[เกิดใหม่ + โรแมนติก + ข่มเหงรังแก + บริสุทธิ์ + ชายาหมอ + ความสุข] หลังสมรสได้เจ็ดปี เสิ่นหรูโจวมานะบากบั่นช่วยเหลือเซียวเฉินเหยี่ยนตลอดเส้นทางในการขึ้นครองราชย์กลายเป็นฮ่องเต้ ทว่าในวันนั้นเขากลับรับรักแรกที่มิอาจลืมเลือนเข้าวัง เอาใจอนุสังหารภรรยา กวาดล้างตระกูลเสิ่นของนางจนสิ้น! ครั้นลืมตาขึ้นอีกครา นางได้เกิดใหม่ในคืนวันสมรส หย่าร้างอย่างเด็ดขาด ให้ชายโฉดหญิงชั่วสำนึกในบาปที่กระทำไป ชดใช้คืนให้สาสม! นางเริ่มต้นอาชีพ ต้องการเป็นสตรีร่ำรวยอันดับหนึ่งในใต้หล้า หว่านเสน่ห์ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่ทรงอำนาจในราชสำนัก จนถูกเขาเกี้ยวพาราสีประคบประหงมอย่างดี! “เจ้าทำตามใจตนก็พอ ข้าจะคอยเก็บกวาดทุกอย่างให้เจ้าเอง” ..... เซียวเฉินเหยี่ยนเองก็เกิดใหม่ ชาติก่อนเขาสูญเสียเสิ่นหรูโจวไป เมื่อนางสิ้นใจตรงหน้าเขาจึงประจักษ์แจ้งถึงความสำนึกผิด อีกทั้งตระหนักได้ว่าเขานั้นหลงรักนางมานานแล้ว ชีวิตนี้เขาต้องการเอาอกเอาใจนางทั้งชีวิต ทว่านางกลับหย่าร้างกับเขาไปครองคู่ชู้ชื่นกับผู้อื่น เขาไม่เชื่อว่าคนที่รักเขาเข้ากระดูกในชาติก่อนจะไม่ต้องการเขาแล้ว เขาปรารถนารอให้นางหันกลับมา กระทั่งนางแต่งงาน กระทั่งนางคลอดบุตร กระทั่งนางชี้กระบี่มาที่เขา นั่นก็มิอาจเปลี่ยนหัวใจนางได้เลย
ดูเพิ่มเติมเมื่อเป่ยซิวเยี่ยนเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยปากว่า “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง ในเมื่อสตรีมีครรภ์นางนี้ก็เต็มใจจะลองด้วยตนเอง มิสู้ให้พระชายาของอ๋องอู่เฉิงทำการรักษาให้นางก่อน หากปลอดภัยทั้งมารดาและบุตร เช่นนั้น กุ้ยเฟยก็จะสามารถวางใจลองรับการรักษาได้”“ไม่ได้” เซียวเฉินเหยี่ยนกล่าวขัดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วิชาแพทย์ของพระชายาไม่ชำนาญ ไม่อาจปล่อยให้นางทำเรื่องเหลวไหลได้” แม้สตรีตั้งครรภ์นางนี้จะเต็มใจก็ตาม แต่จะผ่าท้องนำเด็กออกมาได้อย่างไร? วิธีการนี้หากสำเร็จแล้วยังพอพูดกันได้ หากล้มเหลว ไม่ต้องพูดถึงว่าจวนอ๋องจะได้รับผลกระทบอย่างไร เพียงแค่ตัวเสิ่นหรูโจว ชั่วชีวิตนี้ก็จะต้องถูกคำครหานินทาประณามไปชั่วชีวิตมู่หว่านหรงรีบสนับสนุนว่า “นั่นสิเจ้าคะ วิธีการนี้เสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว พระชายาท่านอย่าได้ทำเรื่องเหลวไหลอีกเลย จะได้ไม่เป็นการทำลายชีวิตของผู้อื่นโดยเปล่าประโยชน์” เสิ่นหรูโจวเลิกคิ้ว กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับพวกท่านสองคนกระมัง?”สีหน้าของมู่หว่านหรงพลันแข็งค้างในทันที ก้นบึ้งของดวงตามีความอำมหิตวาบผ่าน จากนั้นก็แสร้งทำเป็นได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจพร้อมกับดึงแขนเสื้อของเซีย
