ของเหล่านี้ทำไมจึงไม่ส่งออกไปกัน?"เป็นไปได้ไหม ว่าพวกเขาเอาออกไปก่อนบางส่วน พอเพิ่งส่งออกไป ปรากฎต่อใต้หล้า ก็ทำให้เกิดอาการน้ำลายสอและการช่วงชิงขึ้น?" ฟู่จาวหนิงตั้งคำถามขึ้นมา"ก็เป็นไปได้ พวกเขาคงให้รอบเดียวหมดไม่ได้หรอก"บางที คนของตงฉิงอันที่จริงคงจ่ายออกไปไม่น้อยแล้ว สิ่งเหล่านี้คือช่วงหลังที่พบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงเก็บรักษาเอาไว้ หรือบางที ต่อมาพวกเขาพบว่าอันตราย จึงจงใจซ่อนของเหล่านี้ไว้ ทำทีเป็นปล่อยวางคนอื่น คิดจะรักษาชีวิตเอาไว้ก่อนถึงอย่างไรถ้ายังหาของเหล่านี้ไม่เจอ คนพวกนั้นก็คงจะไม่สังหารพวกเขาจนตาย"เช่นนี้ ดูท่าว่าตงฉิงจะร่ำรวยจริงๆ" ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ "เมื่อเป็นเช่นนี้ ไท่ซ่างหวงยังใช้ได้อยู่หรือ? เขาเอาของเหล่านี้ทิ้งไว้ให้ท่าน แต่กลับไม่ส่งไปให้องค์จักรพรรดิ""เป็นไปได้ไหม ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย?" เซียวหลันยวนกลับไม่เชื่อในนิสัยคนนี่ก็เป็นไปได้เช่นกัน บางทีไท่ซ่างหวงอาจจะแค่คิดว่าซ่อนของเก่าแก่บางส่วนของตงฉิงเอาไว้ พวกตราประทับแคว้นอะไรพวกนี้ ถึงอย่างไรการฟื้นฟูแคว้นของตงฉิงก็ไม่มีหวังอยู่แล้ว ของเหล่านี้นำไปก็คงไม่มีประโยชน์ จึงทิ้งไว้ให้เซียวหลันยวนเป
เสิ่นเสวียนมองหญิงสาวตรงหน้านี่คือลูกสาวของพี่สาวเขา ตอนอายุราวสิบขวบก็เข้ามาที่บ้านตระกูลเสิ่น เรียกได้ว่าหลังจากสิบขวบก็ถือว่าเขาเห็นนางเติบโตขึ้นที่นี่เพราะน้องสาวเขาหายสาบสูญไป เสิ่นเสวียนดีต่อเหล่าพี่สาวมาก กระทั่งดีกับเหล่าหลานสาวมากอีกด้วยแต่ว่าหลานสาวที่ชื่ออวี๋อวี่เวยคนนี้ เป็นคนที่เขาเคยเอ็นดูมากที่สุด เพราะตอนนางยังเล็กหน้าตาคล้ายกับเสิ่นเชี่ยวมาก และดูสอดคล้องกับภาพเสิ่นเชิี่ยวตอนโตที่เขาวาดออกมาภายหลังมากที่สุดเห็นใบหน้านางแล้ว เสิ่นเสวียนก็อดใจอ่อนกับนางไม่ได้แต่ไม่รู้เพราะอะไร ครั้งนี้ที่ไปยังแคว้นเจา พอพบกับฟู่จาวหนิง หลังจากกลับมาพอมองอวี๋อวี่เวย เสิ่นเสวียนก็รู้สึกว่านางไม่ค่อยคล้ายกับเสิ่นเชี่ยวเลยฟู่จาวหนิงทางนั้นถึงจะคล้ายยิ่งไปกว่านั้น พออยู่กับฟู่จาวหนิงที่นิสัยคล่องแคล่วตรงไปตรงมาจนชิน เขาก็พบว่า ตนเองอันที่จริงไม่ค่อยชอบกับนิสัยออดอ้อนไม่รู้กาลเทศะของอวี๋อวี่เวยสักเท่าไร"อวี่เวย เจ้าอายุสิบเจ็ดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะที่บ้านคู่หมั้นเกิดเรื่องจนต้องไว้ทุกข์สามปี ตอนนี้เจ้าคงแต่งเป็นภรรยาคนอื่นไปแล้ว ทำไมถึงยังทำตัวไม่งามแบบนี้กัน?"อวี๋อวี่เวยมองเสิ่
