ห้าอาชาแยกร่าง!นี่เป็นโทษที่โหดร้ายทารุณมาก ในหนานหลิงกั๋วของพวกเขา ก็จัดเป็นแค่เรื่องเล่าขาน ไม่เคยใช้จริงต่อให้เป็นนักโทษที่ชั่วร้ายแค่ไหน มากสุดก็แค่โบยจนตาย หรือไม่ก็ประหารตัดคอฝ่าบาทจะให้ห้าอาชาแยกร่างกู้อวิ๋นซี เห็นได้ชัดว่า ในเวลานี้ฝ่าบาทเคียดแค้นกู้อวิ๋นซีมากขนากไหนในขณะที่ทุกคนต่างกำลังตกใจกันอยู่นั้น ในใจก็อดคิดสงสัยไม่ได้ ได้ยินว่าวันนี้หลีอ๋องก็อยู่ในวังด้วยเหตุใดเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ กลับไม่เห็นหน้าของหลีอ๋องเลยล่ะ?ไทเฮาสิ้นพระชนม์ ภรรยาจะถูกลงโทษสถานหนัก หลีอ๋องจะไม่มาดูหน่อยเลยเหรอ?เมื่อฮ่องเต้รับสั่งออกไป เหล่าทหารองครักษ์ก็รีบบุกเข้าไปทันทีคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเข้าประตูไป ก็ถูกพลังงานที่แข็งแกร่ง ทำให้กระเด็นออกมา ล้มลงบนพื้นอย่างแรง!เงาร่างที่ปรากฎขึ้นหน้าประตู สวมชุดสีดำสนิท สีหน้าเย็นชามีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้เชียว!ในใจของทุกคน ต่างเคร่งเครียดกันในทันทีเสวียนอ๋อง!"เสวียนเออร์" พระสนมหรงที่กำลังร้องไห้อยู่พลันลุกขึ้นยืนทันที พูดอย่างโมโห "เจ้ายังจะปกป้องนางไปถึงเมื่อไร?"ฮ่องเต้เองก็โมโหมากเช่นกัน "เสด็จแม่ข้าสิ้นพระชนม์ไปแล้ว กู้อวิ๋นซียัง
ช่วงนี้ทุกครั้งที่ได้เจอจวินเย่เสวียน ในหัวของกู้อวิ๋นซีก็พลันสับสนขึ้นเล็กน้อยเขาเหมือนกับฉู่หลีมากจริงๆ!นอกจากที่หางตาไม่มีไฝเสน่ห์แล้ว ก็เหมือนกันในทุกจุดนางยังสงสัยมาตลอดเลยว่า สรุปแล้วเขาใช่สามีของนางหรือไม่?เมื่อเห็นสายตาสับสนของนางที่มองเขา จวินเย่เสวียนก็ตีหน้าขรึม "คิดจะให้ท่าข้าอีกแล้วเหรอ?"กู้อวิ๋นซีรีบดึงสติกลับมาทันที รีบเก็บสายตา ในใจรู้สึกสับสนขนาดสามีของตัวเองยังแยกไม่ออก นี่นางเป็นคนที่ล้มเหลวขนาดไหนกัน?แต่เขา เหมือนกับฉู่หลีมากจริงๆพอตอนนี้ได้อยู่กับเขา ก็ราวกับได้อยู่กับฉู่หลีอย่างนั้นเพื่อจะปกปิดความคิดในใจของตัวเอง นางก็พูดออกไปเบาๆ ว่า "ขอบพระคุณองค์ชายสี่ที่ยอมเชื่อข้าในวันนั้น!"หากไม่ใช่จวินเย่เสวียนยอมที่จะเชื่อนาง ให้โอกาสนางในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง เกรงว่าตอนนี้นางคงจะได้ตายตามไทเฮาไปนานแล้วแต่จวินเย่เสวียนกลับสะบัดเสียงพูดอย่างเย็นชา "ข้าสนใจก็เพียงแค่ไทเฮา เจ้าจะเป็นหรือตาย เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย?"กู้อวิ๋นซีไม่ได้พูดอะไร แถมยังขยับไปอยู่ในมุมๆ หนึ่งด้วยความเคยชินเพื่อเอาตัวเองออกห่างจากเขา"กลัวข้าเหรอ?" จวินเย่เสวียนหรี่ต
