นี่คือตัวตนที่แท้จริงของมาร์ธา เธอจะเอื้อมมือไปถามเอาเงินเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่สุดที่จะทำได้เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่มีความละอายเอาเสียเลยฟิลิปตะลึง เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาจึงมองไปที่วินน์แทนวินน์เดินไปและพูดอย่างเย็นชาว่า “แม่ นี่แม่กำลังทำอะไรอยู่คะ? แม้ว่าฟิลิปจะมีเงินจำนวนนั้น แต่เราก็ไม่สามารถให้แม่ได้นั่นมันสำหรับการรักษาของมิล่า”วินน์รู้จักนิสัยของฟิลิปดี เขาต้องบอกว่าเขามีหนึ่งล้านเหรียญเพื่อจัดการกับมาร์ธาอย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดหวังว่าแม่ยายของเขาจะขอเงินแบบนี้เมื่อมาร์ธาได้ยินเช่นนั้น เธอก็ก้มหน้าลง เธอลุกขึ้นและเริ่มโวยวาย “ฉันไม่เคยบอกว่าฉันจะไม่ใช้มันเพื่อรักษามิล่า ฉันจะเก็บเงินนี้ไว้ให้นายและนายสามารถขอจากฉันได้เมื่อนายต้องการใช้”วินน์โกรธมาก เธอจะไม่ให้เงินแม่เธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาร์ธาไม่สนใจมิล่าด้วยซ้ำมันคงเป็นเรื่องยากที่จะได้เงินคืนจากเธอเมื่อมันตกไปอยู่ในมือของมาร์ธาแล้วมาร์ธาหันไปมองฟิลิปเมื่อวินน์ปฏิเสธ เธอถามอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “ฟิลิปฉันจะถามนายอีกครั้ง นายจะให้เงินนี้กับฉันเพื่อเก็บมันไว้ให้นายไหม?”เห็นได้ชัดว่าเธอพยายามจะหลอกล่อเขาฟ
200ล้าน? เดอร์ริคเกือบตกจากเก้าอี้“ผู้อำนวยการสแตนลีย์ค่ะ คุณแน่ใจหรือว่าไม่ได้พูดเล่น? เห็นได้ชัดว่าเงื่อนไขในสัญญานี้มีประโยชน์ต่อ บีคอนมากกว่า” วินน์รู้สึกเหมือนเธอกำลังฝันไปผู้อำนวยการสแตนลีย์ยิ้มและกล่าวว่า “คุณจอห์นสตัน เราเซ็นสัญญาไปแล้วจะกังวลอะไรอีก?”วินน์มองดูสัญญาได้รับการลงนามจริง ๆ มันถูกประทับตราแล้วนี่หมายความว่าตราบใดที่วินน์ลงนามสัญญาก็จะมีผลบังคับทันทีดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของฟิลิปและศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์จะไม่ใช่เรื่องที่ธรรมดาขนาดนั้น คงมีบางอย่างที่เธอไม่รู้เธอคงต้องกลับไปถามฟิลิปเมื่อเร็ว ๆ นี้ วินน์ตระหนักได้ว่าเธอให้ความสำคัญกับฟิลิปน้อยลง เขาเปลี่ยนไปมากเกินไปเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น วินน์ยกปากกาขึ้นและกำลังจะเซ็นอย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้!ประตูห้องประชุมถูกเปิดออกในชั่วพริบตา บอดี้การ์ดแปดคนในชุดสูทก็พุ่งเข้ามาและยืนอยู่ที่ประตูหญิงสาวผู้สง่างามสวมชุดยาวสีขาวไม่มีสายหนังของวาเลนติโน่เดินเข้ามา หน้าตาของเธอสมบูรณ์แบบ จมูกสูงของเธอดูโดดเด่นมาก มีความเย่อหยิ่งและความเยือกเย็นในดวงตาของเธอเธอสวมหมวกกันแดดสีชมพูกว้างและรองเท้าคริสตัลหลุยส์ราคา