เสิ่นเสวียนก่อนจะออกจากต้าชื่อทิ้งคนเอาไว้ไม่น้อยเลยทั้งคนในที่แจ้ง คนในที่ลับ ทิ้งเอาไว้ทั้งนั้นหลังจากฟู่จาวหนิงตรวจสอบปัญหาของหินนภาออกมา เขาก็ส่งจดหมายกลับมาทันที ให้คนทั้งหมดมาคุ้มกันบ้านตระกูลเสิ่น คอยจับตาดูพวกเขาไว้โดยเฉพาะบ้านสองแต่ครั้งนี้ที่เข้ามาในต้าชื่อ พวกเขาติดต่อกับองครักษ์ลับของจวนตระกูลเสิ่นไม่ได้ องครักษ์ลับไม่ได้ออกมารับที่นอกเมือง เสิ่นเสวียนก็รู้สึกแปลกประหลาดแล้ว ดังนั้นจึงอ้อมถนนหลายสายถึงกลับมาถึงบ้านตระกูลเสิ่นตอนนี้ก็พบกับความไม่ถูกต้องจริงๆฮูหยินอาวุโสเสิ่นพักอยู่ที่สวนจิ้งชิวช่วงเวลาครึ่งปีกว่าที่เสิ่นเสวียนออกไป ตอนที่เดินเข้ายังสวนจิ้งชิวจู่ๆ ก็รู้สึกว่าสวนรกร้างไปไม่น้อยแม้ว่าตอนนี้พวกเขาที่นี่จะใกล้เข้าหน้าร้อนแล้ว ดูแล้วทั้งสวนก็ยังเขียวขจี แต่ไม่รู้เพราะอะไร ขนาดต้นไม้ใบหญ้าบางส่วน เขารู้สึกว่าแม้จะสีเขียว แต่ใบไม้เหล่านั้นก็ล้วนดูจะห่อเหี่ยวหมดอาลัยตายอยากกันหมดในสวนเดิมทีมีสระน้ำเล็กอยู่ ก่อนหน้านี้เขาเองก็มานั่งเป็นเพื่อนท่านพ่อท่านแม่อยู่บ่อยๆ มาดูปลาแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำ พูดคุยกันตามประสาครอบครัวแต่ว่าตอนนี้ เสิ่นเสวียนรีบกวาด
"หยุดก่อน"ตอนที่พวกเขาเข้ามา องครักษ์ของเสิ่นเสวียนก็ยื่นมือขวางพวกเขาไว้ท่านลุงรองเสิ่นตาเปล่งประกาย "ไป่รื่อ เฮยอวิ๋น พวกเจ้าจะทำอะไร?"คนบ้านตระกูลเสิ่นแต่ก่อนพูดได้ว่าล้วนรักใครกลมเกลียว ในบ้านไม่เคยมีเรื่องอย่างองครักษ์กันคนในบ้านไม่ให้เข้าใกล้กันเกิดขึ้นมาก่อนองครักษ์สองคนนี้ ไป๋รื่อเฮยอวิ๋น เป็นองครักษ์สองคนที่ดีที่สุดของเสิ่นเสวียน สองคนที่คุ้มกันอยู่ด้านหน้าคือหลิวหั่วเฉินกวง ก็ล้วนเป็นคนที่เขาเชื่อใจที่สุดแต่ก่อนองครักษ์เหล่านี้แม้จะคอยติดตามเสิ่นเสวียนอยู่ซ้ายขวา แต่ในบ้านปกติจะไม่ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกันตอนนี้คนเหล่านนี้กลับเข้ามาขวางไว้จนหมด!อวี๋อวี่เวยดวงตาแดงรื้น เอ่ยขึ้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ "ท่านลุงรอง ก่อนหน้านี้ท่านลุงเสวียนยังด่าข้าอยู่ที่หน้าประตูเลย เขาเป็นอะไรไปกัน?""หรือว่าเรื่องที่น้องเสวียนออกจากบ้านไปทำให้ห่างเหินกับพวกเราไปเสียแล้ว?" ชายอายุราวสี่ห้าสิบมีหนวดเคราเล็กน้อยคนหนึ่งเอ่ยขึ้น"เขาจะรู้สึกว่าพวกเราอยู่ในบ้านแต่ดูแลป้าสะใภ้ได้ไม่ดีหรือเปล่า?"หญิงสาวกลางคนอีกหลายคนก็ถามขึ้นเช่นกันส่วนพวกที่อายุน้อยหน่อยก็มองหน้ากันไปมา มีทั้งที่สีหน้าซับ
