เดอร์ริคอยู่ในระหว่างการประชุม เขามองไปที่พนักงานก่อนจะกระแอมขึ้นมา “ผมเชื่อว่าพวกคุณคงได้ยินเรื่องที่มิสเตอร์แซคลาออกกันแล้ว เขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการทั่วไปของแผนกการตลาดได้อีกต่อไปก็เพราะปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นผมจึงได้ตัดสินใจจะให้วินน์เป็นผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาดของบริษัทเราแทน”หลังจากที่เขาพูดจบเสียงชื่นชมยินดีก็ดังก้องห้องประชุมวินน์ยังคงเหม่อลอย ได้แต่คิดถึงชายลึกลับคนนั้น เธอรู้สึกตัวอีกครั้งก็เพราะคนที่นั่งข้าง ๆ สะกิดให้เธอรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และพูดขึ้นด้วยความยินดี “ขอบคุณที่เชื่อใจฉันค่ะ มิสเตอร์ฮอลล์ ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ” มิสเตอร์ฮอลล์แจ้งเธอเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งไว้ล่วงหน้าแล้ววินน์ได้เตรียมใจไว้แล้วหลังจากจบการประชุม วินน์กลับไปที่ห้องทำงาน ไม่นานโรสเดินเข้ามาอย่างโกรธเคืองและกรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมา “วินน์ จอห์นสตัน! ทำไม? นังจิ้งจอก! เสียตัวให้เขาแล้วสิ! ถ้าไม่อยากนั้นทำไมเขาถึงจะให้เธอขึ้นเป็นผู้จัดการทั่วไป? ตำแหน่งนั้นเป็นของฉัน! นังแพศยา!”โรสโกรธจัด เธอให้ความพยายามอย่างมากในการคอยประจบประแจงเพื่อที่จะไต่เต้าไปอยู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นอยู่น
เขาควรจะรับสายดีไหมนะ?ฟิลิปรู้สึกสับสน เขาเรียกแอกเนสและบอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะพูดขึ้น “จัดการเรื่องนี้ให้ทีนะ”แอกเนสพยักหน้าก่อนจะทำมือส่งสัญญาณ ‘โอเค’ กดรับโทรศัพท์ด้วยเสียงเบิกบาน “สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ?”อีกด้านของปลายสายวินน์ตกตะลึงไป เธอไม่คิดว่าเจ้าของเบอร์จะเป็นผู้หญิงและอีกอย่างน้ำเสียงของเธอฟังดูดีอย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันนั้น เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ไม่ใช่เขานี่เธอคิดมากไปยังงั้นเหรอ?หึหึ ก็คงจะใช่เธอรู้ดีว่าฟิลิปเป็นคนยังไง?แต่เธอก็ยังแต่งเรื่องในหัวขึ้นมาเองแบบนั้น“สวัสดีค่ะมิสคลาร์ค ฉันชื่อวินน์ จอห์นสตัน คุณคงไม่รู้จักฉัน ในวันนั้นฉันถูกคุณช่วยเอาไว้ที่ซีเลสเชียลคลับ ต้องขอบคุณคุณเป็นอย่างมากนะคะ” วินน์ได้เตรียมคำพูดเอาไว้ว่าจะพูดขอบคุณคนที่ช่วยเธออย่างไร“อ้อ ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ฉันยินดีที่ช่วย พวกเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน และฉันเกลียดพวกผู้ชายที่บังคับให้ผู้หญิงทำในสิ่งสกปรก” แอกเนสกล่าว เธอมีทักษะเก่งไม่เบาในการเจรจาพูดคุย ในขณะที่คุยโทรศัพท์อยู่ เธอก็ไปกับมองไปที่ฟิลิปที่ยกนิ้วโป้งให้กับเธออยู่ทำไมเขาต้องปิดบังเรื่องนี้กับภรรยาด้วยนะ?
