ชาร์ลีลูบจมูกอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ในขณะที่ตอบว่า "อืมมม… ผมเป็นสามีเพื่อนสนิทของคุณ!”ลอรีนตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังค่อนข้างเฉยเมยว่า "ฉันรู้ เป็นสามีจอมปลอมและการแต่งงานจอมปลอมมาสี่ปีแล้ว ฉันสงสัยจังเลยว่าเกมเสแสร้งนี้จะเล่นกันไปอีกนานแค่ไหน"ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่นั้น รถเบนท์ลีย์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชันก็ขับมาที่หน้าคฤหาสน์แล้วจอดอยู่ข้าง ๆ พวกเขา หน้าต่างบริเวณเบาะหลังถูกลดลงมา แล้วผู้หญิงที่แต่งตัวหรูหราก็โผล่หัวออกมา ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่ลอรีนแล้วถามว่า "ลอรีน ทำไมเธอถึงออกมาอยู่ตรงนี้?”ทันทีที่ลอรีนเห็นผู้หญิงคนนี้ เธอก็รีบส่งยิ้มให้แล้วพูดว่า "โอ้ คุณป้า! แล้วคุณลุงล่ะคะ?”ผู้หญิงที่อยู่ในรถตอบว่า "เขางานยุ่งน่ะ เขาจะมาตอนเที่ยงก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น"ลอรีนพูดต่อไปว่า "คัซอยู่ไหนล่ะคะ?”ผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจแล้วตอบว่า "ป้าไม่เห็นเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โอ๊ยยย! ป้าโกรธมากเลยนะ เขาเป็นคนหัวแข็งมาก! หลังจากผ่าตัดได้ไม่นานเขาก็เริ่มออกไปตระเวนราตรีอีกแล้ว เธอช่วยคุยกับเขาทีได้ไหม?”ลอรีนฝืนยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า "หนูไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอกค่ะ คุณป้าก็รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง เวล
ชาร์ลีไม่รู้ว่าญาติของลอรีนคือใคร แต่เขาคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องเดินชนกับเด็กรวยที่หยิ่งยโสสักสองสามคนตอนที่เขาอยู่ในอีสต์คลิฟฟ์ สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องที่มีคนรวยอยู่มากมาย และเด็กรวยแบบมีอภิสิทธิ์เก้าในสิบคนก็มักจะทำตัวน่ารังเกียจและอวดดีเมื่อเขาและลอรีนเดินเข้ามาในบ้านของตระกูลโทมัสแล้ว ลานหน้าบ้านและโรงรถก็เต็มไปด้วยรถหรูมากมายหลายแบรนด์มีชายสองคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและทักทายแขกอยู่ด้านนอกประตู แล้วลอรีนก็รีบเข้าไปทักทายและพูดว่า "พ่อคะ ลุงคะ หนูขอแนะนำให้รู้จักกับชาร์ลี เวด.. .เพื่อนของหนูที่มาจากโอลรัสฮิลล์ค่ะ"ชายทั้งสองคนมองสำรวจชาร์ลี แล้วลุงของลอรีนก็ตอบว่า "ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีสมาชิกของตระกูลเวดอยู่ในโอลรัสฮิลล์ด้วย"ลอรีนรีบชี้แจงอย่างรวดเร็วว่า "โอ้ ชาร์ลีไม่ได้มาจากตระกูลไหนเลยค่ะ เขาเป็นเพื่อนที่เรียนวิทยาลัยเดียวกับหนูน่ะค่ะ"ตอนนั้นนายท่านวิลสันได้ลงนามให้ชาร์ลีเข้าไปเรียนในชั้นปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยโอลรัสฮิลล์ ซึ่งเขาไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของแคลร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของลอรีนด้วยลอรีนไม่ได้ระบุว่า ชาร์ลีเป็นสามีของ
ลอรีนพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “พ่อคะ หนูไม่สนใจหรอกค่ะ กรุณาอย่าบอกให้หนูไปทำความรู้จักกับเขาอีกนะคะ!”จากนั้นเธอก็มองไปที่ชาร์ลีแล้วพูดว่า “เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะชาร์ลี!”“แก!” จาเวียร์ขึ้นเสียงด้วยความเกรี้ยวโกรธ “ทำไมแกถึงหัวดื้อขนาดนี้นะ? ถ้าแกจับคู่กับนายน้อยตระกูลโกลดิ้งไม่ได้ล่ะก็ แกก็ไม่ต้องไปที่โอลรัสฮิลล์อีก!”ลอรีนเหลือบมองชาร์ลีอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะตอบพ่อของเธอด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า “หนูชอบโอลรัสฮิลล์ค่ะ! หนูจะไปหาสามีที่นั่น!”จาเวียร์ดุเธอว่า “ว่ายังไงนะ? ไม่มีตระกูลดัง ๆ อยู่ในโอรัสฮิลล์เลยนะ! แล้วแกจะไปหาผู้ชายดี ๆ ที่นั่นได้ยังไงกัน? ลูกสาวฉันจะไปแต่งงานกับผู้ชายสวะ ๆ อย่างนั้นได้ยังไง?ลอรีนตอบด้วยความผิดหวังว่า “พ่อคะ ตอนนี้พ่อทำไมถึงได้หัวสูงนักล่ะคะ?”“ฉันหัวสูงเหรอ?” จาเวียร์คำราม “ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อประโยชน์ของตัวแกเองนะ!”ในเวลานี้ลุงของลอรีนพูดขึ้นมาว่า “พอแล้วจาเวียร์ ไม่ต้องไปเร่งเร้าอะไรหรอกน่า ปล่อยให้ลอรีนกับเพื่อนเข้าไปข้างในเถอะ”จาเวียร์รู้สึกขุ่นเคืองเมื่อพี่ชายพูดขึ้นมา “ถ้างั้นแกก็เข้าไปข้างในก่อน ฉันจะให้แม่ของแกพูดกับแกเรื่องนี้ที
ชาร์ลีเดินตามลอรีนเข้าไปในบ้านที่อยู่อาศัยของตระกูลดัง ๆ ในอีสต์คลิฟฟ์นั้นมีความหรูหรามาก เมื่อคุณเดินผ่านประตูเข้าไป แค่ห้องนั่งเล่นห้องเดียวก็เกือบจะใหญ่เท่ากับห้องจัดเลี้ยงเล็ก ๆ แล้วในเวลานี้ห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากมาย และส่งเสียงพูดคุยกันอย่างเซ็งแซ่ บุคคลสำคัญของอีสต์คลิฟฟ์มารวมตัวอยู่ในห้องจัดเลี้ยงกันมากมาย โดยจับกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่ม ๆคุณหญิงโธมัสพร้อมกับสามีของเธอกำลังพูดคุยและหัวเราะอยู่กับเพื่อนเก่าวัยเดียวกับเธอหลายคนลอรีนรีบพูดกับชาร์ลีว่า “คุณย่าของฉันอยู่ตรงนั้นไง ไปพบท่านกันเถอะค่ะ”ชาร์ลีพยักหน้าแล้วพูดพร้อมกับยิ้ม “เรามาทันเวลามอบของขวัญที่ผมเตรียมมาให้คุณย่าของคุณพอดีเลย!”พวกเขาเดินเข้าไปอยู่ตรงหน้าคู่สามีภรรยาสูงอายุคู่นั้น แล้วลอรีนก็ทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น “คุณย่ากับคุณปู่คะ หนูขอแนะนำเพื่อนให้รู้จักหน่อยนะคะ… นี่คือชาร์ลี เวด เพื่อนสมัยเรียนวิทยาลัยของหนูเองค่ะ!”คุณหญิงโธมัสยิ้มแล้วพูดว่า “โอ้ เพื่อนสมัยเรียนวิทยาลัยของลอรีน! ยินดีต้อนรับจ้ะ!”จากนั้นเธอก็พูดว่า “ว่าแต่ลอรีนจ๊ะ ย่าจำเด็กสาวที่เป็นเพื่อนสนิทกับเธอตอนเรียนวิทยาลัยไ