กุ้ยเฟยขมวดคิ้วอันงดงาม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”เสิ่นหรูโจวมิได้ตอบคำถาม นางหันสายตาไปที่เป่ยซิวเยี่ยน“คนทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันครั้งหนึ่ง เข้าใจอีกฝ่ายโดยไร้วาจา” เป่ยซิวเยี่ยนส่งเสียงเรียกทีหนึ่ง “นำตัวเข้ามาเถอะ” จากนั้น ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน นางหลัวอวิ๋นก็ถูกคนหามเข้ามา เมื่อมาถึงเบื้องหน้าของฮ่องเต้และกุ้ยเฟย นางหลัวอวิ๋นก็กำชายเสื้อแน่นด้วยความประหม่าที่ยากจะปิดบัง เสิ่นหรูโจวเดินไปอยู่ข้างกายนาง กุมมือของนางเบาๆ เป็นสัญญาณให้นางวางใจ“กุ้ยเฟยโปรดดู สตรีตั้งครรภ์นางนี้มีอาการเดียวกับท่าน ข้าสามารถทำการรักษาให้นางก่อนได้ หากนางกับลูกในท้องปลอดภัยไม่ได้รับอันตราย ท่านก็จะสามารถวางใจ ให้ข้าทำการรักษาให้ท่านได้แล้ว” “หมอทุกคนต่างก็พูดว่า ที่นางท้องก็เป็นครรภ์แฝดสามเช่นเดียวกัน แต่ข้าคิดว่า อาการของนางเหมือนกับท่าน ในท้องของนาง ก็มีทารกเพียงคนเดียวเช่นเดียวกัน” กุ้ยเฟยยืดกายตรงขึ้นมาเล็กน้อย ยื่นคอออกมาสังเกตอย่างละเอียด พบว่าคนผู้นั้นเหมือนนางจริงๆ ท้องใหญ่อย่างประหลาดเมื่อคิดอย่างละเอียด เมื่อวานนางได้ยินว่านอกวังมีสตรีตั้งครรภ์นางหนึ่ง ท้องใหญ่มาก หมอทั้งหลาย
สีหน้าของนางแสร้งว่ากังวลอย่างมาก ทว่าคำพูดทั้งทางตรงและทางอ้อมล้วนกำลังฟ้องเรื่องของเสิ่นหรูโจวเมื่อเซียวเฉินเหยี่ยนได้ฟัง สีหน้าก็แข็งค้าง เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเหตุใดเสิ่นหรูโจวจึงมาไม่ได้? แต่เขาคงไม่อาจบอกว่า เป็นเขาจงใจทำกระมัง?เสียงอันสงบและทุ้มต่ำของเป่ยซิวเยี่ยนดังขึ้น “ในยามที่ข้าไปถึงจวนอ๋องนั้น พระชายาของอ๋องอู่เฉิงได้นำของที่ลืมมาแล้ว กำลังจะออกจากจวนเร่งมาที่วังหลวง เวลานั้นท่านอ๋องอู่เฉิงก็อยู่ด้วย ใช่หรือไม่อ๋องอู่เฉิง” แววตาของเซียวเฉิยเหยี่ยนเย็นชาขึ้นสามส่วน มองไปยังเป่ยซิวเยี่ยน แต่สุดท้ายยังตอบคล้อยไปตามคำพูดของเขาว่า “ถูกต้อง” มู่หว่านหรงตะลึงไป “ท่านอ๋อง…”เขาช่วยรับประกันให้เสิ่นหรูโจวได้อย่างไร!เสิ่นหรูโจวไม่สนใจความคิดของเซียวเฉินเหยี่ยน รีบกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ลูกมิได้หนีความผิด เรื่องที่เกิดนี้มีที่มาจริงๆ เพคะ” “ต่อให้เป็นเยี่ยงนั้น” เสียงของฮ่องเต้หย่งอันสำแดงความน่าเกรงขาม “เรื่องที่เจ้าเกือบทำร้ายกุ้ยเฟยและครรภ์มังกร ก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปเช่นนี้ได้!”เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้วเหลือบมองโจวอี๋เจี่ยนครั้งหนึ่ง พูดอย่างเย็นชาว่า “เรื่องที่นักพรตหลิงเซีย
