ลามาร์รีบวิ่งไปพบมิสเตอร์คลาร์คอย่างรวดเร็วอย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสดักเขาไว้และถามในรวดเดียว"มิสเตอร์คอลลินส์ เราขอเงินคืนจากเงินที่เราลงทุนวันนี้ได้ไหม?”“คุณคืนเงินให้พวกเราได้ไหม? ฉันไม่ต้องการลงทุนอีกต่อไปแล้ว”“ครอบครัวของเราก็เช่นกัน โปรดคืนเงินให้พวกเรา พวกเราไม่ต้องการวางหลักประกันอีกต่อไป คุณมันคนหลอกลวง!”ทันใดนั้น อารมณ์ก็เพิ่มขึ้น ผู้อาวุโสต่างข่มขู่ลามาร์ ในขณะที่รายล้อมเขาราวกับเป็นเสื้อผ้าชั้นแล้ว ชั้นเล่าบนร่างกายของเขาลามาร์ตื่นตระหนก เขาโบกมือและกระแอมในลำคอก่อนจะพูดว่า “ทุกท่าน ได้โปรดใจเย็น ฉันมาที่นี่เพื่อคืนเงินและบ้านให้คุณทุกคน กรุณาไปและลงทะเบียนที่นั่น ฉันจะบอกให้พนักงานของฉันตรวจสอบขั้นตอนกับคุณทุกคน โปรดอย่าตื่นตะหนก โอเคไหม? ฉันต้องเจอใครบางคนที่สำคัญในตอนนี้”หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้น ลามาร์ก็เรียกเจ้าหน้าที่ของเขาซึ่งจากนั้นก็นำผู้อาวุโสออกไปเมื่อผู้อาวุโสได้ยินว่าเงินและบ้านของพวกเขาจะถูกส่งคืน พวกเขาก็ดีใจ พวกเขายิ้มกว้างในขณะที่ยกนิ้วโป้งให้ไอเดน"มิสเตอร์แกรนท์ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณคุณ”"มิสเตอร์แกรนท์เป็นคนที่น่าทึ่งมาก ฉันขอบคุณคุณมาก คุณ
เมื่อเขาคิดได้เช่นนั้น ลามาร์ก็หัวเราะและพูดว่า “โอ้ มิสเตอร์แกรนท์ ฉันขอโทษที่ฉันเรียกชื่อของคุณผิดไป โปรดยกโทษให้ฉันด้วย"เมื่อไอเดนได้ยินเช่นนั้น ความหงุดหงิดของเขาก็หายไปเมื่อลามาร์เรียกเขาว่ามิสเตอร์คลาร์คก่อนหน้านี้ เขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่งเขารู้ดีกว่าใครคนอื่น ๆ ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลยคุณพ่อของเขาได้ทำอะไรบางอย่างหรือเปล่า?เป็นไปได้ ท้ายที่สุด คุณพ่อก็เป็นพ่อของเขา ไม่มีเหตุผลใดที่คุณพ่อจะไม่ช่วยเขาจริงไหม?เมื่อไอเดนได้ยินลามาร์พูดว่าเขาเรียกชื่อผิด เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขายิ้มและพูดว่า “มิสเตอร์คอลลินส์ คุณเป็นคนตลกมาก ฉันคิดว่าไอ้ขยะที่นั่นโทรหาคุณ”ฟิลิปยืนอยู่ตรงนั้นที่อีกด้านหนึ่งของห้อง เขาขมวดคิ้วเมื่อจู่ ๆ ไอเดนก็พูดถึงเขาในทางกลับกัน ลามาร์ยังคงพูดด้วยนิสัยประจบสอพลอว่า “มิสเตอร์แกรนท์ คุณต้องล้อเล่นแน่ ๆ ฉันจะรู้จักไอ้เด็กยากจนอย่างเขาได้อย่างไร?”ผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาอีกฝั่งหนึ่งเป็นคนที่สำคัญมาก เขาต้องเป็นคนโปรดชายคนนี้ให้ได้เขาแค่ต้องการเงินและบ้านคืน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ตามที่ธีโอบอกว่ามิสเตอร์คลาร์คหรือมิสเตอร์แกรนท์เป็นคนสำคัญที่ส
