“อะไร พูดไม่ออกเหรอ? ไม่มีอะไรจะปฏิเสธเหรอ?”“ในฐานะมนุษย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรู้จักตัวเองให้ชัดเจนและรู้ว่าตัวเองสำคัญแค่ไหน ไม่อย่างนั้นก็มีแต่จะทำให้ตัวเองตาย”จงเหล่ยดูภูมิใจเมื่อนึกถึงว่า สมัยที่เธอเคยเป็นผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟยมาก่อน และวันนี้เธอก็รู้สึกฟินสุด ๆ ที่ได้ทำแบบนี้เฉินเฟยเฟยโกรธมาก เห็นจางผิงถูกทุบตีแบบนี้ เธอรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าตัวเองถูกทุบเสียอีกแต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้ามอง เพราะชายสองคนที่อยู่ข้าง ๆ กำลังปกป้องจงเหล่ย ต่อให้เธออยากจะทำ แต่เกรงว่ายังไม่ทันได้เข้าไปตบก็คงประสบเคราะห์กรรมก่อนในขณะนี้ มีเสียงแผ่วเบาเข้ามาพูดว่า: “ไม่รู้ว่าพี่สาวคนนี้มาจากไหนนะครับเนี่ย หรือจะเป็นตึกอวี๋หง ถึงได้กล้าบ้าบิ่นขนาดนี้”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเฉินเฟยเฟยและจางผิงไม่คิดเลยว่าเย่เทียนหยู่จะช่วยพวกเธอ และพูดล้อจงเหล่ยแบบนี้จงเหล่ยก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ว่าเย่เทียนหยู่จงใจเรียกเธอว่าเป็นหญิงขายบริการ และเธอก็โกรธทันที: “แก แก กำลังพูดถึงฉันเหรอ?”“มีใครเหมือนอีก นอกจากคุณ?”“รนหาที่ตาย รู้ไหมว่า
ครั้งนี้ทำเอาทุกคนมองดูด้วยความตกตะลึงนี่มันพลังของมนุษย์เหรอ จะน่ากลัวเกินไปแล้ว แถมยังลงมือรุนแรงขนาดนี้แต่เย่เทียนหยู่ไม่แม้แต่จะแลมองจงเหล่ย เขาจะไปมีเวลาใส่ใจขยะแบบนั้นได้ยังไง เขาออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะบอกลาเฉินเค่อซินแล้วตรงไปที่บริษัททันทีในเวลานี้ จงเหล่ยที่เจ็บไปทั้งร่างกำลังตะเกียกตะกายลุกขึ้นพร้อมกับกุมหน้าไว้ด้วยความโมโหและความตกใจใบหน้าของเธอบวมเป่งไปกว่าครึ่งเฉินเฟยเฟยกับจางผิงตกใจยิ่งกว่า พวกเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลย“มองอะไรฮะ พวกเธอสองคนคอยดูเถอะ เรื่องนี้พวกแกหนีไปไม่ได้แน่ พวกแกจะต้องถูกรวมไปด้วย”จงเหล่ยพูดด้วยความโมโห ดวงตาทั้งสองราวกับจะมีไฟลุกเฉินเฟยเฟยและจางผิงต่างก็ไม่ได้พูดจา เพียงแต่เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ถึงกับเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้จงเหล่ยหาตัวเจอเพราะพวกเธอมองออกว่า ครั้งนี้จงเหล่ยถูกกระทำและโกรธมาก จะต้องมาตามล้างแค้นพวกเธอแน่เพียงแต่เด็กหนุ่มคนนั้นช่วยพวกเธอไว้มาก แต่เธอกลับไม่ได้บอกขอบคุณเขาเลยถึงขั้นว่าตอนเธอเห็นจงเหล่ยครั้งแรก เธอยังสงสัยด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่จงเหล่ยส่งมาหรือเปล่าไม่อย่างนั้นละก็ จะบังเอิญ
นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธอเชื่อซูเหวินฮุย และรู้สึกว่าคนที่ทำเรื่องแย่นี่ต้องไม่ใช่เขาแน่“ขอโทษค่ะประธานซู”“ขอโทษแล้วจะได้อะไร ที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อดูว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ถ้าจบไม่สวย คุณควรจะชดใช้ซะจะเป็นการดีที่สุด” ซูเหวินฮุยเอ่ยอย่างเย็นชา“คุณสบายใจได้เลยค่ะ ฉันจะต้องหาคำอธิบายให้คุณได้แน่”หลินหว่านหรูกัดฟันพูด สิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือการจัดการกับการประชุมปราบปรามที่หลี่ว์ซิงเหอเป็นคนจัด เขารอคอยมานาน โอกาสแบบนี้ หลี่ว์ซิงเหอไม่มีทางปล่อยหลุดมือเป็นไปตามที่คาด การประชุมเพิ่งจะเริ่มต้น และหลี่ว์ซิงเหอก็ริเริ่มโจมตีใส่หลินหว่านหรูอย่างแรงโดยไม่ปิดบังใดๆเขาพูดต่อหน้าฝูงชนว่าตลอดเวลาเข้ารับตำแหน่งที่ผ่านมาหลินหว่านหรูดึงดันความคิดของตนเป็นใหญ่ เลือกที่รักมักที่ชังขอแค่เธอเป็นคนตัดสิน จะปัญหาใหญ่แค่ไหนเธอก็จะยังดึงดันทำโดยไม่สนคำเตือนแม้แต่น้อยเมื่อก่อนเป็นเพราะผลลัพธ์ออกมาไม่เลว ก็เลยไม่เป็นปัญหาแต่ว่าครั้งนี้ หลี่ว์ซิงเหอเอ่ยถึงเครื่องสำอางว่า “เรื่องการเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง พวกเราเหล่าผู้บริหารระดับสูงคัดค้านมาตลอด”“เพราะเราไร้ความรู้ในด้านนี้ แต
หลินหว่านหรูเข้าใจดีอยู่แล้ว ว่าต้องมีคนวางแผนใส่เธออยู่ภายในนี้ ไม่อย่างนั้นละก็ ผู้คนด้านนอกไม่มีทางพุ่งตรงมาหาเธอแน่นอนเพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ เมื่อนึกถึงคำพูดของเย่เทียนหยู่ หรือว่าเรื่องนี้จะเป็นหลี่ว์ซิงเหอทำจริงๆ ?ถ้าไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง หลินหว่านหรูคงไม่คิดแบบนี้ แต่ถ้ามีคนสร้างเรื่องจริง หลี่ว์ซิงเหอก็มีแรงจูงใจมากที่สุดแต่ตอนนี้รู้เรื่องนี้ไปแล้วจะได้อะไร เพราะผลลัพธ์มันชัดเจนอยู่แล้วในเวลานี้เอง หลี่ว์ซิงเหอมองดูหลินหว่านหรูอย่างภูมิอกภูมิใจ ใบหน้าของเขาเผยสีหน้าหมดหนทางออกมา ก่อนจะเอ่ยปากว่า “ประธานหลิน อย่าโทษที่ผมต้องตัดญาติขาดมิตรขนาดนี้เลยนะ ตอนนี้มันหมดหนทางแล้วจริงๆ”“ผมว่าตัวคุณเองคงสำนึกได้อยู่แล้วสินะ ว่าผู้เสียหายด้านนอกทุกคนอยากจะฆ่าคุณซะ ถ้าคุณไม่ออกหน้ารับ เรื่องนี้คงไม่จบแน่”“ยิ่งยื้อไปก็ยิ่งทำให้บริษัทเลวร้ายลงกว่าเดิม”“ถ้าคุณไม่ยอมจริงๆ งั้นก็ให้ทุกคนยกมือเป็นการตัดสิน ลองดูซิว่าทุกคนหวังให้บริษัทล้มละลาย ทุกคนตกงาน หรือแม่แต่เงินเดือนก็ไม่ได้รับกันหรือเปล่า”หลี่ว์ซิงเหอมองไปที่ทุกคนขณะที่กำลังพูด เห็นได้ชัดว่าจะทำการโหวตแต่คำพูดของเ
