“รับทราบค่ะ! ราชามังกร!” เหล่าหน่วยรบพิเศษหญิงตอบขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันหลินเซียวเปรียบดั่งเทพเจ้าสำหรับพวกเขา“เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด พวกเธอแต่งตัวเสร็จแล้วให้เดินทางไปรวมกับขบวนขันหมากที่เมืองหนานหูทันทีเลยนะ” หลินเซียวพูดขึ้นอีกครั้ง“รับทราบค่ะ!” เหล่าหน่วยรบพิเศษหญิงตอบขึ้นอย่างเข้มแข็ง การที่ได้เป็นองครักษ์ข้างกายของคุณนายราชามังกร สำหรับพวกเธอแล้วเป็นเกียรติยศที่ไม่อาจหาสิ่งใดเปรียบได้“พวกเธอ พกปืนสั้นไว้ที่ต้นขาใต้ชุดเพื่อนเจ้าสาวให้หมด หากถูกลอบโจมตี ให้ใช้ปืนตอบโต้กลับในทันที!” หลินเซียวสั่งการขึ้น“รับทราบค่ะ!” เราหน่วยรบหญิงตอนนี้รู้สึกว่าเป็นเกียรติอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เพราะราชามังกรที่พวกเธอศรัทธามาสั่งการพวกเธอด้วยตนเอง นี่เป็นเรื่องที่ พวกเธอถวิลหาเมื่อสั่งการเหล่าหน่วยรบพิเศษหญิงเสร็จแล้ว หลินเซียวก็หันไปพูดกับวังต้าไห่ที่อยู่ข้างๆ : “ผมไม่สามารถไปรวมกับขบวนขันหมากในทันทีได้ บอกลูกน้องของคุณว่าให้เอาชุดและแหวนแต่งงานของผมไปส่งให้ผมต่อหน้า”“รับทราบครับ!” วังต้าไห่ตอบขึ้น“อีกอย่างให้เตรียมชุดเจ้าบ่าวและชุดเจ้าสาวให้เรียบร้อยและจำเป็นต้องนำของสิ่งนี้ทั้งหมด
โหลวเหิงน้ำตาไหล และตื้นตันใจเป็นที่สุด“เหลิ่งซวง ปูนบำเหน็จให้เขา” หลินเซียวพูดขึ้นกับเหลิ่งซวง“ค่ะ” เหลิ่งซวงพยักหน้าตอบโหลวเหิงพูดขึ้นด้วยความตะลึง: “ราชามังกรครับ ผมยังไม่ได้ทำความดีความชอบอะไรเลยนะครับ ท่านไม่สั่งลงโทษผม ผมก็ดีใจจนคาดไม่ถึงแล้วครับ”“นายใช้เลือดเนื้อและกายใจรับคมกระสุนแทนผมโดยที่ไม่สนใจสิ่งใดเลย ความจงรักภักดีนี้ฟ้าดินเป็นประจักษ์พยาน นายควรได้รับการปูนบำเหน็จนี้” หลินเซียวพูดขึ้นโหลวเหิง ได้ฟังก็รู้สึกทั้งตื่นเต้นและตื้นตันใจ ไม่แปลกเลยที่มีคนจำนวนมากขนาดนั้นติดตามราชามังกรเวลานี้เราทหารที่ออกไปปูพรมค้นหาข้าศึกก็กลับมาถึง ข้าศึกที่หลบซุ่มถูกสังหารตายจนหมดไม่เหลือซากแม้แต่คนเดียวหลินเซียว เหลิ่งซวง วังต้าไห่และคนอื่นๆ กลับไปยังชายแดนใต้ก่อนส่วนหน่วยรบพิเศษหญิงที่ต้องไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวรอคำสั่งอยู่กับที่ก่อนจากนั้นให้รอคนที่หวังยุ๋นหงส์ส่งมาหน่วยรบพิเศษหญิงเหล่านี้ มีความคล่องแคล่วไวมาก ไม่นานก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยกันแล้ว ก่อนจะเดินทางไปยังเมืองหนานหูเพื่อไปรวมกับขบวนรถขันหมากอันหรูหราหวังยุ๋นหงก็ไม่ได้ว่างเลย จากนั้นก็รีบกลับมาชายแดนใต้ในทันท
หลังผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลังจากคนของตระกูลซูยุ่งเรื่องจัดงานกันเสร็จแล้ว ก็ได้หันมาสนใจซูหว่านเอ๋อร์“หว่านเอ่อร์ สามีเศษสวะของเธออยู่ที่ไหนล่ะ? ตอนนี้ยังไม่โผล่หัวมาอีกเหรอ?”“ฉันคิดว่าเธอรีบยกเลิกงานแต่งงานไปซะเถอะนะ ไอ้เศษสวะหลินเซียวนั้นชอบพูดคุยโวไปทั่ว มันจะต้องไม่มีทางจัดงานแต่งได้แน่ๆ ตอนนี้น่าจะไปหลบหัวอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้วล่ะ”“ไอ้เศษสวะนั่นก็แค่อยากแข่งกับคุณชายหวังงั้นเหรอ? ช่างหน้าไม่อายจริงๆ”“น่าเสียดายจริงๆ ทำไมไอ้เศษสวะหลินเซียวนั่นถึงได้แต่งงานกับเมียที่สวยแบบนี้อย่างซูหว่านเอ๋อร์ได้ล่ะ?”คนของตระกูลซู และเหล่าญาติๆ บางคนก็ได้พูดเย้ยหยันซูหว่านเอ๋อร์รู้สึกว่าหน้าเล็กๆ ของตัวเองเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา เธอแทบอยากจะออกไปจากที่นี่เร็วๆแต่เธอยังจำภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวานได้เป็นอย่างดี พวกของเหลิ่งซวงทำวันทยหัตถ์ให้กับหลินเซียวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมเธอเลือกที่จะเชื่อใจหลินเซียว เขาจะต้องมีเรื่องที่ฉุกเฉินมากแน่ๆ ถึงได้มาช้าแบบนี้“หว่านเอ๋อร์ เธอขายขี้หน้าคนเดียวก็พอแล้ว อย่าให้ประธานชู๋ของหนานหูกรุ๊ปต้องขายขี้หน้าไปด้วยเลย”“ดูเพื่อนร่วมชั้นพวกนี้ของเธอสิ ไม่รู้สึกว
“เธอน่าจะถูกหลินเซียวมันวางยาแล้วจริงๆสินะ ไอ้เศษสวะนั่นยังมีหน้ากลับมาอีกเหรอ? ดูขบวนขันหมากของคุณชายหวังสิว่าอลังการขนาดไหน มีคนให้เกียรติมาร่วมงานของเขามากขนาด ส่วนไอ้เศษสวะหลินเซียวนั่น อย่าคิดว่าจะมีขบวนรถขันหมากร้อยคันเลย ฉันว่าแม้แต่รถคันเดียวมันก็ยืมมาไม่ได้! เธอจะต้องหย่ากับมันเดี๋ยวนี้!” ท่านย่าซูพูดบังคับอย่างปฏิเสธไม่ได้“หนูเชื่อใจเขา เขาจะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้แน่” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้น“เรื่องนี้แกไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ เลือกเอาว่าจะหย่ากับมันหรือจะไสหัวออกไปจากตระกูลซูตั้งแต่วันนี้ นับตั้งแต่นี้ไปเธอไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลซูแล้ว ฉันก็จะไม่นับเธอเป็นหลานสาวอีกด้วย! เธอได้ตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการของหนานหูกรุ๊ปแล้วกลับไม่ยอมช่วยเหลือตระกูลซู แล้วฉันจะต้องเก็บเธอไว้ทำไมกัน?” ท่านย่าซูเห็นท่าทางของซูหว่านเอ๋อร์แข็งกระด้างก็โมโหจนถึงขีดสุดขึ้นมาในทันทีได้ยินที่ท่านย่าซูพูดแล้ว ทุกคนต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก พวกเธอคิดไม่ถึงว่าท่านย่าซูจะไม่เหลือเยื่อใยให้กับหลานสาวของตัวเองแม้แต่นิดเดียวหยางฮุยฟางเห็นซูหว่านเอ๋อร์จะถูกท่านย่าซูไล่ออกจากตระกูลซูก็ลนลานขึ้นมาในทัน