เป่ยซิวเยี่ยนกวาดตามองไปอย่างช้าๆ ในยามดวงตาที่เยียบเย็นราวน้ำค้างแข็งตกลงบนตัวของคนผู้นั้น คนผู้นั้นก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างหยุดไม่ได้ฮ่องเต้หย่งอันจับตามองการกระทำของเป่ยซิวเยี่ยน แววตาก็หรี่ลงเป่ยซิวเยี่ยนปล่อยองครักษ์ผู้นั้น จากนั้นมองฮ่องเต้หย่งอันด้วยสีหน้าสงบราบเรียบ “ฝ่าบาท มิสู้ลองฟังว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงจะอธิบายอย่างไร แล้วค่อยตัดสินโทษเถิดพ่ะย่ะค่ะ” กุ้ยเฟยเป็นคนอารมณ์ร้อน. จึงตำหนิออกมาโดยตรงว่า “ยังมีอะไรให้อธิบายอีก ที่นางไม่ยอมมาเสียที มิใช่ว่าหลบหนีความผิดไปอย่างนั้นหรือ!”เสิ่นหรูโจวมองฮ่องเต้หย่งอันและกุ้ยเฟยด้วยดวงตาสงบ จากนั้นคุกเข่าลง“ที่ลูกมาสายนั้น มีความผิดจริงๆ เพคะ แต่ลูกมิได้หลบหนีเพราะกลัวความผิดเพคะ!”ฮ่องเต้หย่งอันแค่นเสียงเย็นคราหนึ่ง “ถ้าเช่นนั้นเหตุใดจึงไม่มาปรากฏตัวเสียที?!”มู่หว่านหรงและโจวอี๋เจี่ยนต่างก็มีรอยยิ้มเยาะหยัน รอชมละครสนุกของเสิ่นหรูโจวภายใต้สายตาไม่ประสงค์ดีแต่ละคู่ บนใบหน้าอันงดงามของเสิ่นหรูโจวเต็มไปด้วยความสงบราบเรียบ กล่าวด้วยความสงบว่า “เดิมลูกเตรียมตัวออกเดินทางเข้าวังแล้ว ทว่าระหว่างทางพบว่าลืมของบางอย่างไว้ จึงได้ย
เสิ่นหรูโจว นางถึงกับโจมตีจุดอ่อนของเขาต่อหน้าคนนอก!นางยังกล้าจากไปพร้อมชายอื่นต่อหน้าเขาโดยไม่แม้จะหันกลับมามอง!ส่วนฉินหมิงได้เหลือบตามองเขาอย่างเฉยเมยคราหนึ่ง เมื่อเห็นเซียวเฉินเหยี่ยนดูไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งแต่ไม่มีเจตนาจะไล่ตาม ก็หมุนกายจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใดเช่นกันเซียวเฉิยเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม สองตาลุกโชนจนแดงก่ำ คิดถึงฝันนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ในฝันล้วนเป็นภาพที่เสิ่นหรูโจวค่อยๆ จากเขาไปทีละก้าว ในสมองเกิดความมึนงงขึ้นเป็นระลอก ร่างของเขาโอนเอนอย่างควบคุมไม่อยู่ องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังประคองเขาไว้อย่างรวดเร็ว“ท่านอ๋อง ท่านดูไม่สบายอย่างมาก พักก่อนสักครู่ดีหรือไม่ขอรับ?”“ไม่จำเป็น” เซียวเฉินเหยี่ยนหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง ฝืนสงบสติอารมณ์ลง หลังยืนตรงขึ้นมาก็สาวเท้าไล่ตามพวกเขาไปในยามที่เขาเร่งฝีเท้าตามมาถึงหน้าประตู รถม้าของเป่ยซิวเยี่ยนก็ได้เคลื่อนออกไปไกลแล้ว เขาจึงอดกัดฟันอย่างแรงไม่ได้สมควรตาย!ครานี้ เรื่องต่างๆ ก็ยากจะอธิบายขึ้นมาจริงๆ แล้ว!……ในรถม้า เสิ่นหรูโจวมองเป่ยซิวเยี่ยนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ“ขอบพระคุณท่านผู้สำเร็จราชการแทนมาก หากไม่ใช่เพราะท่านมา
