เมื่อได้ยินเสียงนั้น หลิวซือซือยืนนิ่งอยู่กับที่ ตัวเธอเองก็ตกใจเล็กน้อยอะไรกัน ฟังดูเหมือนเป็นเสียงของหัวหน้าทีมเย่? หรือเธอเกิดประสาทหลอนเพราะเป็นห่วงเขามากเกินไป?เธออดหันหน้าไปมองทันที เป็นหัวหน้าทีมเย่จริง ๆ ด้วย และทันใดนั้นความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอหัวหน้าทีมเย่กลับมาเร็วขนาดนี้ ก็หมายความว่าหมดเรื่องแล้วใช่หรือเปล่านะ?เย่เทียนหยู่เดินเข้ามา และมองดูจางเหยียนที่ตกอยู่ในอาการตกใจ แล้วพูดอย่างใจเย็น: “จางเหยียน ผมถามคำถามคุณนะ ทำไมไม่ตอบ?”ใบหน้าของจางเหยียนซีดขาว ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัวและรีบตอบทันที: “หัวหน้าทีมเย่ เข้าใจผิดแล้วค่ะ เข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่พูดเรื่องไร้สาระไปเรื่อย”เย่เทียนหยู่ยิ้ม ในดวงตาของเขามีแสงเย็นวาบผ่าน และพูดว่า “คุณคิดว่าผมเชื่อเหรอ”“ฉัน……”“ดูสิว่าท่าทางขี้ขลาดของคุณสิ!”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ เขาหันหลังกลับและเดินจากไป แต่ทิ้งประโยคไว้หนึ่งประโยค“จางเหยียน ผมขอเตือนคุณว่า อย่าทำในสิ่งที่ไม่เหมาะกับตัวเอง ไม่อย่างนั้นวันหนึ่งคุณจะต้องตายอย่างน่าสังเวช”เมื่อมองดูเย่เทียนหยู่จากไป สีหน้าของจางเหยียนน่าเกลี
“แล้วก็ ต่อไปนายต้องตั้งใจทำงานที่บริษัทให้มาก ๆ นะ อย่าให้หลิวสุ่ยทำทุกอย่างแทน ความพยายามของนายในตอนนี้จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน รอจนมีโอกาสฉันจะเลื่อนขั้นให้นายเอง”หลินหว่านหรูบอกเขาตามตรง และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเย่เทียนหยู่ด้วยแต่เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ฟัง เขาก็รีบส่ายหน้าแล้วพูดว่า: “ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอกครับ ผมมีแค่นี้ก็พอแล้ว”“พอแล้วอะไรของนาย นายไม่คิดจะก้าวหน้าเลยหรือยังไง?”“มันไม่จำเป็นจริง ๆ ครับ”“ไม่จำเป็น นายคิดว่านายตามเงินคืนมาได้เยอะมากก็เลยเก่งสุดๆ ไปเลยอย่างนั้นเหรอ? นายคิดว่าแค่นี้จะแต่งงานกับใครก็ได้แล้วรึยังไง?”เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ฟังแบบนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจและพูดว่า “คุณหมายถึงว่า ถ้าคุณอยากให้ผมทำงานเลื่อนตำแหน่ง แล้วคุณจะยอมเป็นภรรยาจริง ๆ ของผมแบบนั้นสินะ”“หึ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นนะ”“งั้นก็ลืมไปเถอะ ผมไม่อยากทำงานไร้ประโยชน์”“นาย!”หลินหว่านหรูโกรธมาก แต่เพื่อให้เย่เทียนหยู่ก้าวหน้า เธอเลยจะเป็นต้องเปิดเผยความในใจเล็กน้อย: “นายพูดถูก ถ้านายได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการ ฉันจะพิจารณาเป็นภรรยาของนาย”“บอกมาซะก็จบเรื่อง ถ้าอย่างนั้นผมจะพยาย