ซูหว่านเอ๋อร์ ชู๋ยู่หยาน จางเหยา และเหล่าลูกคนรวยเมื่อเห็นขบวนรถอันยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ต่างก็ตกตะลึงคนที่อยู่ในคฤหาสน์ตระกูลซูและเหล่าญาติพี่น้อง รวมไปถึงหวังเทียนเฟิงและซูชิงเอ๋อร์ได้ยินเสียงดังกึกก้องที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรแว่วมาจากทางด้านนอกคฤหาสน์ต่างก็วิ่งออกมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเมื่อทุกคนได้เห็นรถหุ้มเกาะสิบคันต่างก็งงตะลึงจนนิ่งไป“โอ้โห! นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น! รถหุ้มเกาะมาได้ไงเนี่ย!”“ได้ยินว่าเกิดการสู้รบฉุกเฉินขึ้นที่ชายแดนใต้ รถหุ้มเกาะพวกนี้น่าจะกำลังมุ่งหน้าไปที่ชายแดนใต้แน่ๆ!”“ดูแล้วคิดว่าไม่เหมือนนะ แต่รถพวกนี้เหมือนจะมุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ตระกูลซูมากกว่า!”“คุณดูด้านหลังของรถหุ้มเกาะสิ รถพวกนั้นต่างแขวนผ้าสีแดงด้วย ด้านหน้ายังประดับด้วยดอกไม้สดอีกต่างหาก นี่มันขบวนรถขันหมากชัดๆ!“วันนี้ตระกูลซูยังมีคนแต่งงานอีกเหรอ”ทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และต่างไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นคนรับใช้ประคองท่านย่าซูเดินออกมาก็เห็นภาพยิ่งใหญ่อลังการเช่นนี้ เธอก็รู้สึกตกใจกลัว รถหุ้มเกาะขับมาที่ตระกูลซูทำไมกัน? ตระกูลซูไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ!เมื่อขบวนรถแล่นเข้ามาใกล้เรื
“พวกเขาสามารถเชิญรถสปอร์ตได้สักสิบคันก็ถือว่าเก่งมากแล้ว แต่เธอดูขบวนรถของพวกเขาสิ ขบวนรถยาวจนมองไม่เห็นท้ายขบวนเลยนะเนี่ย มันต้องมีอย่างน้อยสักพันคันล่ะ!“ถึงแม้ว่าตระกูลหวังจะร่ำรวยจริง แต่ว่าจะอธิบายเรื่องรถหุ้มเกาะยังไงล่ะ? ตระกูลหวังมีอำนาจยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?”เสียงกระซิบวิพากษ์วิจารณ์แว่วไปเข้าหูของซูชิงเอ๋อร์ เธอพูดกับหวังเทียนเฟิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นว่า: “เทียนเฟิง คุณบอกคนพวกนี้ไปสิว่าคุณเป็นคนจัดเตรียมขบวนรถหรูพวกนี้?“ชิงเอ๋อร์ คุณอย่าคิดเพ้อฝันจะได้ไหม? ตระกูลหวังไม่ได้เชิญรถหรูพวกนี้มา” หวังเทียนเฟิงพูดขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก“เป็นไปได้หรือเปล่าว่าเพื่อนของคุณมาช่วยเชิดหน้าชูตาให้คุณ?” ซูชิงเอ๋อร์ยังคงตกเพ้อฝัน“คุณคิดว่าผมจะรู้จักคนระดับนี้ได้เหรอ?” หวังเทียนเฟิงพูดขึ้น“หรือว่าจะเป็นคุณชายจากเมืองหลวงชอบฉันเข้าแล้ว?” ซูชิงเอ๋อร์ยิ่งคิดยิ่งออกทะเลทุกคนเห็นท่าทางเข้าข้างตัวเองของซูชิงเอ๋อร์ ก็อยากจะด่าเธอให้ตื่นจากฝันสักทีขบวนรถได้มาหยุดยังที่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลซู มีเพื่อนเจ้าสาวที่สวมชุดสีขาว และแต่งหน้ามาอย่างประณีตสิบกว่าคนทยอยลงมาจากรถเหล่าเพื่อนเจ้า
