น่าจะเพราะคนของเผ่าเฮ่อเหลียนได้ยินความลับอะไรบางอย่างจากคนของลัทธิเทพทำลายล้าง แม้พวกเขาไม่อยากจะร่วมลัทธิเทพทำลายล้าง แต่ก็หวั่นไหวต่อความลับนั้นเสียแล้วกระทั่งต้องออกปฏิบัติการ"เผ่าเฮ่อเหลียนคุกคามแคว้นเจา องค์จักรพรรดิไม่มีทางยอมแน่""เช่นนั้นก็เจรจาไม่สำเร็จหรือ?""ขุนพลทางนี้ยังพูดเรื่องเฮ่อเหลียนเฟยต่อ คนในเมืองตอบโต้กลับมาว่า พวกเขาตรวจสอบชัดเจนแล้ว เฮ่อเหลียนเฟยไม่ใช่สายเลือดของราชาเฮ่อเหลียน ฮูหยินรองนำสายเลือดราชาออกไปมั่ว ลอบคบชู้กับคนอื่น ทรยศต่อราชาเฮ่อเหลียน ถูกราชาเฮ่อเหลียนสังหารด้วยมือตนเองไปแล้ว""พรวด! อะไรนะ?"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินหน้าก็เปลี่ยนสี"ฮูหยินรอง ก็คือแม่ของเสี่ยวเฟย เสี่ยเฟยออกมาได้ไม่เท่าไร นางก็ถูก่ลดขั้นลงมาเป็นฮูหยินรอง มีคนขึ้นไปแทนที่แล้ว" เซียวหลันยวนตอบเรื่องนี้เขาเองก็ไม่คิดจะบอกกับเฮ่อเหลียนเฟย ก็เพราะยังคิดไม่ออกว่าจะบอกเขาอย่างไรไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นั่นก็เคนที่เรียกเขาว่าพี่เขยนะยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นน้องชายของฟู่จาวหนิงอีก"ข้าเองก็เพิ่งได้จดหมายเมื่อสองวันก่อน อันที่จริงก็เตรียมจะบอกกับเจ้าแล้ว""ดังนั้น แม่ของเสี่ยวเฟยก็ตายแล
ฟู่จาวเฟยพอฟังคำพูดของเซียวหลันยวนจบก็นิ่งงันไปนานเขานั่งอยู่ที่นั่น ก้มหน้าลงต่ำ มองมือของตนเองบนมือมีรอยแผลเป็นเล็กๆ อยู่รอยหนึ่งรอยแผลเป็นนั้นสมัยเขายังเด็กตอนที่ท่านพ่อไม่ยอมมาหาท่านแม่อยู่ตลอด จึงจงใจลวกมือของเขา ท่านพ่อจึงยอมมาดูเขา คืนนั้นเขาก็มาอยู่กับท่านแม่ ส่วนเขาถูกคนใช้พาออกไปต่อมาท่านแม่มาดูเขา กอดเขาขอโทษเขา บอกว่านางไม่มีทางเลือกนางบอกว่าความหวังยิ่งใหญ่ที่สุดของนางคือให้กำเนิดน้องชายคนหนึ่งกับเขาตอนนั้นฟู่จาวเฟยยังคิดว่านางอยากจะมีลูกเพิ่มอีกสองสามคน แต่ตอนนี้พอคิดขึ้นมาจึงเข้าใจ เพราะว่านางกลัวว่าวันหนึ่งเรื่องที่เขาไม่ใช่ลูกชายแท้ๆ ของราชาเฮ่อเหลียนแดงขึ้นมา เช่นนั้นนางก็จะไม่ได้รับการเอ็นดูแล้วนางอยากจะตั้งครรภ์สายเลือดของราชาเฮ่อเหลียนจริงๆ ขึ้นมาและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลายปีมานี้นางก็ทำไม่สำเร็จเสียทีตอนนี้ก็ยังตายไปเพราะเรื่องนี้"ข้าให้คนคิดวิธีแฝงตัวเข้าไปในเมืองหูแล้ว จะเอาศพของนางออกมา ถึงตอนนั้นจะหาสถานที่ที่ฮวงจุ้ยดีดีนอกเมืองหูแล้วฝังนางให้ ตั้งป้ายหลุมศพ หลังจากนี้เจ้าก็กลับไปกราบไหว้หรือจะย้ายหลุมศพนางก็ได้ทั้งนั้น"เซียวหลันยวนมองฟ
