ไทเฮาส่ายหัว "หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น รู้สึกแต่ในใจมันกลัดกลุ้มไปหมด"สงบใจลงไม่ได้เลยคืนนี้ ฟู่จาวหนิงกลับหลับอย่างสบายเรื่องที่นางต้องเตรียมตัวก็เตรียมไว้หมดแล้ว เรื่องที่ต้องจัดการก็จัดการหมดแล้ว แค่รอให้เรื่องวางเรียบร้อย สุขภาพของเซียวหลันยวนมั่นคงขึ้นมาหน่อย นางก็จะเดินทางไปต้าชื่อแล้ว ตอนนี้ที่หวังไว้ก็คือขอให้ราบรื่น อย่าให้เกิดอะไรผิดพลาดก็พอแน่นอน ร่างกายของนางตอนนี้ก็ยังต้องปรับตัวให้ดี ถึงอย่างไรถัดจากนี้ก็ยังต้องเร่งเดินทางคงจะเหนื่อยเอามากๆระหว่างทางถ้าป่วยไป ต่อให้นางเป็นหมอเองแต่ก็คงจะรู้สึกแย่มากดังนั้นสิ่งที่นางควรกินก็กินควรดื่มก็ดื่ม ควรนอนก็นอนให้ดี พักผ่อนให้ดี สะสมกำลังวังชาท่านผู้เฒ่าฟู่พอเห็นนางเป็นเช่นนี้กลับไม่กังวลเลย แต่กลับเป็นกังวลฟู่จาวเฟยแทนฟู่จาวเฟยหลังจากปิดประตูนั่งเสียใจอยู่วันหนึ่ง ฟู่จาวหนิงก็ไปเคาะประตูห้องเขา"ท่านพี่"ฟู่จาวเฟยเปิดประตูให้นาง น้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาเองก็แดงเถือกเขาเห็นฟู่จาวหนิงยืนอยู่ที่ประตู ก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่าตนเองเสียใจไปแล้ววันหนึ่ง เช่นนี้พี่สาวกับท่านปู่คงจะกังวลเขากระมัง?ฟู่จาวเฟยรู้สึกไม่ค่อยสงบ เงยหน
เซียวหลันยวนเองก็เข้ามาแล้ว"สวมชุดที่เป็นแสงไหลนั่นเถอะ" เขาพอเข้ามาก็เห็นสองสาวใช้กำลังเลือกชุดออกมาให้ฟู่จาวหนิงดู จึงเอ่ยปากขึ้นฟู่จาวหนิงกลับรู้สึกประหลาดใจ "ไม่ต้องสวมพวกชุดพิธีของพระชายาอะไรพวกนั้นแล้วหรือ?"ถึงอย่างไรก็เข้าไปร่วมงานเลี้ยงในวัง ครั้งที่แล้วเข้าวังนางสวมเข้าไปก็กำเริบเสิบสานพอควร ไม่ได้ทำตามขนมธรรมเนียมเท่าไร แต่ตอนนี้มีองค์หญิงหนานฉืออยู่ด้วย ก็รู้สึกว่าควรจะสวมให้เป็นทางการหน่อยดีกว่าไหม?นางมองเซียวหลันยวน ชายคนนี้อยู่ในชุดคลุมผ้าฝ้ายสีม่วงปักทอง เข็มขัดทองหม่น บนชุดคลุมผ้าฝ้ายปักมังกรหกกรงเล็บไว้ น่าจะเป็นชุดทางการของท่านอ๋องในแคว้นเจาแล้วนางไม่ต้องสวมหรือ?พอได้ยินนางถามเช่นนี้ หงจั๋วกับเฝิ่นซิงก็ล้วนมองไปทางเซียวหลันยวนฟู่จาวหนิงได้สติกลับมาทันทีดังนั้นนี่หมายความว่าอะไร "ท่านคิดว่าข้าไม่ควรสวมหรือ?"อันที่จริงก็มีชุดราชสำนักของนางอยู่ แต่เซียวหลันยวนไม่ให้สาวใช้นำมาให้นางใส่?"ข้า""ข้าไม่คู่ควรกระมัง?" ฟู่จาวหนิงสองมือกอดอก เอนตัวไปข้างโตีะ เชิดคางเล็กๆ ใส่เขาหงจั๋วกับเฝิ่นซิงรู้สึกว่าท่าทางขอนี้ของนางเหมือนกำลังจะทะเลาะกันยกใหญ่แล้วสาว
"แล้วต่อมาทำไมถึงไม่เผาทิ้งเสียล่ะ?""ลืมไปแล้ว เรื่องมันเยอะมากจนลืมเรื่องนี้ เดิมทีรู้สึกว่าเจ้าเองก็ไม่น่าจะสวมชุดนี้ด้วย"เซียวหลันยวนอันที่จริงก็รู้สึกน้อยใจหน่อยๆเขารู้สึกจริงๆ ว่าฟู่จาวหนิงไม่น่าจะสนใจเรื่องนี้ น่าจะไม่คิดจะสวมชุดราชสำนักพระชายานี้ด้วย ถึงอย่างไรตอนแรกนางก็เอาแต่พูดว่าจะหย่ากับเขา"แล้ววันนี้ถ้าไม่ใส่แล้วจะไม่ถูกกับธรรมเนียมเอาหรือ?"พอหลังจากได้ยินว่าชุดถูกแก้เป็นรูปร่างซ่งอวิ๋นเหยา ฟู่จาวหนิงก็ไม่อยากจะใส่แล้ว"บางทีฮองเฮาอาจจะพูดอะไรใส่บ้าง แต่เจ้าก็ไม่ต้องไปกลัวนาง" เซียวหลันยวนขมวดคิ้ว "มารยาทในราชสำนักจริงๆ ก็สั่งให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดแล้ว แต่คงเร็วมากไม่ได้ น่าจะต้องรอให้เจ้ากลับมาจากต้าชื่อเสียก่อน"พอนางกลับมาจากต้าชื่อ ก็ไม่รู้ว่าจะยอมสวมชุดราชสำนักพระชายาอ๋องเจวี้ยนให้กับเขา มายืนอยู่ข้างกายเขาให้ไหม"เช่นนั้นข้าก็สวมชุดที่เป็นแสงไหลก่อนแล้วกัน"ชุดนั้นจริงๆ คือสวยมาก ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เองก็สูงกว่าตอนที่ใส่ครั้งที่แล้วหน่อยด้วย จะต้องยิ่งเข้ากับกระโปรงตัวนั้นแน่ฟู่จาวหนิงกำลังเตรียมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เซียวหลันยวนจู่ๆ ก็คิดอะไรออกขึ้นม
