ลินน์กำลังตกใจ เธอกระทืบเท้าและดึงแขนฟิลิปก่อนจะพูดว่า “ฟิลิป บอกพวกเธอไปสิว่ามันเป็นเรื่องจริง ไม่สิ นายต้องโทรหาธีโอตอนนี้และบอกให้เขามาที่นี่!”ลินน์เริ่มโวยวายเธอไม่เคยถูกสงสัยแบบนี้มาก่อน และแน่นอนว่าเธอรู้สึกไม่มีความสุขเอาเสียเลยแต่ว่าฟิลิปส่ายหัวและพูดว่า “ฉันขอโทษนะแต่ฉันไม่รู้จักธีโอ แซนเดอร์เลยจริง ๆ นี่ลินน์ เธอจำผิดคนหรือเปล่า?”“ฮ่า ๆ ๆ ๆ !”เสียงหัวเราะดังขึ้นทันทีลินน์หน้าแดง เธอรู้สึกได้ถึงการรังเกียจที่มาจากเพื่อนของเธอเธอรู้สึกเหมือนไก่ไม่มีขนที่ยืนอยู่ต่อหน้าทุกคนอย่างเปลือยเปล่า เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์และอับอายต่อหน้าทุกคน“พอเถอะลินน์ พี่เขยเธอพูดไปแล้วหนิ เลิกโกหกพวกเราได้แล้ว พวกเราจะไม่หัวเราะเยาะเธอหรอก”“พี่เขยเธอเป็นดูคนซื่อ ๆ เหมือนเขาจะไม่ใช่คนงี่เง่าสักเท่าไหร่”"พอได้แล้ว เราไปสนุกกันเถอะ”เพื่อนของเธอออกไปพร้อมกับหัวเราะลินน์ก็หน้าซีด เธอหันกลับมาอย่างโกรธจัดและเหวี่ยงมือจะไปตบฟิลิป เธอตะโกนว่า “ฟิลิป ทำไมนายไม่พูดความจริงล่ะ? นายมีความสุขไหมที่ฉันถูกพวกเขาเยาะเย้ย?”แต่ทว่า ฟิลิปจับมือเธอไว้ได้กลางอากาศ“ลินน์ ฉันขอเตือนเธอไว้ก่อนนะ อย่
เธอกำลังกังวลอย่างบอกไม่ถูก!มาร์ธาเดือดดาลมากในตอนนี้ เธอรีบหยิบโทรศัพท์ด้วยมือที่สั่นเทาและถ่ายรูปเธอต้องเก็บหลักฐานไว้เพื่อจะได้กลับไปถามฟิลิปปกติแล้วมาร์ธาเองก็รู้สึกสงสัยในตัวตนของฟิลิปคนยากจนไม่มีอำนาจแบบเขาจะขึ้นรถหรูคันเดียวกับเศรษฐีในริเวอร์เดลได้อย่างไร?มาร์ธาไม่เข้าใจเรื่องนี้ เธอหันกลับมาและออกไปเมื่อเธอกลับถึงบ้าน เธอเล่าทุกอย่างให้ชาร์ลส์ฟัง “ชาร์ลี ดูนี่สิ นี่ใช่ฟิลิปเหรอเปล่า?”ชาร์ลส์กำลังเล่นกับนกของเขา เขาวางกรงนกลงแล้วสวมแว่นสายตาเพื่อดู และพูดว่า “ทำไมคุณถึงถ่ายรูปเขา? คุณยังติดตามฟิลิปอยู่เหรอ”ชาร์ลส์ตกใจมาก เกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของเขา?เธอใช้แผนการราคาถูก ๆ แบบนี้เพื่อสะกดรอยตามเขาเหรอ?มาร์ธาจ้องมาที่เขาและตีแขน เธอพูดว่า “ดูที่คนข้าง ๆ เขาสิ!”ชาร์ลส์อยากรู้ เขามองดูไกล้ ๆ และอุทานว่า “คือ… นั่นคือจอร์จ โธมัสใช่เหรอเปล่า?”มาร์ธาพยักหน้าและนั่งลงบนโซฟา เธอกอดอกและเริ่มคิดด้วยหน้าที่ไม่เชื่อจากนั้นเธอก็พูดว่า “ฟิลิปต้องปิดบังอะไรบางอย่างกับพวกเราแน่ ๆ ชาร์ลี โทรหาเขาแล้วบอกให้มาที่บ้าน ฉันต้องถามเขาว่าความสัมพันธ์ของเขากับจอร์จคืออะไร ฉันอยากรู
ฟิลิปรู้ว่าพวกเขาต้องเชื่อเขาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงจงใจพูดอย่างนั้นในบางครั้ง การที่จะทำใจยอมรับความจริงมันก็เป็นเรื่องที่ยากเหมือนกันมาร์ธาไม่ได้พูดอะไร ไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่งว่า “นายไม่จำเป็นต้องไปงานวันเกิดคุณปู่ของวินน์ที่จะถูกจัดขึ้นวันมะรืนนี้ อยู่บ้านเฉย ๆ ก็พอ ”พ่อของมาร์ธาจะฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขาวันมะรืนนี้ เธอไม่ต้องการพาชายยากจนขี้ขลาดนี้ไปถ้าไม่ทำแบบนั้น คนในครอบครัวของมาร์ธาจะต้องอับอายอย่างไม่รู้จบแน่นอกจากนี้ ผู้อาวุโสเยทส์ก็ไม่มีความสุขกับการแต่งงานของวินน์ มาร์ธาจะแสดงความยินดีกับพ่อของเธอหรือทำให้เขาโกรธเป็นฝืนเป็นไฟด้วยการพาฟิลิปไปงานฟิลิปคาดหวังให้เป็นแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไร เขาหยิบกล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและพูดว่า “คุณแม่ครับ นี่คือของขวัญที่ผมเตรียมไว้ให้นายท่านอาวุโส”มาร์ธามองดูกล่องปักบนโต๊ะและบ่นว่า “นี่อะไร? กล่องดูแย่มาก นายกำลังให้สิ่งที่มีค่าแค่ไม่กี่สตางค์กับคุณพ่อฉันงั้นเหรอ”มาร์ธาไม่อยากเปิดกล่องดูด้วยซ้ำ เธอไม่อยากทำให้ตาของเธอเห็นสิ่งสกปรกฟิลิปได้มอบของที่ดีอะไรให้กับนาย
หลังจากที่เขาพูดแบบนั้น มาร์ธาก็จ้องไปที่ฟิลิป สายตาของเธอเฉียบแหลม ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามหาบางอย่างบนหน้าของฟิลิป "อะไรนะ? นายจะบอกว่านายซื้อบ้านงั้นเหรอ? นี่ฟิลิป นายรู้ไหมว่านายกำลังพูดถึงอะไรอยู่ นายจนมาสามปีแล้วนะ แต่ตอนนี้นายมีปัญญาซื้อบ้านได้แล้วเหรอ? ฉันไม่คิดว่านายจะมีปัญญาซื้อห้องน้ำได้ด้วยซ้ำไป!”มาร์ธาโมโหมาก ฟิลิปแปลกไปจริง ๆ เขายังพยายามที่จะโกหกเธอต่อไปเขาจะซื้อบ้านได้จริงเหรอ?บ้านที่เขาและวินน์อาศัยอยู่ตอนนี้มาร์ธายังจ่ายไปแค่ครึ่งนึงเองราคาอสังหาริมทรัพย์เฉลี่ยในริเวอร์เดลอยู่ที่ 20,000 ถึง 30,000 เหรียญต่อตารางฟุตเขาจะมีปัญญาจ่ายได้อย่างไร?“คุณแม่ครับ ก่อนที่ผมจะแต่งงานกับวินน์ ผมได้เอาเงินเก็บมาจากบ้านของผม ผมเพิ่งซื้อมันมา ถ้าหากคุณแม่และพ่อต้องการจะอาศัยอยู่ที่นั่น ผมก็จัดการมันได้ในตอนนี้” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็นคราวนี้ ชาร์ลส์ทนดูเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้เขาวุ่นวายอยู่กับของเก่าเก็บของเขาอยู่มุมหน้าของบ้าน เขาเยาะเย้ยและพูดขึ้น “ฟิลิป แม่ยายของนายรังแกนายเพราะนายปฏิเสธที่จะเติบโต และตอนนี้นายกำลังอวดดีต่อหน้าพวกเราอยู่ นายไม่ละอายใจเหรอ?
