ฟิลิปมองผู้หญิงตรงหน้าเขาอย่างเฉยชา นี่คือผู้หญิงที่เขาทำผิดด้วยเมื่อเจ็ดปีก่อน เขาพูดขึ้น “โคลอี้ อย่าเอาคนอื่นมาเกี่ยวกับเรื่องของเรา อย่าสร้างปัญหาให้ครอบครัวผมเลย”เพียะ!โคลอี้ลุกขึ้นตบหน้าฟิลิปให้จากนั้น เธอมองมาที่เขาและพูดว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคุณกับฉันจะไม่จบลงง่าย ๆ หรอกนะ อย่าลืมว่าคุณทิ้งฉันไปโดยไม่มีคำพูดสักคำ และทำร้ายฉันมากแค่ไหน!”หัวใจของโคลอี้ เต้นแรงเมื่อเห็นฟิลิป หลังจากที่พวกเขาไม่ได้พบกันเป็นเวลาเจ็ดปีเธอยังตั้งตารอสิ่งนี้อยู่อย่างไรก็ตาม สายตาและสีหน้าของฟิลิปได้ขัดต่อความรู้สึกที่แท้จริงของเขาโคลอี้เองก็เป็นผู้หญิง เธอถึงรู้ว่าฟิลิปรู้สึกอย่างไร เขาสนใจแต่ผู้หญิงที่ชื่อวินน์เท่านั้น“โคลอี้ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดปีก่อนเป็นความผิดผมเอง ไม่เป็นไรถ้าคุณต้องการลงโทษผม ไม่ว่าอย่างไรคุณห้ามแตะต้อง วินน์ เด็ดขาดนี่คือคำเตือนที่อยากให้คุณจำเอาไว้” ฟิลิปบอกถ้าโคลอี้แตะต้องวินน์แม้แต่นิดเดียว ฟิลิปก็จะสู้กลับโดยไม่คิดแม้แต่นิดเดียว“คำเตือน?”โคลอี้หัวเราะอย่างเย็นชา ความอ่อนโยนในดวงตาของเธอกลายเป็นความรู้สึกด้านชา เธอพูดขึ้น “คุณเป็นใครถึงมาเตือนฉั
เมื่อเขาได้ยินเสียงของวินน์ หน้าของฟิลิปก็ทรุดลง เขามองโคลอี้อย่างเอาเรื่องโคลอี้มองฟิลิปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดว่า “สวัสดี วินน์ ฉันโคลอี้เอง”อีกด้านหนึ่งของสายไร้การตอบรับใด ๆ"มีอะไรให้ฉันช่วยคะ?" วินน์เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างฉุนเฉียว เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาโคลอี้ไม่ตอบในทันที เธอมองดูฟิลิปและพูดเบา ๆ ว่า “ถ้าวินน์รู้ว่าคุณเป็นใคร เธอจะตอบสนองอย่างไรนะ? คุณเคยคิดถึงเรื่องนี้เหรอเปล่า?”ฟิลิปกำหมัด ดวงตาของเขาร้อนผ่าว เสียงต่ำของเขาฟังเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้ายเขาพูดว่า “โคลอี้ ซัมเมอร์เซ็ท คุณกำลังเล่นกับไฟอยู่นะ”ฟิลิปรู้สึกประหม่า แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากเขาไม่ชอบที่จะถูกคุกคามแบบนี้!“ฟิลิป คุณไม่เข้าใจฉันเหรอ? ยิ่งเกมน่าตื่นเต้นมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งชอบมันมากขึ้นเท่านั้น”โคลอี้วางมือใต้คางและมองเขาอย่างยั่วยุจากนั้นเธอก็พูดทางโทรศัพท์ว่า “วินน์ คุณคิดว่าฟิลิปเป็นคนแบบไหนเหรอ?”ฟิลิปเป็นคนแบบไหน?วินน์ตกใจ เธอตอบโดยไม่คิดด้วยซ้ำ “คุณซัมเมอร์เซ็ท ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ ถ้าคุณมาที่นี่เพราะสามีของฉัน เราจะได้คุยกันซึ่ง ๆ หน้าแน
