หลินเซียวหลั่งน้ำตา : "ฉันจะช่วยดูแลลูกเธอเอง!"เฉียวซุนยิ้มเล็กน้อยหลินเซียวนั่งสักพักแล้วจึงออกไปดูแลหน้าร้านต่อ ยังไงซะก็ต้องมีคนดูแลหน้าร้านหลังจากที่เธอเดินออกไป เฉียวซุนนั่งพิงหน้าต่างอยู่คนเดียว แสงสีส้มสะท้อนผ่านเข้ามากระทบใบหน้าสวย เพิ่มความรู้สึกอ่อนโยน ในเวลานี้ เจ้าหนูลู่เหยียนก็กำลังดิ้นเบา ๆ อยู่ในท้องกลมนูน ดูมีความสุขเฉียวซุนวางฝ่ามือลงบนท้องนูน รับรู้ถึงการมีอยู่ของลูกน้อย หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน... เธอกำลังจินตนาการว่าเจ้าหนูลู่เหยียนจะหน้าตาเป็นอย่างไร และเธอก็ยิ้มเล็กน้อยเมื่อนึกถึงมันเจ้าหนูลู่เหยียนเกิดในช่วงต้นฤดูหนาวเฉียวซุนไปซื้อผ้าตัวเล็กตัวน้อยมากมายให้กับเจ้าหนูลู่เหยียนที่ห้างสรรพสินค้า เสื้อผ้าล้วนแล้วแต่เป็นสีชมพูทั้งหมด และทุกชิ้นก็น่ารักเหมาะสมกับลูกน้อยเมื่อเธอลงไปชั้นล่างและผ่านบริเวณขายเสื้อผ้าผู้ชาย ก็ถูกพนักงานขายรบกวนพนักงานขายแนะนำเธออย่างกระตือรือร้น : “คุณนายคะ วันนี้แบรนด์ของเรากำลังจัดโปรโมชั่นส่วนลด 12% ทั้งร้าน คุณคงจะรู้ว่าแบรนด์เราไม่ได้มาจัดกิจกรรมแบบนี้บ่อย ครั้งนี้แบรนด์เรามีการเฉลิมฉลองจึงได้มีส่วนลดมากมายข
ฝนตกหนักตลอดทั้งวันกลุ่มเมฆครึ้มลอยอย่างต่อเนื่องบนขอบฟ้าในตอนเย็นเฉียวซุนยืนอยู่ริมระเบียงพร้อมสวมผ้าคลุมไหล่และมองดูอย่างเงียบ ๆเธอคิดถึงการที่ตนเองแต่งงานกับลู่เจ๋อ เธอจำได้ว่าเธอเคยเผาไดอารี่ที่เธอเขียนให้เขาและรูปแต่งงานอันแสนหวานที่นี่ เหตุการณ์ในอดีตเหล่านั้นถูกจารึกไว้ในใจและร่างกายของเธอ มันเหมือนไฟที่แผดเผา เธอไม่อาจลืมมันออกไปจากชีวิตได้โทรศัพท์มือถือในห้องนอนยังคงดังอย่างต่อเนื่องเฉียวซุนพับผ้าคลุมไหล่เบา ๆ พลางมองเมฆบนท้องฟ้าอีกครั้ง ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนแล้วรับโทรศัพท์เป็นสายจากเมิ่งเยียนหุยเขากำลังจะบอกข่าวร้ายกับเฉียวซุน : "คุณนายลู่ สถานการณ์ฝั่งพี่ชายคุณแย่มาก! จากข้อมูลที่เชื่อถือได้ มีหลักฐานใหม่ และมีการตัดสินใจกะทันหันที่จะลองพิจารณาคดีล่วงหน้า หากพิจารณาจากเรื่องพวกนั้น เกรงว่าคงจะกลายเป็น 5 ปี! คุณอย่าพึ่งกังวลนะ...ผมไปสืบมาแล้ว เรื่องใหม่นี้ความสัมพันธ์กับตระกูลลู่ ขอแค่ประธานลู่ออกมารับหน้าให้ก็จะได้รับข่าวดี”เฉียวซุนถือโทรศัพท์ด้วยมือสั่นเทา ทำไม ถึงกลายเป็นห้าปีไปได้...เมิ่งเยียนหุยรู้สึกเสียใจเช่นกัน เขาพูดเบา ๆ ผ่านสายโทรศัพท์ : "ข