"ระวัง!"เซียวหลันยวนพอได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลังก็มีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว ร่างของฟู่จาวหนิงก็โถมเข้ามาแล้วเขายื่นมือไปกอดนางอย่างรวดเร็ว แต่เพราะฟู่จาวหนิงล้มลงมาเร็วเกินไป เขายังไม่ได้อาบน้ำยาในขั้นตอนนี้เสร็จ ตอนนี้ร่างกายจึงยังอ่อนแอหน่อยๆ พริบตาที่กอดนาง หัวเข่าของฟู่จาวหนิงก็งัดเข้ามาบนขาของเขา ทำเอาเขาอ่อนยวบ"ผัวะ"ทั้งสองคนล้มลงไปบนพื้นด้วยกันเซียวหลันยวนเป็นเบาะรองให้ฟู่จาวหนิง สองมือยังกอดนางไว้แน่นฟู่จาวหนิงอย่บนตัวเขา หัวเข่าตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บอยํูความเจ็บปวดนี้ทำให้นางแอบรู้สึกไม่ค่อยดีหัวเข่าเจ็บ นั่นเป็นเพราะกระแทกไปบนจุดชีพจรจุดหนึ่งบนขาเซียวหลันยวน แล้วตอนที่ล้มหัวเข่านางก็แทงไปที่จดนั้นพอดีหลายวันนี้เซียวหลันยวนอาบน้ำยาอยู่ และกระดูกในร่างกายก็ถูกคุณสมบัติทางยาเปิดออก นางก่อนหน้านี้ยังกำชับเขาไว้ว่าช่วงนี้จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ สลักคำว่า "ห้ามใช้วิชายุทธ์" "ห้ามออกกำลังหนัก" ไว้ในเลือดไปเลย คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตอนนี้นางจะมาล้มทับเขา!"เซียวหลันยวน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงหลังจากตั้งตัวกลับมาก็พลิกออกจากตัวเขาอย่างระมัดระวัง มองเขาอย่างตึงเค
ตอนนี้บาดเจ็บเข้าแล้ว แล้วยังฟื้นฟูไม่ได้เร็วอีกด้วย"ทำอย่างไรดี? ท่านอาจจะเดินไม่ได้ถึงสามวันเลย" ฟู่จาวหนิงรู้สึกผิดจนไม่รู้จะขอโทษอย่างไรแล้วช่วงสำคัญเช่นนี้ คนเขายังต้องเข้าวังอีกนะเซียวหลันยวนไม่เคยเห็นฟู่จาวหนิงดูรู้สึกผิดขนาดนี้มาก่อนเห็นท่าทางนี้ของนางเขากลับรู้สึกว่าน่ารักดี ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงแบบนี้ยังดูมีความเป็นมนุษย์กว่าหน่อย รู้สึกใกล้ชิดกับเขาขึ้นมาอีกหน่อยปกติแน่นอนไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่นางทำอะไรก็ดีไปเสียทุกเรื่อง แข็งแกร่ง เก่งกาจ ดูแล้วทำเป็นมันทุกอย่าง สิ่งนี้ทำให้เซียวหลันยวนรู้สึกว่าตนเองต้องพยายามอย่างมาก ถึงจะสามารถยืนอยู่ข้างกายนางได้อย่างมั่นใจยอดเยี่ยมเกินไป เจิดจ้าเกินไปตอนนี้ในที่สุดนางก็ดูมีความเป็นหญิงแล้ว มีความลนลานอยู่ไม่สุขที่หญิงสาวอายุประมาณนี้ควรจะมีเซียวหลันยวนมองแล้วดูสดใหม่เหลือเกิน และยังรู้สึกใจอ่อนเอามากๆตอนนี้จู่ๆ ก็รู้สึกชอบฟู่จาวหนิงขึ้นไปอีกหลายเท่าหลังจากนี้ถ้าพวกเขาอยู่ด้วยกัน เขาจะแย่ให้นางแสดงสีท่าทีอย่างนี้ออกมาบ้าง คงจะสนุกน่าดู"สามวันเดินไม่ได้หรือ?" เขาจงใจทำสีหน้าแข็งทื่อ จากนั้นก็ก้มหน้าลงมองขาตนเอง นิ่งงั
ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้
สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน
เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก