เมื่อฉินอันอันได้ยินเสียงของเขาแล้ว ความหนาวเย็นก็ปะทุออกมาบนแผ่นหลัง วันนี้เขาไม่ทำงานเหรอ? เขาอยู่บ้านรอเธอตื่นโดยเฉพาะเลยเหรอ? เธอหันกลับมาอย่างกระอักกระอ่วนใจแล้วมองไปทางเขา เขาสวมชุดเป็นทางการและมีสีหน้าเคร่งขรึม แสงนอกหน้าต่างส่องเข้ามาตกลงบนตัวเขา ทำให้เขาดูเย็นชายิ่งกว่าเดิม “ฉันเอาโทรศัพท์ของคุณไปส่งข้อความ” เธอพูดตามความจริง “ฉันยอมรับว่าผิดที่หยิบมือถือของคุณไปโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ตอนที่คุณตัดสินใจแบนจิ้นซือเหนียนก็ไม่ได้ปรึกษาฉันเหมือนกัน” เธอยอมรับว่าตัวเองทำผิด แต่ก็ไม่เสียใจที่ทำแบบนี้เลย “ฉินอันอัน...” “เรียกฉันทำไม? คุณอยากคิดบัญชีกับฉันใช่ไหม? เมื่อคืนฉันไม่ได้พูดเลยว่าจะค้างคืนที่บ้านคุณ คุณมันสารเลว!” ฉินอันอันเชิดคางขึ้นแล้วทำข้อตกลงกับเขา “ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะหุบปากแล้วปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเงียบ ๆ” ฟู่สือถิงเจอคำพูดของเธอ จนเขาพูดไม่ออก เมื่อป้าจางเห็นพวกเขาสองคนทะเลาะกันก็รีบเดินเข้ามาไกล่เกลี่ยสถานการณ์ทันที “อันอัน อาหารกลางวันพร้อมแล้ว คุณน่าจะหิวแล้วใช่ไหมคะ? คุณทานข้าวก่อนเถอะค่ะ!” ไม่ทันที่ฉินอันอันจะเอ่ยปากปฏิเสธ ท้องของเธอก็ส่งเสียง
“ไม่ต้องหรอกค่ะ” เธออารมณ์เสียมาก ไม่ควรมาคุยกับเขาเลย ตอนนี้ไม่เพียงแต่รับคำพูดของเขาไม่ได้เท่านั้น หนำซ้ำยังรู้สึกเขินเป็นอย่างมากอีกด้วย “ฉินอันอัน ผมยังมีเรื่องต้องคุยกับคุณ ผมจะส่งคุณกลับบ้านแล้วเราจะคุยกันระหว่างทาง” น้ำเสียงของเขาไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น เธอถือกระเป๋าแล้วตามเขาไป หลังจากออกมาจากคฤหาสน์ เขายื่นมือมาทางเธอ “เอากุญแจรถให้ผม” “แล้วคุณจะกลับยังไง?” หลังจากที่เธอถามคำถามนี้ หางตาของเธอก็เห็นว่าบอดี้การ์ดขับรถออกมาแล้ว เธอถอนหายใจอยู่ในใจ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็จะมีบอดี้การ์ดติดตามไปด้วยทุกที่ เธอจะห่วงเขาทำไม? หลังจากขึ้นรถแล้ว รถขับออกไปนิ่ง ๆ หลังกินข้าวน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเล็กน้อย เธอรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย “ฉินอันอัน คุณจะเตรียมการวันหยุดฤดูร้อนให้ลูกทั้งสองคนของคุณยังไง?” เขายกหัวข้อที่ต้องการพูดถึงออกมา เธอขมวดคิ้วแน่นและหายง่วงทันที เขาใส่ใจเสี่ยวหานและรุ่ยลาขนาดนี้ เขารู้ว่าพวกเด็ก ๆ เป็นลูกของเขาแล้วรึเปล่า?ครั้นเห็นเธอมีปฏิกิริยาตอบสนองที่อ่อนไหวมาก เขาจึงอธิบายว่า “ตอนนี้ท้องของคุณโตมากแล้ว ดูแลลูกไม่สะดวก ให้ลูกของคุณเข้าค่ายฤดูร้อนไหม
