“เมื่อกี้หากไม่ใช่เธอ ฉันต้องเจ็บหลายเดือนแน่นอน อยากให้ฉันตอบแทนไหม? ตอนนี้ได้เวลาเหมาะเจาะพอดีเลย”ตอนนี้หลิวหลงถิงกำลังมีไข้ ไม่เพียงแค่ร่างกายร้อนจี๋ แม้แต่ตอนที่เขาพูดกับฉัน ลมหายใจที่ออกมาจากปาก ก็แผ่ความร้อนมาที่คอของฉันจนร้อนผ่าว เดิมทีฉันอยากผลักเขาออก ทว่าเป็นครั้งแรกที่หลิวหลงถิงบอกต้องการตอบแทนฉัน ฉันคิดว่าบ้านเขาร่ำรวยขนาดนี้ เขาต้องมีเงินอย่างแน่นอน เลยขมวดคิ้ว แสร้งทำท่าทีเอาอกเอาใจ พร้อมเอ่ยถาม “ตอนนี้นายเป็นไข้ จะตอบแทนฉันยังไงล่ะ?”“การตอบแทนนี้ ต้องตอนที่ฉันเป็นไข้ถึงจะตอบแท
เซียนไม่ใช่เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาที่จะยกให้กันได้แบบนี้ อีกอย่างร่างที่แท้จริงของเหล่าป๋าย ฉันก็ยังมองไม่ออกว่าคืออะไร ทำไมคุณปู่ถึงวางใจมอบชายชราที่มีระดับสูงส่งขนาดนี้ ให้ฉัน? ฉันเงียบไปพักหนึ่ง คาดว่าคุณปู่เดาได้ว่าฉันกังวลเรื่องอะไร จึงเอ่ยกับฉัน “สาวน้อยอย่ากดดันไปเลย อันที่จริงด้วยนิสัยของเหล่าป๋าย เขาเป็นคนพูดจาด้วยง่าย เขาดีทุกอย่าง เว้นเสียแต่นิสัยเสีย นิดหน่อย เธอไม่ต้องกังวลว่าจะควบคุมเหล่าป๋ายไม่อยู่ เธอเป็นคนเก่ง เพียงแค่พึ่งอยู่ในขั้นต้น จากนี้กองทัพเทพของเซียนเธอทรงอำนาจ
“หลิวหลงถิงนายลืมพรางตัวหรือเปล่า?” ฉันหันไปถามหลิวหลงถิง แต่ว่าก็ไม่ถูกต้องนะ เซียนก็ไม่ใช่นักเล่นแร่แปรธาตุหรือฝึกวิชาพรางตัว ว่ากันตามเหตุตามผลแล้ว หลิวหลงถิงเป็นเซียน เซียนกับตัวเขาเองก็เป็นร่างเดียวกัน ไม่มีเหตุสัมพันธ์กับการบำเพ็ญฌาณของตัวเอง มนุษย์มองไม่เห็นเซียน ทว่าตอนนี้ไม่เพียงแค่คนเดียวที่มองเห็นเขาได้ ไม่ว่าใครก็มองเขาเห็นหลิวหลงถิงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่รู้สึกได้ว่าเขาไม่สบายใจเล็กน้อย พลางบอกฉันให้กลับกัน มองเห็นแล้วก็มองเห็นไป ฉันเดินตามหลังหลิวหลงถิงกลับโรงแรม แต่ว่าระหว่างทา
ตอนที่ฉันไปสถานีรถ ย่าหลี่ที่อยู่ใต้ตึกตามคุณย่าไปส่งฉันด้วยกัน ระหว่างทางที่ไปส่ง ยังถามฉันว่าช่วงนี้มีแฟนหรือเปล่า ช่วงนี้เห็นฉันกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่บ่อย ๆ ดูสนิทสนมกัน ผู้ชายคนนั้นหน้าตาหล่อเหลาสง่างาม ทั้งบอกว่าฉันตาดี ฉันยิ้มแห้งให้ กำลังอธิบายว่านั่นคือเซียนของฉัน หลิวหลงถิงออกมาจากบ้านก็ตรงมาถือสัมภาระของฉัน พอเห็นฉันยังคุยกับย่าหลี่ จึงรีบบอกให้ฉันเลิกคุยได้แล้ว เดี๋ยวจะไปสาย ฉันเดินตามหลิวหลงถิง แล้วเอ่ยลาคุณย่า คุณย่าบอกกับย่าหลี่ที่ยิ้มแฉ่งอยู่ข้างหลังว่า ผู้ชายคนนี้คือเซียนที่ช่วยก
