เมื่อบริษัทของพ่อใกล้จะล้มละลาย แม่เลี้ยงของเธอจึงบังคับให้เธอแต่งงานกับฟู่สือถิง ชายผู้มีอิทธิพลที่กำลังนอนป่วยเป็นเจ้าชายนิทรา ทุกคนต่างตั้งตารอวันที่เธอกลายเป็นแม่หม้าย และถูกขับไล่ออกจากตระกูลฟู่ ในไม่ช้า ฟู่สือถิงก็ฟื้นขึ้น เมื่อเขาฟื้นขึ้นมา เขาก็กลายเป็นคนดุร้าย "ฉินอันอัน แม้ว่าคุณจะตั้งครรภ์ลูกของผม ผมก็จะบีบคอเขาให้ตายด้วยมือผมเอง! สี่ปีต่อมา ฉินอันอันกลับมายังประเทศเอ พร้อมกับลูกแฝดชายหญิงของเธอ เธอชี้ไปยังใบหน้าของฟู่สือถิงที่อยู่ในรายการเศรษฐกิจ และบอกกับเด็ก ๆ ว่า “ถ้าพวกลูกเจอผู้ชายคนนี้ ห้ามเข้าใกล้เขาเด็ดขาดนะ ไม่อย่างนั้นเขาจะบีบคอหนูจนตาย” ตกดึก มีชายปริศนาเข้าแฮกคอมพิวเตอร์ของฟู่สือถิง และทิ้งจดหมายท้าทายไว้ให้เขา ‘ไอสารเลว มาบีบคอฉันสิ!’
View Moreดวงตาของเธอแดงก่ำ ขณะที่กดหมายเลขที่ไม่ได้ติดต่อมานาน หลังจากต่อสายแล้ว ไม่ช้าก็มีเสียงหวานดังขึ้นมาจากปลายสาย “คุณหมอเสิ่น คุณไม่ได้กดเบอร์ผิดใช่ไหม? คุณไม่ได้ติดต่อฉันมานานแล้ว ฉันนึกว่าคุณจำฉันไม่ได้แล้วเสียอีก! ฮ่า ๆ ๆ!” อีกด้านของโทรศัพท์คือเสียงหัวเราะอย่างภาคภูมิใจของถังเชี่ยน ถังเชี่ยนคือคนที่พาเธอมาที่นี่จากประเทศบีถังเชี่ยนบอกเธอว่า ตราบใดที่เธอเชื่อฟังเธอจะต้องได้รับสิ่งตอบแทนมากกว่าประเทศบีแน่นอน! แต่ว่าเธอไม่เชื่อฟังถังเชี่ยน หลังจากที่เธอมีเบี้ยต่อรองกับฟู่สือถิง เธอก็เตะถังเชี่ยนออกไปทันที “ถังเชี่ยน คุณหัวเราะทำไม?!” “หัวเราะคุณไงล่ะ! คุณโดนเขี่ยทิ้งแล้ว” น้ำเสียงของถังเชี่ยนฟังดูมีความสุขเป็นพิเศษ “ตอนนี้ฉันบดขยี้คุณให้ตายเหมือนมดได้อย่างง่ายดาย แต่ฉันไม่อยากทำแบบนั้นเพราะว่าฉันไม่อยากให้มือที่สูงส่งของฉันต้องสกปรก” “จริงเหรอ?” เสิ่นอวี๋พึมพำ “แล้วคุณจะได้อะไรล่ะ? ฟู่สือถิงเป็นของฉินอันอัน! ไม่ใช่ของคุณ!” “ฮ่า ๆ ๆ! ฟู่สือถิงไม่ใช่ของฉันจริง ๆ นั่นแหละ แต่ตอนนี้คุณที่อยู่ข้างกายเขาไม่ใช่คุณแล้วก็ไม่ใช่ฉินอันอัน” ถังเชี่ยนพูดเน้นทีละคำ “เป็นฉัน คือฉั
จินจือกรุ๊ป หลังจากที่เสิ่นอวี๋บอกหวังหว่านจือถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา หวังหว่านจือก็มีสีหน้าบูดบึ้งมาก “ฉันไม่มีเงินจะคืนเงินให้เธอมากขนาดนั้นหรอก!” หวังหว่านจือพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “เงินหมดไปตั้งนานแล้ว ถ้าเธอไม่เชื่อก็ไปถามฝ่ายการเงินได้เลย! ดูสิว่าในบัญชีบริษัทยังมีสองพันล้านเหลือไหม!” เสิ่นอวี๋สูดลมหายใจ “หวังหว่านจือ มีดไม่ได้อยู่บนคอของป้า แน่นอนป้าต้องบอกว่าไม่มี! ถ้าป้าเป็นฉัน ป้าจะทำยังไง?” หวังหว่านจือหันมาต่อต้านเธอ “ฉันไม่ได้โง่เหมือนเธอ! ที่แม้กระทั่งเก็บเงินที่ตัวเองหามาได้ไว้ไม่อยู่! ถ้าเธอรู้ว่าตัวเองเก็บมันไว้ไม่ได้ เธอก็แค่หนีไปให้ไกล ๆ กับเงินสองพันล้านสิ!” “ตอนที่ป้าขอให้ฉันลงทุนกับป้า ป้าไม่ได้มีประพฤติแบบนี้นี่!” เสิ่นอวี๋รู้สึกราวกับมีไฟสุมขึ้นในใจ ฉินอันอันให้เวลาเธอเพียงสามวันเท่านั้น เธอต้องระดมเงินสองพันล้านให้ได้ภายในเวลาสามวัน! เธอไม่อยากให้ฟู่สือถิงรู้ความจริง ถ้าฟู่สือถิงรู้ความจริง เขาจะไม่ใช่แค่ทวงเงินธรรมดา ๆ! “แล้วเธอมาบอกฉันทำไม?! ถ้าฉันมีเงินมากขนาดนั้น ฉันคงคืนให้เธอไปแล้ว! เธอคิดว่าฉันจงใจสร้างเรื่องให้เธอเหรอ?” หวังหว่านจือ
เสิ่นอวี๋ตะลึง “???” น้ำที่เพิ่งดื่มลงไปแทบพุ่งออกมา! คายเงินทุกสตางค์ออกมานี่มันหมายถึงอะไร? เงินที่ฟู่สือถิงให้เธอมันเป็นของเธอแล้ว! จะให้คายมาจากไหน? “ฉินอันอัน ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณต้องการคืนเงินให้ฟู่สือถิง ดังนั้นคุณจึงต้องการเงินมาก” เสิ่นอวี๋กล่าวอย่างกังวล “แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะมาขอเงินจากฉัน! ฉันต้องใช้ความพยายามและเวลาเท่าไรในการรักษาอิ๋นอิ๋น…” “แต่คุณไม่ได้ทำการผ่าตัดให้อิ๋นอิ๋นนี่” ฉินอันอันพูดอย่างใจเย็น “ฉันแค่บอกให้คุณคายเงินสองพันล้านออกมา ไม่ได้บอกให้คุณคายดอกเบี้ยด้วย ผลประโยชน์เหล่านั้นถือได้ว่าเป็นผลตอบแทนจากการทำงานอย่างหนัก!” เสิ่นอวี๋ตกใจมากจนริมฝีปาแดงของเธอกระตุก แต่เธอก็พูดไม่ออก ‘น่าขัน!’ ‘ฉินอันอันไร้สาระมาก!’ “เสิ่นอวี๋ ไม่มีใครบอกคุณเหรอว่าไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ?” ฉินอันอันยิ้มเยาะ “ที่คุณโกงฟู่สือถิงนับว่ากล้ามาก แถมยังรับเงินจากเขาอีก คุณไม่กลัวตายเหรอ?” ดวงตาของเสิ่นอวี๋เบิกกว้าง เธอพูดด้วยความโกรธ “ฉินอันอัน อย่าพึ่งเอาความจริงที่ว่าคุณเป็นศิษย์คนสนิทของศาสตราจารย์ฟูชิงมาพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าฉัน! ยุคนี้เราให้ความสนใจกับหลักฐาน คุ