“แม่ครับ พวกผมไม่ได้ทะเลาะกัน วินน์อาจแค่เหนื่อยน่ะครับ” ฟิลิปอธิบายถึงอย่างนั้น มาร์ธาไม่เชื่อเขา เธอมองด้วยหางตาและใบหน้าของเธอเย็นชาราวกับน้ำแข็ง เธอชี้ไปที่หน้าของฟิลิปแล้วตะโกนว่า “นายคิดว่าฉันจะไม่รู้จักลูกสาวที่ฉันคลอดออกมาเองเหรอ?ฟิลิป อย่าหาว่าฉันไม่เตือน ผู้ชายอย่างนายไม่คู่ควรกับลูกสาวฉันเลยสักนิด! หากนายฉลาดพอ นายควรหย่ากับวินน์ให้เร็วที่สุด หยุดขัดขวางวินน์จากการแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยสักที!”ฟิลิปทำอะไรไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญกับความไม่สนใจและความเจ้ากี้เจ้าการของมาร์ธาไม่ใช่มาร์ธาคนเดียวที่หงุดหงิด ฟิลิปก็รู้สึกผิดหวังเช่นกัน หลังจากถูกมาร์ธากล่าวหา น้ำเสียงของฟิลิปก็แย่เล็กน้อย“เอาล่ะ ผมเข้าใจแล้ว คุณแม่หยุดจู้จี้ได้ไหมครับ? นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับวินน์ เราจะจัดการเรื่องนี้กันเอง” ฟิลิปตอบอย่างไม่สนใจ ไม่มีความอบอุ่นในดวงตาของเขา มาร์ธาตกใจกับแววตาที่เป็นดุร้ายนั้นมาร์ธาโกรธจัด เขากล้าดียังไงมาคุยกับเธอแบบนี้ เขาอยากตาย?“ฟิลิป นายพูดกับฉันแบบนี้ได้ยังไง? นายไม่เคารพแม่ภรรยาของนายอีกแล้วเหรอ? เอาล่ะ น่าประทับใจจริง ๆ ฟิลิป คลาร์ค นายแปลกไปจริง ๆ ออกไปจากบ
ฟิลิป คลาร์ค?มาร์ธาขมวดคิ้ว เธอดูหงุดหงิดเมื่อใดก็ตามที่เธอได้ยินชื่อฟิลิป เธอจะรู้สึกเหมือนว่าร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเสี้ยนหนาม อย่างไรก็ตามเธอเก็บความรู้สึกนั้นไว้ในพริบตาคุณซัมเมอร์เซ็ทเป็นคนส่งของขวัญทั้งหมดนี้มีเครื่องประดับล้ำค่า รถหรู และเงินสดด้วยเห็นได้ชัดว่าคุณซัมเมอร์เซ็ทมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย“อืม ฟิลิปของเราเป็นเพื่อนกับคุณซัมเมอร์เซ็ทเหรอ” มาร์ธายิ้มชายคนนั้นตอบอย่างสุภาพว่า “ผมไม่รู้รายละเอียดครับ ผมมาเพื่อส่งของขวัญเท่านั้นครับ”หลังจากที่พูดอย่างนั้น ชายคนนั้นก็ออกไปกับพวกของเขา พวกเขามาเร็วไปเร็วในที่สุดมาร์ธาก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งเธอรวยแน่!“ชาร์ลี วินน์ พวกเรากำลังจะรวย! ของเหล่านี้... สิ่งเหล่านี้มีค่ามากเลยนะ! พวกเรายังมีเงินอีกสองล้าน!”มาร์ธาตื่นเต้นมากจนเธอหายเจ็บก้น เธอจ้องไปที่ของขวัญเหล่านั้นและเงินสดสองกล่องเธออยากจะหลับไปในขณะที่จับพวกมันไว้แน่นอนว่าชาร์ลส์ก็รู้สึกตื่นเต้น โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นงานทัศนศิลป์ด้านอักษรวิจิตรเหล่านั้น เขาบอกได้เลยว่ามันมีค่ามากงานพวกนั้นมีคุณภาพดี และเป็นสิ่งมหัศจรรย์!ทั้งสองคนตกอยู่ในกำมือของศัตรูหัว