เกิดอะไรขึ้น?ทำไมพวกเขาถึงตีกัน?เหล่าผู้อาวุโสตกใจมากจนพูดไม่ออก ตัวไอเดนเองก็ตกตะลึงอยู่นานมาก เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“ไอ้เวร! ลามาร์ คอลลินส์! แกบ้าไปแล้วเหรอ? ทำไมถึงบ้ามาตบฉัน?”ไอเดนโกรธจัด ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง มันน่าอายมากในวินาทีแรก ลามาร์พยายามจะประจบประแจงเขา ตอนนี้ ลามาร์กำลังตบบนหน้าของเขาเมื่อมาร์ธาเห็นว่าไอเดนถูกตบ เธอโกรธจัด เธอวิ่งไปและผลักลามาร์ เธอตะโกนว่า “คุณบ้าเหรอ? ทำไมคุณถึงตบไอเดน? ถ้าคุณไม่ให้คำอธิบายกับพวกเราตอนนี้ เราจะยืนอยู่หน้าสำนักงานของคุณและเรียกตำรวจมาจับคุณ!”ลามาร์ฉุนเฉียว เขาผลักมาร์ธาที่กำลังหยาบคายและไร้เหตุผลออกไป จากนั้นเขาก็คำราม “ไสหัวไปไกล ๆ เลย! ไอ้บ้านี่กล้าดียังไงมาแกล้งเป็นมิสเตอร์คลาร์ค? ฉันใจดีกับเขาไป! ฉันควรจะถลกหนังเขาทั้งเป็นและหั่นเขาเป็นชิ้น ๆ !”เมื่อเขาพูดอย่างนั้น ลามาร์ก็เหลือบมองฟิลิปซึ่งยืนอยู่อีกด้านหนึ่งจากนั้นเขาก็เมินเฉยต่อผู้อาวุโสที่กำลังโวยวายและเดินไปหาฟิลิป เขายิ้มกว้างและโค้งคำนับ เขาขอโทษโดยทันที “ฉันขอโทษมิสเตอร์คลาร์ค ฉันตาบอด จึงทักผิดคน คุณสบายดีหรือเปล่า? ฉันควรลงโทษคนงี่เง่าคนนั้นเพื่อ
"เกิดอะไรขึ้น? ไอเดนเป็นคนเดียวที่แก้ปัญหานี้ใช่ไหม? ทำไมมิสเตอร์คอลลินส์ถึงมาที่นี่เพื่อฟิลิป?”“คุณเพิ่งเห็นรึไง? ฟิลิปคือใคร? เขาเป็นแค่เศษขยะไม่ใช่เหรอ?”“มาร์ธาเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ เธอทำกับพวกเราเหมือนพวกเราเป็นคนโง่!”พวกผู้อาวุโสรวมตัวกันและเริ่มนินทา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและความอิจฉาริษยามาร์ธามองเห็นได้ในขณะนี้ มิสเตอร์คอลลินส์มาที่นี่เพื่อลูกเขยของเธอเธอดึงฟิลิปไปด้านหนึ่งและถามอย่างประจบสอพลอ “ฟิลิป นายรู้จักมิสเตอร์คอลลินส์ไหม?”นี่เป็นครั้งแรกที่ฟิลิปรู้สึกถึงความเมตตาจากเธอฟิลิปต้องการบอกความจริงกับเธอ แต่หลังจากไตร่ตรองแล้ว เขาพูดว่า “คุณแม่ครับ คุณแม่เข้าใจผิดแล้ว ผมจะรู้จักผู้ชายอย่างมิสเตอร์คอลลินส์ได้อย่างไร? ผมเพิ่งโทรหาเพื่อนของเขาและบังเอิญเขารับผิดชอบเรื่องนี้ บางทีเขาอาจจะเป็นคนที่พยายามกดดันมิสเตอร์คอลลินส์?”เมื่อมาร์ธาได้ยินเช่นนั้น เธอไม่สงสัย เธอพยักหน้าและพูดอย่างผิดหวัง “ฉันรู้แล้ว นายเป็นแค่คนขี้ขลาด นายจะรู้จักคนอย่างมิสเตอร์คอลลินส์ได้อย่างไร?”ฟิลิปขมวดคิ้วทัศนคติของแม่ยายที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว“เอาล่ะ ที่เหลือป
