ชาร์ล็อตส่ายหัวแล้วตอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะพ่อ” “จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไงล่ะ ลูกเป็นลูกสาวของพ่อ และพ่อก็รู้จักลูกดีที่สุด ทุกคนคิดว่าลูกสวยและฉลาด แต่ไม่มีใครรู้ว่านั่นเป็นเพียงหน้ากากที่ลูกสวมใส่ เพื่อปกปิดตัวตนที่แท้จริง ลูกเป็นผู้หญิงหัวแข็งและดื้อรั้น ลูกไม่ยอมจำนนต่อใครทั้งนั้น และถ้าใครพยายามจะควบคุมลูก ลูกจะต้องตอบโต้กลับอย่างแน่นอน แต่ยังไงก็เถอะ ฟังพ่อนะ คาร์ลี่ ลูกต้องลดทิฐิลงบ้าง ตอนนี้ลูกเป็นภรรยาของใครสักคนแล้ว ลูกอย่าตอบโต้กับแซคคารีและ...” “เดี๋ยวก่อนค่ะ เดี๋ยวก่อน! พ่ออย่าบ่นสิ ขอร้อง หนูรู้ว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่” ชาร์ล็อตพูดแทรก เธอหัวเราะทั้งน้ำตา เธอคุยกับพ่อของเธอผ่านวิดีโอเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง เธอได้รู้จากพ่อของเธอว่า ไม่เพียงแต่เขาทำให้วิกเตอร์ รัทเทอร์ฟอร์ดถอนฟ้องพ่อเท่านั้น แต่เขายังคืนสิทธิ์การจัดการของบริษัทซิมม่อนส์ให้กับพ่อของเธอด้วย หลังจากที่พ่อของเธอหายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาจะได้กลับไปดำรงตำแหน่งประธานบริษัทซิมม่อนส์ได้อีกครั้ง ก่อนหน้านี้ พ่อของเธอล้มป่วยลงจากการทรยศของไบรสันและวิกเตอร์ เมื่อเขารู้ว่าแซคคารีช่วยเขาจัดการทุกอย่าง ทันท
แซคคารีกล่าวว่า "ไม่ต้อง" จากนั้นเขาก็จ้องมองชาร์ล็อตอย่างมีนัยสำคัญ เขาบอกเธออย่างชัดเจนว่า “ฉันมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกับลูคัส เธอออกไปได้แล้ว...” ชาร์ล็อตไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดจนเธอจะไม่เข้าใจว่าหมายมันถึงอะไร นอกจากนี้ เธอก็ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของแซคคารีอยู่แล้ว ดังนั้น เธอจึงส่ายหัวและออกจากห้องนั่งเล่นทันที ลูคัสพูดต่อหลังจากที่ชาร์ล็อตเดินออกไป “เหตุการณ์นั้นถูกวางแผนไว้อย่างรอบคอบ และจุดประสงค์ของเขาคือให้คุณไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น หลังจากการสืบสวนอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ในที่สุดผมก็พบว่าคนที่วางยาคุณในคืนนั้นเป็นหนึ่งในคนของลุงของคุณ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คนที่คิดแผนทั้งหมดเพื่อต่อต้านคุณอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่ใครอื่น น่าจะเป็นลุงของคุณมากที่สุดครับ!” แซคคารีหรี่ตาลง ด้วยคำว่า “ลุง” มันทำให้รู้สึกเหมือนมีคนเอาเกลือมาถูแผลตรงหัวใจของเขา “เฮ้อ… นายท่านรอง ทั้งหมดมันเป็นอดีตไปแล้ว คุณไม่ได้มีความสัมพันธ์ใหม่แล้วหรอกเหรอ? ลืมอดีตแล้วก้าวต่อไปเถอะนะครับ” ลูคัสปลอบโยนแซคคารีอย่างลำบากใจ ลุงของแซคคารีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ลาร์สันและแซคคารีต้องแยกทางกัน ดัง