เมื่อสองวันก่อน คลาวด์ เพวีเรี่ยนทำยอดขายได้ในราคาสูงถึง 130 ล้านเหรียญ!มันเป็นแหวนประดับหยกที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของจักรพรรดิเฉียนหลง!พอมีข่าวออกมา ตกใจกันทั้งเมือง!นาน ๆ ที จะมีคนกล้าประมูลแบบนี้130 ล้าน!คนซื้อคงรวยและมีภูมิฐานน่าดู!ดอนติดต่อคนของเขาเพื่อติดต่อกับคนซื้อทันที อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เจอและถูกปฏิเสธทันทีเมื่อมีการส่งคำเชิญคนซื้อรายนี้ลึกลับมาก พวกเขาจะต้องเป็นคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจ ดอนต้องไปพบเขาให้ได้ในเวลาเดียวกัน ตระกูลเยทส์กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ร่าเริงและสนุกสนานนายท่านอาวุโสเยทส์กำลังฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของเขา ถือเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่!นายท่านอาวุโส ชื่อบ๊อบ เยทส์ เขาเป็นเลขานุการระดับสูงขององค์กรและดำรงตำแหน่งสำคัญ เขามีลูกศิษย์หลายคน และพูดได้ว่าเขาได้รับความเคารพอย่างสูงหลังจากที่เกษียณแล้ว เขากลับไปที่หมู่บ้านเยทส์และกลายเป็นบุคคลที่น่านับถือที่สุดที่นั่นทั้งหมดเป็นเพราะตำแหน่งของเขาในลำดับชั้นของครอบครัวตระกูลเยทส์กลายเป็นครอบครัวที่มีอิทธิพลที่สุดในหมู่บ้าน มีกิ่งก้านที่แตกต่างกันมากมายในแผนภูมิต้นไม้ครอบครัว มีมากกว่าสิบครอบครั
โคลอี้ ซัมเมอร์เซ็ทวินน์รู้เรื่องโคลอี้ได้อย่างไร?ฟิลิปสงสัย คำพูดของเขาติดอยู่ในลำคอ เขาไม่รู้จะตอบเธออย่างไรตาของวินน์แดงก่ำและมีน้ำตาอยู่ในนั้น เธอมองไปที่ฟิลิปและพยายามจับพิรุธบางอย่างจากการเปลี่ยนแปลงในท่าทีของเขา สุดท้ายเธอก็รู้สึกผิดหวังเท่านั้นเธอผิดหวังในตัวฟิลิปวินน์ปิดปากของเธอและลุกขึ้น จากนั้นเธอก็ออกจากห้องไปพร้อมกับสะอื้นฟิลิปไม่พูดอะไรเพราะเขาไม่รู้จะอธิบายเรื่องนี้กับเธออย่างไรเขาไม่พร้อมที่จะอธิบายเรื่องนี้กับวินน์วินน์ร้องไห้อยู่พักหนึ่งในห้องน้ำ เธอมั่นใจว่าฟิลิปกำลังมีชู้เพราะเขาไม่ได้อธิบายเรื่องนี้ให้เธอฟังหัวใจของวินน์แตกสลาย เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับฟิลิปอย่างไรผ่านไปกว่าสิบนาทีก่อนที่ วินน์จะสงบลง เธอกลับไปที่ห้องและไม่เห็นฟิลิป จากนั้นเธอก็เดินตามมิล่าต่อไปด้วยหน้าตาที่เศร้าหมองฟิลิปพยายามอธิบายกับตัวเองสองสามครั้งแต่เหมือนกับว่าคำพูดมันติดอยู่ในลำคอของเขา เขาพูดออกไปไม่ได้บรรยากาศในห้องน่าหดหู่ ฟิลิปเลยออกจากห้องไปในขณะที่วินน์ยังอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเขาออกไปเขาโทรหามินดี้ “มินดี้ วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นที่บริษัทคุณหรือเปล่า”อีกด้านหนึ่
