เมื่อมาถึงจุดนี้ทุก ๆ คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกไม่ใช่แค่เอเดรียนและโรแกนที่เข้าไปสร้างปัญหาที่นั่นเท่านั้น แต่สมาชิกทั้งสามคนในครอบครัวของยูลก็ล้วนพูดอะไรไม่ออกด้วยความตกตะลึงเช่นกันจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความโหดเหี้ยมป่าเถื่อนในอีสต์คลิฟฟ์ พวกเขาฆ่าคนมานับไม่ถ้วนและไม่เคยพ่ายแพ้ใครเลย แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้คนหน้าซีดตัวสั่นกันได้แล้วแต่ความแข็งแกร่งของเขากลับไร้ประโยชน์ เมื่อพวกเขารวมตัวกันต่อสู้กับชาร์ลีโดยปกติแล้วการท้าทายกันไปมาถือเป็นเรื่องปกติในการต่อสู้กันทางร่างกาย การเตะและต่อยรวมทั้งการหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ป้องกันตัวแต่ชาร์ลีรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วบีบคอคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังสองคนราวกับเป็นคู่ต่อสู้ที่ไร้ค่า ซึ่งทำให้ผู้คนสงสัยว่าชาร์ลีมีความแข็งแกร่งขนาดไหนกัน!ชาร์ลีไม่ได้สนใจอาการอ้าปากค้างด้วยความตกใจจากคนรอบข้าง เขามองไปที่ชายสองคนที่อยู่ในมืออย่างดูถูกเหยียดหยาม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เดี๋ยวจะหาว่าฉันจะไม่ให้โอกาสแกได้มีชีวิต คุกเข่าต่อหน้าฉันแล้วเรียกฉันว่าป๊ะป๋าซะ ถ้าแก
”โอ้” ชาร์ลีพยักหน้ารับรู้แล้วพูดพร้อมกับรอยยิ้ม “สวัสดีจ้าวดินแดน ยินดีที่ได้รู้จัก ฉายาของแกนี่เท่จัง แต่ฉันเองก็มีฉายาเหมือนกันนะ ผู้คนในเมืองของฉันเป็นคนตั้งให้ ฉันสงสัยจังว่าฉายาของใครจะยอดเยี่ยมกว่ากัน ของฉันหรือของแก?”จ้าวดินแดนถามว่า “ฉายาของนายคืออะไร?”ชาร์ลียิ้มอ่อน ๆ “มังกรที่แท้จริง”สีหน้าของจ้าวดินแดนเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของชาร์ลีมังกรที่แท้จริง?อะไรกันวะเนี่ย!นี่จะไม่โอ้อวดกันมากไปหน่อยเหรอ?ชาร์ลีไม่สนใจที่จะต่อล้อต่อเถียงอีกต่อไป เขารวบรวมพลังไว้ในมืออีกครั้ง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ดูว่างเปล่า “แกจะมีชีวิตอยู่ต่อไปถ้าคุกเข่า แต่ถ้าไม่แกก็ต้องตาย แกมีเวลาเลือกสามวินาที”จ้าวดินแดนรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงมากเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบที่คอเพิ่มมากขึ้น เขาตะโกนออกมาด้วยความกลัว “โอเค! ฉันจะทำ! ฉันจะคุกเข่า!”ชาร์ลีจ้องมองสิ่งที่เรียกว่าจ้าวนักรบแล้วถามว่า “แล้วแกล่ะ พี่จ้าวนักรบ? จะคุกเข่าไหม?“คุณเข่าสิ! ฉันจะคุกเข่าด้วย!”จ้าวนักรบก็รู้ตัวว่าการมีชีวิตรอดแบบเดียวกับหมา ก็ยังดีกว่าการตายแบบสิงโต เขาจึงพยักหน้าโดยไม่ลังเลอะไรเลยชาร์ลียิ้มอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็
