เมื่อนักปราชญ์ด้านฮวงจุ้ยสิ้นชีพอย่างน่าสลดใจในชั่วข้ามคืน นางได้เกิดใหม่ในฐานะพระชายาแห่งตำหนักอ๋อง นางผู้โง่เขลา น่าเกลียด และถูกกดดันให้ฆ่าตัวตายด้วยความอัปยศอดสู! นางโดนคนทั้งโลกดูถูก เยาะเย้ย สามีของก็นางเองเช่นกัน แม้แต่น้องสาวที่แสนดีของนาง ก็ยังวางแผนต่อต้านนาง ทำให้นางต่ำต้อยยิ่งกว่าสัตว์ น่าขันยิ่งนัก! ท่านซินแสผู้สง่างามอย่างนาง ซึ่งเป็นที่เคารพของผู้คนนับพัน ยังต้องมาอดทนกับการกลั่นแกล้งเช่นนี้? การอ่านโหงวเฮ้ง การทำนายดวงชะตา และการดูฮวงจุ้ย เข็มทิศอาณัติแแห่งสวรรค์ของบรรพบุรุษจะทำนายทุกสรรพสิ่งเบื้องล่างนี้ นางเก่งกาจทั้งเรื่องยารักษาโรค ทั้งยาพิษ และยังมีมือแห่งภูตผีที่สามารถรักษาคนตาย และทำให้พวกเขาฟื้นคืนชีพได้ เมื่อความงามของนางเปลี่ยนไป และนางก็มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ดึงดูดท่านอ๋องและขุนนางนับไม่ถ้วน หากท่านอ๋องผู้นี้จะไม่รักนางก็ไม่เป็นไร เพราะนางมีผู้ชายดี ๆ ให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วน นางยกมืออย่างสง่างาม “จดหมายหย่าเพคะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านกับข้าจะไม่เกี่ยวข้องกันอีก” ท่านอ๋องรีบตอบกลับทันที "ข้าเพิ่งทำนายดวงชะตา ดาวหกแฉกบ่งบอกว่า เรามิควรแยกจากกัน" “เพราะเหตุใด?” “เพราะชีวิตของตัวข้าผู้เป็นอ๋องมิอาจขาดเจ้าได้”
View More“บ่าวพยายามหยุดนางแล้ว แต่บ่าวมิสามารถเอาชนะพระชายาได้”“หลังจากนั้น คุณหนูลั่วก็เริ่มอาเจียนเป็นเลือด”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของลั่วชิงยวนก็มืดลงจือเฉาตกใจและคว้าคอเสื้อของซูฉิง “นั่นมิใช่สิ่งที่เจ้าพูดตอนที่เจ้ามาขอให้พระชายาช่วยคุณหนูรองลั่วเมื่อครู่นี่! พระชายามิเคยบาดหมางกับเจ้า ไฉนเจ้าจึงโกหกและใส่ร้ายนาง!”ซูฉิงส่ายหน้าด้วยความกลัว สะอื้นเบา ๆ และไม่โต้ตอบหมอกู้มองไปที่ลั่วชิงยวน “พระชายา ท่านจะว่าอย่างไรอีก?”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วมองดูหมอกู้ด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนริมฝีปาก “ท่านนี่รอที่จะฆ่าข้าแทบมิไหวจริง ๆ กระมัง”“ท่านคิดจะฆ่าข้าด้วยการใส่ร้ายข้าเช่นนี้รึ?”การแสดงออกของหมอกู้ยังคงมิเปลี่ยนแปลงและเขาพูดอย่างเย็นชา “ข้ามิเข้าใจว่าพระชายากำลังพูดเรื่องอะไร”“พระชายา โปรดออกจากห้องไปก่อน ข้าต้องการรักษาอาการบาดเจ็บของคุณหนูรองลั่ว”ฟู่เฉินหวนเหลือบมองไปยังลั่วเยวี่ยอิงบนเตียง ร่างนางเต็มไปด้วยเลือดและดูอาการหนักมาก “นางจะเป็นอะไรหรือไม่?”หมอกู้ตอบอย่างนอบน้อม “ทรงอย่าได้กังวลพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง กระหม่อมจะช่วยคุณหนูรองลั่วเอง แม้กระหม่อมจะต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็
