"น่าเสียดาย ท้ายสุดแคว้นเจาก็ยังไม่ยอมให้เจ้าเป็นจักรพรรดิ กระทั่งว่ามีคนเปิดโปงตัวตนฐานะของแม่เจ้าออกไป ทำให้นางมีภัย และทำให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายไปด้วย พวกเราหลบหนีจากต้าชื่อไปยังเขาอวี้เหิงอย่างยากลำบาก ร่างกายก็ติดพิษร้ายแรง เหลือเวลาอีกไม่มาก และไม่มีอะไรจะทิ้งไว้ให้เจ้าด้วย ตอนนี้เหลือเพียงสิ่งของจากตงฉิงทิ้งไว้ให้เจ้าเป็นที่ระลึกเพียงเท่านั้น"อักษรเขียนถึงจุดนี้ก็จบลงแล้วแต่ว่า ก็แทบจะเล่าเรื่องราวออกมาชัดเจนทั้งหมดฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน"ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ทำไมไท่ซ่างหวงที่รักท่านเอ็นดูท่านขนาดนั้น แต่กลับไม่ส่งตำแหน่งจักรพรรดิแคว้นเจาให้กับท่าน"ดูท่า ไท่ซ่างหวงเองก็กังวลว่าหลังจากที่เขาขึ้นเป็นจักรพรรดิแคว้นเจา จะกลับไปช่วยเหลือตงฉิงฟื้นฟูแคว้น!ยิ่งไปกว่านั้น แคว้นเจากับต้าชื่อถ้าหากแต่ก่อนเคยทำเรื่องไม่ดีกับตงฉิงไว้ ซ้ำยังยึดภูเขาสายแร่ของพวกเขามา ถ้าตงฉิงฟื้นฟูแคว้น นั่นไม่ใช่ว่าจะต้องกลับคืนสู่เจ้าของเดิมหรอกหรือ?แคว้นเจากับต้าชื่อที่กลายเป็นสองแคว้นใหญ่ที่แข็งแกร่ง เป็นเพราะยึดครองภูเขาสายแร่ของตงฉิงมาอย่างนั้นหรือ?แต่ไท่ซ่างหวงเองก็ยังมีความรักต่อเซียวหล
ระหว่างภูเขาสูงต่ำ ถนนที่ปูจากก้อนหินกลายเป็นภาพวาด บ้านเรือนสูงๆ ต่ำๆ ดูมีสัดส่วนที่ดี ในนี้มีตำหนักแห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอย่างเตะตา ในตำหนักกำลังมีดอกไม้ผืนใหญ่เบ่งบาน สีม่วงบ้าง สีชมพู สีขาว สวยงามจับจิตนอกเมืองผืนนี้ ยังมีกำแพงสูงลิบทอดยาวราวกับมังกรถนนใหญ่นอกเมืองทั้งสี่ด้านทอดยาวออกไป อ้อมผ่านเนินเขาบางส่วน และยังเชื่อมกับหมู่บ้านเล็กๆ บางส่วนอีกด้วยเหล่านี้ราวกับเป็นไข่มุกประกายแสงบางส่วนที่กระจายอยู่รอบตัวเมืองหลักอย่างไรอย่างนั้นและด้านนอกที่อยู่อาศัยผืนใหญ่นี้ ยังมีภูเขาที่สูงต่ำไม่เหมือนกันอยู่อีกหลายลูก ในนี้เขาลูกที่สูงที่สุด ยังเห็นว่ามีหิมะปกคลุมอยู่ฟู่จาวหนิงรู้สึกละสายตาออกมาไม่ได้เลย"สวยงามจริงๆ นี่คือแคว้นตงฉิงหรือ?"ดูท่านจะเป็นแคว้นเล็กที่มีพื้นที่แคว้นเล็กมากแห่งหนึ่ง ราวกับเป็นไข่มุกที่สาบสูญไปแล้วอย่างไรอย่างนั้นเซียวหลันยวนมองมุมซ้ายบน ที่นั่นเขียนไว้ว่าทิวทัศน์แห่งตงฉิง"ใช่""พอเห็นเช่นนี้ ตงฉิงก็ทำให้คนรู้สึกคิดถึงอยู่ตลอดจริงๆ"บ้านเกิดเมืองนอนที่เล็กแต่สวยวิจิตร ดูแล้วเหมือนดินแดนในอุดมคติ คิดไม่ถึงว่าจะต้องหายสาบสูญไปกับหายนะครั้งมโหฬารนั
