ผลปรากฏว่า เส้นทางราบรื่นไร้สิ่งกีดขวางมาตลอดทางพวกเขาขึ้นไปชั้นบนด้วยความสงสัยทันทีที่ออกจากลิฟต์ พี่ตาวเห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก เขาตะโกนเสียงดัง "ปกป้องคุณหนู!""พรึ่บ" ทุกคนล้อมเกาชิงเหยียนไว้ตรงกลางนับจากจำนวนคนแล้ว ทางด้านเกาชิงเหยียนเสียเปรียบอย่างแน่นอน และก็เป็นถิ่นฐานของอีกฝ่าย พุ่งเข้ามาโดยตรงแบบนี้ ต่างอะไรกับเข้าไปติดกับเองบวกพี่ตาวใบหน้าเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ที่มากกว่านั้นคือเป็นกังวล นี่ถ้าสู้กันขึ้นมา เกรงว่าไม่ได้เปรียบเลยสักนิดแต่ว่าภาพที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าเกิดขึ้นแล้ว คนจำนวนเป็นสิบเป็นร้อยของอีกฝ่าย กลับยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อนสังเกตให้ดีกลับพบว่า พวกเขาแต่ละคนเหมือนตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ สีหน้าซีดขาว ตัวสั่นไปหมด ถึงขั้นมีคนสองสามคนล้มนั่งอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ"พวกคุณมาแล้วเหรอ?"ในห้องทำงาน มีเสียงของลั่วอู๋ฉางดังขึ้นเกาชิงเหยียนสีหน้าดีใจ รีบผลักคนที่ขวางอยู่ตรงหน้าเธอออก จากนั้นวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปพี่ตาวกลัวว่าเป็นกับดัก อยากจะห้ามไว้ด้วยสัญชาตญาณ ถูกเกาชิงเหยียนหลบได้อย่างคล่องแคล่ว"เห้อ!" พี่ตาวถอนหายใจอย่างจนปัญญา ทำได้แค่ตามไปนั
เมื่อพูดจบ หลังจากที่ลั่วอู๋ฉางใช้ความคิด ราชาแห่งสวรรค์ทั้งสี่กับนักรบแปดผู้ยิ่งใหญ่ก็ทยอยล้มลงบนพื้น เลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด!"พรึ่บ......ตึง!"ศพทั้งสิบสองศพล้มลงเกลื่อนกลาดเต็มพื้น พวกเขาถลึงตาโต ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง แต่ละคนตายไปอย่างหน้าอนาถเกาชิงเหยียนตกใจมากจนหน้าซีด แม้แต่พี่ตาวที่เคยชินกับการฆ่าฟัน สมญานามแขวนหัวไว้บนเข็มขัด ก็ตกใจไม่น้อยฆ่าคน เขาไม่กลัวเลยสักนิดจุดที่ทั้งสองคนหวาดกลัวคือ ไม่รู้ว่าสิบสองคนนี้ตายอย่างไรความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้น่ากลัวที่สุด!เห็นได้ชัดว่าลั่วอู๋ฉางไม่ได้ทำอะไรเลย และพวกเขาก็มีแค่เข็มเงินฝังอยู่บนหน้าผากเท่านั้น ดูอย่าไรก็ไม่น่าจะถึงกับตายถึงจะถูกเหตุที่พวกเขาคิดแบบนี้ เป็นเพราะพวกเขาเคยเห็นกับตา วิธีฝังเข็มช่วยชีวิตที่น่าทึ่งของลั่วอู๋ฉางดังนั้นในจิตใต้สำนึกของพวกเขา คิดว่าฝังเข็มก็คือรักษาโรค ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการฆ่าคนต้องรู้ไว้ว่า ในสิบสองคนนี้ ความสามารถของคนจำนวนเกินครึ่งเหนือกว่าพี่ตาว ทั้งหมดเป็นคนโหดเหี้ยมที่ผ่านการสู้รบมาเป็นร้อยครั้งแค่เข็มเงินเข็มเดียว ทำให้คนไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ก็เป็นน่าเหลือเชื่อมากแล