“ไฉนเจ้าจึงตื่นตระหนกเพียงนี้?” จือเฉาหยุดอีกฝ่ายไว้ที่ประตูนางรับใช้ยืนอยู่ที่ประตู คุกเข่าให้ลั่วชิงยวนที่อยู่ในห้อง “พระชายา! คุณหนูรองลั่วอาเจียนออกมาเป็นเลือด อาการของนางร้ายแรงมาก นางกำลังจะตาย บ่าวขอร้องพระชายาช่วยไปดูอาการนางทีเถิดเจ้าค่ะ!”ดวงตาของลั่วชิงยวนเย็นชา เอ่ยปากเสียงเรียบเฉย “เจ้ามาหาผิดคนกระมัง?”นางรับใช้อ้อนวอนอย่างหนักว่า “หมอกู้มิอยู่ในตำหนัก ส่วนท่านอ๋องก็มิได้ประทับอยู่ด้วย ท่านอ๋องทรงมอบหมายให้บ่าวดูแลคุณหนูรอง หากเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูรอง ท่านอ๋องต้องฆ่าบ่าวเป็นแน่เจ้าค่ะ!”“ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ พระชายา ได้โปรดช่วยบ่าวด้วยเถิดนะเจ้าคะ!”นางรับใช้ยังคงคุกเข่าและตื่นตระหนกอย่างยิ่งลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วลุกขึ้นยืน “ไป ข้าจะไปดูกับเจ้า”“ขอบพระคุณเจ้าค่ะพระชายา! ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”นางรับใช้ที่ศีรษะท่วมไปด้วยเลือดรีบลุกขึ้นนำทางไปเมื่อนางมาถึงห้อง ลั่วเยวี่ยอิงก็กำลังอาเจียนเป็นเลือดอยู่บนเตียงจริง ๆ อาภรณ์และเครื่องนอนของนางเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉานลั่วเยวี่ยอิงได้รับบาดเจ็บจากคมมีด บาดแผลไม่ลึกและไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทว่าเหตุใดนางจ
“หากกระหม่อมมิใช่หมอกู้ แล้วกระหม่อมเป็นใคร?”รอยยิ้มและน้ำเสียงนั้นเหมือนกับหมอกู้ทุกประการ!คำพูดถัดไปของหมอกู้ทำให้ฟู่อวิ๋นโจวตกใจมากยิ่งขึ้น “กระหม่อมเคยบอกอย่างชัดเจนว่าหากลั่วชิงยวนล่วงรู้ถึงแผนการของท่าน ให้ทำตามแผนของกระหม่อม ฆ่าลั่วชิงยวนเสีย”“เหตุใดตอนนั้นท่านจึงอยากทำร้ายกระหม่อม? กระหม่อมอยู่กับท่านมานาน เทียบกับความผูกพันเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างท่านกับลั่วชิงยวนมิได้หรือ!”หมอกู้มองไปที่ฟู่อวิ๋นโจวด้วยสายตาอันเฉียบคม ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว ตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการตำหนิและความเกลียดชังม่านตาของฟู่อวิ๋นโจวหรี่ลง ในขณะนั้นกระดูกสันหลังเสียววาบ เขารู้ทุกเรื่องชัดเจน!มีเพียงเขาและหมอกู้เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ เขาคือหมอกู้จริง ๆ หรือ?ไม่! เป็นไปไม่ได้!ฟู่อวิ๋นโจวหันหลังกลับแล้ววิ่งออกจากห้อง…… กลางดึก เมื่อลั่วชิงยวนกลับมาที่ห้องและกำลังจะพักผ่อน จือเฉาก็รีบมารายงานทันที “พระชายา องค์ชายห้าเสด็จมาเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อย “ดึกเพียงนี้แล้ว ให้องค์ชายห้ากลับไปเถอะ ไปเสีย”จือเฉาดูเคร่งขรึมและพูดว่า “แต่องค์ชายห้า… ดูมิค่อยดีนักเจ้าค่ะ”“ดูมิดี
