“เจ้าไม่อยากหรือ” เยี่ยเป่ยเฉิงระงับอารมณ์ของเขาไว้และถามนางหลินซวงเอ๋อร์ส่ายหัว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยการปฏิเสธ“ทำไมเจ้าไม่อยาก” เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วอย่างหนักหลินซวงเอ๋อร์กัดริมฝีปากของนาง ร่างกายของนางสั่นเล็กน้อยเพราะความกลัว นางสะอื้นสองครั้งแล้วตอบ " ท่านอ๋อง ข้าน้อยเป็นผู้ชาย ผู้ชายและผู้ชายไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้..."จนถึงตอนนี้นางยังไม่ยอมบอกความจริงแก่เขา ทั้ง ๆ นางบอกความจริงแล้ว นางจะสามารถเป็นผู้หญิงของเขาได้อย่างถูกประเพณี...แต่นางกลับไม่บอกความจริงทำไมไม่บอกล่ะ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่เข้าใจ นางกำลังลังเลเรื่องอันใดหรือว่านางคิดว่าเขา เยี่ยเป่ยเฉิง เป็นคนขาดความรับผิดชอบในเมื่อเขาเอานางแล้ว เขาจะรับผิดชอบนางด้วยคิ้วของเขาผ่อนคลายเล็กน้อย เยี่ยเป่ยเฉิงระงับความโกรธของเขาและพูดอย่างอดทน "หากข้าอยากเอาใครสักคน ไม่ว่าตัวตนของคนผู้นั้นจะเป็นเช่นไร ข้าก็ยอมรับได้ เพราะข้าต้องการแค่ตัวของคนผู้นั้น"หลังจากนั้นเขาจ้องมองนางด้วยสายตาหนักหน่วงและพูดทีละคำ: "แต่ นางจะต้องปิดบังเรื่องใด ๆ กับข้า"เขาคิดว่าเขาบอกเป็นนัยชัดเจนเพียงพอแล้ว และตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาต้องการก็คือน
หลินซวงเอ๋อร์กลับมาที่ห้องของนาง นางนั่งทรุดตัวลงบนเตียง หัวใจของนางยังคงเต้นแรง หัวใจของนางเต้นแทบจะกระโดดออกจากลำคอ และตอนนี้ร่างกายของนางยังไม่ฟื้นตัวจากอาการที่ถูกกระทบเมื่อจากไป สีหน้าเย็นชาของเยี่ยเป่ยเฉิงทำให้นางกลัวมากยิ่งขึ้นนางนอนบนเตียง ทรุดตัวลงและซุกหัวลงในผ้าห่ม น้ำตาไหลอาบหน้าหลังจากหลินซวงเอ๋อร์ออกไป เยี่ยเป่ยเฉิงหยิบหนังสือเล่มจากโต๊ะ และโยนมันลงพื้นอย่างแรงจากนี้ไปเขาจะไม่อ่านหนังสือเล่มนี้อีกต่อไป แม้ว่าเขาได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว แต่ตอนนี้เขายังโกรธอยู่ เมื่อเขาอ่านหนังสือเล่มนี้ เขาจะนึกถึงหลินซวงเอ๋อร์ เมื่อเขานึกถึงหลินซวงเอ๋อร์ เขาจำได้ว่าเขาเข้าหานางเอง แต่นางยังรังเกยีจเขา เขาก็โกรธมากเยี่ยเป่ยเฉิงโกรธมากจนไม่กินอาหารเช้าด้วยซ้ำเขาออกจากจวนแล้วมุ่งไปที่หออวี๋เซียวทันทีเสวียนอู่เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงออกจากบ้านอย่างเร่งรีบ เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย“ ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้องจะไปเตรียมรถม้าให้ท่าน”"ไม่ต้อง" เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้เลือกรถม้าใด ๆ แต่เขาขึ้นม้าของเขาอย่างไม่ลังเล และหายตัวไปจากสายตาของเสวียนอู่ในครู่หนึ่งเสวียนอู่ยืนอยู่ที่นั่น เขาตะลึงเล