"ยังมีผู้หญิง ต้องการเท่าไหร่มีเท่านั้น คุณชอบคนไหน ฉันไปจับตัวกลับมาด้วยตัวอง ให้คุณได้เพลิดเพลินเต็มที่!"เขาคิดว่าลั่วอู๋ฉางบุกเข้ามาในหลงตันเพียงลำพังคนเดียวเพื่อหยางหว่านอวี่ ก็คิดด้วยความบริสุทธิ์ว่า ใช้สาวงามติดสินบนอีกฝ่าย"ให้แกพูดสั่งเสีย พูดจาไร้สาระอะไร สกปรกหูจริง ๆ"ลั่วอู๋ฉางพูดอย่างหงุดหงิด "ในเมื่อแกไม่ยอมพูด งั้นก็พอแค่นี้แล้วกัน อย่าโทษว่าฉันไม่ให้อภัยแกนะ"พูดจบ นิ้วมือทั้งสามของเขาดันไปข้างหน้าเล็กน้อยเข็มเงินฝังลงไปที่คอของสวีเทียนจนมิด เข็มแหลมคมโผล่ออกมาจากอีกด้านหนึ่งใบหน้าของสวีเทียนแข็งทื่อ ดวงตาสูญเสียสีสันไปในทันที จากนั้นถลึงตาโตล้มลงไปบนพื้นโดยตรงหมดลมหายใจตายไป นอนตายตาไม่หลับพี่ตาวสีหน้าซับซ้อน กลืนน้ำลายติดต่อกัน มีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่า การคาดเดาความสามารถที่มีต่อคุณลั่วก่อนหน้านี้ เกรงว่ายังหัวโบราณเกินไปหน่อยวิธีการที่อัศจรรย์แบบนี้ ไม่ใช่ว่าปรมาจารย์ทั่วไปจะทำได้สำหรับความสามารถของลั่วอู๋ฉาง พี่ตาวเลื่อมใสอย่างหมดใจเกาชิงเหยียนตกตะลึงจนพูดไม่ออก การแสดงออกแต่ละด้านของลั่วอู๋ฉาง เกินความรู้ที่เธอมีต่อโลกนี้ไปเยอะมากจุดที่สำคัญคื
เช้าวันจันทร์ ท้องฟ้าสดใสหลังจากฝนตกติดต่อกันสามวัน ในที่สุดท้องฟ้าก็แจ่มใสทางใต้ของเมือง โรงแรมสำหรับครอบครัว“ให้หนูพาเขาไปสัมภาษณ์งาน มีสิทธิ์อะไร?” อวี๋อีเหรินถลึงตาโตเธอสีหน้าท่าทางไม่เต็มใจ เหมือนกับลั่วอู๋ฉางเป็นภัยพิบัติอันใหญ่หลวงที่หลบแทบไม่ทันเธอที่สวมชุดทำงาน ตอนนี้เธอดูเหมือนสาวงามในชุดทำงาน ใต้ชุดสูทที่ตัดเย็บได้เหมาะสม คือเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหนึ่ง ถึงแม้ภูเขาทั้งสองข้างไม่ได้ใหญ่โตมโหฬาร แต่ภายใต้รูปร่างผอมเพรียวเอวบางทำให้เธอ ทำให้เหมือนภาพวาดด้านล่างกลับเป็นกระโปรงสั้นจับคู่กับถุงน่องดำได้อย่างสมบูรณ์แบบ เท้าสวมรองเท้าส้นสูง ทำให้เธอที่ร่างกายผอมสูงดูสะโอดสะองขึ้นลั่วอู๋ฉางคิดไม่ถึง เด็กผู้หญิงที่ไม่เจอกันสี่ปี มีของดีอยู่มาก เป็นคนที่แพรวพราวไปด้วยเสน่ห์นอกจากร่างกายขาดสารอาหารเล็กน้อย แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา มีลั่วอู๋ฉางหมอเทวดาขั้นสุดยอดอยู่ สามารถบำรุงกลับมาได้อย่างง่ายดายถึงเวลา รูปร่างของเด็กสาวจะสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม เอาชนะนางแบบอาชีพจำนวนมากได้ทั้งครอบครัวกำลังทานอาหารเช้า เป็นเจิ้งอวิ๋นจวนที่ซื้อมาตามรสชาติที่ลูกสาวกับลั่วอู๋ฉางชอบมาจากชั้นล่
อวี๋อีเหรินรู้ว่าตัวเองปากเดียวเสียเปรียบอย่างมาก เถียงกับพ่อแม่ต่อไปไม่มีความหมายสักนิด จึงเปลี่ยนทิศทาง "งั้นก็ต้องให้เขาสมัครงานได้ก่อน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็เป็นการพูดเรื่องเปื่อย!""พ่อแม่ต้องเตรียมใจเอาไว้ล่วงหน้า ตอนนี้บริษัทของพวกเราตั้งเงื่อนไขต่อพนักงานใหม่สูงมาก คนจำนวนมากที่ใช้เส้นสาย ต่างถูกเชิญออกแล้ว"รอให้ลั่วอู๋ฉางหน้าม่อยคอตกกลับมา อวี๋ซือหยวนต้องไม่กล้าพูดอะไร ในเมื่อเหตุผลมาจากทางด้านตัวเอง ใครใช้ให้เขาแนะนำคนที่ความสามารถไม่ถึงกำหนดไม่เข้าใจจริง ๆ พ่อแม่ชอบลั่วอู๋ฉางที่ตรงไหน?ไอ้หมอนี่ทั่วทั้งตัว ไม่มีข้อดีเลยสักอย่าง!อวี๋ซือหยวนพูดอย่างมั่นใจ "คนอื่นไม่ได้ แต่เสี่ยวลั่วไม่มีปัญหาแน่นอน!""เสี่ยวลั่ว ความประทับใจแรกสำคัญมาก"อวี๋ซือหยวนพูดอย่างจริงจัง "เสื้อผ้าของนายตอนนี้ไม่เหมาะสม ไปซื้อชุดใหม่ก็ไม่ทัน เราสองคนรูปร่างใกล้เคียงกัน สวมของอาก่อนเถอะ อามีเสื้อเชิ้ตสามสามตัวที่ยังไม่เปิดซอง"ลั่วอู๋ฉางในใจปฏิเสธ กลับต้องแสดงท่าทางยอมรับด้วยความเต็มใจออกมา "ขอบคุณครับคุณอา คุณอาคิดได้รอบคอบมาก"สิบนาทีต่อมา อวี๋อีเหรินพูดอย่างหงุดหงิด "เสร็จแล้วยัง! ถ้ายังไ
"อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนาย ชิงเหยน กรุ๊ปไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปได้นะ ต่อให้มีพ่อฉันใช้เส้น ไม่มีความสามารถก็ถูกคัดออก"รถแท็กซี่จอดที่หน้าอาคารชิงเหยียน อวี๋อีเหรินเปิดประตูไปด้วย แยกเขี้ยวอย่างไม่พอใจไปด้วยนี่เธอให้ลั่วอู๋ฉางเตรียมใจให้พร้อมล่วงหน้าก่อน สมัครงานไม่ติด พูดได้แค่ว่าความสามารถของนายมีจำกัด ไม่ผ่านเกณฑ์ของบริษัท โทษคนอื่นไม่ได้ผู้ชายรักศักดิ์ศรี ลั่วอู๋ฉางก็ไม่มีข้อยกเว้นอยู่แล้ว จะต้องไม่กล้าไปขอร้องให้อวี๋ซือหยวนใช้เส้นสายอีกแน่นอน"ยังมีอีก ห้ามนายพูดว่าฉันเป็นคนพามา! ฝ่ายบุคคลอยู่ที่ชั้นหก นายขึ้นไปเองเถอะ" อวี๋อีเหรินก้าวขาเรียวยาวออกไป สวมรองเท้าส้นสูงเดินไขว้ขา ทิ้งแผ่นหลังสวยงามให้ลั่วอู๋ฉางลั่วอู๋ฉางยิ้ม เขาไมมีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กสาวคนนี้ จากนั้นเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ด้วยตนเองโปสเตอร์ขนาดใหญ่แขวนอยู่บนผนัง เป็นรูปถ่ายของเกาชิงเหยียน ใบหน้าสวยเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง ตาโตเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาด บุคลิกองอาจผ่าเผยอย่างมากด้านล่างมีตัวอักษรแถวหนึ่งแนะนำ: ประธานชิงเหยน กรุ๊ป คุณเกาชิงเหยียน"นี่มันบังเอิญจริง ๆ!" ลั่วอู๋ฉางเผยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยควา
ขณะเดียวกัน ลั่วอู๋ฉางมาถึงฝ่ายบุคคล ยื่นประวัติส่วนตัวของตัวเองผู้สัมภาษณ์ทั้งหมดมีสามคน ผู้ชายสองผู้หญิงหนึ่ง คนที่นั่งอยู่ตรงกลางก็คือหัวหน้าแผนกหานอวี่หาง ด้านซ้ายคือผู้ช่วยของเขา ด้านขวาก็คือเด็กสาวคนนั้นที่พาลั่วอู๋ฉางมาลั่วอู๋ฉางดูจากข้อมูลบัตรที่อยู่บนโต๊ะ เธอชื่อเซี่ยซินซินดูจากลำดับการนั่งก็คาดการณ์ได้ไม่ยาก ตำแหน่งของเซี่ยซินซินต่ำกว่าผู้ช่วย น่าจะเป็นพนักงานทั่วไปหานอวี่หางเหลือบของเขา ในดวงตามีรอยยิ้มแปลกประหลาดแวบผ่าน สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก คนที่ติดอยู่ข้างในสี่ปี เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมา จัดการนายได้สำเร็จอย่างง่ายดายเขาถึงขั้นคิดว่าตู้หมิงเจ๋อทำเรื่องเกินความจำเป็น ไม่จำเป็นต้องมากำชับเรื่องนี้บ่อย ๆ ด้วยซ้ำแต่ดูจากมุมอื่นก็แสดงให้เห็นว่า ตู้หมิงเจ๋อให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากก็ได้ วันนี้ฉันที่เป็นหัวหน้าพยายามอย่างสุดความสามารถ สั่งสอนนักโทษคนนี้ให้รู้ว่าควรทำตัวอย่างไร"รายงานชื่อ อายุ เพศกับประวัติการศึกษา ให้เวลานายหนึ่งนาทีแนะนำตัวเอง" หานอวี่หางดูเรซูเม่ น้ำเสียงออกคำสั่งน้ำเสียงเย็นชา สีหน้าหงุดหงิด นี่มันเหมือนรับสมัครพนักงานที่ไหนกัน น
มั่นใจได้ว่า สองคนตรงหน้ากำลังตั้งใจกลั่นแกล้งลั่วอู๋ฉางอยู่ เซี่ยซินซินมองไปทางหานอวี่หางและส่งสายตาให้ ความหมายคือทำเกินเหตุไปหน่อยแล้ว แต่หานหวี่หางไม่สนใจด้วยซ้ำเซี่ยซินซินก็มองไปทางผู้ช่วยอีก เขาก็ไม่สนใจเธอเช่นกันลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา: "คุณแน่ใจเหรอ?"หานอวี่หางยิ้มพูด "ชั้นบนชั้นล่าง ห้องน้ำสาธารณะทั้งหมด ไม่แบ่งชายหญิง ทั้งหมดยกให้นายรับผิดชอบ เงินเดือนหนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยบาท""ยังไม่รับของคุณหัวหน้าหานอีก นอกจากเขาที่มีเมตตารับนายไว้ เปลี่ยนเป็นบริษัทอื่น ไม่มีทางว่าจ้างนักโทษ" ผู้ช่วยพูดเสียงดังเซี่ยซินซินเริ่มขมวดคิ้ว คิดว่าพวกเขาสองคนทำแบบนี้รังแกกันเกินไปแล้ว"หัวหน้าหาน คุณเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ พนักงานทำความสะอาดของบริษัทเราจ้างบริษัทภายนอก ไม่ต้องรับสมัครคนด้วยซ้ำ"มีประวัติอาชญากรรมแล้วอย่างไร ชีวิตนี้ใครบ้างที่ไม่เคยทำผิด? กลัวตัวกลับใจก็พอแล้ว จำเป็นต้องทำเกินเหตุขนาดนี้ไหม ถึงขั้นดูถูกเหยียดหยามบุคคลิกภาพหานอวี่หางไม่ได้มองเซี่ยซินซินแม้แต่นิด จากนั้นพูดอย่างไม่พอใจ "เรื่องนี้เธอไม่ต้องยุ่ง ฉันคึือหัวหน้าฝ่ายบุคคล ฉันเป็นใหญ่"เขาแสร้งทำเ