"พวกนางตอนนั้นไปยังต้าชื่อ ก็เอาของตั้งมากมายขนาดนี้ออกมาเลยหรือ?" ฟู่จาวหนิงกลับรู้สึกแปลกประหลาด"ชุดคลุมพญาหงส์ ตราประทับแคว้น ตราประทับส่วนตัว ของเหล่านี้ควรจะติดไป แต่ภาพทิวทัศน์ของตงฉิงนี้ น่าจะวาดออกมาภายหลัง"ครั้งนั้นไม่ว่าอย่างไรก็เป็นจักรพรรดินี สิ่งของที่นำไปด้วยจะต้องไม่น้อยแน่นอน"ตราประทับแคว้นกับตราประทับส่วนตัว เจ้าช่วยข้าเก็บไว้ก่อน" เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิงทำไมถึงให้นางเก็บไว้อีกแล้วล่ะ?ฟู่จาวหนิงบางทีก็สงสัยว่าเซียวหลันยวนรู้อะไรมาหรือเปล่า ไม่เช่นนั้นทำไมถึงชอบเอาสิ่งของที่เขาคิดว่าสำคัญที่สุดเหล่านั้นมาให้นางเก็บไว้กัน?เขารู้มาหรือเปล่าว่านางเก็บของได้ดีที่สุด?"ท่านเก็บไว้เองก็ได้นี่ จวนอ๋องเจวี้ยนใหญ่เสียขนาดนั้น ยังจะกลัวหาที่ซ่อนของพวกนี้ไม่ได้อีกหรือ?"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่เข้าใจหน่อยๆ เหมือนกัน ดังนั้นจึงลองถามหยั่งเชิงไปคำหนึ่งเซียวหลันยวนกลับรู้สึกว่านางก่อนหน้านี้ยินดีที่จะเก็บสิ่งยืนยันให้ แต่ตอนนี้กลับดูไม่ค่อยยินดีนักแล้ว คงไม่ใช่เพราะใบหน้าของเขากลายเป็นสภาพนี้ในตอนนี้หรอกนะ หลังจากนี้คงดีขึ้นไม่ได้จริงๆ ดังนั้นนางจึงคิดจะปลีกตัวจากไปหรื
ท้ายสุดก็ยังเป็นฟู่จาวหนิงที่เปิดกล่องเหล็กเหล่านั้นออกทีละใบทั้งหมดล้วนเป็นของที่ตงฉิงเหลือทิ้งเอาไว้ยิ่งไปกว่านั้นน่าจะเป็นของที่พวกนางติดตัวไปต้าชื่อในครั้งนั้น ตอนนั้นก็ไปเพราะจะสร้างสัมพันธ์ทางการทูต ดังนั้นตงฉิงครั้งนั้นอันที่จริงจึงนำของไปไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังนำสิ่งล้ำค่าของตงฉิงไปอีกไม่น้อยหลังจากนั้นทุกครั้งที่เปิดกล่องเหล็ก ก็ล้วนทำให้ฟู่จาวหนิงเปิดโลกทัศน์ขึ้นมามีบางส่วนเป็นตำหนักที่สลักออกมาาจากหินแร่ทอง แล้วยังมีเนื้อผ้าบางส่วนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สัมผัสอ่อนนุ่มมาก วางไว้บนมือยังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ใต้แสงตะวันยังส่องระยิบยับราวกับแสงจันทรา ละเอียดมาก ไม่รู้ว่าใช้ใยอะไรถักทอขึ้นมาจากสิ่งเหล่านี้สามารถมองออกว่า ตงฉิงในอดีตงานฝีมือหรือสิ่งทอต่างๆ ล้วนเลื่องชื่อ น่าจะเพราะประชาชนที่นั่นล้วนเป็นคนขยันและฉลาดเฉลียวมากฝีมือนอกเหนือจากนี้ กระทั่งยังมีบันทึกอีกลังหนึ่ง พวกเขาพลิกเปิดอ่าน แนะนำบุคคลที่มีชื่อของตงฉิง และมีบางส่วนที่ช่างฝีมือบันทึกไว้ กระทั่งยังมีบันทึกการแพทย์อีกเล่มหนึ่ง!"วิชาแพทย์และตำรับยาบนบันทึกการแพทย์เล่มนี้ดีเอามากๆ" ฟู่จาวหนิงพลิกดูอีกพัก
