มือข้างหนึ่งของฉันถือโทรศัพท์ดูข่าวคราว ทว่าอยู่ ๆ ก็รู้สึกถึงมืออีกข้างที่กำลังถืออาหารเช้าอยู่มันว่าง ๆ ไป พอหันหน้าไปมอง กลับเจอเข้ากับคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเฟิ้งฉีเทียนให้ตายสิ เฟิ้งฉีเทียนยืนอยู่โดยสวมชุดดูหรูหราที่ประดับประดาไปด้วยอัญมณีและเครื่องหยกห้อยเต็มร่างกายของเขา ในมือของเขากำลังถือซาลาเปาของฉัน ส่วนในปากก็กำลังดื่มน้ำเต้าหู้ของฉันอยู่ พลางเอียงหน้าเข้ามาใกล้เพื่อดูข่าวบนโทรศัพท์กับฉันด้วย “มหาวิทยาลัยของพวกเจ้าไม
ฉันนึกถึงข้อความที่เหยาน่าส่งมาให้เมื่อคืนนี้ เธอบอกว่าพวกเขาเสียชีวิตกันหมดตามที่ฉันต้องการแล้วฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเพื่อน ๆ ผู้ชายร่วมชั้นจะต้องมาเสียชีวิต และในวันนั้นหลิวหลงถิงก็ยังช่วยพวกเขาอยู่เลย และฉันกำลังสงสัยว่าการตายของชายสี่ห้าคนนั้นต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันเกิดของหวังเสวียนแน่ ๆ หากว่ากันตามจริง คนที่รอดชีวิตมาได้ในตอนนี้ นอกจากหลิวหลงถิงแล้ว ก็มีเหยาน่า! หลิวหลงถิงหายไปตั้งแต่เช้าแล้ว ฉันเองก็ไม่มีวิธีติดต่อเขา ตอนนี้คนเดียวที่ฉันจะไปหาได้ก็คงเป็นเหยาน่ายังมีเ
ในตอนนี้เหยาน่าเป็นเหมือนกับสัตว์ดุร้ายที่กำลังใช้สายตาข่มว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แต่เธอก็เป็นแค่คนธรรมดำทั่วไป ถ้าหากสิ่งที่เธอพูดไม่เป็นความจริง ทำไมอยู่ ๆ เธอก็รู้เรื่องราวได้เยอะขนาดนี้ล่ะ และสิ่งที่เธอพูดก็ตรงกันกับที่เฟิ้งฉีเทียนคาดการณ์ไว้แล้วว่าพวกผู้ชายสี่ห้าคนนั้นได้เสียชีวิตมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้พลันนึกไปถึงเมื่อตอนที่หลงถิงมีลักษณะท่าทางที่ดูน่าเกรงขาม ฉันก็นึกท่าทางที่เขาจะดูดวิญญาณมนุษย์ไม่ออก เขาเป็นเทพและก็ไม่ใช่ปีศาจ ทำไมเขาถึงต้องดูดพลังด้วยล่ะ?ฉันรู้สึกเหมือนเจ็บราวม
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองที่เฟิ้งฉีเทียน และบอกเขาว่าอย่าพูดจาไร้สาระ อย่างไรก็ตามก่อนที่ยังจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ชัดเจน ฉันก็ไม่สามารถโยนความผิดมั่ว ๆ ให้หลิวหลงถิงได้วันนี้ฉันมีเรียนทั้งวัน ตอนเที่ยงฉันก็ไม่ได้กลับไป เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนขณะกลับบ้าน ฉันลังเลอยู่ว่าจะต้องถามเรื่องนี้กลับหลิงหลงถิงอย่างไรแต่ทันทีที่เปิดประตูบ้านก็มีกลิ่นหอมของอาหารส่งกลิ่นหอมอบอวลออกมา บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นมีจานที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของเนื้อ กุ้ง และอื่น ๆ ที่วางอยู่ด้านบน ฉันยังคิดว่าเป็นอาหารที่หลิวหลงถิงสั่งกลับบ้