'อะไรกันเนี่ย?' ชาร์ล็อตเคาะประตูถึง 9 ครั้งจนนิ้วจะหักอยู่แล้ว เธอเพิ่งเปิดประตูและเข้ามาในห้อง เพราะแซคคารีไม่ตอบ โอเค? ชาร์ล็อตที่เดินเข้าไปในห้อง เห็นแซคคารีจ้องมองล็อกเก็ตมรกตอย่างงุนงง เธอไม่ต้องการรบกวนเขา ดังนั้นเธอจึงพยายามเขย่งเท้ากลับไปที่ห้องนอนโดยไม่ส่งเสียงดัง แต่เธอถูกจับได้ซะก่อนที่เธอจะเคลื่อนไหว เมื่อเห็นว่าแซคคารีดูค่อนข้างไม่พอใจ ชาร์ล็อตจึงไม่อยากเถียงกับเขา เธอจึงยิ้ม “โอเค ฉันผิดเอง ต่อไปฉันจะเคาะประตูแล้วกันนะ ไม่รบกวนนายละ นายตกอยู่ในภวังค์ของนายต่อแล้วกัน” แซคคารีอ้าปาก แต่ก่อนที่เขาจะมีเวลาพูด ชาร์ล็อตก็เดินเข้าไปในห้องนอนของเธอ และปิดประตูอย่างแรง แซคคารีขมวดคิ้วที่งดงามของเขา 'ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์! นี่เธอต่อต้านฉันงั้นเหรอ?’ ... ชาร์ล็อตซึ่งกลับมาที่ห้องนอนของเธออย่างสงบสุข เธอถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ถ้าเธอออกจากห้องไม่ทันเวลา เธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรให้เธอลำบากขนาดไหน เมื่อนึกถึงแซคคารี เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงล็อกเก็ตมรกตที่เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่า เพราะเธอเคยเป็นเจ้าของมัน... 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่เธอกับไบรสันได้ประกาศความสัมพันธ์อย่
มันมีกลิ่นมิ้นต์ที่เย็นและสดชื่นมาจากเขา มันเลือนรางแต่ช่างมีความพิเศษจนไม่สามารถละเลยได้ มันน่าเสพติดอย่างกับยาเสพติด ภาพในหัวของชาร์ล็อตคือเธอได้ตกลงไปในสวนที่บานสะพรั่ง และลืมไปเสียสนิทเลยว่าแซคคารีกำลังจูบเธออยู่... คนที่กำลังจูบเธอคือแซคคารี! หลังจากที่ริมฝีปากของเขากระตุกและแยกออกจากเธอ ชาร์ล็อตก็ค่อย ๆ ฟื้นความมีเหตุมีผลของเธอ ทันทีที่เธอกลับมามีสติอีกครั้ง ความสับสน ตกใจ และตื่นตระหนกก็เข้าครอบงำเธอในทันที “แซคคารี คอนเนอร์ ทำไมนาย.. จูบฉัน” แซคคารียังคงกอดเธอแน่น ความอบอุ่นที่มาจากลมหายใจและหน้าอกของเขาที่ร้อนผ่าวราวกับไฟในทุ่งหญ้า ทุกวินาทีในอ้อมแขนของเขามันช่างพิเศษ เขาทำให้เธอสูญเสียความสามารถในการให้เหตุผลไปทีละน้อย “อย่าทิ้งฉันนะ ได้โปรด...” ริมฝีปากเรียวบางแสนอบอุ่นของชายคนนั้น กดลงตรงระหว่างคิ้วของเธอ และเขายังกระซิบอีกว่า “ฉันรักเธอ” ชาร์ล็อตสะดุ้ง “นาย... นายพูดอะไร?” "ฉันรักเธอ" เขากอดเธอแน่นขึ้นในอ้อมแขนอันทรงพลังของเขา ราวกับว่าเขากำลังกอดสมบัติอันล้ำค่าที่มีความสำคัญมากกว่าชีวิตของเขาเองเสียอีก เขาต้องการที่จะโอบกอดเธอไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา และจ