"ดังนั้นถือโอกาสนี้ ถือว่าเจ้าตัดขาดความสัมพันธ์นี้กับเผ่าเฮ่อเหลียนเสีย หลังจากนี้เจ้าจะเป็นแค่ฟู่จาวเฟย ไม่ใช่เฮ่อเหลียนเฟยอีกแล้ว ญาติของเจ้าคือท่านปู่กับพี่สาว" เซียวหลันยวนพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไป แล้วเพิ่มต่อว่า "แล้วก็ยังมีพี่เขยด้วย มีพวกเราอยู่ เจ้าก็จะไม่โดดเดี่ยวอยู่คนเดียว แล้วจะกลัวอะไร? มีเรื่องอะไรก็มาบอกกับข้า""ขอบคุณพี่เขย"อืม เด็กดี เรียกเขาว่าพี่เขยมาหลายคำแล้ว บอกขอบคุณพี่เขยมาหลายรอบแล้วเซียวหลันยวนรู้สึกว่าเด็กคนนี้ใช้ได้อยู่หลังจากนี้ก็พาเขาออกไปบ่อยๆ ก็พอแล้ว มีเรื่องอะไรก็สอนเขา ชุบเลี้ยงเข้า?ฟู่จาวหนิงในเมื่อส่งเรื่องนี้ให้กับเซียวหลันยวน เช่นนั้นก็คือไม่คิดว่าจะมาคอยดูเขาเรื่องเกิดขึ้นไปแล้ว ทำได้แค่ให้ฟู่จาวเฟยไปจัดการทำความเข้าใจด้วยตนเองนางซ้อมชกมวย อาบน้ำ เตรียมจะไปอ่านตำราแพทย์ เซียวหลันยวนจึงเข้ามา"ท่านอ๋อง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงด้านนอกพอเห็นเซียวหลันยวนเข้ามาก็ยินดี รีบเข้าไปคารวะพร้อมกันทั้งสองกำลังจะเงยหน้า ก็ได้ยินเสียงต่ำของเซียวหลันยวน "ก้มหน้าไว้""เจ้าค่ะ" สาวใช้สองคนประหลาดใจหน่อยๆ แต่ท่านอ๋องพูดเช่นนี้แล้ว พวกนางเองก็ไม่กล้าเงยหน้
เซียวหลันยวนเม้มปาก"ท่านคืนนี้ถ้าไม่พูดให้ชัดเจน ก็เลิกคิดที่จะพักที่นี่ได้เลย"ฟู่จาวหนิงร้องเชอะ "ถึงแม้ที่นี่จะเป็นจวนอ๋องเจวี้ยน แต่ว่าเรือนเจียนเจียนี้ท่านขีดให้ข้าไว้แล้ว คนที่ใช้อำนาจได้ชั่วคราวก็คือข้า ท่านเห็นว่าที่นี่เป็นที่ไหนกัน นึกจะมาก็มาจะไปก็ไป?"มีสุนัขที่ไหนทำตัวแบบนี้บ้าง"ข้าก็หน้านี้ก็แค่รู้สึกว่าตนเองน่าเกลียดขนาดนี้แล้ว ถ้าคอยดึงเจ้าไว้ข้างกายก็คงไม่ดีเท่าไรนัก หลังจากนี้ถ้าหากคนข้างนอกเห็นใบหน้าของข้า ไม่รู้ว่าจะมีคำพูดไม่น่าฟังขนาดไหนทะลักกันเข้ามา"เซียวหลันยวนถอนหายใจ "ถึงตอนนั้นเจ้าที่เป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนก็คงจะต้องรับผลกระทบอย่างมาก พวกเขาจะพูดกันว่าเจ้าน่าเวทนาน่าสงสาร และจะหัวเราะเยาะเจ้า ที่มาแต่งงานกับสามีที่ใบหน้าเลวร้ายขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้วนางคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะคิดเช่นนี้"ดังนั้นหลายวันก่อนหน้านี้ข้าก็เอาแต่คิดอยู่ตลอด ว่าจะเห็นแก่ตัวแบบนี้ได้ไหม หรือควรจะปล่อยให้เจ้าไปได้แล้ว?""ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ทำไมถึงเปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ?" ฟู่จาวหนิงถามเซียวหลันยวนมองนาง นางที่นั่งอย่างดื้อรั้นอยู่หลังโต๊ะหนังสือ งดงามขึ้นเป็นพิเศษอย่างเห็นไ