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นออกจากห้องประชุมไป ทุกคนก็ยังไม่สงบลงหน้าของวินน์ร้อนผ่าว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครไม่ว่าอย่างไรดูเหมือนว่าเธอจะรู้จักฟิลิปเดอร์ริคมองเธอและขอโทษ เขาพูดขึ้น “ผู้อำนวยการสแตนลีย์ ผมขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น อืมคงเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาร่วมกันของเรา ... "ผู้อำนวยการสแตนลีย์ยิ้มและพยายามลดความอึดอัด “แน่นอนว่าการเซ็นสัญญาร่วมกันไม่มีข้อผิดพลาด เราทำได้แค่…”ก่อนที่เขาจะพูดจบ โทรศัพท์ของผู้อำนวยการสแตนลีย์ก็ดังขึ้นหลังจากที่รับสาย ผู้อำนวยการสแตนลีย์พูดสองสามคำก่อนที่จะก้มหน้าลง “ก็ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”“มีอะไรเหรอเปล่าครับผู้อำนวยการสแตนลีย์? เกิดอะไรขึ้น?" เดอร์ริคอ่านการสถานการณ์บนหน้าของผู้อำนวยการสแตนลีย์มีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ๆ?“ผมต้องขอโทษด้วยครับ คุณฮอลล์ คุณจอห์นสตัน เราต้องหยุดการเซ็นสัญญาร่วมกันไว้แค่นี้ ผมไม่รู้รายละเอียดจริง ๆ ผมต้องกลับไปหารือเรื่องนี้เพิ่มเติมกับผอ.เทิร์นเนอร์ ผมต้องขอโทษด้วยครับ"ผู้อำนวยการสแตนลีย์กล่าวและจากไปพร้อมกับพนักงานของเขาตอนนี้มีแค่เดอร์ริคและพนักงานของเขาในห้องประชุม ทุกคนยืนทำหน้างงแน่นอนว่
ลินน์กำลังตกใจ เธอกระทืบเท้าและดึงแขนฟิลิปก่อนจะพูดว่า “ฟิลิป บอกพวกเธอไปสิว่ามันเป็นเรื่องจริง ไม่สิ นายต้องโทรหาธีโอตอนนี้และบอกให้เขามาที่นี่!”ลินน์เริ่มโวยวายเธอไม่เคยถูกสงสัยแบบนี้มาก่อน และแน่นอนว่าเธอรู้สึกไม่มีความสุขเอาเสียเลยแต่ว่าฟิลิปส่ายหัวและพูดว่า “ฉันขอโทษนะแต่ฉันไม่รู้จักธีโอ แซนเดอร์เลยจริง ๆ นี่ลินน์ เธอจำผิดคนหรือเปล่า?”“ฮ่า ๆ ๆ ๆ !”เสียงหัวเราะดังขึ้นทันทีลินน์หน้าแดง เธอรู้สึกได้ถึงการรังเกียจที่มาจากเพื่อนของเธอเธอรู้สึกเหมือนไก่ไม่มีขนที่ยืนอยู่ต่อหน้าทุกคนอย่างเปลือยเปล่า เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์และอับอายต่อหน้าทุกคน“พอเถอะลินน์ พี่เขยเธอพูดไปแล้วหนิ เลิกโกหกพวกเราได้แล้ว พวกเราจะไม่หัวเราะเยาะเธอหรอก”“พี่เขยเธอเป็นดูคนซื่อ ๆ เหมือนเขาจะไม่ใช่คนงี่เง่าสักเท่าไหร่”"พอได้แล้ว เราไปสนุกกันเถอะ”เพื่อนของเธอออกไปพร้อมกับหัวเราะลินน์ก็หน้าซีด เธอหันกลับมาอย่างโกรธจัดและเหวี่ยงมือจะไปตบฟิลิป เธอตะโกนว่า “ฟิลิป ทำไมนายไม่พูดความจริงล่ะ? นายมีความสุขไหมที่ฉันถูกพวกเขาเยาะเย้ย?”แต่ทว่า ฟิลิปจับมือเธอไว้ได้กลางอากาศ“ลินน์ ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนนะ อย่