“ท่านอุปราช!” เสิ่นหรูโจวเหลือบตามองไป สีหน้าดีใจมากทันที ความโกรธบนใบหน้ามีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที พยายามออกแรงดิ้นรน “ท่านอุปราช ช่วยข้าหน่อย!”ในที่สุดก็ได้รับการช่วยเหลือแล้ว!เป่ยซิวเยี่ยนมองเห็นฉากนี้ สีหน้าของใบหน้าอันหล่อเหลาเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาจ้องมองใบหน้าที่ร้อนใจของเสิ่นหรูโจว กลับอึมครึมขึ้นไม่น้อยฉินหมิงสองมือกอดอก ยืนอยู่ด้านหลังของเป่ยซิวเยี่ยนด้วยสีหน้าเย็นยะเยือกเมื่อครู่เขาไม่ได้ที่อยู่ของเสิ่นหรูโจวจากปากของเซียวเฉินเหยี่ยน จึงแอบเฝ้าดูมาตลอด ก็พบว่าเซียวเฉินเหยี่ยนไม่ได้พูดความจริงอย่างที่คิดไว้ เสิ่นหรูโจวอยู่ในจวนอ๋องชัด ๆ ดังนั้นเขาจึงรีบไปรายงานท่านอ๋อง ทันทีที่มาถึงก็เจอเข้ากับฉากนี้เข้าพอดีเซียวเฉินเหยี่ยนจ้องเป่ยซิวเยี่ยนด้วยดวงตาที่อึมครึม แล้วก็ฉินหมิงที่อยู่ด้านหลังของเขา ดวงตาเย็นยะเยือก หญิงสาวในอ้อมกอดพยายามดิ้นรนสุดแรงเกิด เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้น แรงที่กอดนางเอาไว้ก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ยินดีต้อนรับท่านอุปราช เหตุใดจึงไม่บอกกล่าวกันล่วงหน้าเสียหน่อย ข้าจะได้ไปต้อนรับเป็นอย่างดี” เซียวเฉินเหยี่ยนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกแฝงไปด้วยเจต
“เสิ่นหรูโจว!” ตอนที่ประตูเปิดออก เขาก้าวเข้าประตูไป อยากจะเห็นร่างของเสิ่นหรูโจวอย่างอดรนทนไม่ไหวแล้วทันใดนั้นด้านหน้าก็มีผงจำนวนมากลอยเข้ามาที่หน้า เขาไม่ได้ป้องกัน จึงสูดดมเข้าไปไม่น้อย จากนั้นก็เห็นใบหน้างามของเสิ่นหรูโจว ก็ปรากฏขึ้นที่ตรงหน้าของเขานางกำลังจะวิ่งออกไปด้านหน้า เซียวเฉินเหยี่ยนจับนางเอาไว้โดยสัญชาติญาณ เขาไม่ได้สนใจที่จะถามว่าเป็นผงอะไร เมื่อเห็นว่าเสิ่นหรูโจวสบายดี หัวใจที่ถูกความหวาดกลัวครอบงำจึงทรุดลงที่เดิม หลังจากนั้นก็รู้สึกเวียนหัว“เจ้าทำเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าจะหลอกลวงข้า? ผงที่สาดมาเมื่อครู่นี้คืออะไร?”เสิ่นหรูโจวเกลียดที่ตนเองไม่ใช่คนที่ฝึกวรยุทธ์ ออกแรงสะบัดมือของเขาออก “ผงพิษ”เซียวเฉินเหยี่ยนหน้าเปลี่ยนสีทันที มองเสิ่นหรูโจวด้วยดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเหลือเชื่อ“เจ้าจงใจล่อลวงให้ข้ามาที่นี่ จากนั้นก็วางยาข้า?”“ไม่ผิด ข้าขอเตือนให้ท่านไปถอนพิษ ไม่อย่างนั้นท่านจะน่าเวทนามาก!” เสิ่นหรูโจวยิ้มเยาะ ใช้เลือดที่อยู่ในกล่องยาผสมกับน้ำ เทที่ด้านนอก องครักษ์ตื่นตระหนกอย่างที่คิดไว้ และเขาก็มาอย่างที่คิดจริง ๆ นางยกเท้าขึ้นกำลังจะก้าวออกไปด้านน
