แม้ว่าจะเบามาก แต่กลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งแบบผู้ชาย!เฉียวซุนอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอก็มองเห็นความหมายอันลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีเข้มของเขา......สายตาที่พันกันของเขา ก็กลับทำให้หวนนึกถึงค่ำคืนเหล่านั้น เขาคว้าข้อมือบาง ๆ ของเธอ แล้วกดทับลงกับหมอนด้วยความป่าเถื่อนความทรงจำระหว่างพวกเขา นอกจากความเจ็บปวดแล้ว ก็ดูเหมือนจะยังมีเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขากับหมอนอีกด้วยเฉียวซุนยิ้มด้วยสีหน้าเรียบเฉยเธอพยายามดิ้น และพูดลดเสียงของเธอลง “ลู่เจ๋อ...... ”เขายังคงจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ และพูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “ผมรู้ว่าผมล้ำเส้นมากเกินไป! แต่ผมก็อดไม่ได้ เฉียวซุน ผมกลัวว่าคุณจะคบกับเขา”ลู่เจ๋อรู้ว่าเธออาจจะไม่พอใจ เลยไม่ถามอะไรออกไปอีก จากนั้นเขาก็ไปส่งพวกเธออย่างสง่าผ่าเผยเสิ่นชิงอุ้มเด็กขึ้นรถไปก่อนเฉียวซุนที่อยู่ข้างหลังก็กำลังจะขึ้นรถ แล้วลู่เจ๋อก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนเย็นผมจะไปเยี่ยมเธอ”เฉียวซุนลังเลนิดหน่อยลู่เจ๋อก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว แต่เสียงของเขาอ่อนโยนมาก “ผมแค่ไปเยี่ยมเธอเท่านั้น ไม่ได้เหรอ? เฉียวซุน หลายปีมานี้ผมคิ
คำพูดของเขา ทำให้ดวงตาของเฉียวซุนเปียกชื้นเธอปิดประตู ขยับผ้าคลุมไหล่เบา ๆ แล้วพูดพึมพำออกมา “จะพูดถึงเรื่องที่ไม่มีความหมายพวกนั้นทำไม! ลู่เจ๋อ เรื่องพวกนั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว”จู่ ๆ ลู่เจ๋อก็ถามเธอออกไปว่า “แล้วเรื่องอะไรที่คุณคิดว่ามีความหมายบ้างล่ะ? ”เขาวางของเล่นของเจ้าหนูลู่เหยียนเอาไว้ข้าง ๆ ขณะที่เฉียวซุนยังไม่ทันได้ตอบสนอง ไม่ทันระวังเขาก็ดึงเธอเข้ามาทางเข้าแสงสว่างเจิดจ้า ส่องใบหน้าที่สวยงามของเธอลู่เจ๋อจ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ของเธออย่างลึกซึ้งเป็นเวลานาน หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หมุดตัวของเธอกลับ และยื่นแขนของเขาเข้าไปโอบรอบเอวที่เรียบเล็กของเธอจากทางด้านหลัง และลูบไล้ตัวเธอช้า ๆ สองสามครั้งเสียงของเฉียวซุนก็ดังขึ้น “ลู่เจ๋อ! ”ร่างกายของเธอสั่นนิดหน่อย แต่เธอกลับไม่ได้ผลักเขาออก แน่นอนว่าลู่เจ๋อก็รู้เหตุผลอยู่แล้ว คราวนี้ที่เธอกลับมาก็เพื่อนอนกับเขา......เขาไม่ยอมให้เธอเห็นสีหน้าของเขาเขาซบหลังของเธอ แล้วถามด้วยเสียงต่ำเหมือนคู่รักทั่วไป “ครั้งนี้คุณจะกลับมานานแค่ไหน? ”“สองสามเดือน! เปิดร้านสองแห่งใกล้ ๆ แล้วฉันก็จะกลับเมืองเซียง”เสียงของเฉียวซุนสั่นเทา ทุกคำพ