เธอกำลังกังวลอย่างบอกไม่ถูก!มาร์ธาเดือดดาลมากในตอนนี้ เธอรีบหยิบโทรศัพท์ด้วยมือที่สั่นเทาและถ่ายรูปเธอต้องเก็บหลักฐานไว้เพื่อจะได้กลับไปถามฟิลิปปกติแล้วมาร์ธาเองก็รู้สึกสงสัยในตัวตนของฟิลิปคนยากจนไม่มีอำนาจแบบเขาจะขึ้นรถหรูคันเดียวกับเศรษฐีในริเวอร์เดลได้อย่างไร?มาร์ธาไม่เข้าใจเรื่องนี้ เธอหันกลับมาและออกไปเมื่อเธอกลับถึงบ้าน เธอเล่าทุกอย่างให้ชาร์ลส์ฟัง “ชาร์ลี ดูนี่สิ นี่ใช่ฟิลิปเหรอเปล่า?”ชาร์ลส์กำลังเล่นกับนกของเขา เขาวางกรงนกลงแล้วสวมแว่นสายตาเพื่อดู และพูดว่า “ทำไมคุณถึงถ่ายรูปเขา? คุณยังติดตามฟิลิปอยู่เหรอ”ชาร์ลส์ตกใจมาก เกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของเขา?เธอใช้แผนการราคาถูก ๆ แบบนี้เพื่อสะกดรอยตามเขาเหรอ?มาร์ธาจ้องมาที่เขาและตีแขน เธอพูดว่า “ดูที่คนข้าง ๆ เขาสิ!”ชาร์ลส์อยากรู้ เขามองดูไกล้ ๆ และอุทานว่า “คือ… นั่นคือจอร์จ โธมัสใช่เหรอเปล่า?”มาร์ธาพยักหน้าและนั่งลงบนโซฟา เธอกอดอกและเริ่มคิดด้วยหน้าที่ไม่เชื่อจากนั้นเธอก็พูดว่า “ฟิลิปต้องปิดบังอะไรบางอย่างกับพวกเราแน่ ๆ ชาร์ลี โทรหาเขาแล้วบอกให้มาที่บ้าน ฉันต้องถามเขาว่าความสัมพันธ์ของเขากับจอร์จคืออะไร ฉันอยากรู
ฟิลิปรู้ว่าพวกเขาต้องเชื่อเขาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงจงใจพูดอย่างนั้นในบางครั้ง การที่จะทำใจยอมรับความจริงมันก็เป็นเรื่องที่ยากเหมือนกันมาร์ธาไม่ได้พูดอะไร ไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งว่า “นายไม่จำเป็นต้องไปงานวันเกิดคุณปู่ของวินน์ที่จะถูกจัดขึ้นวันมะรืนนี้ อยู่บ้านเฉย ๆ ก็พอ ”พ่อของมาร์ธาจะฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขาวันมะรืนนี้ เธอไม่ต้องการพาชายยากจนขี้ขลาดนี้ไปถ้าไม่ทำแบบนั้น คนในครอบครัวของมาร์ธาจะต้องอับอายอย่างไม่รู้จบแน่นอกจากนี้ ผู้อาวุโสเยทส์ก็ไม่มีความสุขกับการแต่งงานของวินน์ มาร์ธาจะแสดงความยินดีกับพ่อของเธอหรือทำให้เขาโกรธเป็นฝืนเป็นไฟด้วยการพาฟิลิปไปงานฟิลิปคาดหวังให้เป็นแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไร เขาหยิบกล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและพูดว่า “คุณแม่ครับ นี่คือของขวัญที่ผมเตรียมไว้ให้นายท่านอาวุโส”มาร์ธามองดูกล่องปักบนโต๊ะและบ่นว่า “นี่อะไร? กล่องดูแย่มาก นายกำลังให้สิ่งที่มีค่าแค่ไม่กี่สตางค์กับคุณพ่อฉันงั้นเหรอ”มาร์ธาไม่อยากเปิดกล่องดูด้วยซ้ำ เธอไม่อยากทำให้ตาของเธอเห็นสิ่งสกปรกฟิลิปได้มอบของที่ดีอะไรให้กับนาย