ชาร์ล็อตกลับไปที่ห้องนอนของเธอ แต่หัวใจของเธอยังคงเต้นแรง ขณะที่เธอมองเข้าไปในกระจก ริมฝีปากของเธอก็แดงก่ำราวกับว่ามีเลือดออก ปากของเธอก็เต็มไปด้วยรสหวานของเลือดที่ค้างอยู่ในคอ ราวกับว่าจูบอันเร่าร้อนของแซคคารียังคงติดอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ... เมื่อใดก็ตามที่แซคคารีเข้ามาหาเธอ เธอจะรู้สึกตื่นตระหนกและหวาดกลัวอยู่เสมอ เธอยังมีภาพหลอนว่าเธอได้กลับไปสู่คืนที่คนแปลกหน้าคนนั้นทำให้เธอเปื้อนมลทินเมื่อ 10 เดือนก่อน ครั้งนี้เป็นเพราะแซคคารีเข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เขารักเหรอ? จูบของเขาช่างหอมหวานเสียจนชาร์ล็อตสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น "ฮึ!" ชาร์ล็อตชูนิ้วกลางสะท้อนเงาในกระจก เพื่อแสดงถึงการดูถูกและบ่นพึมพำเพื่อปลอบโยนตัวเอง “ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ เธอไม่ได้เป็นอะไร เธอไม่ได้ผิดปกติ ไม่มีผู้หญิงคนไหนต้านทานเสน่ห์อันน่าสะพรึงนั้นได้หรอก” … ขณะที่ชาร์ล็อตกำลังนอนอยู่บนเตียงและลูบท้องของเธอ เธอก็นึกถึงเด็กที่เธอให้กำเนิด เด็กถูกพรากไปทันทีที่เขาเกิด เธอไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าเด็กเลยด้วยซ้ำ เธอรู้เพียงว่าเขาเป็นเด็กผู้ชาย เขางดงามและน่ารัก เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ในคำโกหกของไบรสันมาก่อน โดยคิดว่า
ชาร์ล็อตตกใจมากจนขาและเท้าของเธอพุ่งไปเองอย่างเร็ว พวกมันเคลื่อนไหวราวกับว่าร่างกายของเธอไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของสมองอีกต่อไป และด้วยเหตุนี้ เธอจึงเดินเข้าไปหาเขาโดยอัตโนมัติ จากนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีน้ำหนักดึงไหล่ของเธอลงทันที แซคคารีกำลังดึงเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา เธอพุ่งเข้าไปตรงร่างของเขา ซึ่งแข็งพอ ๆ กับแผ่นเหล็ก มันจึงทำให้เธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะฟื้นจากความมึนงงนี้ ริมฝีปากของแซคคารีก็สัมผัสได้ถึงเธอแล้ว อึ้ง... ริมฝีปากของพวกเขาประกบกันอย่างแน่นอีกครั้ง เสียงฟ้าร้องกระทบความมึนงงในใจของเธอ และพื้นที่ในหัวใจของเธอดูเหมือนจะว่างเปล่า เธอต้องการหลบหนีด้วยความตื่นตระหนก แต่มืออันแข็งแกร่งของแซคคารีได้จับด้านหลังศีรษะของเธอไว้ และดันใบหน้าของเธอเข้าหาเขา “อืมมม!” ความเยือกเย็นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาราวกับมินต์และกลิ่นหอมจาง ๆ ของสุราที่ปกคลุมเธอราวกับคลื่นซัดสาด ชาร์ล็อตดูเหมือนจะถูกกลืนกินเข้าไป และรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังตกอยู่ในความฝันอันแสนหวาน เธอจมลึกลงไปในนั้นและไม่สามารถพาตัวเองกลับขึ้นมาได้ เธอสูญเสียความมีเหตุผลของเธออีกครั้งและเริ่มจำยอม
