“มีเรื่องอันใดกัน”องค์รัชทายาทและพระชายาองค์รัชทายาทต่างสบตากันฮ่องเต้ขมวดคิ้วและพูดอย่างเคร่งขรึม “ปล่อยให้เข้ามา”ขันทีรีบเดินออกไปส่งข้อความตามที่คาดไว้ คนที่บุกเข้ามาอย่างก้าวร้าวก็คือเซียวหมิงเซียนเซียวหมิงเซียนเงยมองเซี่ยเชียนฮวัน และเผยกริยาดูถูกออกมา ก่อนจะแสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นนาง แล้ววิ่งมาประจบฮ่องเต้ “เสด็จพ่อ ท่านรับปากข้ามาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่มีข่าวอีกล่ะ”“มันเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันเอง” ฮ่องเต้พูดอย่างจนใจ“ไม่ ข้ารอไม่ไหวแล้ว ข้าจะแต่งงานกับอวี้สวี่ตอนนี้!”เซียวหมิงเซียนสร้างปัญหามาตั้งนาน ที่แท้ก็เพื่อเรื่องนี้องค์หญิงผู้สง่างามคนหนึ่ง กลับกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะแต่งงานขนาดนี้...ฮ่องเต้กล่าว “เจ้าต้องรอสำนักหอดูดาวหลวงจะรวมวันเกิดของพวกเจ้า และคำนวณเวลาอันเป็นมงคล การแต่งงานขององค์หญิงถือว่าเป็นงานใหญ่ ดังนั้นจะรีบร้อนไม่ได้ ไม่งั้นจะทำให้ทุกคนหัวเราะเยาะเอา”“ใช่แล้ว หมิงเซียน เจ้ามีสัญญาการแต่งงานแล้ว จะรีบเร่งทำไม”องค์รัชทายาทที่อยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นมาเซียวหมิงเซียนไม่ฟัง และยังคงสร้างปัญหาต่อไป “สำนักหอดูดาวหลวงเป็นกลุ่มตาเฒ่าตัวเหม็นที่ไร้
หลังจากกลับมาถึงจวนจ้านอ๋องเซี่ยเชียนฮวันก็จำได้ว่าหญิงอ้วนที่ชื่อเปาอิ๋งหันเคยบอกว่า ตัวเองพักอยู่ในโรงเตี๊ยมเย่ว์ไหล ดังนั้นจึงสั่งให้เสี่ยวตงไปแจ้งให้นางทราบอีกสองวันงานแต่งงานขององค์หญิงก็จะถูกจัดขึ้นตอนที่ราชบุตรเขยไปรับตัวเจ้าสาวจะมีการแห่ขบวนบนถนนหลวงใกล้ๆ กับพระราชวังไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างซืออวี้สวี่และซือเสียงจะเป็นเช่นไร มีเพียงเปาอิ๋งหันเท่านั้นที่สามารถบอกความแตกต่างได้ แค่ปล่อยให้นางดูด้วยตนเองขณะที่เสี่ยวตงกำลังจะออกไป จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็เรียกนางกลับมา“จำไว้ เมื่อเจ้าคุยกับผู้หญิงคนนั้น เจ้าแค่บอกนางว่าจอหงวนอาจจะรู้จักสามีของนาง และให้นางหาทางไปพบกับเขาเอง” เซี่ยเชียนฮวันกำชับแต่เสี่ยวตงไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะเจ้าคะ? ไม่ใช่ว่าพระชายาสงสัยในตัวจอหงวนหรอกหรือ?”“ความสงสัยก็เป็นเพียงความสงสัย แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เขาเป็นมหาดเล็ก และตอนนี้กำลังจะกลายเป็นราชบุตรเขยของฮ่องเต้ เวลานี้เขามีชื่อเสียงที่รุ่งโรจน์ พวกเราก็อย่ามองข้ามเรื่องนี้ไป และทำให้ตัวเองต้องพลอยประสบปัญหาไปด้วย”เซี่ยเชียนฮวันหยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า “อีกอย่างในสายตาของฮูหยินเปา สามี
