกูลซู คฤหาสน์ได้เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากแล้ว ญาติพี่น้องตระกูลซูทุกคนต่างเดินทางมาที่คฤหาสน์หลังนี้ทุกคนญาติพี่น้องตระกูลพวกนั้นเห็นว่าชู๋ยู่หยานรองประธานหนานหูกรุ๊ปมาเยือนก็ต่างสั่นสะเทือนกันเลื่อนลั่น“ประธานชู๋ การมาเยือนของท่านเป็นสิริมงคลแก่ตระกูลซูของผมมากจริงๆครับ! ยินดีต้อนรับครับ รีบเข้ามานั่งก่อนครับ! ท่านมาเยือนตระกูลซูของเรา เราทุกคนต่างยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งครับ!” ซูเฉิงเหรินผู้เป็นพ่อของซูชิงเอ๋อร์กล่าวขึ้นอย่างนอบน้อม“ประธานชู๋ใส่ชุดเพื่อนเจ้าสาวเพื่อเตรียมเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับซูชิงเอ๋อร์ของฉันใช่ไหมคะ?” แม่ของซูชิงเอ๋อร์พูดขึ้นด้วยการยิ้มจนหน้าบาน“วันนี้ฉันมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับคุณหนูใหญ่ของตระกูลซูค่ะ” ชู๋ยู่หยานพูดขึ้นรอยยิ้มของแม่ของซูชิงเอ๋อร์เปลี่ยนไปจนแข็งกระด้าง เธอก็สังเกตเห็นซูหว่านเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างๆ และก็ได้สวมชุดเจ้าสาวอันขาวสะอาดซูหว่านเอ๋อร์ที่สวมชุดเจ้าสาวสุดหรูหราช่า