เขาพูดเหมือนกะจะเยาะเย้ย : "คุณคิดว่าคุณยังมีค่าขนาดนั้นเหรอ? คุณคิดว่าผมยังสนใจเรื่องที่คุณจะหย่ากับผมเหรอ? คุณคิดว่า...ลู่เจ๋อยังต้องการคุณอยู่อีกเหรอ?” เฉียวซุนเบิกตากว้างที่ไร้ซึ่งน้ำตาเธอแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน!ที่แท้ในใจของลู่เจ๋อ เธอเป็นคนแบบนี้นี่เอง ตั้งแต่เมื่อก่อนจนกระทั่งถึงตอนนี้ ที่แท้เธอก็เป็นแค่คนขายตัวให้เขา...แม้กระทั่งเด็กในท้อง เขาก็พูดออกมาได้อย่างใจเย็น ทั้งหมดนี้ก็เพราะเขาเข้าใจผิดไปว่าเธอตัดสายของไป๋เซียวเซียว ลู่เจ๋อผลักมือเธอออกไป...ลู่เจ๋อไม่แม้แต่จะมอง ไม่แม้แต่จะอาลัยอาวรณ์ พลางเดินออกไป...เพื่อไปเจอคนรักเป็นครั้งสุดท้าย!ที่แท้ระหว่างเธอกับไป๋เซียวเซียว เธอคือตัวตลก สิ่งที่ตลกที่สุดคือ เธอพึ่งจะได้รู้ในวันนี้!เฉียวซุนยิ้มเบา ๆ !เธอกล้าขอร้องลู่เจ๋อจริง ๆ เธอกล้าคิดว่าเขาจะยอมอยู่เพื่อเธอ...เธอพูดเสมอว่าเขารักไม่เป็น เธอพูดเสมอว่าเธอไม่อยากเป็นยาให้เขา เฉียวซุน เธอนี่มันตลกจริง ๆ เธอจะเป็นยาของลู่เจ๋อได้อย่างไร เธอเป็นแค่สิ่งระบายความต้องการของเขาเท่านั้น!เขาปฏิบัติต่อเธออย่างไร แล้วเขาปกป้องไป๋เซียวเซียวอย่างไรทำไมเธอถึงไม่เคยม
มันเจ็บไปทั้งกาย!เจ็บจนเธอแทบหายใจไม่ออก ความเจ็บปวดนั้นเหมือนกับว่าเธอกำลังจะตายในวินาทีถัดไป แต่เฉียวซุนก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน... เธอยังคงมีเจ้าหนูลู่เหยียนอยู่ในท้องของเธอ!เจ้าหนูลู่เหยียนอายุได้เพียง 8 เดือนและยังไม่เคยเห็นโลกภายนอกมาก่อนเธอเกลียดความเย็นชาและความโหดเหี้ยมของลู่เจ๋อ แต่เธอรักเนื้อและเลือดในท้องของเธออย่างสุดซึ้ง เธอตั้งตารอคอยการกำเนิดของลูกอย่างสุดซึ้ง เธอไม่สามารถตายแบบนี้ได้...เธอตายไม่ได้!เธอตายไม่ได้!เฉียวซุนหายใจเข้าแรง ๆ ราวกับว่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดจากการหดตัวได้ เธอเงยหน้าขึ้นและกรีดร้องอย่างสุดกำลัง——“เข้ามาหน่อย...”“ช่วยลูกฉันด้วย...”......ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเธอภายนอกยังคงมีพลุอยู่บนท้องฟ้าด้านล่างยังคงมีการบรรเลงเพลงรื่นเริงอยู่...เฉียวซุนดันมือเธอกับพื้น เธออดทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสและคลานไปที่ประตูห้องนอน ใครอยู่ข้างนอก ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วย ช่วยลูกของฉันด้วย...เลือดไหลจากพื้นถึงบันไดระหว่างขา มีเลือดอีกก้อนใหญ่ไหลลงมา หยดลงมาจากบันไดอันหรูหรา——ติ๋ง ติ๋ง ติ๋งเช่นเดียวก