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ไม่อาจฟังได้อีกต่อไปนางกัดฟันด้วยความโกรธ หันหลังและจากไปนางรู้ชัดเจนว่าฟู่เฉินหวนมีความสามารถมาก แต่เมื่อนางได้ยินกับหูของตัวเองว่าเขาเพียงหลอกใช้นางเท่านั้น นางกลับแอบรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยลั่วชิงยวนกำหมัดแน่น รีบวิ่งกลับเรือนไปอย่างรวดเร็วภายในห้อง ฟู่เฉินหวนและลั่วเยวี่ยอิงมิได้รู้ตัวเลยว่าลั่วชิงยวนอยู่ในบริเวณนี้ฟู่เฉินหวนกล่าวอีกครั้ง “เยวี่ยอิง ก่อนหน้านี้ข้ามีบางอย่างที่ต้องตรวจสอบ เจ้าช่วยนำถุงหอมของเจ้ามาให้ข้าดูอีกครั้งได้หรือไม่?”ลั่วเยวี่ยอิงสะดุ้งไป จากนั้นจึงพยักหน้ารับแล้วหยิบซองออกมาจากในแขนเสื้อของนาง ถือมันไว้ในมือ และมองดูมันอยู่นาน จากนั้นจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่คือสิ่งที่ท่านแม่หม่อมฉันทิ้งไว้ให้ มันคือสมบัติล้ำค่าที่สุดที่หม่อมฉันมี”“แต่ท่านอ๋องก็เป็นบุรุษที่มีค่ามากที่สุดของหม่อมฉันเช่นกัน”“หากท่านอ๋องต้องการ หม่อมฉันก็ยินดีมอบให้”เมื่อพูดเช่นนั้น ลั่วเยวี่ยอิงก็ยื่นถุงหอมให้ฟู่เฉินหวนหัวใจของฟู่เฉินหวนเต้นรัว เขารับมันไปทันทีแต่ทันทีที่เขารับมา ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึงของข้างในถูกสับเปลี่ยนไปแล้วของที่อยู่ในภาย
ในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนจามออกมาเขาถูจมูก ก่อนจะเห็นซูโหยวกลับมา“เป็นอย่างไร?”ซูโหยวพูดด้วยใบหน้าขมขื่น “ท่านอ๋อง ยาที่พระองค์ทรงให้ส่งไปนั้นถูกพระชายาเททิ้งพ่ะย่ะค่ะ”ทันทีที่เขาได้ยินสิ่งนี้ หัวใจของฟู่เฉินหวนก็บีบรัดก่อนจะลุกขึ้นยืนทันที“ท่านอ๋อง?” ซูโหยวตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นท่านอ๋องดูกังวลเพียงนี้“ไม่มีอะไร เจ้าออกไปเถอะ”ซูโหยวออกจากห้องตำราฟู่เฉินหวนรู้สึกหนักใจ เขาต้องเร่งความคืบหน้าและต้องรีบเอาของสิ่งนั้นมาให้ได้เขายังมาที่ประตูห้องของลั่วเยวี่ยอิงด้วยการก้าวเท้าหนัก ๆ การเสแสร้งตบตาเคยเป็นงานง่าย ๆ สำหรับเขา แต่ตอนนี้ ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงได้กลับกลายเป็นเรื่องยากไปเสียได้มันยากจนเขาต้องเตะถ่วงเวลาออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนถึงตอนนี้เขายังมิได้รับสิ่งของกลับมาหลังจากลังเลอยู่พักใหญ่ เขาก็เคาะประตูและเข้าไปในห้องของลั่วเยวี่ยอิง……ลั่วชิงยวนมาที่เรือนทักษิณาอย่างเงียบ ๆ โดยสวมชุดดำคนในห้องดูคล้ายจะหลับสนิท ปราศจากการเคลื่อนไหวเมื่อลั่วชิงยวนเข้าไปในลาน นางหยิบธูปออกมาจุด รอจนกระทั่งควันธูปลอยเข้าไปในห้องนางรออย่างอดทนเพื่อให้แน่ใจว่าคนที่อยู