“เค่อซิน......”หลังจากออกจากบริษัท เย่เทียนหยู่ก็ไปเยี่ยมเฉินเค่อซินแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้ว แต่เฉินเค่อซินยังคงสวมกระโปรงยาวเรียบง่ายเป็นนิสัย ซึ่งเผยรูปร่างเพรียวบางของเธอได้เป็นอย่างดีใบหน้าที่ละเอียดอ่อนนั้นสวยงามมากและผิวพรรณของเธอเนียบละเอียดผู้ชายคนไหนได้เห็นก็คงถูกทำเอาหลงหัวปักหัวปำ“พี่เย่ พี่มาแล้ว!”เฉินเค่อซินมีความสุขมากที่ได้พบเย่เทียนหยู่ ความจริงแล้ว หลายครั้งเธออยากจะเป็นคนเข้าหาเขาก่อน แต่เธอกลัวที่จะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของพี่เย่“อือ ก็คิดถึงคุณไม่ใช่รึไงเล่า”“ฉันไม่เชื่อพี่หรอกค่ะ” ใบหน้าของเฉินเค่อซินแดงก่ำ แต่ภายในใจเธอมีความสุขมากหลังจากที่ทั้งสองนั่งลง เย่เทียนหยู่ก็ถามสถานการณ์ของเค่อซินในระยะนี้เขารู้มาว่าเฉินเค่อซินลาออกจากที่เดิมแล้วและกำลังมองหางานใหม่ ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป เธอแค่อยากหางานที่เหมาะกับเธอเท่านั้นแถมยังไปสัมภาษณ์ที่หลินซื่อกรุ๊ปด้วย“คุณไปสัมภาษณ์ที่หลินซื่อกรุ๊ปมาเหรอ?”“อือ น่าเสียดายที่ไม่ผ่านค่ะ” เฉินเค่อซินไม่รู้เลยว่าภรรยาของเย่เทียนหยู่เป็นประธานของหลินซื่อกรุ๊ป“ใครเป็นคนสัมภาษณ์?
เฉินเค่อซินไม่อยากพลาดโอกาส หลังจากวางสาย เธอก็ทั้งมีความสุขและวิตกกังวล เธอค้นหาคำถามสัมภาษณ์มากมายในกูเกิลทันทีและท่องคำถามเหล่านี้ไม่หยุดเพื่อจะเตรียมตัวทำผลงานดี ๆ ในวันพรุ่งนี้เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินเค่อซินเตรียมตัวอย่างปราณีต ไม่นานเธอก็มาถึงชั้นล่างของบริษัทเทียนมู่กรุ๊ป เธอกังวลมากจนต้องหายใจเข้าลึก ๆ สักสองสามครั้งก่อนจะเข้าไปทันทีที่มาถึงประตู ก็มีคนเดินเข้ามาและพูดด้วยรอยยิ้ม: “สวัสดีค่ะ คุณคือคุณเฉินเค่อซินหรือเปล่าคะ”“ใช่แล้วค่ะ!”“เชิญทางนี้เลยค่ะ ฉันจะพาคุณขึ้นไปเอง”เฉินเค่อซินตกตะลึง บริษัทเทียนมู่กรุ๊ปสุภาพต่อผู้สัมภาษณ์ขนาดนี้เลยเหรอ? แถมพี่สาวคนนี้ก็นิสัยดีมากและยังมารับเธอเป็นพิเศษอีกด้วยเธออดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย: “สวัสดีค่ะ บริษัทของคุณสุภาพต่อผู้สัมภาษณ์เกินไปหรือเปล่าคะ?”หญิงสาวอ้ำอึ้งไปชั่วครู่ ดูเหมือนเธอจะไม่รู้ถึงสถานการณ์เลยสินะ แต่ว่าในฐานะเลขาของประธานถาน เธอรู้ดีว่ามีบางอย่างที่เธอไม่สามารถพูด เธอยิ้มและพูดว่า “ยินดีค่ะ เรียกฉันว่าหวงฉินก็ได้นะคะ”แม้เธอจะไม่รู้ว่าเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้คือใคร แต่เธอก็ทำให้ประธานถานบอกเธอได้ ว่าเธอต้องดูแลผู
