Share

บทที่ 14

ความดูถูกและเหยียดหยามฉายชัดในแววตาของนาง

ซูเชียนหลิงเห็นเย่อวิ๋นถูโดนลงโทษเช่นนั้น นางก็อดเครียดขึ้นมิได้ หวั่นว่าต่อไปโชคร้ายจะตกมาที่ตนด้วย

แต่คำภาวนาของนางกลับไม่ส่งผล

ซูชิงอู่จะลืมนางไปได้อย่างไร?

ทันใดนั้นนางเปิดปากอีกว่า “ฝ่าบาท ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้หม่อมฉันคือพระชายาอ๋องเสวียน แต่พี่สาวหม่อมฉันนางกลับจงใจลงมือตบตีหม่อมฉัน ฝ่าบาทโปรดตัดสินให้ชิงอู่ด้วยเถอะเพคะ!”

ฮ่องเต้ตำหนิองค์ชายสามไปพักหนึ่ง เพลิงโทสะคราวนี้ก็ลดลงมิน้อยแล้ว

เขาพูดกับซูชิงอู่ใจเย็นอ่อนโยนว่า “อย่างไรนางก็เป็นพี่สาวเจ้า แต่ข้าจะแจ้งอัครเสนาบดีให้เขามาจัดการเรื่องนี้ เจ้าว่าเช่นไร?”

ซูชิงอู่ผงกศีรษะตอบอย่างเฉียบแหลม “ชิงอู่เชื่อฟังฝ่าบาทเพคะ”

ซูชิงอู่รู้ขีดจำกัดของฮ่องเต้

ความฉลาดกมีได้ แต่จะเนรคุณเขาไม่ได้

อนาคตยังอีกยาวไกล นางจะไม่รีบร้อนตอนนี้

ไหล่ของนางไหวแผ่ว เสียงสะอื้นน้อย ๆ ชวนคนสงสารได้เป็นพิเศษประหนึ่งได้รับความไม่เป็นธรรมครั้งใหญ่

เย่เสวียนถิงที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ นางเห็นกิริยานี้ของนางก็ไม่อาจดับเพลิงโทสะในแววตาได้

หากฮ่องเต้ไม่อยู่ที่นี่และมีคนในวังเฝ้าไม่มาก เกรงว่าเขาคงฟาดเย่อวิ๋นถูอย่างโหดเหี้ยมไปเสียแล้ว

ริมฝีปากเม้มเบา ๆ เนตรหงส์คู่นั้นลึกล้ำถึงขีดสุด ทั่วร่างเย่เสวียนถิงเปล่งรัศมีชั่วร้ายน่าสะพรึงกลัว

ขณะที่ทุกคนคิดว่าเรื่องนี้คลี่คลายแล้ว เย่เสวียนถิงก็รีบเปิดปากขึ้น

“เสด็จพ่อ แม้อาอู่จะเป็นพี่น้องกับซูเชียนหลิง แต่นางก็เป็นพระชายาของกระหม่อมเช่นกัน พระชายาถูกคนเหยียดหยาม หากกระหม่อมนิ่งดูดายยังจะถือเป็นบุรุษอกสามศอกอยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

แม้แต่ฮ่องเต้ยังนึกไม่ถึงว่าเย่เสวียนถิงที่เงียบขรึมมาตลอดจะพูดเช่นนี้ขึ้นกลางครัน

ดวงตาฮ่องเต้สั่นไหว

เขานั่งบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถาม “ข้าลงโทษน้องสามของเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ? แถมเขาก็ถูกเจ้าต่อยจนหน้ากลายเป็นเช่นนั้นถือว่ากรรมตามสนองแล้ว”

สายตาเย่เสวียนถิงเย็นเยือก สายตาคมกริบ

“หากคลี่คลายง่ายเยี่ยงนี้ วันหลังเกิดเหตุการณ์คล้ายกัน กระหม่อมทนความอัปยศของตัวเองได้ แต่ไม่ยอมให้พระชายาของตนโดนคนข่มเหงรังแกพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้พิจารณาซูชิงอู่หัวจรดเท้าชั่วครู่ “ข่มเหงรังแก? บนตัวนางไม่มีแผลเลยสักนิด…”

ซูชิงอู่เผยข้อมือตัวเองที่มีรอยจ้ำด้านบนทันใด

นั่นคือตอนที่ซูเชียนหลิงจับข้อมือนางยามขัดขืน

หากช้ากว่านี้อีกหน่อย รอยนั่นคงไม่เหลือให้เห็นแล้ว

“ฝ่าบาท ชิงอู่ได้รับบาดเจ็บแล้วเพคะ!”

มุมปากของฮ่องเต้กระตุกเล็กน้อย ทว่าเขายังปลอบด้วยท่าทีอดทนว่า “อ๋องเสวียน การอภิเษกของเจ้ากับพระชายาเป็นเรื่องมงคล ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเล็กมาทำให้ทุกข์ใจหรอก…”

เย่เสวียนถิงตอบ “เรื่องของพระชายากระหม่อมหาใช่เรื่องเล็ก หากไม่สืบสวน ใจกระหม่อมจะยิ่งทุกข์พ่ะย่ะค่ะ!”

ฮองเฮาโกรธจนหน้าเขียว

นางอดไม่ไหวแล้วจริง ๆ “อ๋องเสวียน คำพูดนี้ของเจ้าหมายความเช่นไร เรื่องที่เจ้าต่อยลูกข้าเจ็บ ตัวข้ายังไม่เอาเรื่องเจ้า อย่ามาได้คืบจะเอาศอกที่นี่!”

ถ้อยคำของเย่อวิ๋นถูนับว่ามีช่องโหว่จึงถูกซูชิงอู่จับไต๋ได้ นางจึงทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทน

แต่ถ้าเย่เสวียนถิงยังยกตนข่มท่านต่อไป นางในฐานะฮองเฮาจะทนดูลูกตัวเองรับความเจ็บปวดได้หรือ!

เย่เสวียนถิงเงยหน้าขึ้น โดยไม่สนใจฮ่องเฮาที่กำลังโกรธจัดอย่างสิ้นเชิง

ทว่ากลับเอ่ยทีละคำทีละประโยค “เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอเพียงอย่างเดียว นั่นคือทั้งสองคนต้องมาขอโทษชายาของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status