ตอนนี้ลอรีนพูดกับดีแลนว่า “คัซ ฉันขอแนะนำให้นายรู้จักกับเพื่อนสมัยเรียนวิทยาลัยของฉันนะ”ชาร์ลีหันกลับมาพร้อมกับยิ้มกว้างให้ทันทีที่ลอรีนพูดแบบนั้น ทันทีที่ดีแลนเห็นเขา เขาก็เบิกตากว้างราวกับเห็นผี!เขาตกใจมากจนต้องใช้เวลานานกว่าจะได้สติ จากนั้นเขาก็เริ่มกัดฟันและส่งเสียงคำรามขึ้นมาว่า “โอ้ ชาร์ลี เวด! ฉันกำลังจะไปตามล่าหาแกอยู่พอดี แล้วตอนนี้แกยังกล้ามาโผล่หัวอยู่ที่บ้านคุณย่าฉันอีก! วันนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”ลอรีนกรีดร้องด้วยความงงงวยแล้วพูดว่า “นายพูดอะไรอยู่น่ะคัซ? ชาร์ลีเป็นแขกของเรานะ… นายพูดแบบนั้นกับเขาไม่ได้!”ดีแลนตะโกนว่า “เธอไม่รู้เหรอว่าทำไมฉันถึงต้องโดนผ่าตัด?”ลอรีนโพล่งออกมาว่า “แม่ฉันบอกว่าเธอกลืนสร้อยคอเข้าไป”“ถูกต้อง!” ดีแลนตะโกนอย่างโกรธจัด เขาพูดต่อว่า “แล้วทำไมฉันต้องทำแบบนั้นล่ะ? ก็เพราะได้เวรนี่แหละ!”ชาร์ลีแสยะยิ้ม “โคช ช่วยทำตัวเป็นคนมีเหตุผลและซื่อสัตย์หน่อยนะ ฉันบังคับให้นายกลืนสร้อยคอเส้นนั้นเหรอ? ฉันง้างปากนายออกแล้วยัดสร้อยคอเข้าไปในคอหอยนายเหรอ?”ดีแลนเงียบไปเขาจะพูดอะไรได้อีกล่ะ? สิ่งที่ชาร์ลีพูดล้วนเป็นความจริง เขาไม่ได้บังคับให้ดีแลน คัชกลืน
เมื่อชาร์ลีเห็นดีแลนยังคงมีทัศนคติเหมือนเมื่อก่อนนี้ เขาจึงอดที่จะทำเสียงเยาะเย้ยไม่ได้ แล้วพูดขึ้นว่า “ดีแลน ดูเหมือนว่านายจะไม่ยอมเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตเลยนะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า ทำไมนายถึงต้องกลืนสร้อยคอเข้าไปเมื่อคราวที่แล้วน่ะ?”ในตอนนั้นเหตุผลที่ทำให้ดีแลนถูกบังคับให้กลืนสร้อยคอเข้าไปก็เพราะเขาแพ้พนันชาร์ลี เขายกย่องตัวเองอย่างมากเพียง เพราะเขาซื้อสร้อยคอที่มีมูลค่าหลายสิบร้อยล้าน แล้วเชื่อว่ายาวิเศษที่ชาร์ลีมอบให้จัสมินนั้นเป็นของไร้ค่าแต่เขาไม่คาดคิดเลยว่า จะสามารถขายยาวิเศษได้ ในราคาสูงถึงสองหมื่นล้านบาทในงานเลี้ยงวันเกิดของจัสมินหลังจากดีแลนกลับบ้านไปแล้ว เขาก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติเขาคิดมาโดยตลอดว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครยอมจ่ายเงินถึงสองหมื่นล้านบาทเพื่อซื้ออะไรที่ดูโง่เง่าแบบนั้นดังนั้นเขาจึงสรุปได้แต่เพียงว่า ทราวิสและชาร์ลีต่างร่วมมือกันเพื่อหลอกลวงเขา!ถึงแม้จะดูเหมือนว่าทราวิสได้จ่ายเงินไปสองหมื่นล้านเพื่อซื้อยาวิเศษะเม็ดนั้น แต่มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ชาร์ลีจะคืนเงินให้ทราวิ
ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “โอเค ถ้าอย่างนั้นก็มาวางเดิมพันกัน ถ้าฉันแพ้ ฉันจะกินภาพวาด ถ้านายแพ้ นายก็กินจี้หยก”“ไอ้ระยำ!” ดีแลนกัดฟันแล้วพูดต่อ “ได้! แต่ฉันไม่เชื่อแก! งั้นก็ตกลงตามนั้น! ฉันซื้อจี้หยกนั้นมาสองร้อยสี่สิบล้านบาท! ฉันมีใบเสร็จไว้ให้ตรวจสอบด้วย แล้วภาพวาดพัง ๆ ของแกล่ะราคาเท่าไหร่?”ชาร์ลีไม่รู้จริง ๆ ว่าภาพวาดนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ แต่เขารู้ว่าราคาภาพ ‘Portrait de Famille’ ที่วาดโดยอ็องรี มาตีสนั้นมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้นชาร์ลีจึงมั่นใจว่าราคาภาพวาดของเขาจะต้องมีราคาสูงกว่าจี้หยกนั้นอย่างแน่นอนถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงภาพวาด แต่ก็ไม่ใช่ภาพกราฟฟิตี้ที่วาดแบบส่งเดช แต่เป็นภาพวาดที่ศิลปินมืออาชีพได้รังสรรค์ขึ้นมาอย่างงดงามมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ภาพวาดยอดนิยมของอ็องรี มาตีส เคยถูกประมูลไปในราคามากกว่าสี่พันล้านบาท นอกจากนี้… นี่ยังเป็นราคาประมูลภาพวาดเมื่อสิบปีก่อน ถ้าภาพวาดนี้ถูกประมูลขึ้นอีกครั้งในวันนี้ ราคาของภาพวาดนั้นก็อาจพุ่งขึ้นเกินแปดพันล้านบาทด้วยซ้ำไปยูลไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นของต่าง ๆ ที่เขาทำการสะสม ถึงแม้จะเป็นเพียงภาพว
ไอ้บ้าเอ๊ย!”ดีแลนตะโกนออกไปอย่างเย็นชา “แกใกล้จะถึงวันตายเข้าไปทุกทีแล้ว แต่ยังกล้าปฏิเสธความผิดพลาดของตัวเองในเวลาเช่นนี้อีก ยอมรับมาเถอะว่าแกโกหก! แกกล้ามากนะที่เอาคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย ถ้าคุณโกลดิ้งตำหนิเราในเรื่องนี้ แกจะรับผิดชอบไหวเหรอ?”ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “ถ้านายไม่เชื่อผม ก็โทรไปหาคุณโกลดิ้งได้เลย แล้วถามว่าเขาเป็นคนมอบภาพวาดนี้ให้ฉันด้วยตัวเองหรือเปล่า”“เฮอะ!” ดีแลนแสยะปากแล้วพูดต่อว่า “ถึงฉันจะเป็นนายน้อยของตระกูลโคช ฉันก็ไม่มีสิทธิ์ไปติดต่อคุณโกลดิ้งโดยตรงหรอก ตอนนี้แกมาอวดอ้างสร้างเรื่องก็เพราะแกรู้ว่า ฉันไม่สามารถโทรถามคุณโกลดิ้งว่าภาพวาดเป็นของจริงหรือของปลอมใช่ไหมล่ะ?”ชาร์ลีไม่ได้แสดงความคิดเห็นออกมา แต่พูดเพียงว่า “ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงและคุยโวในเรื่องนี้โดยไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันว่าทางที่ดีเราควรหาผู้เชี่ยวชาญในการประเมินราคามาตรวจสอบที่นี่จะดีกว่านะ”“ไม่จำเป็น” ดีแลนหัวเราะเยาะในขณะที่พูดว่า “จะบอกอะไรให้นะ ฉันได้เชิญริกลีย์ที่เป็นนายน้อยคนโตของตระกูลโกลดิ้งมาที่นี่ในวันนี้ด้วย ถ้าภาพวาดนี้เป็นของแท้ ก็คงเป็นภาพวาดที่อยู่ใ