กู้อวิ๋นซีกำลังจะเปิดเสื้อของจวินเย่เสวียนออก แต่กลับถูกจวินเย่เสวียนคว้ามือเอาไว้ก่อนเขาจ้องมองนางด้วยดวงตาที่เคร่งขรึม แต่สีหน้ากลับยังคงเย็นชาเช่นเคย"เจ้าคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่? คิดจะถอดเสื้อของข้าอย่างนั้นเหรอ?" เขาพูดเสียงเย็น "ข้าเป็นอะไรกับเจ้า? เจ้าช่างบังอาจมากนักนะ!""ท่านเป็นอะไรกับข้า ถอดเสื้อออก ทุกอย่างก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ?"ในใจของกู้อวิ๋นซีรู้สึกตื่นเต้น แต่นางก็พยายามดึงสติให้ตัวเองกลับมาสงบอย่างน้อย ก็แค่ให้สีหน้าดูสงบก็พอ"เสวียนอ๋องไม่กล้าเหรอ?" นางพูดพลางหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา" แกล้งข้าเล่นมันสนุกมากนักใช่หรือไม่?""ข้าเคยแกล้งเจ้าเล่นตั้งแต่เมื่อไรกัน?""ในเมื่อไม่มี เช่นนั้นก็ถอดเสื้อผ้าออกเถอะ ให้ข้าดูเอง!" กู้อวิ๋นซีพูดเสียงเบาๆน้ำตาแห้งเหือดไปแล้ว นางเงยหน้าเล็กๆ ขึ้น จ้องมองเขาอย่างดื้อรั้น!ตั้งแต่ที่นางได้เห็นเขาครั้งแรก โลกทั้งใบของนางก็เละตุ้มเป๊ะไปหมดตอนนี้ขนาดผู้ชายของตัวเองนางก็แยกไม่ออกแล้วในระยะนี้ ทุกครั้งที่เห็นเขา ในหัวก็รู้สึกมึนๆ งงๆนี่ก็คือเหตุผลที่ถึงแม้ฉู่หลีกับเสวียนอ๋องจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แต่นางรู้จักฉู่หลีมาป
บนหน้าอกของจวินเย่เสวียน เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น!ทั้งรอยแผลจากมีด! จากกระบี่! ซ้อนทับกันเยอะไปหมด!รอยแผลเป็นเยอะมากมาย แต่กลับไม่เห็นรอยแผลจากมีดที่นางแทงเข้าไปในตอนนั้น!นิ้วมือเรียวยาวของกู้อวิ๋นซี สัมผัสลงไปบนรอยแผลเป็นที่ทั้งยาว ทั้งลึกรอยหนึ่งบนหน้าอกของเขารอยแผลเป็นนี้เริ่มต้นจากหัวไหล่ด้านซ้ายของเขาไล่ยาวลงมาจนถึงหน้าอกดูจากสีและร่องรอยของแผลเป็น คิดว่าตอนที่เขาโดนฟันดาบนี้คงจะลึกจนถึงกระดูก บาดเจ็บรุนแรงสาหัสเป็นแน่!สามารถรอดชีวิตมาได้ ไม่ง่ายเลย!“เจ้าคิดอยากจะพูดว่า ข้าใช้รอยแผลจากดาบนี้เพื่อมาปกปิดร่องรอยการถูกมีดที่เจ้าแทงวันนั้นใช่หรือไม่?”จวินเย่เสวียน ยกมุมปากขึ้นรอยยิ้มนั้นเย็นเยียบจนทำให้ คนเห็นรู้สึกขนลุกขนชัน“เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรที่จะให้ข้าเสี่ยงอันตรายขนาดนี้ ไม่สนแม้แต่ชีวิตตัวเอง เพื่อที่จะลบร่องรอยจากรอยแผลเป็นของเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”กู้อวิ๋นซีตัวแข็งทื่อ รีบชักมือกลับออกมาจากหน้าอกของเขาทันทีเมื่อเงยหน้าขึ้น ก็สบเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มหยามเหยียดของเขา หัวใจรู้สึกกระตุกเป็นจังหวะใช่แล้ว! ดาบนี้ หากไม่ใช่ว่าเสวียนอ๋อง แข็งแกร่งมากพอ ชีวิต
“เจ้าคิดว่าข้าจะสนเรื่องความเป็นตายของนางงั้นเหรอ?”จวินเย่เสวียนไม่เพียงไม่หยุด แถมยังเร่งฝีเท้าขึ้นอีกด้วยชายชุดดำคนนั้นรู้สึกตึงเครียดในใจ หรือว่า เขาจะไม่สนใจจริงๆ?เมื่อเห็นว่าเสวียนอ๋องอยู่ใกล้กับตัวเองมากแล้ว แถมเขายังยกมือขึ้นแล้วด้วย!ชายชุดดำตกใจจนมือสั่น มีดสั้นเล่มนั้น ก็ประทับรอยแผลไว้บนลำคอขาวดุจหิมะของกู้อวิ๋นซีทันทีกู้อวิ๋นซีรู้สึกเจ็บจนต้องขมวดคิ้ว แต่ก็ยังพยายามกันฟันไว้ ไม่ส่งเสียงออกมาเมื่อจวินเย่เสวียนมองเห็นรอยเลือด ฝีเท้าของเขาก็ชะงักลงไปชั่วจังหวะหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่สังเกตก้ไม่อาจรู้ได้แต่เพียงชั่วจังหวะนั้นก็ทำให้คนชุดดำจัดสังเกตได้อย่างชัดเจนแล้วเขารู้สึกยินดีก่อนยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ในเมื่อเสวียนอ๋องไม่สนใจ เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้วนะ!”เขาเพิ่มแรงกดลงไปที่นิ้ว รอยเลือดบนคอของกู้อวิ๋นซีก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น“หยุดนะ!” จวินเย่เสวียนหยุดเคลื่อนไหว สายตาเย็นเยียบจับจ้องไปที่มีดสั้นเล่มนั่น“เสวียนอ๋อง ไหนบอกว่าไม่สนว่านางจะเป็นหรือตายอย่างไรเล่า?” คนชุดดำหัวเราะออกมาอย่างได้ใจความรู้สึกที่สามารถบีบบังคับเสวียนอ๋องได้มันช่างดีเหลือเกิน!รอบข้างมีกา
ลงดาบสามครั้ง ครบถ้วนไม่ขาด แทงเข้าที่ตัวของจวินเย่เสวียนทั้งหมดเสวียนอ๋องสะบัดมือหนึ่งที พึ่บ มีดนั้นก็ปลิวเฉี่ยวร่างของชายชุดดำไป!มีดสั้นเล่มนั้นปักลงไปในโคลนลึก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวของชายชุดดำมากนักรวดเร็วจนคนมองยังรู้สึกตาลาย!ชายชุดดำคนนั้นตกใจจนแทบจะหยุดหายใจหากว่าเมื่อครู่มีดของเสวียนอ๋อง เล็งมาที่ตำแหน่งหัวใจของเขา ป่านนี้เขาก็คงตายไปนานแล้ว!“เจ้า…เจ้า…”“ที่ข้ารับปากจะแทงตัวเองสามที ข้าทำเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็คืนตัวนางมาให้ข้าได้แล้ว!จวินเย่เสวียนเดินก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวทุกคนต่างก็หวาดกลัวจนต้องรีบก้าวถอยหลังไปสองก้าวทั้งๆ ที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว แต่ทำไมถึงยังน่ากลัวได้ขนาดนี้นะ?เมื่อจวินเย่เสวียนก้าวเข้าไปด้านหน้าอีก ชายชุดดำที่จับตัวกู้อวิ๋นซีไว้เป็นตัวประกันอยู่ก็พลันขาอ่อน จนเกือบล้มลงไปไม่ทันระวัง จึงทำให้คมมีดกดลึกลงไปที่คอของกู้อวิ๋นซี จนเกิดเป็นรอยแผลมีเลือดไหลอีกหนึ่งแผลสีหน้าของจวินเย่เสวียนเคร่งเครียด เขาหยุดเดิน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจนถึงกระดูก “ปล่อยคนซะ!”ชายชุดดำรู้สึกเพียงว่าพลังกายในร่าง ราวกับถูกพลังงานที่แข็งแกร่งกดดันจนเลือดลมสับสน