แต่ดูจากตอนนี้แล้ว สงสัยเราคงยังเมตตาเกินไปสินะหลี่ว์ซิงเหอคิดไม่ถึงเลยว่าซูเหวินฮุยจะช่วยเขาขนาดนี้ หัวใจของเขาตื่นเต้น “ประธานหลิน ปัญหาเรื่องการชดใช้ก็ชัดเจนแล้ว ตอนนี้คุณควรจะลาออกแล้วลงไปเผชิญหน้ากับผู้คนที่ร่วมตัวกันอยู่ด้านล่างได้แล้วใช่ไหม” เขาพูดเสียงเข้มพร้อม“ดันทุรังต่อไป มีแต่จะเกิดปัญหาใหญ่”หัวใจของหลินหว่านหรูรู้สึกขมขื่น เธอลุกขึ้นยืนและร่างกายของเธอก็แทบจะยืนไม่อยู่ “ได้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันหลินหว่านหรู…”“ปึง!”ในตอนนั้นเอง ห้องประชุมเกิดเสียงดังลั่น ที่แท้แล้วประตูห้องก็ถูกคนคนหนึ่งถีบให้เปิดออกอย่างแรงแน่นอนว่าคำพูดของหลินหว่านหรูถูกขัดจังหวะทันทีใบหน้าของทุกคนตกตะลึง ใครกัน บุกเข้ามาที่ห้องประชุมในเวลานี้ แถมยังรุนแรงขนาดนั้นแต่หลังจากที่ทุกคนหันไปมอง ผู้คนจำนวนหนึ่งก็จำเขาได้ คิดไม่ถึงว่าคนที่มาจะเป็นเย่เทียนหยู่ หัวหน้าทีมฝ่ายขายหลินหว่านหรูเองก็เพ็งสายตาไปทันที ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นเย่เทียนหยู่ หลังจากงุนงงไปชั่วครู่ เขามาทำอะไรที่นี่ แถมยังพังประตูเข้ามาอีกหลิวเหวินและคนอื่นๆ บนแสตนที่นั่งกับหลี่ซินเยว่ที่อยู่ด้านล่างต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็น
ทันทีที่สิ้นคำพูดนี้ หลินหว่านหรูก็หน้าแดงก่ำ ความสุขอันไม่อาจอธิบายซึมผ่านหัวใจของเธอ ต่อให้เธอคิดว่าเขากำลังพูดโม้ หรืออาจะเรียกได้ว่าเป็นเพียงแผนลวงมายาอยู่ก็ตามอันที่จริงทุกคนต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน ตกใจที่เย่เทียนหยู่ปกป้องประธานหลินขนาดนี้ยิ่งไปกว่านั้นคือความสงสัยที่ว่าทำไมเขาถึงดูทรงอำนาจขนาดนี้แต่ภายในใจของหลิวเหวินกลับแอบคิดว่าเห็นทีเธอจะคิดไว้ไม่มีผิด เย่เทียนหยู่กับประธานหลินมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกันแต่เย่เทียนหยู่ไม่ได้มีอำนาจเก่งกาจอะไร จะช่วยประธานหลินได้ยังไงกันมีแต่หลี่ซินเยว่ที่กำลังตื่นเต้น เย่เทียนหยู่พูดเช่นนี้เขาต้องมีวิธีการแน่แน่นอนว่าหลินหว่านหรูมีความสุขที่สุด แม้เธอจะรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่ทำอะไรไม่ได้ แต่เพียงความตั้งใจที่เขามี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วแต่หลี่ว์ซิงเหอโกรธมาก และพูดอย่างเย็นชาว่า “เย่เทียนหยู่ เลิกทำตัวเย่อหยิ่งที่นี่ซะะ ปัญหาของประธานหลิน แม้แต่ตัวประธานหลินเองก็ยังยอมรับ แกมีสิทธิ์อะไรมาสร้างเรื่องที่นี่?”“ถ้ายังรอต่อไป หลินซื่อกรุ๊ปมีหวังได้ถูกแกทำลายพินาศแน่ หรือแกไม่อยากให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีอย่างนั้นรึไง?”เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น ทุกคนก็เ