ฟิลิปดีดนิ้วหลังจากนั้นพนักงานสาวสูงยาวเข่าดี 10 คน สวมชุดกี่เพ้าก็เดินเข้ามาในห้องรับรองส่วนตัวพร้อมกับกล่องหรูในมือที่มีตราบีเอ็มดับเบิ้ลยูติดอยู่พวกเขาต่างถือกล่องยี่ห้อบีเอ็มดับเบิ้ลยูที่ดูหรูหราในมือเมื่อกล่องถูกเปิดออก กุญแจรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูก็ปรากฏต่อสายตาทุกคนในตอนนั้นทุกคนต่างตกตะลึง“บ้าไปแล้ว! นั่นมมันอะไรน่ะ บีเอ็ม...กุญแจนั่นมัน 100 พวงเลยนะฟิลิป นี่นายทำอะไรลงไปเนี้ย?” เปลี่ยนอาชีพไปเป็นคนทำกุญแจขายแล้วหรือไง? จากที่พวกเขารู้จักฟิลิปมา เขาไม่มีทางที่จะซื้อบีเอ็มดับเบิ้ลยู 100 คันเพียงแค่เพราะเขาเป็นเศรษฐีใหม่แน่นอนอย่างไรก็ตาม เขาก็ได้ใช้เงินสิบล้านซื้อบริษัทและกลายเป็นเจ้าของบริษัทคนใหม่มาแล้วแต่กุญแจรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูนี่…นี่ไม่มีทาง...ทันใดนั้นเองใครสักคนก็สูดลมหายใจเข้าแรง ก่อนจะตะโกนขึ้นมา “แม่เจ้าโว้ย! นี่พวกนายลืมที่เราเห็นรถมอเตอร์ไซต์บีเอ็มเป็นอยู่ที่จอดอยู่ลานจอดรถไปแล้วหรอ?ในตอนนั้นเอง ทุกคนก็ต่างพากันสุดลมหายใจเข้าลึกใช่!มีรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็ม 100 คันที่ลานจอดรถพวกเขายังคุยกันอย่างออกรสก่อนหน้านี้ และสงสัยว่าใครกันนะเป็นเศรษฐีใหม่ที่มาจั
ฟิลิป คลาร์ค เหลือบตาขึ้นมองและก็พบกับใบหน้าอันคุ้นเคย คน ๆ นั้นมองมาที่เขาด้วยสีหน้าถากถาง“เวสลีย์ วอร์เรน?”ฟิลิปขมวดคิ้ว พวกเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยมหาวิทยาลัย ที่จริงแล้วพวกเขาตกหลุมรักวินน์ จอห์นสตัน ด้วยกันทั้งคู่ ทำให้พวกเขาเป็นเหมือนศัตรูหัวใจกันเสียมากกว่าในท้ายที่สุด วินน์เลือกที่จะตกลงปลงใจกับฟิลิป คลาร์ค หนุ่มที่มากด้วยความสามารถด้วยเหตุนี้ เวสลีย์ยังคงขุ่นเคืองอยู่ตามความเข้าใจของเขา เวสลีย์เองก็ไม่ได้มีดีน้อยไปกว่าฟิลิปเลย แต่ทำไมวินน์ถึงเลือกฟิลิปไม่ใช่เขา?เท่าที่ข่าวแว่วเข้าหูของเวสลีย์ ฟิลิปไม่ได้มีอะไรก้าวหน้าในชีวิตเลย เขาวางแผนจะสร้างธุรกิจของเขาเองแต่ก็ไปไม่รอด และตอนนี้เขาก็ต้องกลายมาเป็นพนักงานส่งอาหาร หารายได้จุนเจือปากท้องไปวัน ๆ ลูกสาวของเขาก็ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และชีวิตแต่งงานของเขากับวินน์ก็ไม่หวานชื่นเหมือนที่มันเคยเป็นอีกต่อไปแล้วยิ่งฟิลิป คลาร์คมีชีวิตที่ย่ำแย่ลงเท่าไหร่ เวสลีย์ก็ยิ่งเกลียดเขามากขึ้นเท่านั้นเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายจะคับแค้นใจเพราะโดนแย่งสาวที่แอบชอบสมัยมหาวิทยาลัย‘มันเป็นแค่ขยะดี ๆ นี่เอง! กล้าดียังไงมา