ตายคนเดียวดีกว่าต้องมาตายอยู่ที่นี่กันทั้งสองคนกู้อวิ๋นซีเตรียมใจพร้อมที่จะตายไว้เรียบร้อยแล้วแต่นางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย!กระบี่เล่มนั้นไม่ได้แทงเข้าไปในร่างกายของนางในจังหวะที่กู้อวิ๋นซีกำลังจะฆ่าตัวตายนั้นชายชุดดำที่ถือกระบี่ไว้ก็ตกใจจนรีบเก็บดาบหลบอย่างรวดเร็วชายชุดดำที่ถือมีดจับนางไว้เป็นตัวประกันเองก็รีบเอามีดออกเช่นกัน!หากว่าผู้หญิงคนนี้ตายไป จวินเย่เสวียนก็จะต้องฆ่าพวกเขาทุกคนให้ตายโดยไม่ห่วงอะไรอีกแน่!แต่ใครก็ไม่คาดคิด ในจังหวะที่ทั้งสองคนกำลังตกตะลึงกันอยู่นั้น ช่วงจังหวะนั้น ร่างสูงโปร่งของจวินเย่เสวียนก็ได้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว!“อ๊า…” มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นที่ข้างหูกู้อวิ๋นซีรีบลืมตาขึ้นมาทันที ก็เห็นแขนข้างหนึ่งตกอยู่บนพื้น ซึ่งแขนข้างที่ขาดนั้นยังคงกำกระบี่ยาวเอาไว้ในมืออยู่!ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ข้างตัวก็ล้มลงไปเช่นกันกู้อวิ๋นซีถึงเพิ่งได้สังเกตว่า คนที่ใช้มีดสั้นกดที่คอเพื่อจับนางเป็นตัวประกันนั้น ก็ถูกฝ่ามือกระแทกโจมตีจนต้องล้มลงไปบนพื้นแล้วเช่นกัน“ท่าน…” นางยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกจวินเย่เสวียนดึงตัวเข้ามาในอ้อมกอดแล้วจวินเย่เสวียนสีหน้า
จวินเย่เสวียนบาดเจ็บขนาดนี้ การที่คิดจะกลับไปเลย ก็คงเป็นไปได้ยากกู้อวิ๋นซีหาถ้ำที่ค่อนข้างมิดชิดเจอที่หนึ่ง หลังจากจัดแจงให้เขาไปพักเรียบร้อยนางก็ไปหาสมุนไพรสำหรับห้ามเลือดตรงบริเวณรอบๆ ถ้ำ จากนั้นก็เปิดเสื้อของจวินเย่เสวียนออกร่างนั้นเต็มไปด้วยแผลเก่าและแผลใหม่ จนนางเห็นแล้วก็อยากจะร้องไห้เทพแห่งสงครามเสวียนอ๋อง ชนะศึกมีชื่อเสียงได้รางวัล ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เขาใช้ชีวิตเข้าแลกมาทั้งนั้น!คนข้างนอกก็เห็นเพียงแสงเจิดจรัสบนตัวของเขา แต่ไม่รู้เลยว่าเขาต้องลำบากและได้รับบาดเจ็บเพื่อราษฎรชาวหนานหลิงตั้งเท่าไร!กู้อวิ๋นซีพยายามสงบจิตใจอย่างรวดเร็ว นางใช้เข็มเงินสกัดจุดเพื่อห้ามเลือดของเขาไว้ส่วนหนึ่งจากนั้นก็บดสมุนไพร แปะไว้บนบาดแผลของเขานางถอดเสื้อนอกของตัวเองออก จากนั้นก็ฉีกออกเป็นชิ้นผ้าขนาดปานกลางเพื่อใช้สำหรับในการพันแผลให้เขาเลือดค่อยๆ หยุดไหล แต่จวินเย่เสวียนเสียเลือดมากเกินไป คงจะไม่ฟื้นคืนสติในเร็วๆ นี้แน่กู้อวิ๋นซีมองไปด้านนอกหนึ่งทีที่แห่งนี้ ลึกลับมากพอคนชุดดำคงหาไม่พบ ส่วนเยียนเป่ยเองก็คงไม่อาจหาพบในเร็วๆ นี้คืนนี้ เกรงว่าบาดแผลของจวินเย่เสวียนคงทำให้เขามี