เฉียวซุนสะอื้นในลำคอเธอพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ......พอลู่เจ๋อเห็นเธอเป็นแบบนั้น ในใจก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไป เขาแตะหน้าผากของเธอเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เสี่ยวซุน ตราบใดที่คุณเต็มใจ พวกเราก็สามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้! ให้โอกาสผมได้ดูแลคุณนะ ดูแลเจ้าหนูลู่เหยียน......ได้ไหม? ”เขาโอนอ่อนให้เธออย่างมาก ราวกับว่าการจากไปโดยไม่บอกไม่กล่าวเป็นแค่ฝันตื่นหนึ่งเท่านั้นขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่เจ้าหนูลู่เหยียนก็กลับตื่นขึ้นมา “แม่! ”เด็กน้อยสวมชุดนอนเต็มตัว กอดหมอนหนึ่งใบ แล้ววิ่งออกมาด้วยเท้าเปล่า โชคดีที่ในตัวอพาร์ทเมนท์ยังคงอบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิอยู่ ไม่ได้หนาวขนาดนั้นพอเธอเห็นพ่อกับแม่กำลังกอดกันอยู่เธอก็กะพริบตารัว ๆ หัวโต ๆ กับลำตัวเล็ก ๆ ของเธอก็ดูน่ารักเป็นพิเศษลู่เจ๋อก้มศีรษะลง และมองไปยังเฉียวซุน “เรื่องของพวกเรา ไว้ค่อยคุยกันทีหลังเถอะ! ”ทันทีที่เขาปล่อยเธอ ก็เดินเข้าไปอุ้มเจ้าหนูลู่เหยียนขึ้นมาตอนนี้ก็เป็นเวลากว่าประมาณสองทุ่มแล้ว เขาเดาว่าเจ้าหนูลู่เหยียนน่าจะหิว เขาจึงถามออกไปเบา ๆ “อยากกินอะไรหน่อยไหม? พ่อทำให้ทานดีไหม?
ต่อหน้าลูก เฉียวซุนไม่สามารถตอบคำถามออกมาได้ลู่เจ๋อปล่อยเธอไป และพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “คุณอย่าพูดนะว่ามันเป็นแค่ความรักระหว่างชายหญิงเท่านั้น! เฉียวซุน คุณไม่ได้เปิดกว้างขนาดนั้น! ”เฉียวซุนพูดอย่างใจเย็น “ไม่ว่าใครก็เปลี่ยนไปได้ทั้งนั้น! ”ลู่เจ๋อเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างเงียบ ๆทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เฉียวซุนเองก็อายุ 29 ปีแล้ว เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว ผู้ชายมีความต้องการทางกายภาพยังไง ผู้หญิงก็มีเช่นกันนอกจากนี้ เธอเองก็โสดมาหลายปีแล้วด้วยพอเหงาขึ้นมา แล้วมีผู้ชายคอยใส่ใจอยู่ข้าง ๆ มันก็ไม่แปลกที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นลู่เจ๋อไม่อยากที่จะคิดเรื่องนี้อีกความใจกล้าของผู้ชายก็ไม่อนุญาตให้เขาถามออกไป จากนั้นบรรยากาศก็เย็นลงทันที เขาดูแลเจ้าหนูลู่เหยียนอย่างอ่อนโยน เฉียวซุนนั่งลงบนโซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเคลียร์งานของเธอTHEONE ได้เปิดร้านค้ามากกว่า 200 แห่งทั่วในประเทศเฉียวซุนเองก็ยุ่งมากเช่นกันในเวลานี้ เจ้าหนูลู่เหยียนเงยหน้าขึ้นแล้วถามลู่เจ๋อ “พ่อคะ การเปิดกว้างคืออะไรเหรอคะ? ”......หลังจากทานอาหารเสร็จ ลู่เจ๋อก็ยังคงอยู่กับเจ้าหนูลู่เหยียนอีกพักใหญ่