“ใครกล้าเข้ามา ฉันจะบีบคอเธอให้ตาย!”“ฉันจะให้กลุ่มบริษัทสกุลู่ของคุณเป็นข่าว!"“ฉันจะทำลายชื่อเสียงของลู่เจ๋อ! พวกคุณสนใจเรื่องชื่อเสียงศักดิ์ศรีมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่เข้ามาช่วยล่ะ...ทำไมพวกคุณไม่ช่วยเธอ? พวกคุณมองเห็นเฉียวซุนเป็นคนเหมือนกันบ้างไหม...” ......ลู่จิ้นเซิงยืนมองหลินเซียวอย่างเงียบ ๆ ในระยะไกลเขามองดูท่าทางบ้าคลั่งของเธอ เขามองดูเธอที่ปกป้องเฉียวซุนอย่างสิ้นหวัง และเขาก็ตกอยู่ในอาการงุนงง...หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดินไปหาเธอเขาดึงหลินเซียวออกจากตัวของคุณหญิงลู่ และกอดเธออย่างแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เธอขยับได้อีกต่อไปหลินเซียวได้กลิ่นบุหรี่จากตัวเขาเธอตกตะลึง : เขาคือลู่จิ้นเซิง!เธอไม่หันกลับมามอง และพูดเบา ๆ กับคนที่อยู่ข้างหลังเธอ : "คุณต้องให้เธอช่วยชีวิตเฉียวซุน เฉียวซุนตายไม่ได้ เธอตายไม่ได้! ลู่จิ้นเซิง ถือว่าฉันขอร้องคุณเถอะ! ลู่จิ้นเซิง ฉันขอเด็กของฉันขอร้องคุณ! ได้หรือไม่?”ลู่จิ้นเซิงกอดเธอไว้แน่นเขามองไปที่คุณหญิงลู่และพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว : "เก็บเฉียวซุนไว้! ไม่เช่นนั้นวันหนึ่งลู่เจ๋อจะเป็นบ้าไป แล้วคุณจะต้องเสียใจ!"คุณหญิงลู่ถึงกับตะลึง!
เจ้าหนูลู่เหยียนคลอดแล้วคุณหมอบอกเธอว่า : “ลูกสบายดี! อยู่ในตู้อบหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”เฉียวซุนล้มตัวลงบนหมอน ริมฝีปากของเธอสั่นเทาคืนนี้เธอพบกับความสุข ความเศร้า และทนทุกข์ทรมานมากเกินไป ตอนนี้เธออ่อนแอเกินกว่าจะพูดอะไรสักคำหลินเซียวจับมือของเธอ ทั้งหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน : "เฉียวซุน ได้ยินไหมว่าเด็กสบายดีมาก! เด็กสบายดีมาก!"เฉียวซุนพยายามยิ้มอย่างเต็มที่แต่วินาทีต่อมา น้ำตาก็ไหลลงมาจากหางตาของเธออีกครั้ง.........เจ้าหนูลู่เหยียนเข้าไปอยู่ในตู้อบคุณหญิงลู่กำลังมองดูอยู่ข้างนอกอย่างมีความสุขมาก นี่คือลูกของลู่เจ๋อ...เธอกำลังจะได้เป็นคุณย่าแล้ว!เมื่อมองดูคิ้วเหล่านั้น อีกทั้งสันจมูกโด่งรับกับใบหน้า โครงหน้าที่เหมือนกับลู่เจ๋อคุณหญิงลู่มองดูอยู่เป็นเวลานานเหมือนกับว่ารักใครก็ต้องรักคนของเขาด้วย เธอเริ่มนึกถึงเฉียวซุนขึ้นมา กลางดึกเธอจึงถามคนรับใช้ : "ตอนนี้เฉียวซุนเป็นยังไงบ้าง? ตุ๋นซุปไก่เสร็จแล้ว ฉันจะเอาไปให้เธอ...เธอพึ่งพ้นช่วงหลังคลอดมาไม่นาน ยังไงก็ต้องดูแลให้ดี” คนรับใช้ลังเลที่จะพูดคุณหญิงลู่ขมวดคิ้ว: "เธอเป็นอะไรไป?"บั