“ฉันกลับมาแล้ว เธอว่างเมื่อไหร่มาเจอกันหน่อย” หลังจากเชื่อมต่อสายเธอก็พูด อีกฝ่ายประหลาดใจมาก “เราจำเป็นต้องเจอกันด้วยเหรอ?” “คุณสนใจฉันมากไม่ใช่เหรอ? คุณเคยไปประเทศบีเพื่อสอบถามเกี่ยวกับฉันด้วยนี่” ฉินอันอันแซว “ฉันเห็นว่าคุณสนใจฉันมาก พอกลับมาแล้ว ฉันจึงติดต่อคุณเป็นคนแรกเลยไงล่ะ” เสิ่นอวี๋หัวเราะเยาะ “อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย ฉันไปประเทศบีเพื่อเยี่ยมญาติ และฉันก็ถามสถานการณ์ปัจจุบันของคุณ สุดท้าย ลูกทั้งสองของคุณก็กลับมาแล้ว แต่คุณไม่กลับมาด้วย ฉันคิดว่าคุณป่วยหนัก ฉันก็เลยถามไง” “ยังจะพูดอีกว่าไม่ได้สนใจฉัน” ฉินอันอันพูดเบา ๆ “คุณไม่สนใจฉัน แล้วรู้ได้ยังไงว่าลูกสองคนของฉันกลับมาแล้ว? ลูกของฉันคงไม่ได้ไปเดินเตร่อยู่ตรงหน้าคุณหรอกมั้ง?” เสิ่นอวี๋พูดไม่ออก “เจอกันตอนบ่าย แล้วมาดูกันว่าฉันฟื้นตัวเป็นยังไงบ้าง” ฉินอันอันเป็นคนเริ่ม “ฉันไม่สนเรื่องสุขภาพของคุณหรอก... แต่ในเมื่อคุณต้องการเจอฉันมาก งั้นก็มาเจอกัน!” เสิ่นอวี๋พูดน้ำเสียงเกียจคร้าน “อืม คุณเลือกสถานที่เลย เดี๋ยวจะหาว่าฉันรังแกคุณอีก” ฉินอันอันล้อเลียน เสิ่นอวี๋รู้สึกว่าวันนี้เธอพูดแปลก ๆ และคิดเสมอว่าจุดประสง
“ค่ะ” “พัฒนาการของเด็กไม่ค่อยดีนัก” หลังจากนั้นไม่นาน หมอก็ค่อย ๆ พูดว่า “คุณบอกว่าการตรวจเมื่อครึ่งเดือนก่อนพบว่าทารกตัวเล็กเกินไปสองสัปดาห์หรือเปล่า?” “ใช่ค่ะ แล้วตอนนี้ล่ะคะ?” หัวใจของฉินอันบีบรัดขณะรอการวินิจฉัยจากหมอ หากเด็กหยุดเจริญเติบโต แม้ว่าเธออยากจะเก็บเด็กไว้ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด “คุณช่วยเอาแผ่นอัลตราซาวนด์ล่าสุดให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ?” หมอวางเครื่องอัลตราซาวนด์ลงแล้วยื่นทิชชู่ให้เธอ เธอหยิบทิชชู่เช็ดหน้าท้องให้สะอาด จากนั้นก็หยิบแผ่นอัลตราซาวนด์ออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้หมอ หลังจากเห็นอัลตราซาวนด์ของครั้งที่แล้ว หมอก็จึงพูดกับเธอว่า “ถึงแม้พัฒนาการของเด็กจะไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังพัฒนาเมื่อเทียบกับคราวที่แล้ว ถ้าอยากเก็บลูกคนนี้ไว้ก็ควรพักผ่อนให้เต็มที่และเสริมโภชนาการต่อไปดู” หัวใจของฉินอันอันตกลงกับพื้นทันที “คุณได้ตรวจดาวน์ซินโดรมแล้วหรือยัง?” คุณหมอพิมพ์แผ่นอัลตราซาวนด์ออกมาแล้วยื่นให้เธอ ฉินอันอันส่ายหน้า “ตอนนี้คุณสามารถทำได้แล้ว” หมอพูดเสียงเคร่งขรึม “เช้านี้คุณทานอาหารเช้าหรือยัง? ถ้ายัง วันนี้คุณก็ทำได้เลย!” การ