“หลานสาวแท้ ๆ”“รับกลับมา...... ”ลู่เจ๋อพูดย้ำคำพูดของเธอ ลดสายตาลง และยิ้มประชดพอเขาเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง ใบหน้าของเขาก็ดูน่ากลัวมาก “คุณลืมไปแล้วเหรอ ว่าคุณทำอะไรกับเฉียวซุน คุณให้ผมพาตัวเด็กกลับมา แล้วเฉียวซุนจะทำยังไง? จะพรากแม่พรากลูกกันรึไง? อย่าคิดจะคว้าในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง ผมไม่ทิ้งคุณไว้ที่นั่นตลอดชีวิต ก็นับว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว ต่อไปก็อย่าได้มาที่นี่อีก”รอยแผลเก่า ตอนนี้ถูกฉีกออกจนจากกันโดยสิ้นเชิง......คุณหญิงลู่ได้แต่จ้องมองลูกชายตัวเองหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ยิ้มขึ้นมา “แล้วอย่างแกสมควรกลับมารึไง? ”ยังไงซะ พวกเขาก็เป็นแม่ลูกกัน รู้ดีว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายเจ็บปวดได้ พูดยังไงถึงจะสามารถแทงใจดำของอีกฝ่าย “ลู่เจ๋อ แกคิดว่าการที่แกอยู่ที่นี่ การที่แกพยายามเรียนรู้ที่จะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี เฉียวซุนก็จะให้อภัย แล้วกลับมาอยู่ข้างกายแกแล้วอย่างงั้นเหรอ? ”คุณหญิงลู่ยิ้มอย่างมีความสุข “เธอจะไม่มีวันลืม แล้วเธอก็จะไม่กลับมาหาแกแน่นอน”“ฉันจะเตือนอะไรแกให้นะ แกเคยทำอะไรให้เธอบ้าง? แกส่งคนที่เพิ่งคลอดอย่างเธอไปทิ้งเอาไว้ในที่ที่ต้องเอาชีวิตรอดตามยถากรรม พูดซะดิบด
สามวันต่อมา พวกเขาก็ได้พบกันในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อการกุศลลู่เจ๋อมาช้านิดหน่อย แล้วเขาก็นั่งลงเงียบ ๆเขาเพิ่งรีบมาจากงานเลี้ยงธุรกิจ ทันทีที่เขานั่งลง เขาก็เริ่มมองหาเฉียวซุนทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็หยุดลงเขาเห็นเฉียวซุนนั่งไหล่ติดกันกับผู้ชายคนหนึ่ง บางครั้งก็มีการโน้มศีรษะกระซิบคุยกัน ราวกับว่ากำลังปรึกษาอะไรกันอยู่ แลดูพวกเขาจะสนิทกันมากลู่เจ๋อรู้จักชายคนนั้น คุณฟ่าน จากเมืองเซียงจากนั้น คุณฟ่านคนนั้นก็ได้ประมูลเครื่องประดับราคาหลายสิบล้านที่กำลังทำการประมูลอยู่ เป็นสร้อยคอทับทิมชิ้นหนึ่ง ช่างเป็นสร้อยคอที่วิจิตรตระการตามาก ๆมอบสิ่งล้ำค่าให้กับสาวงาม ผู้ชายเป็นคนประมูลมาได้ ช่างมีจิตใจที่สูงส่งจริง ๆเฉียวซุนที่อยู่ในกลุ่มผู้ชมยิ้มและปรบมือให้คุณฟ่านรีบใช้เวลานี้ ไม่สนใจขั้นตอนที่ยุ่งยากของการประมูล แล้วรับเครื่องประดับมาทันที จากนั้นเขากับเฉียวซุนก็เดินไปที่ระเบียง......ท่าทางของเขาน่าจะมีความสุขมาก เฉียวซุนไม่ทันสังเกตว่าลู่เจ๋อก็กำลังตามมาตรงระเบียง ลมในยามค่ำคืนที่กำลังพัดผ่าน......เฉียวซุนถือแก้วแชมเปญ และเผยรอยยิ้มเล็กน้อย “ยินดีด้วยนะคะ ที่คุณสามารถประมูลเ