“บ่าวพูดแล้ว บ่าวพูดแล้ว!”อวิ๋นซีรู้สึกว่ากระดูกในมือของนางส่งเสียงดังกร๊อบออกมา ราวกับว่ากำลังจะหัก!นางส่งเสียงร้องดังลั่นหลินซวี่จึงหยุดมือชั่วคราว“มี...มีสาวใช้ในจวนคนหนึ่ง แอบลักลอบได้เสียกับผู้ชายแล้วท้องขึ้นมา บ่าวไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โต จนทำให้จวนอ๋องต้องเสียหน้า ดังนั้นจึงออกไปซื้อยาทำแท้งมา” อวิ๋นซีตอบเซี่ยเชียนฮวันฟังนางพูดไปพลาง ครุ่นคิดไปพลาง นางเล่นนิ้วมือตัวเองแล้วกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ?”“บ่าวไม่กล้า...”“แม้จะมีสาวใช้จวนอ๋องได้เสียกับผู้ชายข้างนอก แต่เรื่องเช่นนี้ก็ควรมอบให้ข้าผู้เป็นพระชายาตัดสินเอง ไม่ถึงคราวที่เจ้าต้องออกหน้าจัดการเอง”เซี่ยเชียนฮวันยิ้มเยาะไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม แต่คำพูดของอวิ๋นซีนั้น เท่ากับไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลย!มีข้ารับใช้ในจวนทำผิด ไม่เพียงแต่ไม่รายงานให้พระชายาทรงทราบก่อน แต่ยังกล้าตัดสินใจจะจัดการด้วยตัวเองอีก เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขารู้สึกว่าซูอวี้เออร์ได้รับความโปรดปราน จึงถือว่านางเป็นนายหญิงของจวนแล้ว?“บ่าวเลอะเลือนไปชั่วครู่ ตอนนี้ทราบความผิดแล้ว พระชายาได้โปรดปล่อยบ่าวไปด้วย!”
เจ็บ...เมื่อเซี่ยเชียนฮวันลืมตาขึ้น นางก็เห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังใช้แรงบังคับกดมือทั้งสองข้างของนางไว้ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ แถมยังฉายแววรังสีอำมหิตออกมาชัดเจน ราวกับพญามัจจุราชในนรกก็ไม่ปาน!“ไอ้คนสารเลว ปล่อยข้านะ!”เซี่ยเชียนฮวันตกใจมาก นางพยายามต่อต้านสุดแรง โดยการใช้กำปั้นทั้งสองข้างทุบไปที่หลังของชายผู้นั้นไม่หยุดแต่นางกลับรู้สึกว่าร่างกายของนางช่างไร้เรี่ยวแรง ไม่มีพลังที่จะต่อต้านเขาได้เลยสักนิด!นี่มัน...ถูกวางยาอย่างนั้นเหรอ?“อย่าดิ้น”ชายผู้นั้นกัดฟัน ใช้มือบีบไปที่ลำคอเรียวระหงของหญิงสาว เขาออกแรงบีบลงมาอย่างเต็มที่ จนเส้นเอ็นปูดบวมขึ้นมาที่หลังมือของเขาเลยทีเดียว ราวกับอยากจะบีบคอนางให้สิ้นใจตายไปซะเดี๋ยวนั้น!เขาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูนางอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจงใจจุดธูปหอมกระตุ้นกำหนัดไว้ในห้อง เพื่อดึงดูดให้ข้ามาหา ตอนนี้เจ้าก็สมใจแล้วหนิ ยังจะมีหน้ามาด่าข้าว่าเป็นคนสารเลวอีกหรือ”“ข้าเปล่านะ...อ๊า!”เซี่ยเชียนฮวันหน้าซีดเผือดลงทันที นางยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน แค่จับมือกับผู้ชายนางก็ไม่เคย แต่ผู้ชายสารเลวคนนี้นี่มัน...!“แก ไปตายซะ...” ตอนนี้เซี่ยเชี