ตงเหมยโกรธเล็กน้อยทันที "เป็นเพราะเหตุนี้นี่เองหรือ เขาจะไล่เจ้าออกจากจวนหรือ"หลินซวงเอ๋อร์พยักหน้าและพูดต่อ " ตงเหมย เจ้าพูดถูก ท่านอ๋องอาจชอบผู้ชายมากจริง ๆ แต่ข้าไม่ใช่ผู้ชายเสียหน่อย... " ขณะที่นางพูด น้ำตาก็ไหลมากขึ้น และตงเหมยเช็ดน้ำตาไม่ทันเลยตงเหมยเห็นนางเป็นเช่นนี้ ตงเหมยรีบเทน้ำหนึ่งแก้วจากโต๊ะให้นาง น้ำตาของหลินซวงเอ๋อร์แทบจะแห้งหมดแล้ว นางจึงรู้สึกกระหายน้ำเล็กน้อย ดังนั้นนางจึงรับน้ำจากตงเหมย และดื่มเป็นคำใหญ่ไม่กี่คำ แต่เนื่องจากนางดื่มเร็วเกินไปและสำลักตัวเองสองสามครั้งตงเหมยฟังคำพูดของหลินซวงเอ๋อร์ นางโกรธอย่างมาก " ท่านอ๋องทรงทำเกินไปแล้ว ไล่เจ้าออกจากจวนเพียงเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้"หลินซวงเอ๋อร์ร้องไห้จนหายใจไม่ออก กระแทกกระบังลมของนางแล้วพูดต่อ "ใช่ แต่ข้าพยายามเรียนแล้ว วันนี้ท่านอ๋อง ให้ข้าเรียนเขียนอักษรสามสิบตัว ข้าจะทำได้อย่างไร ท่านแม่ของข้าเคยบอกข้าว่า ควรทำทุกอย่างทีละขั้นตอน จะให้คนทำสำเร็จในทีเดียวได้อย่างไรล่ะ"ตงเหมยตกใจ "สามสิบอักษร เยอะเช่นนี้เลยหรือ ท่านอ๋องมีมาตนฐานสูงเกินไป"หลินซวงเอ๋อร์ม้วนริมฝีปากของนางแล้วพูดต่อ "ข้าเป็นคนโง่โดยกำเนิด ข้า
ไป๋อวี้ถังกลั้นเสียงหัวเราะของเขาไว้ เขารู้สึกวันนี้ได้กินเผือกได้หัวใหญ่เลน เขาคงต้องพูดเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นหลาย ๆ ปีทุกคนทราบมา ในต้าซ่ง ไม่ว่าจะดูจากด้านความสามารถ รูปร่างหน้าตา หรือภูมิหลังทางครอบครัวของเขา เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นผู้ที่ได้รับการชื่นชมอย่างมาก แม้แต่ไทเฮาองค์ปัจจุบันก็ยังรีบเร่งที่จะหมั้นหมายหลานสาวแท้ ๆ ของท่านกับฃเยี่ยเป่ยเฉิงเขาเป็นผู้ชายที่มีความสามารถทั้งในด้านพลเรือนและการทหาร เขาเกิดมาเพื่อเป็นความภาคภูมิใจของสวรรค์ ผู้หญิงทุกคนจะตกหลุมรักเขาเอง แต่ตอนนี้เขาถูกสาวใช้ปฏิเสธยิ่งไป๋อวี้ถังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไร มันก็ยิ่งแปลกใหม่มากขึ้นเท่านั้น เขาก็อดไม่ได้ที่ต้องสนใจหลินซวงเอ๋อร์มากขึ้นเขาไม่รู้ว่านางเป็นผู้หญิงชนิดใดที่กล้าปฏิเสธเป็นผู้หญิงของ เยี่ยเป่ยเฉิง...เยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้พูดอยู่พักหนึ่ง เขาจ้องมองไป๋อวี้ถังด้วยดวงตาที่ลึกล้ำเมื่อถูกจ้องมองด้วยดวงตาที่เย็นชาคู่หนึ่ง ไป๋อวี้ถังไม่กล้าหัวเราะแม้ว่าเขาจะอยากหัวเราะก็ตามหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไป๋อวี้ถังปลอบใจเยี่ยเป่ยเฉิง "มันไม่สมเหตุสมผลเลย นางเป็นแค่สาวใช้ หากนางได้คบกับเจ้า มันก็