ความสัมพันธ์ของฉันกับหลิวหลงถิงซับซ้อนมาก เป็นแฟนก็ไม่ใช่ แต่ว่าถ้าหากอีกฝ่ายถูกคนอื่นคอยคิดถึงหรือฝันหาล่ะก็ จะรู้สึกไม่สบายใจแต่ว่าเมื่อครู่หลิวหลงถิงบอกเหยาน่าว่าเขาเป็นแฟนฉันไปแล้ว คาดว่าเหยาน่าคงไม่พยายามเอาชนะใจหลิวหลงถิง อย่างไรเสียเหยาน่าก็เป็นเพื่อนสนิทที่ฉันเที่ยวเล่นด้วยมาตั้งหลายปี“นายยังไม่ได้เข้าห้องนอนพวกเราเลยนะ นายจะรู้ได้ไงว่าห้องนอนเราไม่สะอาดมาก ห้องนอน พวกเราถูกประเมินว่าเป็นห้องนอนที่สะอาดดีเด่นติดต่อกันหลายครั้งเชียวนะ”ฉันนึกว่าหลิวหลงถิงบอกว่าห้องนอนฉันเลอะเทอะไม่สะ
“อ๋อ ๆ” เหยาน่าก็ไม่ได้สงสัยอะไร จากนั้นพูดกับฉัน “ในเมื่อเธอกับเพื่อนของเธอมากันแล้ว คืนนี้เราไปกินข้าวกัน ฉันเลี้ยงเอง”ฉันหันศีรษะไปมองหลิวหลงถิง สอบถามความคิดเห็นเขา หลิวหลงถิงส่ายหัวให้ฉัน บอกว่าไม่อยากกินงานเลี้ยงล่มแล้ว เหยาน่าจึงนัดงานเลี้ยงอย่างอื่น เธอบอกกับฉันว่าขอออกไปก่อน คืนนี้รอเธอกลับมา พวกเราค่อยมาพูดคุยถึงความหลังกันพอเหยาน่าเดินจากไปแล้ว ในห้องเหลือเพียงฉันกับหลิวหลงถิง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวฉันหรือว่าเป็นเพราะรอยเท้าในห้อง ดวงตาของฉันค่อย ๆ มองไม่เห็นรอยเท้าสีดำปี๋พวกนั้น
หลิวหลงถิงหยิบเสื้อผ้าที่วางบนเก้าอี้อย่างไม่รีบร้อน ตอนที่กำลังสวมเสื้อผ้า เสียงเคาะประตูนั้นก็หยุดแล้ว ตามด้วยเสียงฝีเท้าบางเบาเดินเข้ามาจากประตูห้องนอนสิ่งนั้นเข้ามาแล้ว! ห้องน้ำเราเป็นห้องที่ติดกับประตูห้องนอน เสียงฝีเท้านั้นเดินไปทางหน้าห้องน้ำ ฉันได้ยินอย่างชัดเจน มันแผ่วเบา เดินเท้าเปล่า สิ่งที่เดินบนพื้นนั้นแทบจะไร้เสียง ฉันกลัวจนไม่กล้าคิดว่าสิ่งที่เดินอยู่นอกประตูห้องน้ำเป็นตัวอะไร ยังดีที่หลิวหลงถิงเข้ามาในร่าง ไม่อย่างนั้นฉันจะต้องตกใจกลัวจนไร้ความกล้าไปเปิดประตูอย่างแน่นอนหลัง
“ดูสิ กลัวจนตัวอ่อนปวกเปียกไปเลยเหรอ? ในเมื่อเธอรับปากว่าจะเป็นร่างทรงของฉัน บางเรื่องเมื่อได้เริ่มต้นแล้ว ก็ไม่สามารถถอนตัวออกกลางคันได้ จากนี้เธอจะต้องเจอสิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าผีผู้หญิงตนนั้นอีก ขนาดมีฉันอยู่ที่นี่เธอก็ไม่กล้า จากนี้ฉันไม่อยู่ ถ้าเธอไม่กล้าอีก คนที่จะตายก็คือเธอ”หลิวหลงถิงยิ่งพูดก็ยิ่งจริงจัง ตอนท้าย ๆ เขาดุฉันอย่างคาดไม่ถึงด้วย เดิมทีฉันไม่สบายใจอยู่แล้ว เขายังมาสั่งสอนกันอีก ตอนนี้ถูกเขาพูดขนาดนี้ก็ยิ่งอึดอัดใจและน้อยใจเข้าไปใหญ่ จึงหันมาพูดกับหลิวหลงถิงว่า “แต่ว่าถ้าห