“รอก่อนฟิลิป หยุดก่อน จะรีบไปไหนล่ะ? ไม่ใช่บ่อย ๆ นะที่เพื่อนเก่าอย่างพวกเราจะได้มาเจอกัน มาคุยกันต่ออีกหน่อยเถอะ” เวสลีย์วิ่งตามเขามาฟิลิปขมวดคิ้วยุ่ง แสดงสีหน้าถมึงทึงพวกเขาสองคนแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกัน ฟิลิปไม่อยากจะรับมือกับเพื่อนเก่าคนนี้แล้วพวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว—เปลี่ยนไปเป็นคนที่มีฐานะและสถานะที่ดีกว่าเดิมฟิลิปส่ายหน้าและเอ่ยขึ้น “แต่ก่อน นายก็เป็นแค่เศษขยะไร้ค่าในสายตาฉัน เวสลีย์ วอร์เรน และฉันก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าจนถึงตอนนี้ นายก็ยังเป็นแค่เศษขยะอยู่อีก”เวสลีย์ตัวแข็งทื่อไป “พูดว่าอะไรนะ?”เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนั้นออกมาจากปากของคนไม่ได้เรื่องอย่างฟิลิป คลาร์คนี่มันเรียกเขาว่าเศษขยะงั้นเหรอ? ใครกันแน่ที่เป็นแค่เศษขยะ?“นายคิดว่านายเป็นใครกัน? ได้เป็นผู้จัดการอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์แล้วจะทำให้นายเหยียบหัวใครบนโลกก็ได้งั้นเหรอ? เท่มากสินะ? ก็เลยมาเบ่งต่อหน้าฉันงั้นสิ? พนักงานส่งอาหารอย่างพวกฉันมันเป็นอะไรงั้นเหรอ? นายคิดว่านายดีกว่าพวกเรามากงั้นเหรอวะ?” ฟิลิปพ่นลมหายใจเขายอมมามากพอแล้วไม่อยากจะเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟอีก เขาไม่ได้คาดคิดว่าผลลัพธ์ข
“นายน้อยน่าจะมีมูลค่าประมาณ หมื่นแปดพันล้านบาทสำหรับการซื้อกิจการของอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ ทั้ง 50 สาขาทั่วประเทศอีกด้านของไปสาย จอร์จยืนอยู่ที่หน้าต่างสูงจรดเพดาน กำลังอ่านรายงานที่อยู่ในมือเลขาของเขาเอาข้อมูลทรัพย์สินและการเงินทั้งหมดของอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ที่เขาขอไว้มาทันทีที่ฟิลลิปถาม“ฉันไม่สนใจว่าจะเป็นเงินกี่พันล้าน ฉันอยากจะซื้อ” เสียงของฟิลิป คลาร์ค เต็มไปด้วยความรำคาญใจ“ตามรับสั่งครับ นายน้อย” จอร์จตอบกลับก่อนที่จะกดโทรออกอีกหนึ่งสายในชั่วพริบตาเดียวก็มีสายโทรออกหลายสายจากเมืองริเวอร์เดลถึงบริษัทแม่ของอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ ที่เมืองแคปปิตอลในคืนนั้น มีการข่มขู่ลึกลับเกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในเมืองริเวอร์เดลแห่งนี้อีกด้าน เวสลีย์จ้องฟิลิปด้วยสายตาเย็นชาและเหยียดหยาม “โอ้? นี่ก็นานแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน การโกหกของแกแพรวพราวขึ้นเยอะนะ ซื้ออาร์ค เดอ ไทรอัมพ์งั้นเหรอ? แกช่างกล้าพูดจริง ๆ เลยนะ”นี่มันคิดว่ามันเป็นใครกันวะ มาซื้ออาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ อย่างกับเป็นเรื่องเล็กน้อย! นี่มันไม่รู้ราคาหุ้นในตลาดของอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์หรือยังไง?สองหมื่นล้านเชียวนะ!‘ทำเป็นเท่อยู่สินะแกน