จ้าวนักรบและจ้าวดินแดนที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นรีบคลานไปด้านข้าง โดยไม่กล้าที่จะประท้วงอะไรส่วนเอเดรียนและโรแกนต่างตกใจและตื่นตระหนก เมื่อพวกเขาได้ยินชาร์ลีบอกว่าอยากคุยกับพวกเขาพวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีปีศาจร้ายอยู่ในบ้านพี่ชายคนโตของเขาจากที่เขารู้มานั้นยูลมีเพียงผู้รักษาความปลอดภัยประจำบ้านอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งก็มีความแข็งแกร่งพอสมควรแต่ไม่ได้ทรงพลังเท่ากับบอดี้การ์ดสองคนที่เขาพามาในวันนี้ บอดี้การ์ดสองคนนี้สามารถเอาชนะผู้รักษาความปลอดภัยประจำบ้านของยูลได้อย่างง่ายดายในเวลาอันรวดเร็วแต่ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีชายหนุ่มผู้ทรงพลังและเก่งกาจขนาดนี้อยู่ในบ้านของยูล ซึ่งเขามีความแข็งแกร่งดุจเทพซูสเลยทีเดียวในขณะที่ชาร์ลีเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทีที่ดูมีอำนาจนั้น พวกเขาก็ก้าวถอยหลังออกไปอย่างหวาดกลัวทันที เอเดรียนถามขึ้นด้วยความกลัวว่า “อะไร… แกต้องการอะไร?”“ผมเหรอ?” ชาร์ลียิ้ม “คุณทำกร่างและอวดดีตั้งแต่เดินเข้าประตูมาแล้ว ตอนนี้ถึงทีผมบ้างแลเวล่ะ ไหนบอกมาซิว่าวันนี้คุณวางแผนจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”“แกหมายความว่ายังไง?!” เอเดรียนร้องคำรามออกมาพร้อมกัดฟันแน่นด้วยความเด
แต่ในขณะเดียวกันความรู้สึกปลาบปลื้มยินดีก็แผ่ซ่านอยู่ในตัวจ้าวนักรบอย่างฉับพลันนี่เป็นเพราะเขาได้พกปืนติดตัวมาด้วยถึงแม้ว่าเขาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้ศิลปะการป้องกันตัวจะไม่ชอบใช้ปืนมากนัก แต่ท้ายที่สุดสุดแล้วปืนก็เป็นเครื่องพึ่งพิงที่ช่วยชีวิตได้ การทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับเอเดรียนนั้นไม่ค่อยมีช่วงเวลาที่เป็นอันตรายมากนัก แต่เขาก็ยังต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเผื่อเอาไว้ในกรณีที่จำเป็นก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถคว้าปืนออกมาใช้งานได้ เนื่องจากชาร์ลีพยายามรั้งตัวเขาไว้ จนเขาไม่สามารถคิดเรื่องการใช้ปืนได้เลย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนนั้นแล้วตอนนี้ชาร์ลีไม่ได้ให้ความสนใจเขาอีกต่อไปแล้วเขาจึงอดคิดไม่ได้ว่าเขาอาจมีโอกาสแอบคืบคลานเข้าไปจัดการกับชาร์ลี เมื่อชาร์ลีพุ่งความสนใจไปที่เอเดรียนและโรแกนไม่ว่าคนคนนั้นจะมีความแข็งแกร่งเท่าไหร่ ลูกกระสุนก็ยังคงเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของพวกเขา ถ้าเขาสามารถยิงชาร์ลีได้สักนัด ชาร์ลีก็น่าจะสูญเสียพลังในการต่อสู้ทันที จากนั้นเขาก็ยิงซ้ำไปอีกสองนัด ก็จะช่วยให้เขาสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งปรมาจารย์ผู้ทรงพลังในการใช้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันต
ตอนนนี้เอเดรียนตัวสั่นด้วยความกลัว‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?! ฉันจ้างจ้าวนักรบและจ้าวดินแดนด้วยเงินเดือนก้อนโต แต่ไอ้เจ้าพวกนี้กลับโดนชาร์ลีบีบคอจนหายใจไม่ออก แถมยังต้องนั่งคุกเข่าเรียกชาร์ลีว่าป๊ะป๋า! ยังไม่หมดแค่นั้น ตอนนี้จ้าวนักรบยังชักปืนออกมาไม่ได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?’คนพวกนี้ถูกสร้างมาเพื่อเล่นกับปืน! การที่พวกเขาไม่สามารถถือปืนได้นั้นก็ช่างน่าขันพอ ๆ กับการที่ช่างตัดผมไม่สามารถถือกรรไกรรได้นั่นแหละ!แต่ไม่ว่ามันจะดูเหลือเชื่อขนาดไหน ความจริงก็คือความจริงเอเดรียนจ้องมองไปที่จ้าวนักรบที่กำลังตื่นตระหนก เขาอ่อนแอราวกับแมวขี้กลัวและไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาสักคำเดียว เขารู้ว่าวันนี้ช่างเป็นวันสิ้นหวังที่ไม่สามารถพึ่งพาคนพวกนั้นได้‘ถ้าอย่างนั้น การที่ฉันโดนตบหน้าก็คงทำอะไรไม่ได้ด้วยล่ะสิ… ใช่ไหม?’เมื่อคิดได้ดังนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาไม่กล้าเข้าไปเผชิญหน้ากับชาร์ลีในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเดือดดาลมาก “โอเค! ไอ้หนู ระวังตัวไว้ให้ดีนะ! ฉันจะจับตามองแก! แล้วแกจะต้องเสียใจ!”จากนั้นเขาก็พูดกับริกลีย์ลูกชายของเขาทันทีว่า “ไปกันเถอะ!”จู่ ๆ ชาร์ลีที่ยืนยิ้มมาตลอดก็ตะโกนออกม
ชาร์ลีมองไปที่เอเดรียนอีกครั้งแล้วถามพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้าย “จากที่ผมได้ยินมาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนคุณจะชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว แถมคุณยังเยาะเย้ยอายูลที่ไม่มีลูกชายด้วย สรุปแล้วลูกชายของคุณคือสิ่งจรรโลงชีวิตของคุณใช่ไหม?”เอเดรียนตีความตามคำพูดและน้ำเสียงของชาร์ลีแล้ว รู้สึกได้ว่าภัยกำลังมาถึงตัวแล้ว จึงถามอย่างกระวนกระวายใจว่า “อะไร… แกจะทำอะไร? ฉันขอเตือนแกนะ ถ้าแกทำร้ายลูกชายของฉันล่ะก็ ฉันจะฆ่าแก!”ชาร์ลียิ้ม “ไม่ ผมไม่ทำร้ายลูกของคุณหรอก ผมแค่จะทำร้ายหลายชายของคุณเท่านั้นเอง”“หลานชายของฉัน?” เอเดรียนงงยิ่งกว่าเดิม “ฉันยังไม่มีหลายชายเลย… แกหมายความว่ายังไง?”ชาร์ลีถามว่า “ว่าแต่แกรู้จักเคนเน็ธ วิลสัน ประธานอีสต์คลิฟฟ์ โมเดสท์เวย์กรุ๊ปไหมล่ะ?เอเดรียนขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความสงสัยว่า “รู้จักสิ ทำไมล่ะ?”ชาร์ลีถามอีกว่า “คุณรู้ไหมว่าเขามีความพิการบางอย่างซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง?”เอเดรียนส่ายหัว “หยุดพูดจาอ้อมค้อมได้แล้ว แกจะบอกอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ เถอะ!”ชาร์ลียิ้ม “เขามีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ พูดง่าย ๆ ก็คือจู๋ของเขาใช้การไม่ได้ แต่เขายังสามารถเจริญพันธุ์ได้ ซ