เยี่ยเป่ยเฉิงพูด "บางทีนางอาจจะไม่เหมือนคนอื่นก็ได้"ไป๋อวี้ถังหัวเราะ "ไม่เหมือนกันที่ใด นางเป็นแค่สาวใช้ สาวรับใช้ที่ปีนขึ้นไปบนเตียงของนายได้ นางจะไร้เดียงสาได้อย่างไร ข้าว่าเจ้าอยากถูกรูปลักษณ์ภายนอกหลอกเลย"เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เห็นด้วยกับคำพูดของไป๋อวี้ถัง ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกโกรธเล็กน้อยดูเหมือนเขาไม่ชอบไป๋อวี้ถังตัดสินหลินซวงเอ๋อร์เป็นคนเช่นนี้ เพราะดูเหมือนไม่เคารพเขาเดิมทีเยี่ยเป่ยเฉิงอยากทานอาหารดี ๆ กับเขาเพื่อฆ่าเวลาที่น่าเบื่อ แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูดเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่อยากทานข้าวอีกเลยเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกหงุดหงิด เขาลุกขึ้นและกำลังจะจากไป ดูเหมือนไป๋อวี้ถังรู้ความคิดของเขาแล้วพูดว่า "หากเจ้าปล่อยมือไม่ได้ ก็เอานางไว้ข้างกายเลย นางเป็นแค่สาวใช้ นางสร้างปัญหาไม่ได้หรอก บางทีเลยช่วงเวลาที่เจ้าสนใจนางมาก เจ้าอาจไม่สนใจนางเช่นนี้ก็ได้"ดูเหมือนเพื่อนพูดเพื่อปลอบใจเขา เยี่ยเป่ยเฉิงหยุดก้าวเท้าต่อ เขาแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า "เจ้าพูดถูก เช่นนั้นข้าจะให้อยู่ข้างกายข้าเลย"หลังจากเยี่ยเป่ยเฉิงจากไป ไป๋อวี้ถังยิ้มและส่ายหัวเขาไม่เ
เมื่อตระหนักว่าเยี่ยเป่ยเฉิงกำลังจ้องมองนางอยู่ หลินซวงเอ๋อร์ รู้สึกตื่นตระหนก นางกำสัมภาระในมือแน่นเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์งคุกเข่าอยู่บนพื้นและตัวสั่นโดยก้มหัวลง ความโกรธของเยี่ยเป่ยเฉิงโผล่ขึ้นมาอีกครั้งอย่างอธิบายถูกเขาไม่เคยเห็นนางเชื่อฟังขนาดนี้มาก่อน แต่ตอนนี้นางกลับเชื่อฟังเช่นนี้“เจ้าอยากไปจากที่นี่ขนาดนี้เลยหรือ” น้ำเสียงของเขาเย็นชา และสีหน้าของเขายิ่งเย็นชาจนทำให้คนหวาดกลัวหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกสับสนเล็กน้อยกับคำถามของเขานางพูดว่าอยากจากไปเมื่อไร เห็นได้ชัดว่า เขาให้นางไสหัวไป เขาเป็นคนบอกเองว่า ไม่อยากเจอหน้านางหากนางไม่จากไปเอง นางต้องรอเขามาไล่นางออกไปหรือหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกน้อยใจ แต่นางไม่กล้าแสดงออกมา นางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ " ท่านอ๋องให้ข้าน้อยไสหัวไป... "“ข้าให้เจ้าไป เจ้าไปเลยหรือ” เยี่ยเป่ยเฉิงโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาอยากลากคนตรงหน้ามาหาเขาแล้วถามนางว่าสมองของนางกำลังคิดอะไรอยู่เขาโกรธอย่างไร้เหตุผล หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวนางรู้สึกเยี่ยเป่ยเฉิงคงรังเกียจนางอย่างมาก ไม่เช่นนั้น เขาจะไม่โกรธนางเช่นนี้อย่างไร้เหตุผล ไม่ว่านางจะพูดอะไร เยี่ยเป่ยเฉ