‘นายท่านคลาร์ก?’เวสลีย์นิ่งไป เรื่องตลกอะไรกัน!‘นายท่านคลาร์ก?’ ไอ้บ้านี่น่ะเหรอ?’จากนั้น ฟิลิปก็เดินขึ้นมาด้านหน้า “ผมเอง ผมคือฟิลิป คลาร์ค” และด้วยเหตุนี้ เขาชี้หน้าเวสลีย์และออกคำสั่ง “นับตั้งแต่วันนี้ชายคนนี้ต้องออกจากอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ไป ฉันไม่อยากเห็นชายคนนี้ที่สาขาไหนก็ตาม ทำได้หรือเปล่า?” เซย์น เยเกอร์ แสดงออกถึงความตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด เขาเหลือบไปมองเวสลีย์ด้วยหางตา เขาพูดขึ้น “ผมเกรงว่าคงจะไม่ได้หรอกครับนายท่านคลาร์ค”เขารู้ว่าเวสลีย์จะต้องมีเรื่องบาดหมางกับฟิลิป คลาร์ค เป็นแน่”แต่การที่จะไล่เวสลี่ย์ออกเพียงแค่คำพูดคำเดียว นั่นก็ดูจะเป็นสิ่งที่เซย์น เยเกอร์ไม่อาจทำได้ ถึงแม้จะทำเป็นไม่สนใจความจริงที่ว่าทำ แบบนั้นจะเป็นเรื่องที่ขัดกับกฏของโรงแรม แต่พ่อของเวสลีย์ วอร์เรนเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของโรงแรม แค่เขาคนเดียวก็ถือครองทรัพย์สินกว่าสองสามล้าน!เพียงแค่นี้ก็เป็นเหตุผลมากพอที่จะหยุดยั้งไม่ไล่เวสลีย์ออกได้อย่างไรก็ตามประโยคถัดมาของฟิลิปทำให้ทุกคนต้องสั่นสะเทือนไปถึงกระดูก “คุณอาจจะยังไม่รู้แต่ผมได้ซื้อกิจการทั้งหมดของอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ เป็นที่เรียบร้อย และ
เวสลีย์ วอร์เรน หน้าแดงก่ำ!เขาถูกเหยียดหยาม!'ไอ้ขยะนี่ กล้าดียังไงที่พูดแบบนี้?'เขากล้าดียังไงที่ขู่ไล่ฉันกับพ่อออกจากอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์!'คนโง่เง่าคนนี้ได้ความกล้าหาญมาจากที่ไหน?'ฟิช เหลียง?'นี่มันน่าขยะแขยง!'“เช่นนั้น ฟิลิป คลาร์ค นี่หมายความว่าตราบใดที่ฉันไม่ถูกไล่ออกจากอาร์ค เดอ ไทรอัมพ์ภายในวันนี้ ฉันจะได้ยินคำว่า 'นายท่านเวสลีย์' จากปากของนาย พร้อมการคุกเข่าของโทษอย่างนั้นใช่ไหม?” เวสลีย์แสยะยิ้มออกมาแม้ว่าอารมณ์ฉุนเฉียวก็ตามบางที ทั้งหมดนี่คงเป็นกลอุบายของฟิลิปเป็นแน่“โอกาสอันน้อยนิด ไม่น่าจะเป็นไปได้”ฟิลิปไม่ต้องการสร้างความบันเทิงให้เวสลีย์เช่นกัน เมื่อพิจารณาแล้ว เป้าหมายของเขาคือการรับประทานมื้อค่ำ ตัวเขาเองไม่เคยคิดที่จะก่อปัญหาเลย แต่อีกคนไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทำให้ดูถูกเขาตลอดเวลา การเพิกเฉยจะเป็นความอัปยศต่อตัวตนที่แท้จริงของเขาในฐานะทายาทของตระกูลที่ร่ำรวย!'แล้ว เวสลีย์ วอร์เรน อยากจะเป็นคนอวดดีเหรอ?'ดังนั้น เขาจึงคิดว่าเขาอยู่สูงกว่าคนอื่นงั้นเหรอ?’'ดี ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันจะพรากเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่แกมี!'ทันใดนั้น เซย์นก็กลับมาหลังจากการโทรศัพ