วินน์ร้องไห้ด้วยความหงุดหงิด เธอกระทืบเท้าและกลับไปที่ห้องนอนของเธอ จากนั้นเธอก็ปิดประตูกระแทกอย่างแรกมาร์ธาอึ้ง เธอส่ายหัวและรู้สึกพอใจกับตัวเองจากนั้น เธอมองดูชาร์ลส์เหมือนว่าเธอกำลังโอ้อวด เธอลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า เธอเอาทุกอย่างกลับไปที่ห้องอย่างมีความสุขหลังจากนั้น มาร์ธาจำได้ว่ามีบางอย่างแปลกไปเกี่ยวกับฟิลิปคุณซัมเมอร์เซ็ทให้ของขวัญราคาแพงมากมายแก่พวกเขาโดยไม่มีเหตุผล และนอกจากนี้เมื่อพิจารณาจากปฏิกิริยาของวินน์พวกเขาต้องปิดบังบางอย่างกับเธอ“ชาร์ลี คุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟิลิป? ทำไมคุณซัมเมอร์เซ็ทถึงส่งของแพง ๆ มาให้เราด้วย?” มาร์ธาถามเธอคิดถึงคุณซัมเมอร์เซ็ทอยู่ตลอดเวลาถ้าแค่เพื่อนธรรมดา ทำไมถึงส่งของราคาแพงมากมายมาให้พวกเขา?ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของฟิลิปและคุณซัมเมอร์เซ็ทจะไม่ธรรมดาแล้วชาร์ลส์กำลังพินิจงานทัศนศิลป์ตรงหน้าอย่างไม่วางตา เขาตอบว่า “คุณควรถามวินน์ เธออาจจะรู้”มาร์ธาเม้มริมฝีปากเข้าหากันและเดินออกจากห้องนอนของเธอ เธอบังเอิญเห็น วินน์เดินออกจากห้องพอดี เธอเรียก “วินน์ ลูกจะไปไหน? แม่มีมีเรื่องจะถาม”วินน์ไม่สนใจต่อมาร์ธา เธอผลัก
คู่หมั้นของฟิลิป? วินน์รู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นระรัว เธอกำชายกระโปรงแน่น เธอมองไปที่โคลอี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะลดสายตาลงมา ริมฝีปากของเธอสั่นระรัวนี่มันเกิดอะไรขึ้น? เธอเคยเป็นคู่หมั้นของฟิลิปทำไมฟิลิปไม่เคยบอกเธอเรื่องนี้?ในขณะนั้น วินน์รู้สึกว้าวุ่นใจเป็นที่สุด เป็นเรื่องยากที่จะทำใจให้สงบนิ่ง เธอกระวนกระวายเป็นอย่างมากจนต้องจิบกาแฟอึกใหญ่เพื่อช่วยให้สติของเธอสงบลงโคลอี้ยิ้มเยาะอย่างเย็นชา เธอรู้สึกพอใจในตัวเองเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากรอยยิ้มเยาะบนใบหน้า เธอพูดต่อ “ฟิลิปกับฉันเราเป็นคู่รักในวัยเด็กกัน รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เมื่อเจ็ดปีก่อนเขาหายตัวไปจากงานหมั้นของเราโดยไม่บอกอะไรสักคำ ฉันไม่ได้คิดว่าเขาจะแต่งงานและมีลูกสาวคนนึงเจ็ดปีหลังจากนั้น” โคลอี้พูดช้า ๆ แต่ละคำที่เธอพูดออกมาทำให้วินน์รู้สึกราวกับเป็นคนผิดเธอเองก็รู้จักฟิลิปมาเป็นเวลานาน พวกเขาเป็นคู่รักในวัยเด็กเช่นกัน วินน์ก็เป็นผู้หญิง ดังนั้นเธอจึงเข้าใจความเจ็บปวดที่ถูกผู้ชายทิ้งไปโดยไม่บอกอะไรสักคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นงานเลี้ยงวันหมั้นระหว่างพวกเขานั่นเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าสำหรับผู