"พระชายา ท่านอ๋องทำไมถึงไปเสียแล้วล่ะ? เขาเพิ่งจะบอกว่าคืนนี้จะพักที่เรือนเจียนเจียนี่"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองนางผาดหนึ่ง "สทำไม ที่นี่เจ้าเป็นคนตัดสินใจหรือว่าข้าเป็นคนตัดสินใจกัน?"หงจั๋วตกตะลึง รีบเอ่ยขึ้นว่า "ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าน้อยผิดไปแล้ว ในเรือนเจียนเจียแน่นอนว่าต้องพระชายาเป็นคนตัดสินใจ""ก็แค่นั้นนี่?"ฟู่จาวหนิงโบกไม้โบกมือ "เอาล่ะ พวกเจ้าเองก็ไปพักผ่อนได้แล้ว ไม่ต้องคอยปรนนิบัติหรอก""เจ้าค่ะ"หงจั๋วถอยออกไปเฝิ่นซิงดึงนาง เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "ข้าเองก็ดึงเจ้าไม่ทัน เจ้าเองเห็นว่าพระชายาของพวกเราใจดีเกินไปแล้วหรือ ดังนั้นถึงค่อยๆ ลืมฐานะของตัวเองไปแล้ว? พระชายาไม่ให้ท่านอ๋องอยู่ด้วย มันใช่เรื่องที่เจ้าจะไปถามได้รึ?"นี่เป็นเรื่องของนายท่านทั้งสองเขา พวกนางยุ่งมากเกินไปไหม?หงจั๋วเองก็รู้สึกว่าเมื่อครู่นี้ ท่าทางของฟู่จาวหนิงทำเอานางรู้สึกใจสั่นตุ้มต่อมหน่อยๆ"ข้าได้ใจเกินไปแล้ว"พระชายาปกติก็ใจกว้างใจดีกับพวกนางมากแล้ว"ไปเถอะ พระชายาให้พวกเราไปพักผ่อน พวกเราก็กลับห้องเถอะ อย่ารบกวนนางเลย"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวภายนอกแล้ว จึงส่ายหัวขึ้นมาอันที่จริงนางเองก็ไ
ฮูหยินใหญ่โม่เมื่อวานนี้จงใจให้คนไปตรวจสอบเรื่องของตระกูลเริ่นมาไม่น้อย เตรียมว่าวันนี้จะเข้ามาพูดมาคุยกับฟู่จาวหนิงเสียหน่อยแต่ฮูหยินหลิ่วกับฮูหยินจางไม่ค่อยคุ้นเคยกับฟู่จาวหนิง จึงรู้สึกระมัดระวังตัวหน่อย กลัวว่าพูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาแล้วมาแล้วนางจะไม่ชอบแต่ฟู่จาวหนิงก็ถามมาอย่างสนใจ "ตระกูลเริ่นมีอะไรน่าสนใจหรือ?""เมื่อวานหลังจากที่เริ่นหมิ่นเซียงคนนั้นกลับไป ตระกูลเริ่นก็ทะเลาะกันใหญ่โตขึ้นมา นางไม่ใช่ว่ามีพี่สาวอีกหลายคนหรอกหรือ? หรือก็คือลูกของภรรยาคนแรกตระกูลเริ่น พวกเขาบอกว่าด้านนอกมีคนไม่น้อยกำลังพูดถึงเริ่นหมิ่นเซียง" ฮูหยินใหญ่โม่กลั้นหัวเราะ "เห็นว่าคนพวกนั้นด่าว่านางหน้าไม่อาย""อืม นั่นข้าให้คนออกไปด่าเอง" ฟู่จาวหนิงก็ยอดรับอย่างหน้าชื่นตาบานนี่ไม่มีเรื่องอะไรที่ยอมรับไม่ได้นี่"ได้ยินว่าพระชายายังจ่ายเงินจ้างคนด้วย?" ฮูหยินใหญ่โม่ถามขึ้น"ใช่เลย" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า "หนึ่งคนสิบตำลึง"ฮูหยินหลิ่วกับฮูหยินจางเดิมทีก็รู้สึกระแวดระวังอยู่ แต่พอฟังถึงจุดนี้ พอเห็นสีหน้าฟู่จาวหนิงก็ดูแอบเกเรอยู่ จึงหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่พระชายาอ๋องเจวี้ยนแตกต่างกับที่พวกนางจิน