ฉินหมิงพยักหน้า “ข้าน้อยรับคำสั่ง”ในเวลานี้ จวนอ๋องอู่เฉิง“ด้านนอกมีคนหรือไม่ เปิดประตูที!” จุดลมปราณของเสิ่นหรูโจวคลายออกแล้ว แต่มือทั้งสองข้างยังคงถูกมัดอยู่ นางนั่งลงนำมือที่ถูกมัดที่อยู่ด้านหลังสลับมาไว้ด้านหน้า ใช้ฟันแกะปมเชือกออกนางยืนอยู่ด้านหน้าประตูที่ปิดสนิท มองด้านนอกจากร่องประตู ตะโกนและทุบประตูต่อไป“ข้าเห็นเจ้าแล้ว เจ้าช่วยเปิดประตูให้ข้าเถอะ ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย!”นางมองเห็นองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกแล้ว รีบขอร้องเขา แต่คนที่อยู่ด้านนอกกลับเห็นนางเป็นอากาศ ไม่สนใจนางเลยสักนิดเสิ่นหรูโจวร้อนใจจนถีบประตูอีกสองสามครั้ง มองไปรอบ ๆ ด้าน ประตูหน้าต่างทุกบานถูกปิดสนิท มีเพียงแสงเล็กน้อยที่สาดส่องเข้ามาผ่านลวดลายของหน้าต่างนางอยู่ภายในห้องอันคับแคบนี้เพียงลำพัง อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกขึ้นมาความรู้สึกที่ถูกขังอยู่ในวังหลวงเมื่อชาติก่อน ราวกับงูพิษเลื้อยอยู่ในหัวใจของนาง ท่ามกลางความเหม่อลอย ราวกับว่านางได้เห็นเซียวเฉินเหยี่ยนค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ ปิดล้อมนางเอาไว้ที่หัวเตียง จากนั้นป้อนยาช่วยชีวิตให้นางด้วยตนเองเขากักขังนาง ควบคุมนาง ไม่ให้นางตาย นางตกลงสู่เหวลึกครั้งแ
เป่ยซิวเยี่ยนราวกับไม่อยากจะโต้เถียงอะไรกับนาง เพียงแค่เก็บสายตากลับมาอย่างเรียบเฉย กล่าวกับลู่หวายหนิงที่กำลังโมโหอยู่ข้างกาย“หวายหนิง ต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาท ห้ามเสียมารบาท รีบนั่งลง”ถึงแม้ว่าลู่หวายหนิงจะโมโห แต่ยังเชื่อฟังคำของท่านอาจารย์ หลังจากจ้องมองมู่หว่านหรงอย่างดุร้ายแวบหนึ่งก็นั่งลงโจวอี๋เจี่ยนที่นั่งอยู่ด้านข้างไม่พูดจา ดวงตาเรียวเล็กแอบสังเกตสีหน้าของเป่ยซิวเยี่ยนแต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะมองเป่ยซิวเยี่ยนไม่ออก รู้สึกว่าดวงชะตาของเป่ยซิวเยี่ยนยากจะคาดเดา คนผู้นี้เป็นตัวแปรที่สำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแน่นอน เป็นไปได้สูงที่จะมีอิทธิพลต่อนายหญิงและอ๋องอู่เฉิง ถึงขนาดเปลี่ยนแปลงแคว้นนี้ได้ เก็บเขาไว้ เกรงว่าจะเป็นหายนะในอนาคต!ไม่ได้ จะเก็บทั้งเสิ่นหรูโจวและเป่ยซิวเยี่ยนเอาไว้ไม่ได้!แสงแห่งความโหดร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาแวบหนึ่ง ดวงตาทั้งสองข้างของโจวอี๋เจี่ยนเบิกกว้าง กล่าวน้ำเสียงดุดัน“ในดวงชะตาของท่านอุปราช ดาวทันหลาง[footnoteRef:1]ตกอยู่ในวังกระต่าย ไม่มีความซื่อสัตย์และยุติธรรม เกรงว่าการวักระทำในวันนี้ท่านอุปราชจะแอบแฝงไปด้วยเจตนาชั่วร้าย สงสัยว่ามีแผนจะทำลายเลือ