เอเดรียนและสมัครพรรคพวกต่างมองหน้ากันด้วยความรู้สึกงุนงงสับสน พวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดีชาร์ลีได้พูดอย่างชัดเจนแล้วว่าให้พวกเขาแยกย้ายออกไปกันได้แล้วและพวกเขาก็อยากจะออกไปจากที่นี่ทันที แต่ไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อนเพราะรู้สึกว่าชาร์ลียังพูดไม่จบนั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าชาร์ลีหมายถึงอะไรในทางตรงกันข้าม ชาร์ลีก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาคิดออกเช่นกัน ก็เหมือนกับการที่กว่าเคนเน็ธจะคิดออกนั่นแหละ เขาจะต้องให้พวกนั้นเปิดประสบการณ์ด้วยตัวเองเสียก่อนเมื่อเห็นว่ากลุ่มคนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น โดยมองไปรอบ ๆ เหมือนคนเซ่อซ่า ชาร์ลีก็ตวาดด้วยน้ำเสียงอันน่ากลัว “ผมให้เวลาสามวินาทีในการออกไปจากที่นี่ หรือไม่ก็อยู่ที่นี่ไปตลอดเลยก็ได้!”เอเดรียนโบกมือให้กับฝูงชนราวกับได้รับอภัยโทษ แล้วเร่งเร้าขึ้นมาว่า “ไปกันเถอะ!”ทุกคนเริ่มหันหลังกลับแต่จ้าวนักรบกับจ้าวดินแดนยังคงนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพวกเขาอยากออกไปจากที่นี่ใจจะขาด แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขยับตัวแม้แต่น้อยในช่วงแรก ๆ เขายังมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่ที่ขาบ้าง จึงทำให้สามารถยืนและเดินกระย่องกระแย่งไปข้างหน้าได้บ้าง แต่เนื่องจากเขาได้นั่งคุก
ถ้าพูดตามเหตุผลแล้ว พี่น้องสามคนนี้ถือหุ้นในบริษัท 51% ซึ่งสอดคล้องกับอัตราส่วนการถือครองโดยสมบูรณ์ ตราบใดที่สามพี่น้องยังทำงานร่วมกัน โกลดิ้งกรุ๊ปก็จะอยู่ภายใต้การควบคุมของครอบครัวอย่างครบถ้วนแต่เอเดรียนและโรแกนต้องการปล้นหุ้นของยูล เพราะเห็นว่าเขากำลังจะตายถึงแม้ว่าแผนการถือครองหุ้นของเอเดรียนในวันนี้จะล้มเหลว แต่เขาก็ได้เตรียมที่จะกดดันให้ยูลยอมสละหุ้นของเขาระหว่างการประชุมคณะกรรมการในวันพรุ่งนี้ถึงแม้ว่ายูลจะไม่ยอมรับเงื่อนไขของเขาในตอนนี้ แต่เขาจะบีบบังคับให้ยูลสละตำแหน่งประธานให้กับเขาในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน!ดังคำกล่าวที่ว่า… ประเทศจะขาดผู้ปกครองสูงสุดไม่ได้แม้แต่วันเดียวอาณาจักรธุรกิจที่ยิ่งใหญ่และมีความหลากหลายอย่างโกลดิ้งกรุ๊ปจะขาดตำแหน่งประธานบริษัทไม่ได้ถึงแม้ว่ายูลจะยังมีชีวิตอยู่แต่เขาก็ป่วยมาก ถ้าเขาต้องเข้ารับการรักษาตัว เขาก็คงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะดำเนินกิจการของบริษัท แต่ถ้าเขาไม่ยอมรักษาตัว เขาก็จะมีชีวิตอยู่อีกได้ไม่นานดังนั้นตอนนี้จึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการสละตำแหน่งประธานบริษัทไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องใช้ยูลมอบอำนาจและตำแหน่งประธานบริษัท