“เมื่อกี้นายบอกฉันว่าอะไรนะ?” ฉันถามหลิวหลงถิงต่อ ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าความจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างที่เหยาน่าพูดหรือไม่“การเสียชีวิตของพวกผู้ชายสี่ห้าคนในชั้นเรียนของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉันจริง ๆ ฉันคิดว่าเหยาน่าคงจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างกับเธอแล้ว สิ่งที่หล่อนพูดนั้นเป็นความจริง ฉันฆ่าคน และฉันดูดพลังทั้งหมดของพวกเขาจนเกลี้ยง พวกเขาตายแล้ว”แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันพอจะเดาไว้ว่าหลิวหลงถิงเป็นคนทำสิ่งนี้ แต่พอฉันได้ยินเขาพูดเรื่องพวกนี้กับฉันตรง ๆ อยู่ ๆ ใจฉันก็เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาหลายครั้ง ฉันเง
“นายกำลังแก้แค้นหล่อนใช่มั้ย?” ฉันถามหลิวหลงถิง “ไม่ใช่ ฉันแค่กำลังลงโทษหล่อนเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง และตอนนี้ฉันก็กำลังลงโทษเธออยู่ต่อไปห้ามสงสัยในตัวฉันอีกแล้วนะเข้าใจไหม” หลิวหลงถิงที่กำลังพูดอยู่นั้น เอียงหน้ามองมาที่ฉันด้วยหน้าตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ฉันก็มองไปที่เขาอยู่สักพัก แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเขากำลังหมายถึงอะไร แต่ด้วยเวลาผ่านไปนาน ฉันก็เริ่มเข้าใจว่าการลงโทษที่เขาพูดถึงคืออะไรเมื่อถึงเวลานอน ฉันกังวลอยู่ตลอดว่าท้ายที่สุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเหยาน่ากันแน่ แชทห้องเรียนมีแต่คำน
ฉันตกใจมาก ๆ จนโทรศัพท์ร่วงหล่น รีบร้อนยื่นมือเข้าไปรับเธอ แต่ความเร็วที่ร่างนั้นตกลงมาเร็วกว่าฉันมาก ฉันยังเดินไปไม่ถึงจุดที่เธอจะหล่นลงมา ก็มีเสียงดังตุบ! ขึ้นมาเสียก่อนเหยาน่าตกลงบนพื้นคอนกรีตตรงหน้าของฉันในลักษณะที่คว่ำหน้าลง และเลือดสีดำสดค่อย ๆ ทะลักจากศรีษะของเธอออกมา...ในชั่วขณะหนึ่ง ฉันไม่รู้ว่าจะก้าวไปทางไหนและตะโกนเรียกคนอย่างไร ขาสองขาของฉันอ่อนยวบลงและทรุดตัวลงข้าง ๆ ศพของเหยาน่า หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกราวกับกำลังฝันไป มีคนเรียกตำรวจ และดึงฉันออกไปปลอบ พวกเขานำศพของเหยาน่าออกไ
นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่หลิวหลงถิงและเฟิ้งฉีเทียนได้พบกัน แต่หลิวหลงถิงแค่มองไปที่เฟิ้งฉีเทียนเท่านั้นและไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขา ร่างสูงเหยียดมือมาโอบที่ไหล่ของฉันให้หลบเข้ามาอยู่ใต้ร่มของเขา แล้วหันหลังเดินกลับไป“เจ้านี่หยาบคายเกินไปแล้ว ครั้งแรกที่ข้าลงมาเยี่ยมเยียน แล้วไม่ทักทาย ข้าก็ถือว่าปล่อยมันไป ตอนนี้เจอหน้ากันแล้ว แม้แต่จะทักทายสักหน่อยก็ไม่มี รู้ไหมว่าข้าเป็นเทพสวรรค์ที่ลงมายังโลกมนุษย์เลยนะ?”เมื่อเฟิ้งฉีเทียนเห็นว่าหลิวหลงถิงไม่สนใจเขา ก็อดไม่ได้ที่จะเปิดปากพูดออกมาก่อนด้วยน้ำเสียง