ฉินอันอันตะลึง “เดิมทีก่อนหน้านี้ทุกคนก็ซุบซิบเองกันว่าเด็กในท้องของคุณเป็นลูกใครอยู่แล้ว...แต่ระหว่างไลฟ์สดเมื่อคืน จู่ ๆ ฟู่สือถิงก็เข้ามา ถึงแม้เขาจะไม่พูดอะไร แต่สายสายตาที่เขาจ้องมองคุณมันชัดเจนมาก!” รองประธานหัวเราะชอบใจเสียงดัง ฉินอันอันตอบ “เมื่อคืนจิ้นซือเหนียนก็จ้องมาที่ฉันค่ะ” “นั่นไม่เหมือนกัน ถ้าหากลูกในท้องของคุณคือลูกของจิ้นซือเหนียน ทำไมฟู่สือถิงถึงต้องเข้ามาพัวพันกับคุณล่ะ? ฟู่สือถิงไม่ใช่ผู้ชายประเภทยอมเสียเปรียบใครเสียหน่อย” รองประธานอธิบายอย่างสมจริงสมจังฉินอันอันเปิดแล็ปท็อปรองประธานยังพูดเป็นต่อยหอย “ถ้าฟู่สือถิงต้องการแบนจิ้นซือเหนียน แบรนด์ใหญ่จำนวนมากก็เลือกที่จะยกเลิกสัญญากับจิ้นซือเหนียนเพราะไม่กล้าปะทะกับเขา มีแต่บริษัทเราที่กล้าทำแบบนี้ เพราะอะไร? เพราะว่าคุณตั้งท้องลูกของเขาไง” “เมื่อคืนตอนไลฟ์สด มีคนโทรหาผมเยอะมากให้ผมไปเกลี้ยกล่อมคุณว่าอย่ามุทะลุแบบนี้ บอกว่าฟู่สือถิงจะต้องมาหาเราทำให้พวกเราเดือดร้อนแน่นอน ฮ่า ๆ ๆ ๆ...ผลคือข่าวพาดหัวเช้านี้ทำเอาผมหัวเราะหนักมาก!” “ประธานฉิน บริษัทพวกเราคือผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวิกฤตครั้งนี้” ฉินอันอัน
“เพราะว่าคุณโง่ไง” ฟู่สือถิงที่เมาแล้วพูดตรงมาก “ผมให้คุณสองพันล้าน คุณจะเอาไปทำอะไรก็ได้ แต่คุณกลับไปเกลือกกลั้วกับฟู่เย่เฉิน นั่นก็แปลว่าพวกคุณเป็นคนประเภทเดียวกัน” คำพูดของเขาทิ่มแทงเสิ่นอวี๋อย่างรุนแรง! สองพันล้าน... ถูกฉินอันอันเอาไปตั้งนานแล้ว! ถ้าตอนนี้เสิ่นอวี๋มีสองพันล้านอยู่ในมือ ทำไมเธอจะต้องยอมลำบากใช้เด็กมัดตัวฟู่เย่เฉินเอาไว้ด้วย?ตอนนี้ฟู่เย่เฉินคือผู้ชายที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่เธอหาได้ในตอนนี้ยังไงล่ะบอดี้การ์ดประคองฟู่สือถิงขึ้นรถ โรลส์รอยซ์สีดำหายวับไปอย่างรวดเร็วในค่ำคืนอันมืดมิด เสิ่นอวี๋ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ด้านหลังเธอไม่ไกล ฟู่เย่เฉินเอาสองมือล้วงกระเป๋าแล้วพูดอย่างเย็นชา “เสิ่นอวี๋ ดูสิว่าตอนนี้คุณเป็นยังไง ผมขายหน้าจริง ๆ อาของผมไม่ต้องการคุณตั้งนานแล้ว แล้วทำไมคุณยังทำตัวเหมือนหมาของเขาอยู่อีก! ตอนนี้ผู้ชายที่คุณต้องเอาใจคือผมต่างหาก!” เมื่อได้ยินคำพูดถากถางของเขา เสิ่นอวี๋ก็หันกลับมา “ฟู่เย่เฉิน เมื่อก่อนตอนที่ฉันมีเงิน คุณไม่กล้าพูดแบบนี้กับฉันเลยนะ!” “ตอนนี้คุณไม่มีเงินแล้ว! และต่อจากนี้ก็หาเงินมากขนาดนั้นไม่ได้อีกแล้ว! คุณควรตระหนักถึงคว