หลังจากที่เขาพูดแบบนั้น มาร์ธาก็จ้องไปที่ฟิลิป สายตาของเธอเฉียบแหลม ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามหาบางอย่างบนหน้าของฟิลิป "อะไรนะ? นายจะบอกว่านายซื้อบ้านงั้นเหรอ? นี่ฟิลิป นายรู้ไหมว่านายกำลังพูดถึงอะไรอยู่ นายจนมาสามปีแล้วนะ แต่ตอนนี้นายมีปัญญาซื้อบ้านได้แล้วเหรอ? ฉันไม่คิดว่านายจะมีปัญญาซื้อห้องน้ำได้ด้วยซ้ำไป!”มาร์ธาโมโหมาก ฟิลิปแปลกไปจริง ๆ เขายังพยายามที่จะโกหกเธอต่อไปเขาจะซื้อบ้านได้จริงเหรอ?บ้านที่เขาและวินน์อาศัยอยู่ตอนนี้มาร์ธายังจ่ายไปแค่ครึ่งนึงเองราคาอสังหาริมทรัพย์เฉลี่ยในริเวอร์เดลอยู่ที่ 20,000 ถึง 30,000 เหรียญต่อตารางฟุตเขาจะมีปัญญาจ่ายได้อย่างไร?“คุณแม่ครับ ก่อนที่ผมจะแต่งงานกับวินน์ ผมได้เอาเงินเก็บมาจากบ้านของผม ผมเพิ่งซื้อมันมา ถ้าหากคุณแม่และพ่อต้องการจะอาศัยอยู่ที่นั่น ผมก็จัดการมันได้ในตอนนี้” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็นคราวนี้ ชาร์ลส์ทนดูเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้เขาวุ่นวายอยู่กับของเก่าเก็บของเขาอยู่มุมหน้าของบ้าน เขาเยาะเย้ยและพูดขึ้น “ฟิลิป แม่ยายของนายรังแกนายเพราะนายปฏิเสธที่จะเติบโต และตอนนี้นายกำลังอวดดีต่อหน้าพวกเราอยู่ นายไม่ละอายใจเหรอ?
เมื่อสองวันก่อน คลาวด์ เพวีเรี่ยนทำยอดขายได้ในราคาสูงถึง 130 ล้านเหรียญ!มันเป็นแหวนประดับหยกที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของจักรพรรดิเฉียนหลง!พอมีข่าวออกมา ตกใจกันทั้งเมือง!นาน ๆ ที จะมีคนกล้าประมูลแบบนี้130 ล้าน!คนซื้อคงรวยและมีภูมิฐานน่าดู!ดอนติดต่อคนของเขาเพื่อติดต่อกับคนซื้อทันที อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เจอและถูกปฏิเสธทันทีเมื่อมีการส่งคำเชิญคนซื้อรายนี้ลึกลับมาก พวกเขาจะต้องเป็นคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจ ดอนต้องไปพบเขาให้ได้ในเวลาเดียวกัน ตระกูลเยทส์กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ร่าเริงและสนุกสนานนายท่านอาวุโสเยทส์กำลังฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขา ถือเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่!นายท่านอาวุโส ชื่อบ๊อบ เยทส์ เขาเป็นเลขานุการระดับสูงขององค์กรและดำรงตำแหน่งสำคัญ เขามีลูกศิษย์หลายคน และพูดได้ว่าเขาได้รับความเคารพอย่างสูงหลังจากที่เกษียณแล้ว เขากลับไปที่หมู่บ้านเยทส์และกลายเป็นบุคคลที่น่านับถือที่สุดที่นั่นทั้งหมดเป็นเพราะตำแหน่งของเขาในลำดับชั้นของครอบครัวตระกูลเยทส์กลายเป็นครอบครัวที่มีอิทธิพลที่สุดในหมู่บ้าน มีกิ่งก้านที่แตกต่างกันมากมายในแผนภูมิต้นไม้ครอบครัว มีมากกว่าสิบครอบครั