“รีบไสหัวออกไปซะ เลิกทำร้ายหลินซื่อกรุ๊ปได้แล้ว”“ใช่ ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ”คนที่สนับสนุนหลี่ว์ซิงเหอหลายคนเริ่มพากันพูดทำให้มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามขับไล่เย่เทียนหยู่ออกไปเมื่อมองดูฉากตรงหน้า หลี่ว์ซิงเหอดูภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะเหน็บแนมเขาในใจ เย่เทียนหยู่ ที่แท้แกก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลยสินะ ก็แค่ทำให้คนอื่นตื่นตูม รอดูเถอะว่าฉันจะจัดการแกยังไงหลินหว่านหรูกังวล แม้เธอจะไม่รู้ว่าแผนของเย่เทียนหยู่คืออะไร แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเย่เทียนหยู่แค่อยากช่วยเธอ และทำไปเพื่อเธอเท่านั้นเธอกำลังจะเอ่ยปากปกป้องเย่เทียนหยู่แต่เย่เทียนหยู่กลับพูดขึ้นมาก่อนว่า “ประธานหลิว รบกวนหน่อยนะครับ คุณช่วยผมจำหน่อยว่าตอนแรกมีใครบ้างที่อยากจะไล่ผมออกไป เพราะคนพวกนั้นมีสิทธิ์เกี่ยวข้องกับหลี่ว์ซิงเหอมากที่สุด”เมื่อหลิวเหวินได้ยินดังนั้น เธอก็พูดไม่ออกไม่ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นยังไง นายก็ปกป้องตัวเองก่อนเถอะยังจะไปคิดเรื่องนั้นอีกทุกคนถึงกับพูดไม่ออก แต่เย่เทียนหยู่ยังกล่าวต่อ “ส่วนอารมณ์ของผู้คนที่อยู่ด้านนอกนั่นทุกคนไม่ต้องกังวล ก่อนผมจะเข้ามาที่นี่ ผมได้พูดกับผู้รับผิดชอบของอาค
เป็นเพราะทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันอย่างละเอียด แรกเริ่มเดิมทีซูเหวินฮวาจึงไม่ได้ให้ข้อมูลแก่เย่เทียนหยู่ เขาต้องการค้นหาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นแต่ไม่คิดเลยว่าหลี่ว์ซิงเหอจะลงมือเร็วขนาดนี้ และสถานการณ์ปัจจุบันก็เกิดขึ้นภายในไม่กี่วันแต่ด้วยเหตุนี้ ซูเหวินฮวาจึงไม่เพียงแต่จัดเตรียมเทปบันทึกเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกมากมายเพื่อช่วยให้คนของเย่เทียนหยู่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วพวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อหาว่าใครบ้างที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จนทำให้คนจำนวนหนึ่งเกิดปัญหาผิวแม้หลี่ว์ซิงเหอจะกล้าหาญ แต่ก็ไม่กล้าปล่อยให้ทุกคนต้องทนทุกข์ทรมาน การชดเชยดังกล่าวจะทำลายหลินซื่อกรุ๊ปและจะไม่ทำประโยชน์ใด ๆ ให้กับเขานอกจากนี้ยังมีแผนกบริการลูกค้าที่ทำให้พวกเขาพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นและนำปัญหามาสู่ หลินหว่านหรูแน่นอนว่ายังมีสื่อต่างๆแอบโปรโมตอยู่ด้วยทันทีที่บันทึกนี้ออกมา ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะยืนตะลึงกับจุดนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้คัดค้าน หลินหว่านหรูอยู่ในใจ แต่พวกเขาเชื่อว่า หลินหว่านหรูล้มเหลวในการควบคุมคุณภาพเครื่องสำอางที่นำไปสู่ปัญหาในปัจจุบันถ้าหลินหว่านหรูไม่ต้องเ