โจวจื่ออี้เดาได้ว่าทำไมเขาถึงโกรธจึงรีบอธิบายว่า “ฉินอันอันไม่ได้ยอมให้ให้รุ่ยลาเข้าวงการบันเทิง เป็นรุ่ยลาที่ขอร้องและตั้งใจที่จะสัมผัสประสบการณ์นี้เอง คุณเองก็รู้ว่ารุ่ยลาหน้าตาน่ารักขนาดไหน ใครจะปฏิเสธเธอได้ลง” “รุ่ยลาไม่รู้ประสา เธอก็ไม่รู้เรื่องไปด้วยงั้นเหรอ? ในฐานะแม่ เธอควรมีหน้าที่ในการกำกับดูแลไม่ใช่ตามใจเธอ!” ฟู่สือถิงโต้กลับอย่างเคร่งขรึม โจวจื่ออี้ “ถ้ารุ่ยลามาขอร้องคุณ คุณจะทำตัวเที่ยงตรงไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้นได้จริง ๆ เหรอครับ?” ใบหน้าฟู่สือถิงหม่นมืดลงทันที “ไม่ต้องพูดว่าฉันทำได้หรือเปล่า ฉันคิดว่านายกำลังเห็นคนอื่นดีกว่าฉันอยู่นะ!” โจวจื่ออี้แสดงความจงรักภักดีอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมแค่แทนตัวเองเป็นฉินอันอัน ถ้ารุ่ยลามาขอร้องผม ผมจะต้องยอมทุกอย่างที่เธอต้องการแน่ ๆ ก็เธอน่ารักขนาดนั้น… ผมไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่น่ารักแบบนั้นมาก่อนเลย” คำเยินยอของโจวจื่ออี้ทำให้ฟู่สือถิงเย็นลง รุ่ยลาน่ารัก เขาเองก็รู้ดี อย่างไรเสียรุ่ยลาก็หน้าตาเหมือนฉินอันอัน ฉินอันอันมักจะยั่วให้เขาโกรธบ่อย ๆ แต่เขาไม่เคยลงมือกับเธอได้จริง ๆ สักครั้ง ถ้าเธอหดตัวเล็กลงไ
ระหว่างทางไปร้านอาหาร ฉินอันอันพูดกับบอดี้การ์ดว่า “ห้ามบอกใครเรื่องแผนการเดินทางทั้งหมดของฉันในประเทศบี กับไมค์ก็ห้ามบอก ตอนนี้เขานับว่าเป็นคนของฟู่สือถิงไปครึ่งตัวแล้ว ฉันไม่ชอบถูกจับตามอง ใครถามคุณถึงเรื่องของฉันก็บอกไปว่าฉันพักผ่อนอยู่ที่บ้าน” บอดี้การ์ดได้ยินแล้วก็พยักหน้า “เจ้านายครับ ผมไม่มีวันรับสินบน” ฉินอันอันเลิกคิ้วและถามอย่างประหลาดใจ “มีคนติดสินบนคุณเหรอ?” บอดี้การ์ดนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าอีกครั้ง “ผู้ช่วยของฟู่สือถิง เขาพยายามติดสินบนผม แต่ผมปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไปแล้วครับ” ฉินอันอันทอดถอนใจ ไมค์ถูกผู้ช่วยเขากำราบแล้ว เขายังคิดจะติดสินบนบอดี้การ์ดของเธออีก! นี่คือคิดจะแทรกซึมเข้ามาในชีวิตของเธอทุกด้าน! เธอก็แค่ตั้งท้องไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงกังวลขนาดนี้? ยิ่งเขาทำตัวแบบนี้ เธอก็ยิ่งไม่อยากให้เขารู้ว่าเธออยู่ที่ไหน เมื่อรถมาถึงร้านอาหาร การนัดพบกับลูกค้ารายล่าสุดก็สำเร็จ ลูกค้าพบเธอแล้วก็เอ่ยอย่างตื่นเต้น “คุณหมอฉิน อาการป่วยพ่อของฉันดีขึ้นมากแล้ว! ต้องขอบคุณคุณมาก คราวก่อนฉันบอกไปแล้วว่าจะแนะนำแขกให้คุณรู้จัก วันนี้ฉันเอาเคสการป่วยของเขามาด้วย ฉ
เธอลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ “เขาแค่แอบไปดูการถ่ายทำเท่านั้น ไม่ได้รบกวนรุ่ยลาเลย” ไมค์กล่าวเพิ่มเติม “จื่ออี้บอกฉันว่าเขาน่าจะรู้แล้วว่าเสี่ยวหานกับรุ่ยลาเป็นลูกของเขา เพียงแต่เขาไม่กล้ายอมรับ เพราะเด็กสองคนไม่ชอบเขา อีกอย่าง เธอคงไม่ยอมให้เขายอมรับพวกเด็ก ๆ ดังนั้นเขาจึงอดทนกับความเจ็บปวดที่ต้องพลัดพรากกับเลือดเนื้อเชื้อไขอย่างเงียบ ๆ มาโดยตลอด” “นอกจากนี้ เขาไม่อยากให้รุ่ยลาเข้าวงการบันเทิงเอามาก ๆ เลยด้วย” ไมค์พูดต่อ “ดังนั้น เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขาเธอรีบกลับมาเร็ว ๆ เถอะ วันไหนเขาเกิดอดกลั้นไม่ไหวไปก่อเรื่องวุ่นวายที่การถ่ายทำรายการ ฉันคงควบคุมสถานการณ์ไม่ไหว” ฉินอันอันปวดหัวมาก เพราะอาการเจ็ทแลค เมื่อคืนนี้เธอจึงนอนไม่หลับเล็กน้อย ตอนนี้เธอไม่อยากนั่งเครื่องบินอีกจริง ๆ “วันนี้ฉันจะยังไม่กลับ” เธอสูดหายใจลึก ๆ “ฉันปวดหัว วางแผนว่าจะพักผ่อนที่บ้านทั้งวัน” “อ้อ...แบบนี้เอง! ถ้าเธอไม่สบาย งั้นก็พักผ่อนเยอะ ๆ นะ” ไมค์กล่าว “เมื่อวานเครื่องลงแล้วทำไมไม่ส่งข้อความหาฉันล่ะ? ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ชอบติดต่อฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ เลย เธอไม่พอใจอะไรฉันหรือเปล่า?” ฉินอันอันไม่อยากให
ฟู่สือถิงนอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะฉินอันอัน แต่เป็นเพราะรุ่ยลา จิ้นซือเหนียนพารุ่ยลาเข้าร่วมรายการวาไรตี้ เป็นรายการวาไรตี้ที่ถ่ายทำกลางแจ้ง รายการนี้หลัก ๆ แล้วคือการให้ดาราใช้ชีวิตอยู่กับเด็กน้อยหน้าใหม่ ทำให้ดาราได้รับประสบการณ์ของการเป็นพ่อ พวกเขาเฟ้นหาเด็กน้อยหน้าใหม่หลายคน มีทั้งชายและหญิง หน้าตาดีมากทุกคน แน่นอนว่าสำหรับเขา ไม่มีใครหน้าตาดีสู้รุ่ยลาได้ เหตุผลที่ฟู่สือถิงนอนไม่หลับเพราะเขากลัวว่ารุ่ยลาจะเปลี่ยนไประหว่างที่อยู่จิ้นซือเหนียน เธออาจจะซึมซับและถือว่าจิ้นซือเหนียนเป็นพ่อของเธอ! เขาถามคำถามผู้กำกับอย่างละเอียดในตอนที่อยู่ ณ สถานที่ถ่ายทำ ผู้กำกับตอบเขาว่า เด็กกับดาราจะกินด้วยกัน เล่นด้วยกัน เช่นเดียวกับพ่อแม่จริง ๆ เลี้ยงดูลูก ตอนนั้นหัวใจของเขาเย็นเยือกมากขึ้น เขาอยากแบนรายการนี้… ไม่ใช่สิ เขาอยากแบนจิ้นซือเหนียน! ถ้าหากรุ่ยลายืนกรานจะเข้าร่วมรายการนี้ ก็ให้รุ่ยลาเปลี่ยนคู่หู เขาจะได้ไม่ต้องอึดอัดใจขนาดนี้ แต่เขาก็รู้ว่า รุ่ยลาเข้าร่วมรายการเพราะจิ้นซือเหนียน ถ้าเขาแบนจิ้นซือเหนียนอีกรอบ ฉินอันอันจะต้องทะเลาะกับเขาครั้งใหญ่แน่นอน ตอนนี้ท้องเธอใหญ่