วินน์เดินลงมาจากชั้นบนสุดอย่างไร้เรี่ยวแรงและห่อเหี่ยวทำไม? ทำไมฟิลิปต้องปิดบังเรื่องพวกนี้กับเธอด้วย? เธอรู้สึกเจ็บปวดและถูกหักหลังอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนวินน์เริ่มตั้งคำถามกับตนเองว่า หรือเธอจะเป็นแค่ของเล่นของฟิลิปจริง ๆ ? เธอรู้สึกว่าโคลอี้นั้นดูจะอยู่เหนือเธอมากเกินไป ไม่ใช่คู่แข่งของเธอแม้แต่น้อยเธอจะทำยังไงดี? เธอจะเผชิญหน้ากับปัญหานี้ยังไง? วินน์รู้สึกเหนื่อยล้า เธอออกเดินไปโดยไร้จุดหมายและในตอนนั้นเอง กลุ่มชายที่ดูเหมือนนักเลงอันธพาลก็ตามหลังเธอมา พวกเขาได้รับสัญญานให้ลงมือและเฝ้ารออยู่ที่ชั้นหนึ่งเป็นเวลาสักพักแล้ว พวกเขามองหน้ากันก่อนจะถูกำปั้นไปมาและเข้าไปประชิดตัววินน์“ว่าไงจ๊ะ คนสวย เธอนี่สวยไม่เบาเลยนะ ผิวขาวผ่อง แถมขายังเรียงสวยอีก ป๊ะป๋าชอบผู้หญิงแบบนี้สุด ๆ ทำไมไม่มีหนุ่มเดินด้วยละจ๊ะ? เธออยากจะมาดื่มกับฉันและพวกหนุ่ม ๆ หน่อยไหม?” “ทำไมสาวสวยอย่างเธอถึงร้องไห้อยู่ล่ะ? ใครมันกล้ารังแกเธอ? บอกฉันสิ เดี๋ยวฉันจะฆ่ามันให้เธอเอง” พวกกลุ่มตามวินน์มาและพูดจาแทะโลมเธอ พวกเขายังพยายามจะแตะต้องตัวเธอและพาเธอไปที่ห้องส่วนตัวอีกด้วยลูกค้าและพนักงานสองสาม
ฟิลิปโอบกอดวินน์ในอ้อมแขนของเขา สายตาอันน่าสะพรึงกลัวของเขาสะท้อนถึงความเยือกเย็นที่อาจสร้างหายนะขึ้นมาได้เขาอาจจะอาละวาดออกมาได้ในวันนี้เขาจะให้คนพวกนี้ได้ชดใช้อย่างงามจนพวกเขาไม่อาจจะคาดคิดได้เชียวแหละ! “วินน์รอผมก่อนนะ ให้ผมจัดการเรื่องนี้แล้วเราค่อยกลับไปคุยกันตกลงไหม?” สายตาอ่อนโยนของฟิลิปจับจ้องไปที่ใบหน้าของวินน์“ก็ได้” วินน์พูดขึ้นพร้อมพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวฟิลิปชายคนนี้เป็นสามีของเธอ เขาเป็นผู้พิทักษ์ปกป้องเธอตลอดชีวิตนี้ทำไมเธอจะไม่เชื่อเขา? หรือเธอควรจะหวั่นไหวไปกับสิ่งที่โคลอี้พูด? วินน์ไม่ได้อยากรู้ว่าเมื่อก่อนฟิลิปเป็นอย่างไรหรือตระกูลคลาร์คมีอาชีพอะไรตราบใดที่ฟิลิปอยู่กับเธอ ทุกอย่างก็จะดีเอง ถึงแม้ฟิลิปจะไม่อยากบอกเธอ เธอก็จะไม่บังคับเขาเขาเองก็คงจะลำบากใจเช่นกันเธอเต็มใจที่จะรอวันที่ฟิลิปเปิดใจกับเธอเอง “ดั๊ก? ดั๊ก? นายเป็นอะไรหรือเปล่า?” เหล่าลูกน้องลุกขึ้นและมาล้อมรอบดั๊กไว้ จากนั้นพวกเขาจึงช่วยให้เขาลุกยืนขึ้นฟันหน้าของเขาหัก เลือดกลบปาก จมูกก็มีเลือดไหลย้อยจากการปะทะ“แม่งเอ๊ย! แกยืนทำอะไรอยู่อีก? ฆ่ามันซะ!” ดั๊กจั