ลั่วชิงยวนหันหลังเดินจากไปคืนนี้นางจะมาที่นี่เพื่อดูให้รู้ว่าเขาเป็นคนหรือผีกันแน่!หลังจากก้าวออกไปนางบังเอิญไปพบกับฟู่เฉินหวนที่ลานตำหนัก เมื่อฟู่เฉินหวนรู้ว่าหมอกู้กลับมาแล้ว เขาก็เอ่ยปากสั่งทันที “หมอกู้กลับมาได้ทันเวลาพอดี รีบไปแจ้งให้เขามาตรวจดูอาการบาดเจ็บของลั่วเยวี่ยอิงเร็วเข้า”ต้องการให้หมอกู้ที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนหรือผี มารักษาอาการบาดเจ็บของลั่วเยวี่ยอิงงั้นหรือ?เดิมทีนางอยากจะบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหมอกู้แต่หลังจากคิดดูแล้วนางก็เปลี่ยนใจ ลั่วเยวี่ยอิงจะอยู่หรือตายล้วนมิเกี่ยวอันใดกับตนจะได้ดูด้วยว่าหมอกู้มีทักษะทางการแพทย์หรือไม่ดังนั้น หลังจากที่นางรับใช้ไปเชิญหมอกู้มาแล้ว ลั่วชิงยวนก็เข้าไปในห้องด้วยลั่วเยวี่ยอิงนอนอยู่บนเตียงดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก “พี่หญิง ท่านมาทำอะไรที่นี่?”ลั่วชิงยวนยืนพิงเตียง สังเกตทุกการเคลื่อนไหวของหมอกู้อย่างมิวางตา “มาดูว่าเจ้าจะตายหรือไม่ไงเล่า”ขณะที่ฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาลั่วเยวี่ยอิงก็เริ่มไอหนักขึ้นทันทีฟู่เฉินหวนหันหน้าไปมองไปลั่วชิงยวน สีหน้าของเขาเปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจลั่วชิงยวนเหลือบมองเขาเบา ๆ แล้วมองไปทางอ
ถูกฆ่าด้วยมือของนางเอง!“เจ้าเห็นชัดเจนหรือว่าหมอกู้กลับมาแล้ว” ลั่วชิงยวนเปิดปากเพื่อยืนยันนางรับใช้พยักหน้า “เป็นท่านหมอกู้ ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ”คิ้วของลั่วชิงยวนเลิกขึ้นหมอกู้? จะเป็นหมอกู้ได้อย่างไรกัน?หมอกู้ตายไปแล้ว!“อื้ม ข้าเข้าใจแล้วลั่วชิงยวนรู้สึกกังวลใจ เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีคนปลอมเป็นหมอกู้ และเข้ามาในตำหนักเพื่อสังหารฟู่อวิ๋นโจว?เรื่องของเหยียนหน่ายซินยุติลงแล้ว มิจำเป็นต้องฆ่าฟู่อวิ๋นโจวแล้วมิใช่หรือ?ยิ่งคิดถึงมันมากเท่าไร นางก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นเท่านั้นนางเร่งฝีเท้าแล้ววิ่งไปยังเรือนทักษิณาทันทีที่เขารีบเข้าไปในเรือนทักษิณา เขาเห็นด้านหลังของชายคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดใบไม้ที่ร่วงอยู่ในลานบ้าน เขาสวมชุดของหมอกู้และรูปร่างของเขาค่อนข้างคล้ายกับของหมอกู้อีกด้วยดูเหมือน… จะเป็นหมอกู้จริง ๆ หรือ?“องค์ชายห้า? องค์ชายห้า?” ลั่วชิงยวนตะโกนหลายครั้งร่างที่กวาดพื้นชะงักไปเล็กน้อยในเวลานี้ ฟู่อวิ๋นโจวออกมาจากห้อง ใบหน้าซีดเซียวของเขาเต็มไปด้วยความกลัว และเขาก็ส่ายหน้าให้นางส่งสัญญาณมิให้นางไปที่นั่นเมื่อลั่วชิงยวนเห็นการแสดงออกของฟู่อวิ๋นโจว นางก็ร