ทั้งสองคนตกตะลึง “พี่หาน...อย่าเพิ่งขายเหรียญพวกนี้นะ! ลุงเดาว่าพวกมันยังขึ้นได้อีก” ไมค์สูดหายใจและเตือน เสี่ยวหาน “ครับ” “อย่าเพิ่งบอกแม่เรื่องนี้ล่ะ” ไมค์พูดต่อ “ลุงเกรงว่าถ้าเธอรู้ใจของเธอจะรับไม่ไหว” “ไว้ผมจะให้เงินลุงแล้วลุงก็ค่อยเอาให้แม่ก็แล้วกัน” เสี่ยวหานกล่าว “ตกลง…เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ!” ไมค์พยุงเสี่ยวหานขึ้น วันนี้ใจของเสี่ยวหานลอยสูงสองเมตร! …… ที่ประเทศบี หลังจากที่ฉินอันอันทำการผ่าตัดพ่อของลูกค้าเสร็จ ลูกค้าก็เชิญเธอไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร “หมอฉิน คุณรู้จักเสินอวี๋ไหมครับ?” หัวใจของฉินอันอันบีบรัด แต่ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเธอ “ไม่ถึงกับสนิทค่ะ ทำไมเหรอคะ?” “เธอถามเพื่อนของผมเรื่องคุณ” ลูกค้ากล่าวว่า “ไม่รู้ว่าเธอไปได้ยินมาจากใครว่าคุณกำลังเดทกับผมอยู่ ในเมื่อคุณไม่ได้สนิทกัน ทำไมเธอถึงถามถึงคุณลับหลังล่ะ?” ฉินอันอัน “เพื่อนของคุณตอบเธอว่ายังไงคะ?” “ผมบอกเพื่อนว่าไม่ต้องตอบอะไร เดิมผมขอให้คุณทำการผ่าตัดพ่อของผม แต่ผมไม่ได้บอกใครเลย ไม่รู้ว่าเธอรู้มาจากไหน” “โอ้ ในเมื่อเธอถามเพื่อนของคุณ นั่นหมายความว่าเธอรู้แล้ว” “ใช่! แต่เร
เขาหยิบกาแฟร้อนบนโต๊ะมาจิบ กาแฟมีรสขมมาก เช่นเดียวกับความรู้สึกของเขาในตอนนี้ ฉินอันอันเป็นประเภท ‘ฉันจะไปตามทางของฉัน’ มาโดยตลอด ไม่เคยคำนึงถึงความรู้สึกของเขาเลย แม้ว่าพวกเขาจะเลิกกัน เธอก็ยังคงหาวิธีมาทรมานเขาได้ …… ชั้นเรียนอัจฉริยะ ระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน เด็กผู้ชายคนหนึ่งถือกล่องอาหารกลางวันเดินไปหาเสี่ยวหาน “ฉินจือหาน ผู้หญิงในข่าวที่โกงเงินฟู่สือถิงเป็นหมื่นล้านเป็นแม่ของนายใช่ไหม?!” เด็กผู้ชายที่พูดชื่อว่าเสี่ยวตง แต่เพราะเขามีร่างกายอวบอ้วน ทุกคนจึงเรียกเขาว่าเสี่ยวพ่าง “แม่ของฉันไม่ได้โกง!” เสี่ยวหานโกรธ “ฉันรู้ว่าแม่ของนายไม่ใช่คนขี้โกง ถ้าแม่ของนายเป็นคนขี้โกง ฟู่สือถิงจะต้องสร้างปัญหาให้แม่ของนายแน่ ๆ” เสี่ยวพ่างสงสัย “ตอนนี้แม่ของนายคงจะสบายดี คงจะอยู่บ้านใช่ไหม?” “แม่ของฉันอยู่ต่างประเทศ” เสี่ยวพ่างดันแว่นตาบนดั้งจมูกของเขาแล้วมองเสี่ยวหานด้วยสายตาเฉียบแหลม “โอ้… ทำไมเธอไม่กลับมาล่ะ?” เสี่ยวหานขมวดคิ้ว เสี่ยวพ่าง “เสี่ยวหาน นายอย่าโกรธเลยนะ! ฉันไม่ได้บอกว่าแม่ของนายเป็นคนขี้โกง… ฉันแค่อยากรู้ว่า แม่นายจะคืนเงินฟู่สือถิงไหม? ครอบครัวของนายม