นี่เป็นคำกล่าวที่ดุเดือดที่สุดที่อิซาเบล ฟอร์ด เคยได้ยินหลังจากขายรถฮาร์ลีย์-เดวิดสันมานานหลายปีเขาเพิ่งเข้ามาและถามเธอว่าพวกเขาจะได้จักรยานยนต์ 100 คันหรือไม่?อิซาเบลก็ตกตะลึง หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พูดอย่างขมขื่นว่า “ท่านคะ ท่านแน่ใจหรือว่าต้องการ 100 คัน? และท่านต้องการ 100 คัน รุ่นล่าสุดใช่ไหม?”ฟิลิปพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ "ถูกต้อง คุณไม่ได้มีเยอะขนาดนั้นเหรอ? ถ้าไม่เช่นนั้นก็ไม่เป็นไรตราบใดที่พวกมันเป็นฮาร์ลีย์”อิซาเบลตกตะลึงอีกครั้งไม่เป็นไรตราบใดที่พวกมันเป็นฮาร์ลีย์งั้นเหรอ?ผู้ชายคนนี้ชอบฮาร์ลีย์มากขนาดไหน?“ท่านคะ เรามีเพียง 32 คันเท่านั้นในสต็อก เราเพิ่งนับไปเมื่อเช้านี้ เรามีไม่ถึง 100 คันค่ะ” อิซาเบลกล่าวอย่างเศร้า ๆ ผู้ชายคนนี้เป็นเศรษฐีใหม่จริงเหรอ?เมื่อฟิลิปได้ยินเช่นนั้น เขาก็เลิกคิ้วและมองไปรอบๆ “แค่ 32 คันเหรอ?”ตามการคำนวณของฟิลิป เขาต้องการอย่างน้อย 100 คัน แม้ว่าจะมีพนักงานมากกว่าสิบคน มันคงจะดีถ้าเขาจ้างคนเพิ่มนี่เป็นครั้งแรกที่อิซาเบลพบลูกค้าผู้ที่ต้องการซื้อรถฮาร์ลีย์ 100 คันในครั้งเดียวเธออดไม่ได้ที่จะมองฟิลิปหัวจรดเท้าถ้าเกิดว่าเขาเป็นคนบ
ขอบคุณพระเจ้าที่พนักงานขายค่อนข้างฉลาดเขาโทรหาผู้จัดการทันทีผู้จัดการเป็นผู้ชายในช่วงวัยสี่สิบ เขามีกิริยามารยาทที่ไม่ธรรมดา เขายิ้มและดูเป็นมิตรเขาเอื้อมมือไปหาฟิลิป "สวัสดีครับท่าน ผมเป็นผู้จัดการของร้านขายรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็ทดับเบิ้ลยูโดยเฉพาะ ผมชื่อจอห์น สมิธ”ฟิลิปจับมือเขา “ฟิลิป คลาร์ค”จอห์นยิ้มและกล่าวว่า “มิสเตอร์คลาร์ค ตามผมมาได้เลยครับ”เขาพาฟิลิปและแอกเนสไปที่โต๊ะและชงชาสองถ้วยด้วยตนเอง จอห์นวางแก้วไว้ข้างหน้าพวกเขาทั้งสอง “ชาทิกวนอิม ชงใหม่ครับ”หลังจากที่เขานั่งลงแล้ว จอห์นก็เอามือถูกัน “ผมได้ยินจากจู๊ดว่าคุณต้องการรถพร้อมในสต็อกใช่ไหมครับ?”ฟิลิปพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ ผมต้องการมอเตอร์ไซค์ 100 คันสำหรับพนักงานของผม”จอห์นตกตะลึง “100 คัน? พร้อมขับ?”ฟิลิปจิบชาของเขาแล้วพูดว่า “ใช่ ผมต้องการ 100 คัน อย่างไรก็ตาม ผมไม่คิดว่าคุณมีมากมายที่นี่…”จอห์นเป็นคนฉลาด ถ้าไม่อย่างนั้น เขาก็คงไม่ได้เป็นผู้จัดการ เขากัดฟันและพูดว่า “ถ้าคุณต้องการมัน อาทิตย์นี้ผมจะหาให้คุณได้ 100 คัน มิสเตอร์คลาร์ค”นี่เป็นธุรกิจครั้งใหญ่!ธุรกิจระดับมหึมา!เขาไม่กล้าจะเสียเวลาในการตัดส