ฟู่จาวหนิงไม่รู้เลย หลายวันนี้ที่พูดถึงเรื่องการเดินทางขององค์หญิงหนานฉือ พูดถึงเรื่องที่หวางต้าหลางกับผู้ตรวจการอันไปต้อนรับ เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้พูดเลยสักคำ"ข้าไม่รู้" นางตอบ"ได้ยินว่าคนผู้นั้นเล่าเรียนมามากมายบนยอดเขาโยวชิง คิดว่าอ๋องเจวี้ยนคงจะพูดกับเขา" ฮูหยินหลิ่วอธิบายอย่างเขินอายฟู่จาวหนิงไม่รู้อะไรเลย นั่นเป็นเพราะอ๋องเจวี้ยนไม่ได้บอกนางอาจจะเพราะความรู้สึกฉันท์สามีภรรยาของพวกเขายังไปไม่ถึงไหน? เรื่องที่ในเมืองพูดกันว่าอ๋องเจวี้ยนยกพระชายาอ๋องเจวี้ยนไว้ในใจแล้วเป็นเรื่องโกหกหรือ?"อ๋องเจวี้ยนถ้าฟังออกก็ยิ่งดีเลย" ฮูหยินใหญ่โม่เอ่ยขึ้น "อย่างน้อยก็คงจะไม่เหมือนกับฟังหนังสือจากสวรรค์ที่คนธรรมดาฟังไม่ออกหรอก""อืม" ฟู่จาวหนิงพยักหน้า"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ฮูหยินหลิ่วกับฮูหยินจางล้วนไม่ค่อยสบายกัน ทรมานมากว่าหนึ่งปีแล้ว ไปหาหมอก็ไม่ได้ ท่านช่วย..."ฮูหยินใหญ่โม่พอเอ่ยเรื่องนี้ขึ้น ฮูหยินทั้งสองคนก็หน้าแดงเล็กน้อยเพราะอาการป่วยของพวกนางมันน่าอายอยู่หน่อยๆ"ข้าจะช่วยทั้งสองท่านดูให้""ข้าก่อนดีไหม?" ฮูหยินหลิ่วตอนนี้ร้อนรนขึ้นมาแล้ว เพราะนางเองก็ทรมานมากฮูหยิงใหญ่โ
ฮูหยินหลิ่วตอนที่ตรวจอยู่ในห้อง ฮูหยินจางกับฮูหยินโม่ก็รออยู่ด้านนอกเซี่ยซื่อเข้ามาเติมชาให้พวกนาง จากนั้นก็ส่งผลไม้ปอกแล้วเข้ามา อันห่าวเองก็ยกตะกร้าดอกไม้ใบหนึ่งมาวางไว้บนโต๊ะด้วยพอจัดวาง โต๊ะเล็กตัวนี้ก็ดูดีมีบรรยากาศขึ้นมาไม่น้อยฮูหยินใหญ่โม่มองเซี่ยอันห่าว ก็รู้สึกดูถูกชะตามาก อดถามบางอย่างกับนางขึ้นมาไม่ได้อันห่าวเองก็ตอบกลับอย่างว่าง่ายทีละคำถาาม"ฮูหยินทั้งสองอย่าได้เกรงใจเลย ต้องการอะไรก็บอกกับพวกเรา จาวหนิงอีกเดี๋ยวก็น่าจะออกมาแล้ว" เซี่ยซื่อพอเห็นฮูหยินใหญ่โม่ชอบอันห่าวก็ดีใจมาก นางเองก็ชอบฮูหยินใหญ่โม่ด้วย รู้สึกว่านางดูใจดี "ข้าจะพาอันห่าวไปสวนเล็กๆ ทางนั้นเพื่อเด็ดถั่วเสียหน่อย""ได้ พวกเราไม่เกรงใจนะ"ฮูหยินใหญ่มู่กวักมือให้กับอันห่าว กำชับนางว่า "ระวังอย่าไปตากแดดเสียล่ะ""ขอบคุณฮูหยิน"อันห่าวหลังจากออกไปพร้อมเซี่ยซื่อ ฮูหยินจางก็ถามนางเสียงต่ำ "นี่เป็นลูกพี่ลูกน้องบ้านคุณยายของพระชายาอ๋องเจวี้ยนหรือ""พวกเขาเองก็ตรวจสอบมาแล้ว แม่แท้ๆ ของพระชายาอ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ลูกสาวตระกูลหลิน ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลิน เซี่ยซื่อกับเด็กสาวอันห่าวคนนี้ น่าจะ