"เจ้าไม่ใช่สาวใช้ของข้าเหรอ เหตุใดจึงฟังคำสั่งของผู้ชายคนนั้นทุกเรื่อง ไม่ฟังข้า"เซี่ยเชียนฮวันมองไปที่ชิงถีอย่างเย็นชาที่เจ้าของร่างเดิมวางยาใส่เซียวเย่หลัน ก็เพราะว่าฟังตามคำแนะนำของนางนี่แหละไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กนี่ถูกใครบงการมากันแน่ ถึงขั้นวางแผนทำร้ายนายตัวเองชิงถีก้มหัวอย่างนอบน้อม "นายท่าน ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาของท่านอ๋อง คงเทียบกับตอนอยู่จวนโหวไม่ได้แล้ว หากไม่ระมัดระวังในทุกสิ่ง คงจักนำพาความโชคร้ายมาให้ตัวเองได้""ได้ ข้าไม่ออกไป แต่ว่าเจ้าต้องไปสืบแทนข้าว่าข้างนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น"เซี่ยเชียนฮวันโบกมือไม่ใช่ว่าเธอกลัวนะเพียงแค่ ตอนนี้ในร่างกายของเธอยังมีพิษที่ยังจำกัดไม่หมด ตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวนิดหน่อย ต้องหาทางกำจัดพิษก่อน จากนั้นค่อยคิดอีกทีว่าจะออกจากที่นี่ยังไง"เช่นนั้นพระชายาพักผ่อนก่อนนะเพคะ" ชิงถีตอบรับคำหนึ่งก่อนจะเดินออกไปเซี่ยเชียนฮวันนั่งลง รินชาให้ตัวเองจอกหนึ่ง สายตาจับจ้องไปที่ผลพุทราเปรี้ยวในจานผลไม้แปลกจังทำไมจู่ๆ นางถึงอยากกินของเปรี้ยวมากๆ ขึ้นมาได้นะแถมยังเป็นความอยากที่ควบคุมไม่ได้จนอยากจะกระโจนเข้าไปอีกหรือว่าหลั
"ได้ยินว่าเมื่อคืนท่านพี่เพิ่งจะปรนนิบัติท่านอ๋องเสร็จก็ถูกท่านอ๋องสั่งกักบริเวณแล้วอย่างนั้นเหรอ"ซูอวี้เออร์ยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ สีหน้าแสดงเห็นการเยาะเย้ยชัดเจนนางลูบเครื่องประดับศีรษะทีหนึ่งก่อนจะเดินนวยนาดเข้ามาช้าๆ "ท่านพี่อย่าได้ใส่ใจเลย ท่านอ๋องก็เป็นคนที่อารมณ์แปรปรวณเช่นนี้แหละ ผู้หญิงทั่วไปรับมือนิสัยของเขาไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ อีกหน่อยต่อไปเดี๋ยวเจ้าก็จะค่อยๆ ชินไปเอง"ในคำพูดนั้น นางพูดราวกับตัวเองเป็นนายหญิงของจวนอ๋อง ไม่ได้เห็นพระชายาตัวจริงอยู่ในสายตาเลยถ้าเป็นเมื่อก่อน ซูอวี้เออร์พูดจบเซี่ยเชียนฮวันก็จะต้องเริ่มตีโพยตีพายอย่างโมโห พอเรื่องวุ่นวายไปถึงเบื้องหน้าท่านอ๋องก็จะถูกสั่งลงโทษหนักๆ อีกรอบแต่วันนี้ไม่รู้ทำไม ปฏิกริยาตอบสนองของพระชายาผู้ไม่เป็นที่โปรดปราณคนนี้ถึงได้เรียบเฉยนัก ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่นางพูดเลยซะอย่างนั้น"ท่านพี่?" ซูอวี้เออร์เรียกหยั่งเชิงไปอีกรอบเซี่ยเชียนฮวันไม่ตอบ แต่หันหน้าไปถามชิงถีแทน "แปลกจัง ข้าไม่ยักรู้ว่าตัวเองมีพี่น้องตั้งแต่เมื่อไร ชิงถี เจ้าว่าข้ากับนางหน้าตาเหมือนกันหรือไม่"ชิงถีตอบอย่างลังเล "มะ...ไม่เหมือนเพค
"ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่สนใจว่าเขาจะโกรธข้าหรือไม่ ขอแค่เขาไม่ต้องมาหาข้าก็พอ รบกวนเจ้าช่วยเฝ้าเขาไว้ด้วยแล้วกัน ชาตินี้ทั้งชาติข้าไม่อยากจะเห็นใบหน้าบูดบึ้งนั้นอีก"ตอนนี้เซี่ยเชียนฮวันเพียงต้องการให้ซูอวี้เออร์รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด นางรู้สึกท้องไส้ปั่นปวน แทบจะกลั้นอ๊วกเอาไว้ไม่อยู่แล้วไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ผู้ชายที่เป็นราวกับฝันร้ายคนนั้นกำลังยืนอยู่ข้างหลังของนาง!ซูอวี้เออร์เงยหน้าขึ้นมา ทำราวกับเพิ่งจะเห็นเซียวเย่หลัน รีบลุกขึ้นคารวะทันที "ท่านอ๋อง""? ? ?"เซี่ยเชียนฮวันเด้งตัวขึ้นทันทีราวกับหนังยาง หน้าซีดเผือดราวกับเห็นผี หันหัวมามองด้านหลังไอ้ผู้ชายชาติหมาคนนี้นี่ทำไมเดินมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงคงเพราะทำเรื่องผิดต่อศีลธรรมในใจไว้มาก ดังนั้นจึงได้เดินราวกับเป็นโจรเช่นนี้!เซียวเย่หลันเม้มปากจนกลายเป็นเส้นตรง มองเซี่ยเชียนฮวันด้วยสายตาเย็นเยียบ ถามว่า "เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ""ที่แท้ท่านอ๋องก็หูตึงนี่เอง เช่นนั้นข้าจะพูดใหม่อีกรอบ ขอเจ้าอย่าปรากฎตัวต่อหน้าข้าอีก หน้าตาไม่ดีข้าเสียตาจะดู" เซี่ยเชียนฮวันยกริมฝีปากขึ้นพูดอย่างเหน็บแนมเซียวเย่หลัน "......"ผู้หญิง
จู่ๆ เซี่ยเชียนฮวันก็รู้สึกหดหู่มากก็ดี ตายไปแบบนี้ ไม่แน่ว่าเมื่อนางลืมตาขึ้นมาอีกที อาจจะกลับไปอยู่ในห้องวิจัยที่คุ้นเคยแล้วก็ได้ถึงตอนนั้นนางอยากจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสักกี่ห่อก็สามารถกินได้ไม่ต้องมาทนรองรับอารมณ์ผู้ชายเส็งเคร็งคนนี้อีก...เซี่ยเชียนฮวันหลับตาลง ต่อให้สัญชาติญาณการเอาตัวรอดจะทำให้นางยังจับมือเซียวเย่หลันแน่นอยู่ก็ตาม"ท่านอ๋อง เป็นเช่นนี้ต่อไป พระชายาจะตายได้นะเพคะ" ซูอวี้เออร์ยืนนิ่งอยู่สักพัก เมื่อเห็นเซี่ยเชียนฮวันถูกทรมานจนพอใจแล้ว จึงได้พูดเตือนสติขึ้นเสียงเบาๆเซียวเย่หลันจ้องไปที่ใบหน้าขาวซีดของเซี่ยเชียนฮวันอย่างเอาเป็นเอาตาย ในที่สุดก็ยอมคลายมือออกทีละนิ้วเขาไม่อยากเห็นหน้าของผู้หญิงสกปรกคนนี้ไปตลอดกาลแต่อันติ้งโหวกับราชวงศ์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน หากว่าบุตรสาวคนโตของบ้านนั้นถูกสังหารในจวนอ๋อง ฮ่องเต้จะต้องสืบหาความอย่างแน่นอน!"วันนี้เห็นแก่หน้าของอวี้เออร์ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!"เซียวเย่หลันยังคงโมโหไม่หาย เขาผลักเซี่ยเชียนฮวันแรงๆ หนึ่งที มองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของนางอย่างเย็นชา ลำคอขาวสะอาดมีร่องรอยนิ้วมือสีช้ำน่ากลัว นาง