เธอแบกสังขารหลังคลอดมาช่วยดูแลงานศพของพ่อในขณะที่เมิ่งเยียนหุยเคารพศพเขาทั้งเสียใจและรู้สึกผิด เขาจึงเข้าไปขอโทษเฉียวซุนเฉียวซุนยืนอยู่หน้าห้องโถงไว้ทุกข์ พลางมองรูปถ่ายของพ่อ แล้วยิ้มอย่างเศร้าสร้อย : "ทนายเมิ่ง ฉันรู้ว่าคุณพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว! ตอนนี้ที่ครอบครัวเฉียวเป็นแบบนี้เพราะว่าลู่เจ๋อมาทวงคืน ในตอนที่เขาชอบคุณ ไม่มีอะไรเป็นปัญหา แต่ในตอนที่เขาไม่ชอบและไม่สนใจคุณแล้ว คุณจะเป็นจะตายยังไง คุณจะเสียใจหรือไม่ ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอีกต่อไปแล้วแล้ว!”เธอหลั่งน้ำตาเบาๆ : “เมื่ออยู่ข้างกายเขา ฉันจะต้องเป็นเหมือนคนที่ไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง ขอร้องเขา เอาใจเขา…แต่มันคงไม่ได้ผล! สุดท้ายจึงมีจุดจบแบบนี้!”ลู่เจ๋อเคยบอกว่า นอกจากเธอขอร้องเขาก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว!เธอจะไม่ขอร้องเขาอีกตั้งแต่นี้ไปเพราะเธอแทบไม่ได้อะไรเลย!กระแสลมพัดเข้ามาในห้องโถงเฉียวซุนยืนอยู่ในห้องไว้ทุกข์ในเวลากลางคืนด้วยร่างกายที่ซูบผอม เธอยืนไว้อาลัยอย่างเงียบ ๆ จากนั้นค่อย ๆ ก้มตัวลงและกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายกับเฉียวต้าซวิน...*หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ณ สนามบินนานาชาติเมือง B ลู่เจ๋อลงจากเครื่องบินส่
ลู่เจ๋อตะลึงทันทีที่ได้ยินร่างกายของเฉียวซุนอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด ทำไมถึงคลอดก่อนกำหนด?เลขาฉินกดเสียงต่ำเล็กน้อย พูดต่อ : “หลังจากที่ประธานลู่เดินทางได้สองวัน คดีของเฉียวสือเยี่ยนก็ถูกยกขึ้นมาตัดสิน เขาถูกตัดสินให้จำคุก 6 ปี ในช่วงกลางคืนคุณพ่อเฉียวมีอาการหัวใจกำเริบ…และจากไป คุณนายลู่เมื่อได้ยินข่าวก็เสียใจจนลูกต้องคลอดก่อนกำหนด”เธอพูดแค่ไม่กี่คำทว่ามันทำให้ลู่เจ๋อรู้สึกหูหนวกไปชั่วขณะเฉียวสือเยี่ยนถูกตัดสินจำคุก 6 ปี เฉียวต้าซวินเสียชีวิต และลูกของเขาคลอดก่อนกำหนด... เมื่อรวมเรื่องพวกนี้เข้าด้วยกัน เขานึกภาพความเจ็บปวดที่เฉียวซุนต้องทนไม่ออกเลย และเขาแทบไม่กล้านึกถึงภาพอนาคตระหว่างตนกับเฉียวซุน หลังจากที่ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาจึงถามต่อ : “ลูกอยู่ที่ไหน?”น้ำเสียงของเลขาฉินเบาลงเล็กน้อย : "เด็กสบายดีค่ะ พรุ่งนี้จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว! ประธานลู่ ตอนนี้เราควรไปที่ไหนก่อนดีคะ?” ......รถโรลส์-รอยซ์ แฟนทอมสีดำฉายความหรูหราและแวววาวถูกจอดอยู่ในลานจอดรถคนขับเหลือบมองกระจกหน้ารถเขาเห็นได้ชัดว่าฝ่ามือของประธานลู่สั่นเล็กน้อย และยังเห็นสีหน้าเศร้าหมองของประธานลู่ที่เขาไม่สา