สีหน้าของแอกเนสเปลี่ยนไป ฟิลิปมีเงินเท่าไหร่กันแน่นะ? “คุณหาได้กี่คันภายในวันนี้?”“เอิ่ม…ผมจะต้องลองดูก่อน”จอห์นตัวสั่น แต่ในขณะเดียวกันเหมือนเขาได้เติมเชื้อเพลิงในการทำงานอีกครั้งถ้าครั้งนี้สามารถปิดการขายได้ เขาจะต้องกลายเป็นพนักงานขายดีเด่นอันดับหนึ่งของปีอย่างแน่นอน!สิบนาทีหลังจากนั้น“มิสเตอร์คลาร์ค รถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู 100 คันที่คุณต้องการ ยอดทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 28,570,000 ดอลลาร์ครับ” จอห์นเดินเข้าไปหาเข้าพร้อมกับใบเสนอราคา และติดต่ออีกร้านให้จัดส่งรถมาภายในวันนี้ฟิลิปมองไปที่นาฬิกาเพื่อดูเวลาก่อนจะหยิบบัตรของเขาออกมาส่งให้พนักงานขาย “เอาบัตรผมไปรูดได้เลย”จอร์จให้บัตรนี้กับเขาเมื่อคราวก่อนที่ร้านขนมหวานเขาบอกว่าในบัตรนี้มีเงินหนึ่งแสนล้าน เขาจะนำไปใช้อะไรก็ได้ตามใจเขานี่เป็นทรัพย์สินชิ้นแรกที่ตระกูลให้ฟิลิปมาพูดตามตรง แสนล้านดอลลาร์ไม่ได้มากมายอะไรเลยสำหรับเขาก่อนหน้านี้ เขาเห็นว่าครอบครัวซื้อทองและเครื่องเพชรมากมายจากแอฟริกาและอเมริกาใต้จอห์นยังคงตกตะลึง เขาหยิบบัตรมาอย่างงุนงง และถามขึ้นทันที “คุณจะไม่ทำเรื่องกู้ยืมจริง ๆ งั้นเหรอครับ?”
ผู้คนต่างเข้ามามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาอยากจะเห็นเศรษฐีหน้าใหม่ที่ว่ากันเป็นอย่างมากรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิ้ลยู 100 คัน!มากขนาดนั้น มันจะต้องเป็นเงิน 20 ถึง 30 ล้านดอลลาร์แน่! “เขามาแล้ว!” ใครสักคนตะโกนขึ้นมาสายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปยังคน ๆ นั้น กำลังเดินออกมาจากร้าน บีเอ็มดับเบิ้ลยู คนที่เดินนำออกมาคือชายวัยกลางคน พวกเขารู้จักชายคนนี้ เขาคือคุณสมิธ ผู้จัดการของร้านมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู แห่งนี้เขาเดินมากับชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาดูนอบน้อมและให้ความเคารพชายหนุ่มคนนั้น เขาพยักหน้าพร้อมกับก้มโค้งให้อยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งชายหนุ่มเดินขึ้นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรี่ย์ X8 ที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะบริการรถยนต์รับสั่งลูกค้าเช่นนี้มีไว้ให้เพียงลูกค้ากระเป๋าหนักเท่านั้นผู้คนในร้านฮาร์เล่ย์-เดวิดสันไม่แม้แต่จะได้เห็นหน้าเศรษฐีใหม่คนนั้นมีผู้คนมุงกันเยอะจนเกินไปทำให้พวกเขาไม่สามารถมองเห็นwfh“ฉันมองไม่เห็นเลย เขาเป็นใครกันนะ? เขารวยมากจริง ๆ ทำไมไม่มาซื้อรถจากพวกเรากันนะ?”และก็จริงอย่างว่า การที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู ตั้ง 100 คันนั้นใช้เงินไม่น้อยเลย ต้องหม