“แล้วขบวนขันหมากด้านหลังล่ะ? ก็เป็นความคิดของหลินเซียวด้วยใช่ไหม?” ซูหว่านเอ๋อร์ถามขึ้นอีกครั้ง“ใช่ค่ะ” ค่งเสวี่ยยวี่พยักหน้าผ่านการยืนยันไปหลายครั้ง นัยน์ตาของทุกคนก็สั่นสะท้านอีกครั้งในใจของซูหว่านเอ๋อร์ตอนนี้สับสนเป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าหลินเซียวผู้เป็นสามีของตนจะยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ ไม่เพียงสามารถเรียกรถหรูระดับโลกกว่าพันคันมาได้ แต่ยังให้รถหุ้มเกราะมาอารักขาความปลอดภัยให้เธออีกด้วย!ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเหมือนเรื่องภาพลวงตา!ถ้าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริง งั้นทำไมเขาต้องปกปิดตัวตน และทำไมเขาต้องยอมให้คนอื่นมาเยาะเย้ยด้วย?ตอนนี้ชู๋ยู่หยานก็ตกตะลึงมากเช่นกัน แม้ว่าเธอจะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของหลินเซียวจะไม่ธรรมตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าตัวตนของหลินเซียวจะยิ่งใหญ่ปานนี้การจัดงานแต่งงานที่สามารถสั่นสะเทือนไปทั้งเมืองหนานหู เบื้องหลังของผู้ชายคนนี้ยังมีความลับที่คนไม่รู้อีกตั้งเท่าไหร่?เพื่อนร่วมชั้นของจาวเหยาและซูหว่านเอ๋อร์ก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน ใครจะคาดคิดว่าสามีของซูหว่านเอ๋อร์จะมีเบื้องหลังแบบนี้ ก่อนหน้านี้พวกเขายังถูกตระกูลซูหัวเราะเยาะอยู่เลย ในที่สุดตอนนี้ก็เชิด
“คุณหนูซูคะ นอกจากคุณหลินแล้ว ยังมีใครที่คู่ควรเป็นสามีของคุณอีกล่ะคะ?” ค่งเสวี่ยยวี่พูดตอบ“งั้นทำไมถึงได้นานขนาดนี้ล่ะ แล้วเขายังไม่ถึงอีกหรอ?” ซูหว่านเอ๋อร์ถามขึ้นอีกหลินเซียวไม่ปรากฏกายมาหนึ่งนาทีแล้ว เธอก็ไม่มีทางเชื่อเลยว่าเขาเป็นคนเตรียมการขบวนขันหมากใหญ่ขนาดนี้ได้“เพราะว่าคุณหลินมีเรื่องที่ทำให้เสียเวลานิดหน่อยค่ะ แต่เขาจะต้องมาอย่างแน่นอนค่ะ” ค่งเสวี่ยยวี่ไม่กล้าบอกเรื่องที่หลินเซียวถูกลอบโจมตีก็เลยหาเหตุผลแก้ตัวไปก่อนการปรากฏขึ้นของขบวนรถหรูทำให้ด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลซูครึกครื้นเป็นพิเศษ เสียงสนทนาของทั้งสองคนไม่ได้ดังมากจึงทำให้คนที่อยู่รอบๆ ไม่ได้ยิน“พวกเธอคงเชื่อจริงๆ สินะว่าไอ้เศษสวะหลินเซียวนั่นจะเตรียมขบวนขันหมากได้ใหญ่ขนาดนี้? มันจะต้องไม่ใช่เจ้าบ่าวแน่ๆ!” ซูชิงเอ๋อร์เห็นหลินเซียวไม่มาสักทีก็มีทีท่าดีใจเป็นที่สุดตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เธอไม่เชื่อเลยว่าไอ้เศษสวะหลินเซียวนั่นจะเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี้ก็แม้แต่คนของตระกูลซูเองก็ถอนลมหายใจยาว ก่อนหน้านี้พวกเขาเยาะเย้ยหลินเซียวไว้เยอะจริงๆ หากหลินเซียวมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ปานนี้จริง พวกเขาจึงเป็นกังวลว่าจะถูกหลินเซีย