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินหว่านหรูมาที่สำนักงานของบริษัทตามปกติและกำลังยุ่งอยู่กับงานในมือ แต่ในไม่ช้าซูถิงก็เดินเข้ามาและพูดอย่างกังวล: “หว่านหรู มีเรื่องใหญ่แล้วล่ะ!”“มีเรื่องอะไรเหรอ?”หลินหว่านหรูสะดุ้งเล็กน้อยหลังจากที่ซูถิงเตือน หลินหว่านหรูก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและค้นหาในที่สุดก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของเธอมืดมนลงทันทีที่แท้แล้วบนอินเตอร์เน็ตก็กำลังคอมเพลนปัญหาเครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์ของหลินซื่อกรุ๊ป ว่าหลังจากทาแล้วแทนที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นและฟื้นฟูผิวกลับมีจุดด่างดำมากมายปรากฏบนใบหน้าประเด็นคือ พวกเขาตามตัวบริษัทผ่านทางผู้ขาย แต่ทางบริษัทไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะยอมรับความผิดของตน โดยบอกว่าผลิตภัณฑ์ไม่มีปัญหาอะไร แต่มันเป็นปัญหาที่ผิวของลูกค้าเองพวกเขายังขู่ด้วยว่า ประธานหลินผู้เป็นประธานบริษัทบอกแล้วว่า หากพวกเขาเผยแพร่ข่าวลือและทำลายชื่อเสียงของบริษัท บริษัทจะฟ้องร้องพวกเขาและขอให้พวกเขาจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลนอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าเจ้านายของพวกเขา ประธานหลินเป็น CEO สาวสวยที่มีชื่อเสียงในเมืองเทียนไห่ มีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลังมากมาย และมีหลายวิธีที่จะฆ่าพวกเขา ดังนั
แน่นอนว่าเมื่อได้รับรู้สถานการณ์นี้แล้ว เขาก็คงต้องสงสัยเธอก่อนเป็นอันดับแรก“ขออภัยค่ะ ฉันกำลังตรวจสอบว่าตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ ถ้าหากได้คำตอบแล้ว ฉันจะรีบแจ้งประธานซูทันทีค่ะ” หลินหว่านหรูกล่าว“ได้ ผมจะรอรายงานของคุณ ถ้าผมต้องเสียหายมหาศาลเพราะความผิดพลาดร้ายแรงของคุณ ผมจะต้องให้คุณได้ชดใช้แน่” ซูเหวินฮุยวางสายโทรศัพท์ลง ก่อนที่ดวงตาของเขาจะมีแสงเย็นวาบผ่านในตอนแรกเรื่องนี้ได้รับการอนุมัติจากเขา ไม่อย่างนั้น หลี่ว์ซิงเหอเองคงไม่กล้าดำเนินการแน่ ถึงยังไงซะ คนที่จะได้รับผลเสียไม่ใช่แค่ตระกูลหลิน แต่ยังรวมไปถึงตระกูลซูด้วยเพราะตระกูลซูก็ลงทุนไปเช่นกันแต่หลี่ว์ซิงเหอคนนี้ถือว่าใจเด็ดมากพอที่จะทำเช่นนี้ หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง มันจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อหลินซื่อกรุ๊ปและหลี่ว์ซิงเหอเองก็จะต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่สีหน้าของหลินหว่านหรูย่ำแย่มาก ตอนนี้เธอยังไม่ทราบสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด หลังจากเห็นเฉินเวยมาถึง เธอก็ถามขึ้นด้วยความโมโหทันทีเธอโมโหมากจริง ๆ เมื่อได้อ่านความคิดเห็นบนอินเตอร์เน็ตเมื่อครู่โดยเฉพาะ การตอบกลับที่ดูเถียงไปข้าง ๆ
เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่โอบกอดสาวสวย กงซุนจื้อก็พูดอย่างขมขื่น: “ไม่รู้ว่าเย่เทียนหยู่มันดวงดีอะไร ถึงได้รู้จักกับผู้หญิงที่สวยสุด ๆ แบบนี้ แถมยังเหยียบเรือสองแคมเลยด้วย”“ใช่ แต่ว่าภูมิหลังของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย”“อ่อ?”“เขาเป็นลูกสาวยอดดวงใจของ หยางต้าฝู ประธานหอการค้าหลงเถิง”“ลูกสาวหยางต้าฝูเหรอ?”“อย่างนั้นเองสินะ ถึงว่าทำไมไม่มีรูปถูกเผยแพร่ออกมาเลยสักรูปเดียว ตำรวจก็ปล่อยเขาเร็วมาก ที่แท้ก็เพราะหยางต้าฝู”“ใช่ครับ เรื่องนี้พิสูจน์ได้ว่ามันไม่ใช่ความสามารถของเขา แต่เพราะเขาโชคดี ถ้าลูกสาวของหยางต้าฝูไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาคงไม่ได้ออกมาแน่นอน”“มีโอกาสเป็นอย่างนั้นสูงทีเดียว ถ้าอย่างนั้นเราพักมันไว้ก่อน รอดูว่าเด็กคนนี้ปฏิบัติต่อลูกสาวของหยางต้าฝูยังไงบ้าง หยางต้าฝูก็เป็นคนที่ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมพอตัว คงไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่”กงซุนจื้อพูดอย่างใจเย็น แต่ว่า ดันกล้ามาแข่งเรื่องผู้หญิงกับเขา ความตายต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็วไม่ต้องพูดถึงว่า เขาจะหนีจากเงื้อมมือของหยางต้าฝูได้หรือไม่ แม้ว่าเขาจะหลบหนีไปได้เพราะโชคช่วย เขาก็จะแสดงให้เห็นเองว่า กระต่ายก็คือกระต่าย ไม่มีทางไปถ
“เกิดอะไรขึ้นกับหลินซื่อกรุ๊ป?”“คุณยังไม่รู้เหรอครับ?” ซูเหวินฮวาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า “เครื่องสำอางที่ประธานหลินร่วมมือกับตระกูลซูมีปัญหาใหญ่ ตอนนี้ดังไปทั้งอินเตอร์เน็ตเลยครับ”เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและค้นหาอย่างรวดเร็ว หลังจากอ่านไปเล็กน้อย ใบหน้าของเขาก็เผยความขุ่นเคืองขึ้นมาทันทีแม้ว่าเครื่องสำอางจะมีปัญหา แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่หลวงขนาดนี้ แถวมยังมีแรงกระเพือมมหาศาล จะต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจะไม่โกรธได้ยังไงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นคำพูดที่เลวร้ายมากมายมุ่งเป้าไปที่หลินหว่านหรู หัวใจของเขาก็ปะทุเจตนาฆ่าอันแรงกล้านี่เป็นครั้งแรกที่เขาโกรธอย่างแท้จริง นับตั้งแต่มาที่เมืองเทียนไห่เห็นทีบางคนคงเบื่อการมีชิวิตอยู่แล้วสินะ“ซูเหวินฮวา ที่คุณโทรหาผม คงไม่ได้จะบอกผมแค่นี้หรอกใช่ไหม?” เย่เทียนหยู่ถามตรงๆ ซูเหวินฮวาตกใจเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงแรงสังหารจากน้ำเสียงของเย่เทียนหยู่ผ่านทางโทรศัพท์ และพูดอย่างเร่งรีบ: “ไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ ผมอยากจะบอกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ค