ในช่วงบ่าย จือเฉากลับมาเพื่อแจ้งข่าว“พระชายา บ่าวไปสอบถามมาแล้วเจ้าค่ะ ที่เหยียนหน่ายซินมิอาจขึ้นเป็นฮงเฮาได้อีกต่อไปเป็นเรื่องจริง แต่ตระกูลเหยียนมิได้รับการลงโทษไปด้วย มีเพียงเหยียนหน่ายซินที่ต้องรับผลของการกระทำ”“เรื่องก็จบลงไปเช่นนั้น”ลั่วชิงยวนก็เดาผลลัพธ์นี้ไว้แล้วเช่นกันตั้งแต่วินาทีที่นางได้ยินเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างฟู่เฉินหวนและไทเฮา นางก็รู้ดีว่าเรื่องนี้จะจบลงเช่นนั้นในไม่ช้า สิ่งของของไทเฮาที่มอบให้เป็นการชดเชยนางก็ถูกส่งมอบมาทีละชิ้นทองคำหนึ่งร้อยตำลึง อีกทั้งยังมีเครื่องยาสมุนไพรและผ้าไหมจำนวนมากขณะที่ผู้คนของวังหลวงจากไป แม่ทัพใหญ่ฉินและฉินเชียนหลี่ก็มาเยี่ยมเยียนด้วย“พระชายา ข้าได้ยินมาว่าครั้งนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าได้พบเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าบางอย่างมา มันน่าจะมีผลอย่างน่าอัศจรรย์ต่ออาการบาดเจ็บของเจ้า”แม่ทัพใหญ่ฉินถือบางอย่างมาให้นางอย่างกระตือรือร้นจือเฉารับไปอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนยิ้มและพูดว่า “ขอบใจท่านมาก แม่ทัพใหญ่ฉิน”“โธ่ ขอบใจเรื่องใด ข้าสิที่อยากจะขอบคุณเจ้า! พระชายาเป็นคนซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา ข้ารู้เรื่องที่เจ้าถูกเหยียนหน่ายซิน
ลั่วชิงยวนสะดุ้งและเงยหน้าขึ้นเพื่อพบกับดวงตาที่ประหลาดใจและตกตะลึงของฟู่เฉินหวน"เจ้า..."ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างเย็นชา หันหลังกลับและจากไปฟู่เฉินหวนตามไปทันอย่างรวดเร็ว “เจ้าได้ยินทุกอย่างหรือ?”ลั่วชิงยวนหยุดและมองดูเขา “ท่านได้บรรลุข้อตกลงกับไทเฮาแล้ว และยังต้องการใช้เรื่องนี้ตั้งเป็นเงื่อนไขกับหม่อมฉันอีกหรือ”“ฟู่เฉินหวน ท่านคิดว่าทุกสิ่งในใต้หล้าอยู่ภายใต้การควบคุมของท่านเช่นนั้นหรือ?”นางถูกฟู่เฉินหวนหลอกใช้ครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเพียงเบี้ยในมือของเขา ความห่วงใยเป็นครั้งคราวที่แสดงออกมานั้นมีแต่นางเท่านั้นที่จริงจังเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ฟู่เฉินหวนจึงดึงลั่วชิงยวนไปที่มุมถนนแล้วอธิบายว่า “นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้! สิ่งที่เหยียนหน่ายซินพูดมีแต่เจ้าเท่านั้นที่ได้ยิน ไม่มีใครเป็นพยานยืนยันเรื่องนี้ได้!”“เหยียนหน่ายซินอาจมิถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ แต่จะยิ่งทำให้นางต้องโทษเรื่องที่ใส่ความเจ้าได้ง่ายขึ้น!”“นี่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายใต้เงื่อนไขที่จำกัด!”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยความตกใจและขมวดคิ้วมุ่น “ท่านอ๋องมิทราบด้วยซ้ำว่าหม่อมฉันโกรธเ