ของเหล่านี้ทำไมจึงไม่ส่งออกไปกัน?"เป็นไปได้ไหม ว่าพวกเขาเอาออกไปก่อนบางส่วน พอเพิ่งส่งออกไป ปรากฎต่อใต้หล้า ก็ทำให้เกิดอาการน้ำลายสอและการช่วงชิงขึ้น?" ฟู่จาวหนิงตั้งคำถามขึ้นมา"ก็เป็นไปได้ พวกเขาคงให้รอบเดียวหมดไม่ได้หรอก"บางที คนของตงฉิงอันที่จริงคงจ่ายออกไปไม่น้อยแล้ว สิ่งเหล่านี้คือช่วงหลังที่พบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงเก็บรักษาเอาไว้ หรือบางที ต่อมาพวกเขาพบว่าอันตราย จึงจงใจซ่อนของเหล่านี้ไว้ ทำทีเป็นปล่อยวางคนอื่น คิดจะรักษาชีวิตเอาไว้ก่อนถึงอย่างไรถ้ายังหาของเหล่านี้ไม่เจอ คนพวกนั้นก็คงจะไม่สังหารพวกเขาจนตาย"เช่นนี้ ดูท่าว่าตงฉิงจะร่ำรวยจริงๆ" ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ "เมื่อเป็นเช่นนี้ ไท่ซ่างหวงยังใช้ได้อยู่หรือ? เขาเอาของเหล่านี้ทิ้งไว้ให้ท่าน แต่กลับไม่ส่งไปให้องค์จักรพรรดิ""เป็นไปได้ไหม ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย?" เซียวหลันยวนกลับไม่เชื่อในนิสัยคนนี่ก็เป็นไปได้เช่นกัน บางทีไท่ซ่างหวงอาจจะแค่คิดว่าซ่อนของเก่าแก่บางส่วนของตงฉิงเอาไว้ พวกตราประทับแคว้นอะไรพวกนี้ ถึงอย่างไรการฟื้นฟูแคว้นของตงฉิงก็ไม่มีหวังอยู่แล้ว ของเหล่านี้นำไปก็คงไม่มีประโยชน์ จึงทิ้งไว้ให้เซียวหลันยวนเป
เสิ่นเสวียนมองหญิงสาวตรงหน้านี่คือลูกสาวของพี่สาวเขา ตอนอายุราวสิบขวบก็เข้ามาที่บ้านตระกูลเสิ่น เรียกได้ว่าหลังจากสิบขวบก็ถือว่าเขาเห็นนางเติบโตขึ้นที่นี่เพราะน้องสาวเขาหายสาบสูญไป เสิ่นเสวียนดีต่อเหล่าพี่สาวมาก กระทั่งดีกับเหล่าหลานสาวมากอีกด้วยแต่ว่าหลานสาวที่ชื่ออวี๋อวี่เวยคนนี้ เป็นคนที่เขาเคยเอ็นดูมากที่สุด เพราะตอนนางยังเล็กหน้าตาคล้ายกับเสิ่นเชี่ยวมาก และดูสอดคล้องกับภาพเสิ่นเชิี่ยวตอนโตที่เขาวาดออกมาภายหลังมากที่สุดเห็นใบหน้านางแล้ว เสิ่นเสวียนก็อดใจอ่อนกับนางไม่ได้แต่ไม่รู้เพราะอะไร ครั้งนี้ที่ไปยังแคว้นเจา พอพบกับฟู่จาวหนิง หลังจากกลับมาพอมองอวี๋อวี่เวย เสิ่นเสวียนก็รู้สึกว่านางไม่ค่อยคล้ายกับเสิ่นเชี่ยวเลยฟู่จาวหนิงทางนั้นถึงจะคล้ายยิ่งไปกว่านั้น พออยู่กับฟู่จาวหนิงที่นิสัยคล่องแคล่วตรงไปตรงมาจนชิน เขาก็พบว่า ตนเองอันที่จริงไม่ค่อยชอบกับนิสัยออดอ้อนไม่รู้กาลเทศะของอวี๋อวี่เวยสักเท่าไร"อวี่เวย เจ้าอายุสิบเจ็ดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะที่บ้านคู่หมั้นเกิดเรื่องจนต้องไว้ทุกข์สามปี ตอนนี้เจ้าคงแต่งเป็นภรรยาคนอื่นไปแล้ว ทำไมถึงยังทำตัวไม่งามแบบนี้กัน?"อวี๋อวี่เวยมองเสิ่