ตระกูลเสิ่นทั้งหมด แรกสุดตอนที่พวกเขายังไม่ได้เข้ามาพัก คนรับใช้เก่าตระกูลเสิ่นก็จัดแจงให้บ้านของตนเองนี้เรียกว่านายท่านสามเสิ่นเสวียน ต่อมาหลังจากมาอยู่ด้วยกัน เสิ่นเสวียนจึงให้เหล่าคนใช้เปลี่ยนคำพูด เพราะคนทั้งหมดพอมาเรียงกันแล้ว เขาจึงไปอยู่ที่นายท่านหกแต่เมื่อครู่ที่เสิ่นเสวียนกลับมา พอเข้าประตูใหญ่ตอนที่เห็นพวกเขาไปต้อนรับก็ไม่ได้สบตาตรงๆ กับพวกนางเลย และไม่ได้เรียกชื่อผู้ใดอีกด้วยตอนนี้ยังกันพวกนางออกมานอกสวนจิ้งชิวอีก!นี่หมายความว่าอย่างไรกัน!"ข้าว่าท่านน้าที่ออกไปครั้งนี้ เกรงว่าจะไปเจอกับใครมา จนถูกสอนให้ทำตัวแย่ๆ เข้ากระมัง?""พี่สะใภ้รอง ความหมายของท่านหมายถึง หญิงสาวหรือ?"ฮูหยินกลางคนที่หางตามีไฝคนหนึ่งเลิกหางตาขึ้น หัวเราะถากถาง "ก็เป็นไปได้อยู่นะ พวกเจ้าคงจะลืมไปแล้ว สองเดือนก่อน ตอนที่ท่านน้าเขียนจดหมายกลับมาก็ให้คนไปเก็บกวาดสวนสี่ซินไม่ใช่หรือ? สวนสี่ซินนั่นเป็นสถานที่แบบไหนพวกเจ้าก็รู้นี่?"สวนสี่ซิน เป็นเรือนที่สร้างขึ้นมาสวยงามที่สุดในเรือนใหญ่จวนตระกูลเสิ่น ยิ่งไปกว่านั้นด้านในยังมีการออกแบบพิเศษและใช้วัสดุพิเศษด้วย ดังนั้นหน้าหนาวจึงอบอุ่นส่วนหน้าร้อนจึ
ทำไมถึงพูดว่าไท่ไท่อาวุโสจะตายแล้วกัน?"ข้าพูดผิดตรงไหน? ไท่ไท่อาวุโสไม่ใช่ว่าใกล้จะไม่ไหวแล้วหรือ? ท่านพี่ ข้าอยากจะเข้าไปอยู่กับท่านลุง ตอนนี้เขาคงจะรู้สึกแย่มาก ข้าต้องไปอยู่ข้างกายเขา"พี่ชายนางมองนางอย่างไม่อยากเชื่ออวี๋อวี่เวยตอนสิบขวบถูกส่งไปชุบเลี้ยงที่บ้านตระกูลเสิ่น เพราะพวกพี่สาวน้องสาวในบ้านนางมักจะเอาแต่ทะเลาะกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังดูไม่สะดวกสบายนัก บ้านตระกูลเสิ่นทางนี้ยังมีเสิ่นเสวียนอยู่ คิดแล้วจะมากจะน้อยก็ยังคอยสั่งสอนนางได้ ภายหลังตอนที่พูดเรื่องญาติมิตรบอกไปว่าเติบโตมาข้างกายเสิ่นเสวียน คนอื่นก็จะมองสูงขึ้นหน่อยแต่ตอนที่นางหมั้นปีนั้นก็อาละวาดขึ้นมา ตอนนั้นเอาแต่พูดว่าจะไม่ออกเรือน ต่อมาผู้อาวุโสที่บ้านคู่หมั้นก็เกิดเรื่องพอดี บอกว่าต้องไว้ทุกข์สามปี งานมงคลนี้จึงถูกระงับเอาไว้ก่อนตอนนั้นพวกเขาคิดว่าน่าจะเพราะนางอายุยังน้อย กลัวการแต่งงาน จึงไม่คิดอะไรมากแต่ตอนนี้ดูจากท่าทีีของนางแล้ว พี่ชายของนางใจดำดิ่งเล็กน้อย เกิดความคิดที่ไม่ค่อยจะดีนักขึ้นมา"ไท่ไท่อาวุโสกังวลท่านลุงมาตลอด ตอนนี้ท่านลุงกลับมาแล้ว ไม่แน่ว่าสภาพจิตใจนางอาจจะดีขึ้นมาแล้ว ร่างกายเองก็ดีตา