เขาไปบังคับให้เธอคืนเงินตอนไหน?! เธอนั้นแหละ บังคับตัวเอง! “นายคิดว่าฉันไปหาเธอเพราะอยากได้เงินเหรอ?” ในขณะที่พูด น้ำเสียงของเขาก็สั่นเทา โจวจื่ออี้ส่ายหน้าอย่างแรง “ผมรู้ว่าคุณไม่มีทางอยากได้เงินจากเธอ แต่คุณสามารถบอกให้เธอไม่ต้อคืนเงินคืนได้นะครับ” “นายคิดว่าเธอจะฟังฉันเหรอ?” น้ำเสียงของเขาฟังดูประชดประชัน “ทำไมนายถึงคิดว่าเธอจะฟังฉันล่ะ?!” โจวจื่ออี้ตกตะลึง “ไมค์สั่งให้นายบอกเรื่องนี้กับฉันเหรอ?” ลูกกระเดือกของฟู่สือถิงกลิ้งขึ้นลงและคิ้วของเขาก็ขมวดแน่นขึ้น โจวจื่ออี้ส่ายหน้า “เขารู้ว่าถึงพูดกับคุณก็ไม่มีประโยชน์ แต่...ผมคิดว่าแม้ว่าคุณจะบอกว่ามันไม่มีประโยชน์ อย่างน้อยคุณก็ได้แสดงความรู้สึกของคุณ ถ้าเธอไม่ฟัง ต่อไปถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ก็ไม่มีใครมาตำหนิคุณได้” “ฉันเข้าใจแล้ว นายออกไปเถอะ” ฟู่สือถิงไม่กลัวใครตำหนิ เขาแค่กลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ หลังจากที่โจวจื่ออี้ออกไป เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขของฉินอันอันแล้วโทรออก หลังจากโทรออกแล้ว มีเสียงเรียกแต่ไม่มีใครรับสาย หลังจากที่ระบบวางสายโดยอัตโนมัติ เขาก็วางโทรศัพท์ลง ตอนนี้เขารู้สึก
เขาบีบนิ้วบนโทรศัพท์แน่นโดยไม่รู้ตัว ทั้งสองพัฒนามาจากคู่รักที่เลิกราเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้ แม้ว่าความสัมพันธ์นี้จะค่อนข้างน่าขัน แต่อย่างน้อยก็ทำให้พวกเขาได้ติดต่อกัน เขาไม่ตอบกลับเธอ แล้วถ้าเขาไม่ตกลงล่ะ? เธอไม่ยอมฟังเขา ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขาเปิดข้อความและเห็นการแจ้งเตือนจากธนาคาร บัญชีส่วนตัวของเขาเพิ่งได้รับเงินหนึ่งพันล้าน หมายเหตุคือ ชำระคืน เขาจ้องมองไปที่ตัวเลข แสงในดวงตาของก็หรี่ลงเล็กน้อย นี่น่าจะเป็นเงินทั้งหมดที่เธอคืนได้ในตอนนี้ ...... หลังจากที่ฉินอันอันโอนเงินแล้ว เธอก็จ้องมองโทรศัพท์อย่างเหม่อลอยอยู่พักหนึ่ง ‘เขาจะไม่ตอบข้อความเลยเหรอ?’ ‘ข้อความถูกส่งไปแล้ว ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวเขาก็เห็น’ เธอวางโทรศัพท์ลงในกระเป๋าแล้วเดินออกไปที่ประตูพร้อมกับกระเป๋าของเธอ เมื่อวานเธอติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหวังว่าตำรวจจะสามารถสอบสวนได้ว่าอิ๋นหวังไปเจอใครก่อนหน้าที่จะลักพาตัวเว่ยเจิน แม้ว่าอิ๋นหวังจะตายไปแล้ว แต่ผู้สมรู้ร่วมคิดยังมีชีวิตอยู่ ตามคำขอของเธอ ตำรวจได้สอบสวนคนของอิ๋นหวังหลายคน และได้รับคำสารภาพอย่างละเอีย