เสิ่นเสวียนก่อนจะออกจากต้าชื่อทิ้งคนเอาไว้ไม่น้อยเลยทั้งคนในที่แจ้ง คนในที่ลับ ทิ้งเอาไว้ทั้งนั้นหลังจากฟู่จาวหนิงตรวจสอบปัญหาของหินนภาออกมา เขาก็ส่งจดหมายกลับมาทันที ให้คนทั้งหมดมาคุ้มกันบ้านตระกูลเสิ่น คอยจับตาดูพวกเขาไว้โดยเฉพาะบ้านสองแต่ครั้งนี้ที่เข้ามาในต้าชื่อ พวกเขาติดต่อกับองครักษ์ลับของจวนตระกูลเสิ่นไม่ได้ องครักษ์ลับไม่ได้ออกมารับที่นอกเมือง เสิ่นเสวียนก็รู้สึกแปลกประหลาดแล้ว ดังนั้นจึงอ้อมถนนหลายสายถึงกลับมาถึงบ้านตระกูลเสิ่นตอนนี้ก็พบกับความไม่ถูกต้องจริงๆฮูหยินอาวุโสเสิ่นพักอยู่ที่สวนจิ้งชิวช่วงเวลาครึ่งปีกว่าที่เสิ่นเสวียนออกไป ตอนที่เดินเข้ายังสวนจิ้งชิวจู่ๆ ก็รู้สึกว่าสวนรกร้างไปไม่น้อยแม้ว่าตอนนี้พวกเขาที่นี่จะใกล้เข้าหน้าร้อนแล้ว ดูแล้วทั้งสวนก็ยังเขียวขจี แต่ไม่รู้เพราะอะไร ขนาดต้นไม้ใบหญ้าบางส่วน เขารู้สึกว่าแม้จะสีเขียว แต่ใบไม้เหล่านั้นก็ล้วนดูจะห่อเหี่ยวหมดอาลัยตายอยากกันหมดในสวนเดิมทีมีสระน้ำเล็กอยู่ ก่อนหน้านี้เขาเองก็มานั่งเป็นเพื่อนท่านพ่อท่านแม่อยู่บ่อยๆ มาดูปลาแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำ พูดคุยกันตามประสาครอบครัวแต่ว่าตอนนี้ เสิ่นเสวียนรีบกวาด
"หยุดก่อน"ตอนที่พวกเขาเข้ามา องครักษ์ของเสิ่นเสวียนก็ยื่นมือขวางพวกเขาไว้ท่านลุงรองเสิ่นตาเปล่งประกาย "ไป่รื่อ เฮยอวิ๋น พวกเจ้าจะทำอะไร?"คนบ้านตระกูลเสิ่นแต่ก่อนพูดได้ว่าล้วนรักใครกลมเกลียว ในบ้านไม่เคยมีเรื่องอย่างองครักษ์กันคนในบ้านไม่ให้เข้าใกล้กันเกิดขึ้นมาก่อนองครักษ์สองคนนี้ ไป๋รื่อเฮยอวิ๋น เป็นองครักษ์สองคนที่ดีที่สุดของเสิ่นเสวียน สองคนที่คุ้มกันอยู่ด้านหน้าคือหลิวหั่วเฉินกวง ก็ล้วนเป็นคนที่เขาเชื่อใจที่สุดแต่ก่อนองครักษ์เหล่านี้แม้จะคอยติดตามเสิ่นเสวียนอยู่ซ้ายขวา แต่ในบ้านปกติจะไม่ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกันตอนนี้คนเหล่านนี้กลับเข้ามาขวางไว้จนหมด!อวี๋อวี่เวยดวงตาแดงรื้น เอ่ยขึ้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ท่านลุงรอง ก่อนหน้านี้ท่านลุงเสวียนยังด่าข้าอยู่ที่หน้าประตูเลย เขาเป็นอะไรไปกัน?""หรือว่าเรื่องที่น้องเสวียนออกจากบ้านไปทำให้ห่างเหินกับพวกเราไปเสียแล้ว?" ชายอายุราวสี่ห้าสิบมีหนวดเคราเล็กน้อยคนหนึ่งเอ่ยขึ้น"เขาจะรู้สึกว่าพวกเราอยู่ในบ้านแต่ดูแลป้าสะใภ้ได้ไม่ดีหรือเปล่า?"หญิงสาวกลางคนอีกหลายคนก็ถามขึ้นเช่นกันส่วนพวกที่อายุน้อยหน่อยก็มองหน้ากันไปมา มีทั้งที่สีหน้าซับ