ฟิลิปมองผู้หญิงตรงหน้าเขาอย่างเฉยชา นี่คือผู้หญิงที่เขาทำผิดด้วยเมื่อเจ็ดปีก่อน เขาพูดขึ้น “โคลอี้ อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวกับเรื่องของเรา อย่าสร้างปัญหาให้ครอบครัวผมเลย”เพียะ!โคลอี้ลุกขึ้นตบหน้าฟิลิปให้จากนั้น เธอมองมาที่เขาและพูดว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคุณกับฉันจะไม่จบลงง่าย ๆ หรอกนะ อย่าลืมว่าคุณทิ้งฉันไปโดยไม่มีคำพูดสักคำ และทำร้ายฉันมากแค่ไหน!”หัวใจของโคลอี้ เต้นแรงเมื่อเห็นฟิลิป หลังจากที่พวกเขาไม่ได้พบกันเป็นเวลาเจ็ดปีเธอยังตั้งตารอสิ่งนี้อยู่อย่างไรก็ตาม สายตาและสีหน้าของฟิลิปได้ขัดต่อความรู้สึกที่แท้จริงของเขาโคลอี้เองก็เป็นผู้หญิง เธอถึงรู้ว่าฟิลิปรู้สึกอย่างไร เขาสนใจแต่ผู้หญิงที่ชื่อวินน์เท่านั้น“โคลอี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อนเป็นความผิดผมเอง ไม่เป็นไรถ้าคุณต้องการลงโทษผม ไม่ว่าอย่างไรคุณห้ามแตะต้อง วินน์ เด็ดขาดนี่คือคำเตือนที่อยากให้คุณจำเอาไว้” ฟิลิปบอกถ้าโคลอี้แตะต้องวินน์แม้แต่นิดเดียว ฟิลิปก็จะสู้กลับโดยไม่คิดแม้แต่นิดเดียว“คำเตือน?”โคลอี้หัวเราะอย่างเย็นชา ความอ่อนโยนในดวงตาของเธอกลายเป็นความรู้สึกด้านชา เธอพูดขึ้น “คุณเป็นใครถึงมาเตือนฉั
เมื่อเขาได้ยินเสียงของวินน์ หน้าของฟิลิปก็ทรุดลง เขามองโคลอี้อย่างเอาเรื่องโคลอี้มองฟิลิปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดว่า “สวัสดี วินน์ ฉันโคลอี้เอง”อีกด้านหนึ่งของสายไร้การตอบรับใด ๆ"มีอะไรให้ฉันช่วยคะ?" วินน์เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างฉุนเฉียว เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาโคลอี้ไม่ตอบในทันที เธอมองดูฟิลิปและพูดเบา ๆ ว่า “ถ้าวินน์รู้ว่าคุณเป็นใคร เธอจะตอบสนองอย่างไรนะ? คุณเคยคิดถึงเรื่องนี้เหรอเปล่า?”ฟิลิปกำหมัด ดวงตาของเขาร้อนผ่าว เสียงต่ำของเขาฟังเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้ายเขาพูดว่า “โคลอี้ ซัมเมอร์เซ็ท คุณกำลังเล่นกับไฟอยู่นะ”ฟิลิปรู้สึกประหม่า แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากเขาไม่ชอบที่จะถูกคุกคามแบบนี้!“ฟิลิป คุณไม่เข้าใจฉันเหรอ? ยิ่งเกมน่าตื่นเต้นมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งชอบมันมากขึ้นเท่านั้น”โคลอี้วางมือใต้คางและมองเขาอย่างยั่วยุจากนั้นเธอก็พูดทางโทรศัพท์ว่า “วินน์ คุณคิดว่าฟิลิปเป็นคนแบบไหนเหรอ?”ฟิลิปเป็นคนแบบไหน?วินน์ตกใจ เธอตอบโดยไม่คิดด้วยซ้ำ “คุณซัมเมอร์เซ็ท ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ ถ้าคุณมาที่นี่เพราะสามีของฉัน เราจะได้คุยกันซึ่ง ๆ หน้าแน