พอได้คุยกัน ก็คุยกันเพลินจนลืมเวลา ตอนบอกลาก็เป็นเวลากว่าสี่ทุ่มแล้วรถของคุณนายหลี่ออกไปก่อนเฉียวซุนยืนอยู่ที่ทางเข้าโรงแรม ขยับผ้าคลุมไหล่ของเธอเบา ๆ เธอหันหลังกลับเพื่อที่จะเข้าไปในรถของเธอมีรถราคาแพงคันหนึ่งจอดอยู่ข้าง ๆ เธอ ประตูเบาะหลังเปิดออก จากนั้นก็มีแขนของผู้ชายยื่นออกมาจากในรถ เอื้อมมือออกไปลากเฉียวซุนเข้าไปในรถเฉียวซุนล้มทับชายคนนั้นทันที......กลิ่นอายที่คุ้นเคยอยู่บนตัวของชายคนนั้น ทำให้เธอเดาตัวตนของเขาได้อย่างง่ายดาย เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “ลู่เจ๋อ! ”ลู่เจ๋อไม่ได้พูดอะไรเขาโอบแขนบริเวณรอบเอวของเธอ จากนั้นก็กดปุ่มด้วยมือเดียว หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หน้าต่างกระจกสีเข้มทั่วทั้งคันก็โผล่ขึ้นมา แถมยังสามารถเก็บเสียงได้อีกต่างหาก......ในพื้นที่ปิดนี้ เหลือเพียงเสียงหายใจ และดวงตามืดมนที่ไม่มีวันคลายของลู่เจ๋อริมฝีปากสีแดงของเฉียวซุนสั่นเล็กน้อย “คุณจะทำอะไร? ”ลู่เจ๋อบีบเอวเรียวของเธอ แล้วลูบมันช้า ๆ ผ้าคลุมไหล่ขนสัตว์บาง ๆ บนไหล่ของเธอก็ลื่นหลุดออก เผยให้เห็นสายรัดบาง ๆ ตรงไหล่พร้อมกับกลิ่นที่หอมหวนจากไหล่ของเธอ......นุ่มนวลชวนหลงใหลมาก!ลู่เจ๋อโอบกอดแขนอ
เฉียวซุนไม่มีทางเลือกเธอกอดลู่เจ๋อเอาไว้แน่น ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้สะดุดล้มลงได้ ร่างกายของเขาร้อนมาก หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะกระโดดออกมา......ลู่เจ๋อจับหลังคอของเธอ แล้วบังคับให้มองดูเขาสายตาของทั้งคู่สอดประสานกัน ดวงตาสีเข้มของเขาเต็มไปด้วยความต้องการของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิง ทั้งยังมีร่องรอยของการต่อสู้ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เข้มเหมือนสีหมึก ลึกราวกับทะเลลู่เจ๋อพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ร่างกายคุณหายดีแล้วเหรอ? ”ดูแล้วเหมือนเป็นแค่คำถาม แต่จริง ๆ แล้วมันคือคำสั่งเธอมีเสน่ห์มากกว่าตอนก่อนคลอดมาก และการสัมผัสจากฝ่ามือของผู้ชายก็ไม่สามารถโกหกได้เฉียวซุนร้องไห้แบบไม่มีเสียง “หยุดพูดนะ! ”ลู่เจ๋อจูบเธอ เขากดที่หลังคอของเธอแล้วจูบเธออย่างแรง ราวกับอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว กลิ่นยาสูบจาง ๆ บนร่างกายของเขา เขาแทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปข้างในตัวเธอทันใดนั้น ลู่เจ๋อก็หยุดลงเขากอดเธอ ก้มหน้ามองดูคิ้วของเธอ และเห็นว่าเธอมีท่าทีที่ดูคุ้นเคยกับความเพลิดเพลินที่ต่ำตมนี้...... ในขณะนั้น สีหน้าของลู่เจ๋อก็ค่อนข้างซับซ้อนเขาปล่อยเธอเขานั่งที่ขอบเตียง หยิบกางเกงขึ้นมาสวม แล้วหยิบกล่องบุหรี