เสิ่นเสวียนมีคำถามมากมายอยากถาม แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว"นางอาเจียนมาสองวัน หลังจากนั้นก็สลบไป เรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น สีหน้าเองจู่ๆ ก็คล้ำลงทุกวัน ลมหายใจก็ต่ำลงเรื่อยๆ หาหมอมาหลายคนก็ล้วนบอกว่าไม่ไหวแล้ว"ท่านผู้เฒ่าไอออกมาหลายครั้ง "วันนี้ตอนเช้าท่านหมิ่นก็เข้ามา ให้เตรียมตัวเรื่องหลังจากนี้"เสิ่นเสวียนยื่นมือไปจับชีพจรไท่ไท่อาวุโส"อาเสวียน เจ้า เจ้าทำอะไร?" ท่านผู้เฒ่ามองการกระทำของเขา น้ำตาก็ร่วงพราวลงมา "ท่านหมิ่น เจ้าก็รู้จัก หมอที่มีวิชาแพทย์ดีที่สุดของต้าชื่อ และยังเป็นคนจากสมาคมหมอใหญ่ด้วย เขาไม่มา ตอนเขายังไม่มา ข้าเองยังพอมีความหวังอยู่บ้าง แต่นี่เขาพูดออกมาแล้ว...""เจ้าลองเรียกแม่ของเจ้า ดูว่านางจะได้ยินไหม ถือว่ามาพบหน้านางเป็นครั้งสุดท้ายด้วย ให้นางรู้ว่าเจ้ารักษาตัวจนหายแล้ว น่าจะได้จากไปอย่างสบายใจ" ท่านผู้เฒ่าปิดหน้าเสิ่นเสวียนรีบกลับมาตอนนี้ ในใจเขาจะมากน้อยก็วางใจลงบ้างแล้ว นี่ยังสามารถมาส่งภรรยาเฒ่าของเขาได้ทัน เขาบางทีอาจจะอาการดีขึ้นก่อนที่จะตาย แต่ก็ให้นางได้จากไปอย่างสงบก่อนแล้วกันเขาไม่เข้าใจวิชาแพทย์ แล้วจะไปจับชีพจรได้อย่างไรกัน?เสิ่นเสวียนตอนอยู่ท
ท่านผู้เฒ่าเสิ่นรับยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจไป จากนั้นก็มองเสิ่นเสวียนนี่เพิ่งจะเข้าบ้านไม่นาน ก็พูดถึงหญิงสาวที่ชื่อฟู่จาวหนิงนี้มาหลายรอบแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังดูยกย่องนางอย่างมากด้วยราชวงศ์ก็ยังหาของเช่นนี้ไม่ได้?"ลูกกลอนคุ้มครองหัวใจในราชวงศ์นั้นล้ำค่ามาก ปกป้องหัวใจคุ้มครองหัวใจ รากฐานแห่งชีวิต ดังนั้นยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจของราชวงศ์ต้าชื่อ จึงเป็นสิ่งที่สมาคมหมอใหญ่ร่วมมือกับหมอหลวงออกรวบรวมวัตถุดิบยาล้ำค่ามาจนครับจึงจะสกัดออกมาได้ หนึ่งเม็ดมูลค่ามากมายเหลือคนา ถ้าหากลุกกลอนคุ้มครองหัวใจของแม่นางฟู่นี้ยังดียิ่งกว่าของราชวงศ์ นั่นก็ราคาแพงมากเลยนะ"ท่านผู้เฒ่าทอดถอนใจออกมาเสียงหนึ่งยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจของราชวงศ์ แตกต่างอย่างมากกับยาลูกกลอนคุ้มครองหัวใจของโรงหมอธรรมดาทั่วไป นี่มันแพงมากเลยจริงๆ"ถูกต้อง ทั้งแพงและล้ำค่ามาก ตอนที่ขาออกมานางสกัดไว้ได้เพียงหกเม็ด แบ่งให้ข้ามาสามเม็ด"ตอนที่เสิ่นเสวียนพูด น้ำเสียงกับสีหน้าดูมีความภาคภูมิใจอยู่สามเม็ดที่เหลือ ฟู่จาวหนิงเก็บไว้ให้ผู้เฒ่าฟู่สองเม็ด ให้เซียวหลันยวนเม็ดหนึ่งดังนั้น ตัวตนฐานะเขาจึงสำคัญอยู่สำคัญกว่าเซียวหลันยว