อีกอย่าง นางได้บอกท่านป้าจ้าวล่วงหน้าแล้ว หากนางออกจาก เรือนฝั่งตะวันออกได้ นางจะทำความสะอาดลานของเรือนฝั่งตะวันตก โดยอยู่ห่าง ๆ จากเยี่ยเป่ยเฉิงท่านป้าจ้าวสัญญาว่าตราบใดที่ท่านอ๋องรับปากปล่อยนางไป นางสามารถไปที่เรือนฝั่งตะวันตกได้ตลอดเวลาหลินซวงเอ๋อร์ยังยืนยันกับท่านป้าจ้าวว่าท่านอ๋องต้องปล่อยนางไปอย่างแน่นอนเพราะถึงอย่างไร ท่านอ๋องเป็นผู้ที่สั่งนางไสหัวไป...สีหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็งดูเหมือนว่านางอยากจากไปจริง ๆ และนางไม่อยากอยู่ข้างกายเขาเสียจริงเยี่ยเป่ยเฉิงหายใจเข้าลึก ๆ แต่เขาไม่สามารถระงับความโกรธในหัวใจของเขาได้แต่เขาไม่มีเหตุผลที่จะโกรธนาง เพราะเขาคือคนที่สั่งนางไสหัวไปเอง และเขาคือคนที่บอกว่าเขาไม่อยากเจอนางอีกเลย ตอนนี้นางทำตามคำสั่งของเจ้านายเท่านั้นเยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้พูดอะไร หลินซวงเอ๋อร์คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างเดียวไม่ว่าดวงตาของเขาจะดูกดดันแค่ไหนและเสียงของเขาจะเย็นชาแค่ไหน หลินซวงเอ๋อร์ยังคงยืดแผ่นหลังให้ตรง ๆเยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วนางตั้งใจแข่งอารมณ์กับเขาหรือหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เยี่ยเป่ยเฉิงคว้าแขนของนางขึ้นและยกนางขึ้นจากพื้
ฝ่ามืออันใหญ่กระชับขึ้นเอวของหลินซวงเอ๋อร์อย่างกะทันหัน ความรู้สึกนุ่มนวลนั้นทำให้เขาคิดถึงเรื่องอื่นทันทีร่างของทั้งสองเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ในห้องมืดภายใต้แสงจันทร์สลัว บรรยากาศที่คลุมเครือก็ปรากฏขึ้นโดยธรรมชาติหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวเมื่อตระหนักรู้ นางกลายเป็นกวางที่หวาดกลัวทันที นางตัวสั่นเล็กน้อยในอ้อมแขนของเยี่ยเป่ยเฉิงแต่เยี่ยเป่ยเฉิงไม่หยุดการเคลื่อนไหว เขาต้องการมากกว่านี้ในความมืด หัวใจของใครบางคนเต้นเร็วราวกับกลองสงครามหลินซวงเอ๋อร์อยากหลบหนี แต่นางไม่มีที่จะไปเพราะกลิ่นอันเผด็จการของชายผู้นี้ครอบงำประสาทสัมผัสของนางหลินซวงเอ๋อร์ตื่นตระหนกอย่างยิ่งเมื่อนางตระหนักว่า ฝ่ามือใหญ่ของเขาค่อย ๆ ถอนออกจากเอวของนาง และค่อย ๆ ใส่เข้าไปในชุดชั้นในของนางมือเล็ก ๆ ของนางกดลงบนฝ่ามือที่ป่าเถื่อนของเขา และนางร้องด้วยความกลัว " ท่านอ๋อง ได้โปรดอย่า... ได้โปรด"หลินซวงเอ๋อร์หลั่งน้ำตาทันใดนั้นนางทราบเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างทำอะไรเยี่ยเป่ยเฉิงหยุดทันที ในความมืด เขาขมวดคิ้วอันหล่อเหลาของเขา "เจ้าไม่ชอบขนาดนี้เลยหรือ"ร่างกายของนางสั่นรุนแรงกว่าเดิม หลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่ต้อง