จากนั้น แซคคารีก็จำแผนเดิมของพวกเขาได้ "โอเค" น้ำเสียงของเขาฟังดูสบาย ๆ แต่ก็ยังทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาเพิ่งจำเกี่ยวกับการประชุมได้ เขาก้าวขาอันยาวเรียวยาวและเดินไปหาลูคัส “นายไม่ไปกับฉันเหรอ?” ลูคัสจ้องชาร์ล็อตต์ ซึ่งโดนแซคคารีทิ้งไว้ตรงหน้าประตูห้องนอน “นายท่านรอง คุณมีช่วงเวลาที่ใกล้ชิดกับคุณชาร์ล็อตเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว... คุณจะทิ้งเธอไว้แบบนี้จริง ๆ เหรอครับ?” ขณะที่เขาพูด จู่ ๆ ลูคัสก็รู้สึกเย็นยะเยือกที่กระดูกสันหลังของเขา เขาเงยศีรษะขึ้น และเป็นไปตามที่คาดไว้ เขามองเข้าไปในการจ้องมองอันน่าสยดสยองของแซคคารี เขากลัวมากจนแทบจะคุกเข่าลงตรงนั้นและเอ่ยปากขอการยกโทษ การจ้องมองอย่างเฉยเมยของแซคคารีเป็นสิ่งที่เขาต้องเผชิญทุกวัน และการมองเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขากลัวจะมีปัญญา ทำไมแซคคารีถึงจ้องมองเขาด้วยสายตาที่น่าสยดสยองเช่นนั้น? 'เดี๋ยวก่อนนะ! นายท่านรองรีบออกจากที่นั่นอย่างเร็ว… เขาพยายามหลบหน้าคุณซิมม่อนส์เหรอ?’ ลูคัสเหลือบมองชาร์ล็อตอีกครั้ง เธอดูตื่นตระหนก สับสน และตกตะลึง และเขาก็เดาได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น “เข้าใจแล้ว นายท่านรอง เดี๋ยวผมจะพาคุณไปที่
เธอมองขณะที่บอดี้การ์ดวางสายและหลบไปด้านข้างอย่างให้เกียรติ “นายท่านรองอนุญาตให้คุณออกไปได้ครับ นายหญิง”‘หา?’จู่ ๆ ข่างดีก็มาถึง ชาร์ล็อตหยุดยืนด้วยความงุนงงก่อนที่เธอจะขยับขา ทันทีที่เธอเดินออกจากประตู เธอหันไปมองรอบ ๆ ช่วยตัวเธอเองไม่ได้ “นายกำลังบอกว่าฉันตอบได้อย่างถูกต้องงั้นเหรอ?”“ผมเชื่อว่าผลลัพธ์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำตอบของคุณนะครับ นายหญิง” บอดี้การ์ดจ้องชาร์ล็อตด้วยสายตาที่ให้ความนับถือและมีท่าทางที่ลึกลับในแววตาของเขา“คุณก็รู้อยู่ว่า ถ้าเขาตั้งใจจะเก็บคุณไว้ที่นี่ คำตอบไหน ๆ ก็คงผิดไปหมด ทำนองเดียวกันกับ ถ้าเขาอยากที่จะปล่อยตัวคุณ คำตอบใด ๆ ก็คงถูกไปหมดเช่นกัน”ชาร์ล็อตสะดุดขาตัวเองล้มดังนั้นแซคคารีจึงตั้งใจที่จะปล่อยเธอออกไป…เอล ปาราดิโซคือ ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงร้านหนึ่งในรอธเซย์ มันยังเป็นจุดพบปะแสนโปรดของชาร์ล็อตและโครอลไลน์ชาร์ล็อตตรงไปยังที่นั่งริมหน้าตางทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ทันทีที่เธอมาถึง一นั่นคือโต๊ะโปรดของเธอและโครอลไลน์โครอลไลน์กำลังนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างที่คิด“โอ้ คาร์ลี่ที่น่าสงสารของฉัน มันไม่ถึงเดือนตั้งแต่เธอมีลูก แต่หุ่นของเธอดูไม่ต่างจากห